เที่ยวรอบกรุง ไปชิลคลองสาน

คลองสาน ที่เที่ยวย่านฝั่งธนริมน้ำเจ้าพระยา ที่มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัดวาอาราม และศิลปวัฒนธรรม ที่น่าเที่ยวอีกโซนหนึ่งในกรุงเทพ ที่เที่ยวยอดฮิตที่หลายคนน่าจะรู้จัก อย่าง ล้ง 1919  แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าคลองสาน มีวัดสวยงามบรรยากาศสงบน่าเที่ยวไม่แพ้ฝั่งพระนครเลยทีเดียว แถมมีมุมใกล้ชิดธรรมชาติในสวนสาธารณะเก่าแก่ที่อุทยานสมเด็จย่า มีเวลา 1 วัน ไม่ต้องไปผ่อนคลายที่ไหนไกล มาเที่ยวคลองสานกันเถอะ

 

 

 

ล้ง 1919 (ปิดให้บริการ)

ล้ง 1919  ที่เที่ยวสุดชิคริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมจีน ก่ออิฐถือปูนและการใช้โครงสร้างไม้ที่ยังคงเก็บรูปแบบอย่างเดิมไว้ ภายใน ล้ง 1919 ประกอบด้วย ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านจำหน่ายสินค้าศิลปะและหัตถกรรม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้  ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ศาลเจ้าจีนเก่าแก่ในเขตคลองสาน ลานกิจกรรมกลางแจ้ง  มาที่นี่ได้เสพความคลาสสิคกลิ่นไอความโบราณของสถาปัตยกรรมจีน จิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างศิลป์โบราณ สำหรับใครที่กำลังมองหามุมภ่ายรูปสวยสไตล์แบบเก่าอาร์ตหลายมุม โดยเฉพาะกำแพงเก่าที่ไปยืนแล้วจะทำให้ภาพออกมาดูดีเลยทีเดียว

 

 

หากนำรถส่วนตัวมาสามารถจอดรถไว้บริเวณลานจอดด้านหน้า  โดยจอดฟรี 1 ชั่วโมงแรก จากนั้นคิดชั่วโมงละ 50 บาท  ไม่เก็บค่าเข้าชม ในส่วนของทางเข้าเป็นช่องทางเดินเล็กๆ ระหว่างทางมีผนังของตึกเก่าที่เต็มไปด้วยภาพวาดสถาปัตกรรมจีนดูสวยงามมีชีวิตชีวา ศิลปะที่นำเสนอแฝงข้อคิด และคติธรรมที่ดี รวมถึงภาพวาดเด็กน้อยกำลังแอบมองหน้าต่าง

 

 

อาคารล้ง 1919 เคยใช้เป็นท่าเรือกลไฟและโกดังเก็บสินค้าที่สร้างขึ้นในสมัย 2393 โดยเปลี่ยนมือมาหลายยุคหลายมัย จนมาถึงรุ่นปัจจุบันของตระกูล “หวั่งหลี” ที่ได้บูรณะจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมไทย-จีน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นการออกแบบวางผังอาคารในแบบจีนโบราณ ลักษณะอาคาร 3 หลัง เชื่อมต่อกัน 3 ด้าน เป็นผังรูปทรงตัวยู มีพื้นที่ว่างตรงกลางระหว่างอาคารทั้ง 3 หลัง ใช้เป็นลานอเนกประสงค์

 

 

ภายในออกแบบได้สวยงามผสมกลมกลืมกันอย่างลงตัว มีความร่วมสมัยและกลิ่นอายโบราณร่วมกัน ทั้งมุมของตึก กำแพง และหน้าต่าง รวมทั้งห้องต่างๆภายในตึก 

 

 

ร้านค้าและร้านอาหารภายในตึกส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ชั้นล่าง ซึ่งมีร้านไม่มากนัก เกือบทุกร้านตกแต่งแนวโบราณแต่ร่วมสมัย ถูกใจร้านไหนลองแวะไปอุดหนุนได้

 

 

นอกจากร้านอาหารแล้วในแต่ละห้องยังมีการจัดแสดง ของเก่าโบราณ ทั้งร้านขายยา แกลลาลี่ภายถ่าย รวมทั้งพิพิธภัณฑ์จัดแสดงต่างๆ  พิพิธภัณฑ์ร้านยาโบราณ ที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และตัวยาจีนโบราณ

 

 

ส่วนชั้นสองเป็นส่วนของภาพวาดจีนโบราณรอบกรอบหน้าต่าง ถึงแม้สีของภาพจะเลือนลาน แต่ยังมองเห็นได้ถึงความอ่อนช้อย ปราณีต ผนังเก่าที่มองเห็นร่องปูนกลายเป็นความเท่ ที่เชื้อเชิญให้เราต้องเดินไปถ่ายภาพ

 

 

ล้ง 1919  สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า เหมาะกับการเที่ยวพักผ่อน  ดื่มด่ำความรื่นรมย์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในแวดล้อมของหมู่อาคารเก่าย้อนยุค มาเก็บความทรงจำไว้เป็นที่ระลึก

 

The Jam Factory

 

The Jam Factory  ตั้งอยู่ไม่ไกลจากล้ง 1919 สถานที่ชิลล์เอาท์จิบกาแฟ เครื่องดื่ม และเบเกอรี่  แหล่งรวมไอเดียและงานสร้างสรรค์ ภายใต้คอนเซ็ปต์เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน อนาคตและชุมชนไว้ด้วยกัน ด้วยการคงไว้ซึ่งโครงสร้างของอาคารเก่าที่มีเสน่ห์ ผสมผสานกับการตกแต่งเพิ่มเติมในดีไซน์สวยเก๋ เน้นโทนสีดำ เรียบง่ายและดูดี ภายในพื้นที่ประกอบด้วย ร้านกาแฟ แกลอรี่ภาพ ร้าน หนังสือ และร้านอาหารไทย

 

 

เมื่อเข้ามาในพื้นที่ของ The Jam Factory  จะได้พบกับความร่มรื่นบริเวณใต้ต้นไทรขนาดใหญ่ บริเวณด้านหน้า คือ โชว์รูมขายเฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า สินค้าตกแต่งบ้านดีไซน์สวย

 

 

บรรยากาศในโครงการมีความร่มรื่นของธรรมชาติ และมีความเก่าเก๋ของอาคารเก่าให้ได้ถ่ายภาพ

 

 

เข้าไปด้านในจะเจอร้านกาแฟ  li-bra-ry  มีทั้งขนมหวานและเครื่องดื่มแก้วโปรดให้เลือกทานเพลินๆ ภายในพื้นที่เดียวกับร้านกาแฟ คือ ร้านหนังสือ Candide Books (ก็องดิด) ที่มีหนังสือให้เลือกซื้อหลากหลายแบบ

 

 

The Never Ending Summer ร้านอาหารไทยแท้ที่ตั้งอยู่ในโซนสุดท้ายของโครงการ ร้านตั้งอยู่ติดริมท่าน้ำ   การตกแต่งภายในของร้านถูกออกแบบไว้ในสไตล์อินดัสเตรียล โดยยึดโครงสร้างเดิมจากโกดังเก่า ทั้งอิฐเปลือยและเสาเอาไว้ให้มากที่สุด ทำให้เป็นร้านอาหารที่ยังคงกลิ่นอายอดีตแบบร่วมสมัย มีทั้งมุมร่มรื่นภายนอกร้านให้นั่งชิลล์ ส่วนเมนูเน้นขายอาหารไทย

 

 

เติมความสุขและงานศิลป์ ที่ The Jam Factory หลากหลายความสุขให้เลือกสรร ทั้งแกลเลอรี่จัดแสดงภาพศิลปะ ร้านหนังสือ-กาแฟ ร้านอาหารไทย

 

The Jam Factory

41/5 ถ.เจริญนคร คลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600

เวลาเปิดบริการ ทุกวันเวลา 11.00-23.00 น.  มีที่จอดรถไว้บริการภายในโครงการ ซึ่งจอดได้ประมาณ 20 คัน

เฟสบุค คลิ๊ก The Jam Factory

 

วัดพิชยญาติการาม

วัดพิชัยญาติการาม  ตั้งอยู่เชิงสะพานพุทธ สร้างโดยสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัด บุญนาค) น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวงในรัชกาลที่ 3  วัดแห่งนี้สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน ซึ่งเป็นแบบพระราชนิยมในสมัยนั้น ภายในวัดมีปูชนียวัตถุและถาวรวัตถุที่สำคัญ ทั้ง พระปรางค์ 3 ยอด องค์ใหญ่สีขาวโดดเด่น พระอุโบสถ สร้างเป็นศิลปะแบบจีน  ประดิษฐานพระสิทธารถ” หรือ “หลวงพ่อสมปรารถนา”  ซึ่งเป็นพระประธานภายในโบสถ์ ที่มีพุทธลักษณ์ที่งดงามมาก

 

 

บรรยากาศภายในวัดมีความสงบเงียบร่มเย็น เหมาะแก่การเข้ามาปฎิบัติธรรม มีเจดีย์สีขาวคู่ โดดเด่น หน้าพระอุโบสถ  เป็นเจดีย์เงิน กับ เจดีย์ทอง สามารถกราบไหว้พระข้างในเพื่อขอพรในเรื่องความมั่งคั่ง ลาภ เงินทอง รวมทั้งยังมีพระบรมสารีริกธาตุให้สักการะบูชา

 

 

อุโบสถวัดพิชัยญาติซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะจีน ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ และพระประธาน พระสิทธารถ” หรือ “หลวงพ่อสมปรารถนา” พระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณ์ที่งดงาม  เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยสุโขทัยที่อัญเชิญมาจากเมืองพิษณุโลก  ได้กราบพระประธานแล้วรู้สึกสงบ​ สบายใจมาก​ ด้วยความสงบเงียบภายในพระอุโบสถทำให้มีพุทธศาสกนิกชน มานั่งสมาธิด้วย

 

 

พระปรางค์สามยอดสีขาวองค์ใหญ่ ซึ่งเป็นจุดเด่นของวัดพิชยญาติการามวรวิหาร ภายในประดิษฐานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ คือ พระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกันปะ พระโคตม พระศรีอริยเมตไตรย วัดพิชัยญาติการาม ศาสนสถานที่เก่าแก่และสวยงาม  เป็นวัดที่สงบในย่านฝั่งธนบุรี สถานที่สอนปฏิบัติ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ควรแวะมาสักครั้ง

 

 

อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จสมเด็จย่า

อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ อุทยานสมเด็จย่า   สร้างขึ้นสนองกระแสพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่จะให้อนุรักษ์อาคารเก่าในย่านนิวาสสถานเดิมในครั้งทรงพระเยาว์ของสมเด็จย่า ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชประวัติของพระองค์ ให้ได้ศึกษา รวมทั้งเป็นสวนสาธารณะพักผ่อนหย่อนใจออกกำลังกายของคนในชุมชน นอกจากนี้ยังได้สัมผัสกลิ่นอายในอดีตผ่านอาคารเก่าแก่ต่างๆ กลายเป็นจุดเช็คอินถ่ายสวยในสไตล์วินเทจได้อีกด้วย

 

 

เมื่อมาถึงสามารถจอดรถไว้บริเวณทางเข้าได้ โดยเสียค่าจอดคันละ 20 บาท ที่นี่เปิดให้เข้าชมฟรี ภายในอุทยานสมเด็จย่า มีพื้นที่กว้างขวาง ด้านหน้ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่คอยให้ร่มเงา  และยังเป็นลานสำหรับใช้จัดกิจกรรมต่างๆ ภายในสวนด้วย 

 

 

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงดำรงไว้ซึ่งพระอัจฉริยภาพ พระปรีชาสามารถ พระราชจริยาวัตร และพระราชกรณียกิจทั้งปวงล้วนเป็นคุณแก่บ้านเมือง เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตในฐานะที่ทรงมีพระราชคุณูปการแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างใหญ่หลวง จึงมีการสร้างพระราชานุสาวรีย์เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณไว้หลายแห่ง เช่นที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ มีลักษณะเป็นพระรูปสมเด็จพระศรีฯ ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริงเล็กน้อย ประทับนั่งในพระอิริยาบถผ่อนคลาย ประดิษฐานภายในสวนส่วนหน้าของอุทยานดินใต้ฐานพระราชานุสาวรีย์นั้นนำมาจากสถานที่ต่างๆ ที่พระองค์เคยเสด็จพระราชดำเนินประกอบพระราชกรณียกิจอีกด้วย

 

 

ภายในสวนมีต้นไม้ปกคลุมทางเดินโดยรอบ มีที่ให้นั่งพักผ่อน ลู่วิ่งรอบสวน มีแผ่นหินแกะสลักขนาดใหญ่แสดงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีในท้องถิ่นทุรกันดาร และด้านเหนือแสดงกระบวนแห่ไหว้สาแม่ฟ้าหลวงของชาวล้านนา

 

 

เมื่อเดินเข้าไปข้างในเหมือนหลุดเข้าไปในบรรยากาศของอดีต เพราะเต็มไปด้วยกำแพงและอาคารอิฐโบราณ เรียกว่า อาคารทิมบริวาร สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีนในสมัยรัชกาลที่ 3  ด้วยความดงามเก่าแก่ของอาคาร จึงทำให้กลายเป็นจุดถ่ายภาพสวยของนักท่องเที่ยวที่แวะมา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาถ่ายรูปกันหลายคน ไม่ต้องไปไกลถึงอยุธยาหรือลพบุรี มาที่คลองสานก็มีความเก่าแก่ให้ได้ชมเช่นกัน

 

 

บางจุดของกำแพงมีรากต้นไทรขนาดใหญ่ปกคลุม กลายเป็นศิลปะของรากไม้ที่สวยงาม เพิ่มมนต์ขลังและเสน่ห์ของสถานที่เพิ่มขึ้น

 

 

ศาลาแปดเหลี่ยม  สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสครบ 8 รอบ วันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี แต่ทรงสวรรคตก่อนสร้างเสร็จ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีอย่างเป็นทางการ และประทับนั่งด้านในศาลาแปดเหลี่ยมแห่งนี้

 

 

ภายในสวนส่วนในโปรดเกล้าฯ ให้จำลอง “บ้านเดิม” ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ครั้งเคยประทับที่ชุมชนแห่งนี้ ตกแต่งภายในตามหนังสือ “แม่เล่าให้ฟัง” พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

 

 

ตลอดเส้นทางที่เดินใน อุทยานสมเด็จย่า ได้มองอาคารต่างๆ เหมือนเป็นอาหารตาและอาหารใจ รู้สึกได้ถึงความสุข สงบ และร่มรื่น แบบที่ไม่นาเชื่อว่าจะมีบรรยากาศแบบนี้ซ่อนตัวอยู่ภายในชุมชน ท่ามกลางความเจริญในย่านคลองสาน แถมมีพิพิธภัณฑ์เก็บเรื่องราวของสมเด็จย่าอย่างละเอียด ให้ได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ใครที่คิดถึงพระองค์ท่านแวะมาที่นี่กันได้ค่ะ

 

 

เที่ยวคลองสาน 1 วัน  แวะชิลได้เรื่อยๆ ตามจุดเช็คอินที่แนะนำ ช่วยผ่อนคลายในวันหยุดได้มากเลยทีเดียว

 

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง