ไปปทุมธานี ถ่ายภาพเก๋ เช็คอิน 3 คาเฟ่ 1 ตลาดเก่า

วันพักผ่อน ตะลอนเช็คอินถ่ายรูป นี้เน้นอยากได้ภาพสวยไว้เปลี่ยนโพรไฟล์ โกทู เมืองปทุมธานี ย่านปริมณฑลที่ใช้เวลาเดินทางจากบ้านไม่ถึงชั่วโมง แถมมีที่เที่ยวมากมาย เน้นไปคาเฟ่ พ่วงด้วยตลาดเก่าในบรรยากาศคลาสสิค

 

เที่ยวคาเฟ่ปทุมธานี

 

09.30  น. Prem Cafe in the Garden (เปรมคาเฟ่) 

เริ่มต้นที่จุดหมายแรก  Prem Cafe in the Garden  คาเฟ่ที่รายล้อมด้วยความเขียวขจีของต้นไม้ ด้วยการแต่งสวนในสไตล์เม็กซิกันมีต้นไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะต้นกระบองเพชรขนาดใหญ่ที่มีเยอะมาก และมุมที่นั่งในโซนต่างๆ ได้สร้างสรรค์แปลกตา ร้านมีทั้งโซนห้องแอร์ เอาท์ดอร์ในสวน โซนริมน้ำที่กว้างขวางบรรยากาศดีมาก เดินชมสวนจนเพลิน ยิ่งสายถ่ายภาพต้องชอบเป็นอย่างมาก เพราะมีมุมให้ถ่ายรูปค่อนข้างเยอะมาก มาที่เดียวเหมือนไปเที่ยวหลายที่ได้รูปกลับไปเป็นร้อยแน่

 

 

ร้านเป็นสไตล์ Home cafe คือ นำพื้นที่บ้านส่วนตัวมาตกแต่งเป็นคาเฟ่ ด้านหน้ามีป้ายร้านสีดำแบบตั้งพื้นวางไว้ตรงกลางแบบบเก๋ ๆ มองไปด้านหน้าเป็นเก้าอี้ไม้สามตัวตั้งเรียงกัน เพิ่มสีสันให้โดดเด่นด้วยหมอนอิง เป็นมุมแรกที่ต้องมายืนโพสต์ท่าถ่ายภาพ

 

 

เมื่อเดินเข้าไปด้านใน จะเจอกับส่วนของคาเฟ่ ซึ่งเป็นเคาน์เตอร์สั่งอาหาร มีมุมเอาท์ดอร์เป็นโต๊ะเก้าอี้ภายใต้ร่มเงาของความเขียวขจีของต้นไม้ใหญ่ และไม้เลื้อยที่ห้อยระย้าลงมาอยู่ด้านหน้า

 

 

ภายในร้านเป็นแบบห้องแอร์ ซึ่งมีโต๊ะนั่งประมาณ 4-5 โต๊ะ ทั้งแบบโต๊ะเก้าอี้นั่ง และที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์ ซึ่งมีต้นไม้ประดับอยู่เกือบทั่วทุกมุม  บรรยากาศเหมือนอยู่ในป่าและไม่ลืมคอนเซ็ปต์ของร้านที่เป็นสไตล์เม๊กซิกันด้วยกระเบื้องและของตกแต่งหลากสีสันอย่างลงตัวและยังตกแต่งด้วยของเก่ามากมาย ให้ความรู้สึกถึงความเป็นกันเองแบบสบายๆ

 

ในส่วนของเมนูมีทั้งอาหารตามสั่ง  สปาเก็ตตี้ มักกะโรนีเค้ก ข้าวผัด ข้าวกระเพรา ซึ่งเป็นเมนูอาหารจานเดียวแบบง่ายๆ รวมทั้งอาหารอีสานซึ่งมีเมนูให้เลือกเยอะหน่อย ของทานเล่น อย่างปีกไก่ทอด และเครื่องดื่มอีกหลากหลาย และเบเกอรี่  สำหรับอาหารถึงแม้จะเป็นเมนูที่ดูธรรมดาแต่รสชาติดีเลยทีเดียว  ทั้งกระเพราะไก่ และสปาเก็ตตี้ ปีกไก่ทอดกรอบอร่อย โกโก้ดีไม่หวานจนเกินไปได้รสชาติของความเป็นโกโก้แท้  ส่วนกาแฟก็รสชาติใช้ได้

 

หลังจากอิ่มท้องก็ไปเดินชมสวนหามุมถ่ายภาพกันต่อ ในโซนที่นั่งแบบเอาท์ดอร์ ซึ่งมีมุมสวยๆเยอะมาก เริ่มจากจุดแรก ที่นั่งแบบส่วนตัวมาก มีกำแพงและประตูเปิดเข้าไป ก็จะเจอกับมุมสวน ที่มีเก้าอี้เหล็กหลากสีตั้งอยู่ ตรงกลางโต๊ะประดับด้วยกระบองเพชร มีอีกมุมทำเป็นบ้านนกจำลอง ที่มีความน่ารักมาก

 

 

ก้าวผ่านประตูไม้สีขาวไป ก็จะเป็นโซนริมน้ำ ที่บอกเลยว่าเหนือความคาดหมายมาก เพราะตอนแรกเข้าใจว่าจะเป็นเพียงมุมที่นั่งเล็กๆ แต่กว้างขวางมาก ก่อนหน้าที่จะมาถึงโซนนี้ ได้ยินน้องพนักงานพูดกับแขก ตอนมาสั่งอาหารแล้วเลือกโซนที่นั่งว่า ถ้าพี่ได้ไปนั่งริมน้ำ พี่จะไม่อยากกลับมาที่โซนห้องแอร์อีกเลยครับพี่จะอยากนั่งโซนนั้น พอได้เห็นบรรยากาศ เห็นด้วยอย่างยิ่งเพราะกว้างมาก สงบร่มรื่น อากาศปลอดโปร่งเย็นสบายมาก  ได้ร่มเงาของต้นไทรขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง

 

 

โดยจัดแบ่งพื้นที่เป็นโซนต่างๆ ทั้งใต้ต้นไม้ ที่นั่งริมน้ำ แบบแปลชิงช้า คือ ชิวสุดๆ  จะเลือกนั่งตรงมุมไหนก็จัดไปเลย เพราะโต๊ะนั่งเยอะมาก มีสวนแคคตัสเล็กๆ ที่ตกแต่งได้น่ารักมาก

 

 

ตั้งแต่เที่ยวคาเฟ่ในย่านปทุมมาหลายร้าน Prem Cafe in the Garden คือ ร้านที่ประทับใจและชอบในตกแต่งที่สวยสุดๆ ยิ่งเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปด้วยแล้วนั้น กดชัดเตอร์กันเต็มอิ่มกับมุมต่างๆ หันมาดูภาพในกล้อง เลือกลงกันไม่ถูกเลยทีเดียว เรียกได้อิ่มในบรรยากาศมาก

 

 

11.00 น.  บ้าน ๑,๐๐๐ ไม้ Cafe & Farm

จากจุดหมายแระไม่ถึง 20 นาที ไปต่อ ที่  บ้าน ๑,๐๐๐ ไม้ Cafe & Farm แหล่งเรียนรู้การเกษตร พร้อมพาครอบครัวมาผักผ่อนทำกิจกรรมในวันหยุด ตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9  นอกจากนี้ยังเปิดเป็นร้านอาหารและคาเฟ่ ใต้ร่มเงาของต้นจามจุรียักษ์ และจัดพื้นที่และโซนที่นั่งได้แบบมีสไตล์  ให้บริการทั้งเครื่องดื่ม กาแฟ และอาหารจานเดียว พร้อมด้วยสลัดผักสดจากผักในฟาร์มและน้ำสลัดที่ทางร้านทำเองให้บริการอีกด้วย แต่ร้านเปิดเฉพาะวัน เสาร์-อาทิตย์ 10:00-17:00 น.

 

 

เมื่อเข้ามาภายในร้านเหมือนเป็นอาณาจักรแห่งเด็กเล่น พื่นที่ด้านหน้าจัดเป็นโซนกิจกรรมสำหรับเด็ก ทั้ง ดำนา เก็บไข่ไก่ ทำสวนปลูกต้นไม้ ทำไข่เค็ม ระบายสี พายเรือคายัค เล่นดินทราย รวมทั้งฟาร์มสัตว์ต่างๆทั้ง เป็ด ไก่ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่เหมาะสำหรับมาเที่ยวแบบครอบครัวพาเด็กมาทำเรียนรู้การใช้ชีวิตกับธรรมชาติ

 

 

พื้นที่ตรงกลางร้านเป็นส่วนของคาเฟ่ โซนนี้เหมาะสำหรับนั่งชิลพักผ่อน ทานอาหาร มีต้นไม้จามจุรีขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางคอยให้ร่มเงา มีบันไดที่สามารถเดินชึ้นไปข้างบนได้ และบริเวณรอบๆ มีมุมที่นั่หลายโซน รวมทั้งมุมถ่ายรูปเยอะ แต่ต้องหลบผู้คนกันสักหน่อย เพราะคนเยอะมากโดยเฉพาะเด็กๆ

 

 

ส่วนโซนด้านในสุด คือ ที่นั่งริมน้ำ และมุมนั่งพักผ่อนต่างๆ ที่นี่มีบริการนั่งเรือไปเที่ยวตลาดอิงน้ำวัดสามโคกด้วย โดยให้บริการเป็นรอบๆละ 1 ชั่วโมง คิดราคาคนละ 50 บาท  เรามารอบเที่ยงได้เวลาเรือออกพอดี ขอนั่งเรือไปเที่ยวตลาดน้ำสักหน่อย

 

 

12.10 น. ตลาดอิงน้ำวัดสามโคก 

นั่งเรือจากร้านไม่ถึง 10 นาที มาถึง  ตลาดอิงน้ำวัดสามโคก เป็นตลาดขนาดเล็กๆในชุมชนเก่าติดริมน้ำเจ้าพระยา เสน่ห์ของตลาดแห่งนี้ คือ ความเรียบง่าย ความเป็นกันเองของชาวบ้าน ที่ยังดำเนินวิถีชีวิตคู่ไปกับสายน้ำและธรรมชาติ นักท่องเที่ยวจะได้เดินเล่นชมตลาดเก่าดั้งเดิม ที่พ่อค้าแม่ค้ายิ้มแย้มแจ่มใส มีของอร่อยให้เลือกชิมหลายอย่าง รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรของชุมชนมาจำหน่ายอีกด้วย

 

 

เรือจอดบริเวณท่าเทียนเรือโดยให้เวลาเดินชมตลาด 1  ชั่วโมง นั่นคือ บ่ายโมงจะมารับนั่นเอง บรรยากาศของตลาดจะเงียบๆสักหน่อยมีร้านค้าไม่มากนัก เป็นเส้นทางเดินเล็กประมาณ 1 กม ระหว่างทางเป็นบ้านเรือนของชาวบ้านที่ส่วนใหญ่จะนำของออกมาขายหน้าบ้าน มีของขายพอประมาณ ทั้งของคาวหวาน เช่น ก๋วยเตี๋ยว ขาหมู ปูหลน ผัดไทหอยทอด ขนมจีน ผักพื้นบ้าน ขนมหวานแบบไทยต่างๆ มาตลาดแห่งนี้ ต้องซื้อหาข้าวหลามในลูกมะพร้าวกลับไปฝากคนที่บ้าน เป็นของหวานขึ้นชื่อรสชาติอร่อยเลยทีเดียว

 

 

บริเวณกลางตลาดใกล้กับสะพาน มีคาเฟชื่อว่า  ข้ามคลอง คาเฟ่ ร้านกาแฟสไตล์เรสโทรผสมวินเทจที่ตกแต่งร้านด้วยของเก่า ของเล่น และรถมมเอตร์ไซต์โบราณ ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ มีที่นั่งประมาณ  4-5 คน ขายเฉพาะเมนูเครื่องดื่ม สามารถเข้าไปนั่งเล่นตากแอร์เย็นได้

 

 

มาถึงบริเวณสะพานข้ามคลองเพื่อไปยังตลาดอีกฝั่ง สามารถชมบรรยากาศของชุมชนริมคลองที่ทอดยาวเคียงคู่ไปกับลำคลอง ซึ่งเชื่อมกับแม่น้ำเจ้าพระยา

 

 

ข้ามสะพานมาอีกฝั่งจะเจอกับร้านกาแฟบรรยากาศน่านั่ง ตั้งอยู่ริมน้ำอีกหนึ่งร้าน Taster day café  คาเฟ่ตกแต่งสไตล์ D.I.Y. ริมคลอง ที่ตกแต่งในแต่ละมุมได้เก๋มาก โดยเฉพะมุมที่นั่งริมน้ำถูกใจสุดๆ นอกจากนี้ยังมีมุมโซฟาแบบวินเทจ ที่เข้ากับความเป็นชุมชนเก่าได้อย่างดี

 

 

เมนูของร้าน เช่น ชานมไข่มุกลาวาสูตรเฉพาะของทางร้าน) หรือจะเป็นกาแฟสดที่ต้มสดจากหม้อ Moka Pot สุดคลาสสิค ชื่นชมกับบรรยากาศ เพลินเพลินไปกับเครื่องดื่มและอาหาร  เช่น สปาเก็ตตี้ที่มีเสริฟ์ 5 รสชาติทั้งไทยและเทศ เมนูข้าวหอมมะลิ ไข่ข้นนุ่มลิ้ม กับซอสต้มยำกุ้ง ร้านเปิด พุธ – อาทิตย์ เวลา 9.00 น. – 19.00 น.  ร้านปิดวันจันทร์และอังคาร

 

 

 

ตลาดในฝั่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหาร ต่างๆที่มีที่นั่งทานในร้านทั้ง ร้านส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว ร้านผัดไทย หอยทอด ซึ่งเป็นร้านโบราณย้อนยุค ได้บรรยากาศมาก

 

หลังจากเดินชมตลาดในฝั่งนี้แล้ว ก็ข้ามสะพานกลับมา เดินไปยังปากทางเข้าตลาด ในซอยที่จะไปศาลเจ้า เราจะพบกับภาพเพ้นท์กำแพงน่ารักประมาณ   3 ภาพ เมื่อเดินเข้าไปยังเส้นทางที่เป็นศาลเจ้า สามารถชมวิวริมน้ำเจ้าพระยาได้

 

 

14.30 น.  Wisdom farm  

จุดหมายสุดท้าย ที่  Wisdom farm  ร้านกาแฟริมทุ่งนาแห่ง อ.คลองหลวง ปทุมธานี ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มุ่งมั่นในการสืบสานพระราชปณิธาน สู่การรักษาต่อยอดศาสตร์พระราชาด้านการเกษตร ที่สามารถมาจิบเครื่องดื่ม ท่ามกลางบรรยากาศท้องทุ่งนา รับโอโซนสัมผัสลมเย็นและความสดชื่น แชะ แชร์ถ่ายภาพกับมุมโปรดสุดประทับใจบนสะพานไม้ไผ่สุดเก๋

 

 

ร้านกาแฟตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับพิพิธภัณฑ์การเกษตร สามารถเข้าทางเดียวกับพิพิธภัณฑ์ได้เลย เมื่อมาถึงจะพบกับป้ายชื่อ wisdom farm จอดรถบริเวณลานจอดรถมีพื้นที่กว้างขวาง ตัวร้านกาแฟเป็นโครงไม้ไผ่สี่เหลี่ยมขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ริมทุ่งนา โดยมีสะพานไม้ไผ่โค้งวนทอดยาวจากตัวร้านไปยังทุ่งนา และกระท่อมปลายนา ซึ่งมีอยู่หลายจุด

 

ภายในร้านเป็นแบบโอเพ่นแอร์ทั้งหมด มีที่นั่งอยู่ตรงลานระเบียงด้านนอก ที่จัดทำเป็นที่นั่งในแบบต่างๆ ทั้งแบบแคร่ไม้ไผ่ ที่เห็นวิวทุ่งนาได้แบบเต็มๆ แบบโต๊ะเก้าอี้ และแบบเก้าอี้แขวน เครื่องดื่มมีไม่มากนักเหมือนร้านกาแฟทั่วไป คือ กาแฟ ชา โกโก้ และอิตาเลี่ยนโซดา ในราคาไม่แพง 30- 50 บาทเท่านั้น แต่รสชาติเครื่องดื่มอาจไม่ว้าวมากนัก เน้นชมบรรยากาศเดินเล่นบนสะพานไม้มากกว่า

 

 

เดินเล่นถ่ายภาพตามมุมต่างๆ ของสะพานไม้ไผ่ ตรงกลางคือ ป้ายชื่อสีขาว wisdom farm ประดับด้วยดอกไม้หลากสี  ที่มีผ้าขาวม้าตกแต่งพริ้วไหวปริวสะบัด เพิ่มสีสันให้สะพานดูสวยงามยิ่งขึ้น  แต่ละจุดมีศาลาและกระท่อมปลายนาตามจุดต่างๆ สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน สุดปลายทางคือ โซนสัตว์ในวิถีเกษตรที่สามารถให้อาหารสัตว์เลี้ยงแสนรู้ได้

 

 

 

นอกจากสะพานไม้ไผ่แล้ว  ยังมีทางเดินลอยฟ้าบนยอดไม้ ที่เชื่อมต่อจากสะพานไม้ไผ่  ให้เดินเล่นถายภาพอีกด้วย มีกิจกรรมออกร้านสินค้าและผลผลิตทางการเกษตร ต่างๆรวมทั้งที่นั่งพักผ่อนแบบแคร่ไม้ไผ่ตั้งอยู่ติดกัน

 

 

เติมความสดชื่นทั้งคาเฟ่แบบมีสไตล์ และในบรรยากาศท้องทุ่ง ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพเที่ยวปทุมในเส้นทางนี้  1 วัน สุดคูล การันตีว่าได้รูปมาเพียบ

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง