อยุธยา 5 พิกัดลับ แชะภาพสวย

ที่ยวอยุธยาไม่ซ้ำใคร ไม่เน้นเที่ยววัด เพราะหลายคนอาจไปบ่อยจนคุ้นชินกับกิจกรรมไห้พระทำบุญ กินกุ้งอยุธยา แต่มุ่งไปอยุธยาแบบเน้นถ่ายภาพตัวเองรัวๆ ยังคาเฟ่น้องใหม่ และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีจุดถ่ายภาพให้ได้โพสต์ท่าสวย เป็นการเที่ยวอยุธยาแบบแซ่บ เฟี้ยว ที่สายถ่ายภาพทั้งหลายต้องชอบ กับ 5 พิกัดลับ แชะภาพสวย 

 

 

พิกัด 1 พระนครแซ่บ คาเฟ่

 

ฮอตที่สุดในอยุธยาเวลานี้ ต้องยกให้ พระนครแซ่บ คาเฟ่แปลกแหวกแนวในสไตล์ตรุกี ถูกใจขาถ่ายภาพทั้งหลาย แต่งตัวมาแบบจัดเต็มโพสต์ถ่ายรูปเลิศ เชิด แถมที่ร้านยังมีพรอพเครื่องประดับให้ใส่ถ่ายภาพฟรีอีกด้วย ในส่วนของร้านแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ คาเฟ่ ที่ให้บริการเครื่องดื่มและขนมแบบตรุกี และในโซนของร้านอาหารที่เน้นให้บริการอาหารอีสานรสแซ่บหลากเมนู

 

 

การเดินทางสามารถตั้งจาก google maps มาได้เลย ร้านตั้งอยู่ในเส้นอยุธยาบางปะหัน ห่างจากตัวเมืองอยุธยาประมาณ 15 นาที ในส่วนของหน้าร้านมีที่จอดรถได้ไม่เกิน 10 คัน แต่สามารถนำรถไปจอดจอดได้ 2 จุด  จุดแรก ยูเทิร์นรถกลับตรงสี่แยกแล้วขับมาจอดเลยร้านข้าวสาร หรือก่อนถึงแล้วเดินข้ามถนนมาทีร้าน จุดที่ 2 ก่อนถึงร้านเลยซุ้มประตูในหลวงสามารถจอดได้แล้วเดินมาอีกนิด ทางร้านขอความร่วมมือไม่จอดหน้าบ้านของคนอื่นที่อยู่ใกล้เคียงกัน แนะนำให้มาแต่เช้า คือ  แปดโมงครึ่งเพราะคนยังน้อย และสามารถจอดรถหน้าร้านได้สะดวก ร้านตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ตัวอาคารเป็นแบบอิฐผสมปูน ในแบบดิบนิดๆ 

 

 

ตัวร้านมีพื้นที่ไม่มาก โดยแบ่งเป็น 2 โซน คือ คาเฟ่ โซนที่นั่งแบ่งเป็นด้านล่างแบบโอเพ่นแอร์ ตกแต่งแบบชิคๆ มีเคานเตอร์สำหรับเครื่องดื่มและขนม สั่งแล้วจ่ายเงิน แจ้งชื่อไว้ หลังจากนั้น พนักงานจะนำไปเสิร์ฟถึงโต๊ะ

 

 

โซนคาเฟ่ข้างบนตึก ไฮไลท์เด็ด ที่ตกแต่งด้วยพรมลวดลายสวยงาม  โต๊ะนั่ง พรอพในแบบตุรกี ให้เข้ากับธีมของร้าน

 

 

แต่งตัวมาให้สุด ส่วนพรอพถ้ายังไม่เต็มพอ ทางร้านมีในส่วนของเครื่องประดับให้ใส่ถ่ายฟรีด้วย แต่เครื่องประดับจะเน้นเป็นเครื่องหัว อย่างเช่น สร้อย และผ้าโพกหัว  ถูกใจมุมไหนก็โพสต์ให้สุดไปเลย มาในช่วงเช้าจะดีตรงที่คนน้อยมาก และมีแสงอ่อนๆยามเช้าส่องกระทบเข้ามาในร้าน ได้พีลแสงสวยๆ

 

ในส่วนของเครื่องดื่มไฮไลท์ มีทั้งกาแฟ ชาตรุกรี และขนมตรุกีให้ทานคู่กัน มีทั้งแบบเป็นเซ็ท หรือจะเลือกเฉพาะเครื่องดื่ม หรือขนม เสิร์ฟมาในภาชนะสุดเก๋แบบตรุกรี ทั้งกา และถ้วยใส่ขนม ขนมทราบมาว่าสั่งตรงมาจากตรุกีโดยตรงเลยค่ะ

 

 

หลังจากถ่ายภาพในโซนคาเฟ่ จัดเครื่องดื่มของหวานไปแล้ว ก็มาต่อด้วยของคาวแบบแซ่บๆ ที่โซนของร้านอาหารซึ่งเป็นห้องแอร์ ตกแต่งได้สวยไม่แพ้กัน เมนูอาหารเน้นเป็นอาหารอีสาน ทั้งส้มตำ ลาบน้ำตก ไก่ทอด หมูทอด ต้มแซ่บ ต้มยำ รสชาติอาหารคาวโดยส่วนตัวคือ พอทานได้ ส้มตำติดหวานไปนิด แกงเห็ดยังรสชาติจืด  แต่เน้นมาถ่ายภาพรสชาติอาหารคือ เรื่องรอง ที่ดีคือ ความสวยงามของร้าน และการบริการของพนักงานที่น่ารักเต็มใจให้บริการลูกค้าทุกคน พูดจาสุภาพยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นอีกคาเฟ่ที่นอกจากจะได้ภาพสวยกับบรรยากาศร้านที่แปลกตาแล้ว ยังได้ความประทับใจในเรื่องบริการกลับไป

 

 

พิกัด 2 หมู่บ้านญี่ปุ่น

 

หมู่บ้านญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่นํ้าเจ้าพระยา เป็นถิ่นที่อยู่ดั้งเดิมของชุมชนชาวญี่ปุ่นในสมัยอยุธยา ปัจุบันมีการปรับปรุงอาคารจัดแสดงนิทรรศการโดยนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนญี่ปุ่นในอยุธยา รวมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์จำลองบรรยากาศให้คล้ายกับประเทศญี่ปุ่น ทั้งจัดสวนพร้อมศาลาญี่ปุ่นเพื่อเป็นอนุสรณ์ แถมมีชุดกิโมโน และยูคาตะ ให้นักท่องเที่ยวได้ใส่ถ่ายภาพเพื่อให้เข้ากับสถานที่ด้วย

 

 

สำหรับการเข้าชมหมู่บ้านญี่ปุ่น เสียค่าเข้าชมคนละ 50 บาท นักท่องเที่ยวท่านใดที่สนใจอยากใส่ชุดยูคาตะ หรือชุดกิโมโน ถ่ายภาพ ให้เดินไปที่อาคาร 1 มี ชุดให้เช่าหลายชุด ชุดยูคาตะราคาชั่วโมงละ 200 บาท ชุดกิโมโนชั่วโมงละ 100 บาท ก่อนเดินถ่ายภาพสวนญี่ปุ่นด้านนอก ก็เข้าไปชมนิทรรศการข้างในอาคาร 2 ที่แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับ ความรุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยา  ความสัมพันธ์ของชาวญี่ปุ่น เส้นทางเดินเรือ การติดต่อค้าขาย  เรื่องราวเกี่ยวกับการเข้ามาของคนญี่ปุ่น วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนญี่ปุ่นในอยุธยา  ที่อ้างอิงจากประวัติศาตร์ให้ศึกษา

 

 

หลังจากแปลงร่างเป็นชาวญี่ปุ่นแล้ว ก็ปฏิบัติการเดินเก็บภาพ เริ่มจากทางเข้าด้านหน้าที่ประดับด้วยธงปลาคาร์ฟ สัญลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นที่เราคุ้นเคย แท่นเสาหินที่สลักอักษรญี่ปุ่น รวมทั้งต้นไผ่

 

 

ระหว่างทางมีตกแต่งและได้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นตลอดทาง ทั้งศาลเจ้าญี่ปุ่น และสวนสีเขียวร่มรื่น ที่อยู่ใกล้กัน

 

 

มาถึงสวนหินที่สวยงาม และตกแต่งเป็นสไตล์ญี่ปุ่นมาก สวนญี่ปุ่น แห่งนี้ออกแบบโดยนักออกแบบสวนชาวญี่ปุ่นชื่อ นายฮิโรฮิสะ นาคาจิมา เป็น ผู้ที่มีชื่อเสียงและมีผลงานระดับนานาชาติ รูปแบบเน้นความเป็นสวนญี่ปุ่นแท้ที่ดูสง่างาม สงบ เยือกเย็น มีองค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่ ศาลาญี่ปุ่น สำหรับนั่งชมทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยา ถึงแม้พื้นที่ค่อนข้างเล็ก แต่เขีนวขจีด้วยต้นไม้ที่ช่วยให้ร่มรื่นย์

 

 

อาคารที่ 2 ตั้งอยู่ติดริมน้ำเจ้าพระยา แสดงนิทรรศการยามาดะ นางามาซะ (ออกญาเสนาภิมุข) และท้าวทองกีบม้า แสดงอยู่ในอาคารริมน้ำภายในจะมีเรื่องราวของยามาดะ นางามาซะ ขุนนางชาวญี่ปุ่นในราชสำนักอยุธยา มีบทบาทในการเชื่อมสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยและญี่ปุ่น ได้รับการยกย่องในความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ผู้เป็นเจ้านาย และมีการจัดแสดงรูปปั้นของออกญาเสนาภิมุข

 

 

หุ่นขี้ผึ้งของ ท้าวทองกีบม้า  ซึ่งเป็นชาวอยุธยาลูกครึ่งเชื้อสายโปรตุเกส-ญี่ปุ่น อาศัยอยู่ในหมู่บ้านโปรตุเกสต่อมาได้สมรสกับออกญาวิชาเยนทร์ หรือ คอนสแตนติน ฟอลคอน โดยในช่วงปลายชีวิตได้เข้ารับราชการในตำแหน่งท้าวทองกีบม้า หัวหน้าพนักงานวิเสทกลาง(ครัว) ดูแลของหวานแบบเทศ และได้รับการยกย่องว่าเป็นต้นตำรับขนมตระกูลทอง ไม่ว่าจะเป็น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากอาหารของโปรตุเกสนั่นเอง ภายในอาคาร 1 มีห้องแสดง แสง สีเสียง แบบมัลติมัลเดีย

 

 

ติดกับอาคารที่ 1 มีร้านกาแฟ สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนชมวิวริมน้ำ ด้านหน้ามีสะพานโค้งสีแดงแบบญี่ปุ่นให้เดินถ่ายภาพ

 

 

หมู่บ้านญี่ปุ่น
ตำบลเกาะเรียน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000
โทรศัพท์ : 035 – 259 867

วันและเวลาทำการ
วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.30 – 18.00 น.
วันเสาร์ – อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม
คนไทย 50 บาท / เด็ก 20 บาท ต่างชาติ 50 บาท

 

พิกัด 3 หมู่บ้านฮอลันดา

 

หมู่บ้านฮอลันดา อยุธยา เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ใช้พื้นที่ที่เคยเป็นสถานีการค้าบริษัทอินเดียตะวันออกของฮอลันดาในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งหลงเหลือเพียงฐานรากโบราณสถานของอาคารคลังสินค้าเดิม โดยปัจจุบันได้สร้างอาคารจัดแสดงใหม่ เป็นอาคารก่ออิฐ สูง 2 ชั้น สีส้มพาสเทลสดใส ในรูปแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของสถานีการค้าดัตช์ 

 

 

ด้านหลังอาคารติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีดีไซน์สวยงาม ตามแบบฉบับของสถาปัตยกรรมชาวดัตช์ ในส่วนของชั้นล่างมีนิทรรศการชั่วคราวเรื่องการจัดการน้ำของเนเธอร์แลนด์ และร้านของขายที่ระลึก คาเฟ่ที่ตกแต่งได้สดใสน่ารัก

 

 

ส่วนจัดแสดงหลักอยู่บริเวณชั้น 2 แบ่งเป็น ส่วนนิทรรศการแนะนำให้รู้จักว่าชาวดัตช์ คือ ใคร เหตุใดบริษัทอินเดียตะวันออกของฮอลันดาหรือวีโอซีจึงมาทำการค้ากับอยุธยา  การค้าขายในสมัยอยุธยา เส้นทางการเดินเรือ  วิถีชีวิตชาวดัตช์

 

 

พิกัด 4 ปรางวิวคาเฟ่

 

ปรางวิว อยุธยา คาเฟ่โมเดิร์นในโทนสีขาวสุดคลาสสิค แห่งเมืองอโยธยา ตัวร้านเป็นมีหน้าต่างแบบกระจก มองไปนอกร้านมองเห็นวิวของมองไปนอกร้านจะเห็นวิวของวัดราชบูรณะ มองเห็นยอดพระปรางค์อันโดดเด่น ซึ่งเป็นที่มาของชื่อร้าน ภายในตกแต่งสวยโปร่งสบายตา แสงนวลอบอุ่น  อาหารเครื่องดื่มมีทั้งคาวหวานแนวฟิวชั่น ผสมผสานความโบราณกับความสมัยใหม่

 

 

สำหรับการมาที่ร้านด้วยรถส่วนตัว ด้วยโลเคชั่นร้านติดถนนใหญ่จึงไม่มีที่จอดรถ หน้าร้านจอดรถได้ประมาณ 2 คัน สามารถนำรถไปจอดได้ที่ลานจอดรถของวัดราชบูรณะ แล้วเดินข้ามฝั่งมา หรือหาที่จอดรถในโซนนั้นซึ่งส่วนใหญ่จะยาก เพราะมีแต่ร้านค้า ร้านกาแฟ ซึ่งกันพื้นที่จอดไว้ให้ลูกค้าของตน ตัวร้านเป็นทรงสี่เหลี่ยมสีขาวมองจากข้างนอก เหมือนไม่ใหญ่มาก แต่ภายในร้านกว้างขวางมีโซนที่นั่งหลายมุม

 

มุมต่างๆ ภายในร้านตกแต่งแบบเรียบง่ายแบบโมเดิร์น ผสมกลิ่นอายความเป็นไทย มีความโปร่งโล่งเหมือนสตูดิโอแสงธรรมขาติ เป็นร้านที่แสงสวยมากเหมาะกับการถ่ายรูป  ด้วยการใช้โทนสีขาว เน้นแสงธรรมชาติ เฟอร์นิเจอร์แบบคลาสสิคเรียบเก๋ที่ใช้ทำจากไม้

 

 

ส่วนเมนู มีให้เลือกทั้งเครื่องดื่ม ของหวาน ของคาว แบบแนวฟิวชั่น ผสมผสานความโบราณกับความสมัยใหม่ เครื่องดื่มเราสั่ง ชาไทยท๊อปปิ้งด้วยขนมฝอยทอง และปรางค์วิวอโรเมติก เป็นเลมอนโซดาและไซรับกลิ่นกุหลาบ ตกแต่งด้วยกลีบกุหลาบ และทับทิม ดื่มแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น เมนูยังแฝงไปด้วยกิมมิคเป็นน้ำไซรับกลิ่นกุหลายให้หยดลงไปตามความชอบ

 

 

เมนูทานเล่นแตงโมงปลาแห้ง และเมี่ยงกลับบัว ที่ตกแต่งมาในจานแบบเรียบง่าย แต่มีความน่ารัก น่าทานมาก รสชาติอร่อย ทั้งสองจาน ยังมีอีกหลายเมนูแนะนำอย่างเช่น บิงชูบัวลอย  ปรางค์วิวครีมชีสเค้ก อัญชันครีมชีส แต่ด้วยท้องที่อิ่มมากทานได้แค่ประมาณนี้

 

 

ปรางค์วิว คาเฟ่ เป็นอีกหนึ่งร้านในอยุธยา ที่ชอบในบรรยากาศมาก มีความชิล นั่งเล่นได้แบบสบายกันเอง มุมถ่ายภาพสวยเยอะ แถมเมนูยังน่าทานมาก มาเที่ยวไหว้พระในตัวเมืองแล้ว แนะนำต้องมาร้านนี้เลยค่ะ

 

ปรางค์วิว คาเฟ่ 

22/13 ถนนนเรศวร  ประตูชัย  พระนครศรีอยุธยา

เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:30 น.- 20:00 น.

 

พิกัด 5 วัดนักบุญยอเซฟ

 

วัดนักบุญยอเซฟ  เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นป็นโบสถ์คริสต์เก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยอาคารหลังแรกเป็นอาคารไม้และได้ปรับปรุงบูรณะเรื่อยมาจนกระทั่งเป็นหลังปัจจุบัน  ตัวโบสถ์สีเหลืองที่มีความงดงามในด้านสถาปัตยกรรม

 

 

รอบโบสถ์เป็นสีเหลืองคลาสสิค โดดเด่นด้วยลวดลายสีขาวตามขอบประตูหน้าต่าง ตามฉบับสถาปัตยกรรมแบบยุโรป กลายเป็นมุมถ่ายภาพสวย วัดนักบุญยอแซฟ ถือเป็นศูนย์กลางของคริสตชนชาวสยามในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีประวัติมาตั้งแต่ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ โบสถ์หลังปัจจุบันนี้มีอายุแล้วกว่า 132 ปี วัดนักบุญยอแซฟ ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ในปี พ.ศ. 2548 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์

 

 

บรรยากาศภายในโบสถ์เงียบสงบ 

 

 

ปิดทริปเที่ยวอยุธยา 1  วันแบบชิลๆ ไม่ซ้ำใคร ได้ภาพสวยกลับบ้านเพียบ

 

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง