สูดโอโซนบ้านแม่ลาย พักบ้านกระจกใส แวะแชะ 2 คาเฟ่

กลับมาเยือนบ้านแม่ลาย เชียงใหม่ อีกครั้ง ที่กลายเป็นจุดเที่ยวสุดฮอตของเชียงใหม่ไปเรียบร้อย มีที่พักที่เกิดขึ้นใหม่มากมาย อดใจไม่ไหวต้องจองมาเที่ยวอีกรอบ ครั้งก่อนมาเที่ยวบ้านแม่ลายโดยเลือกพักที่พักในสไตล์โฮมสเตย์ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน ครั้งนี้เปลี่ยนบรรยากาศมาพักในแบบชิคริมน้ำกันบ้าง ในบ้านกระจกใสสุดฮอต และได้ชื่อว่าจองยากที่สุด Morning star glamping  ต่อเที่ยวคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับที่พักแวะถ่ายรูป หามุมสวย สูดโอโซนบริสุทธิ์กันสักหน่อย

 

 

พิกัดของ บ้านแม่ลาย ตั้งอยู่เส้นทางเดียวกับทางไปหมู่บ้านแม่กำปองห่างกันประมาณ 4 กิโลเมตร  เมื่อผ่านโครงการหลวงตีนตก และผาน้ำลอด ตรงไปเป็นเส้นทางไปแม่กำปอง แต่ถ้าเลี้ยวซ้าย คือ เส้นทางไปบ้านแม่ลาย เพราะฉะนั้น 2 หมู่บ้านนี้ จึงสามารถเที่ยวเชื่อมยอมถึงกันได้ ใครมาพักบ้านแม่ลาย ก็สามารถขับรถเที่ยวแม่กำปองต่อได้แบบไม่ไกลมาก ถนนไปยังหมู่บ้านเป็นทางราดยางตลอดเส้นทาง รถทุกชนิดไปได้หมด อาจมีบางจุดที่ชันบ้างแต่ไม่มาก

 

กำปอ

ก่อนเข้าที่พัก Morning star  ต้องไปเช็คอินที่ ร้านกาแฟกำปอ รับ welcome drink ระหว่างรอเวลาเราก็มานั่งเล่นถ่ายภาพที่ร้านกาแฟกำปอ ร้านคาเฟ่บ้านไม้เล็กๆในบรรยากาศสบายๆ ตั้งอยู่ริมถนนก่อนถึงตัวหมู่บ้าน  หน้าร้านมีเก้าอี้ ที่ประดับด้วย ผ้าดิบสีขาวเขียนเขียนชื่อร้านด้วยตัวอักษรน่ารัก เป็นมุมถ่ายภาพซิกเนเจอร์ที่ใครแวะมาก็ต้องได้ภาพมุมนี้กลับไป 

 

 

ตัวร้านมี 2 ชั้น ชั้นบน คือ พื้นที่ในส่วนของเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่ม มีที่นั่งประมาณ 3 โต๊ะ ตกแต่งน่ารักแบบโฮมมี่นิดๆ 

 

 

 

ชั้นล่างมีพื้นที่กว้างหน่อย ท่ามกลางป่าและต้นไม้ มองเห็นลำธารอยู่ข้างล่างไม่ไกล 

 

 

Atlantis Valley

ติดกับร้านกำปอ คือ Atlantis Valley คาเฟ่บ้านแม่ลายตกแต่งในสไตล์อเมริกา ทั้งตัวร้านแบบไม้กลางป่าสนประดับด้วยธงชาติอเมริกาที่กลายเป็นมุมไฮไลท์สุดเก๋ที่ทุกคนต้องมาแชะภาพ ส่วนด้านล่างมีทั้งที่นั่งบ้านไม้ยกสูงในสไตล์ญี่ปุ่น และพื้นที่นั่งริมลำธารประดับด้วยต้นสนและดวงไฟขนาดเล็ก นั่งฟังเสียงลำธารไหลผ่าน รับอากาศในร้านแบบเย็นสบาย ได้ฟีลเหมือนนั่งร้านกาแฟในต่างประเทศ

 

 

จากหน้าร้านกำปอเดินลงบันไดไปตามทาง จะถึงร้าน มีค่าเข้าคนละ 80 บาท สามารถนำมาแลกเครื่องดื่มและอาหารได้   ทางร้านมีบริการเครื่องดื่ม เค้ก และอาหารสไตล์ตะวันตก เช่น ไก่ทอดเฟรนฟราย สตูว์ไก่บาร์บีคิว ออสเตรเลียเบอร์เกอร์ สปาเก็ตตี้มิโซะ บริเวณด้านหน้ามีเก้าอี้ ประดับด้วยธงชาติอเมริกัน เป็นมุมถ่ายภาพไฮไลท์ที่ต้องแวะแชะภาพ ตรงข้ามมีโต๊ะ เก้าอี้ สำหรับให้นั่งได้อีกหนึ่งมุม ด้วยตัวร้านโทนสีและแสงในร้าน ให้ฟีลเหมือนกำลังนั่งในร้านกาแฟกลางป่าในต่างประเทศ

 

 

ระหว่างทางเดินมีมุมที่นั่งแบบส่วนตัว มองไปข้างล่างเห็นวิวของลำธาร

 

 

จากตัวร้านมีบันไดลงไปข้างล่าง เพื่อไปยังที่นั่งในโซนต่างๆ ก่อนถึงลำธารมีบ้านไม้ตกแต่งแบบมินิมอลนิดๆ  ในสไตล์เอิรธ์โทน มีเบาะนั่งแบบญี่ปุ่น

 

 

มาถึงมุมที่นั่งริมลำธาร ตกแต่งเหมือนหมู่บ้านชนบทต่างประเทศ ทั้งโต๊ะเก้าอี้ ที่แทรกตัวอยู่ระหว่างต้นสน มีความลงตัวไปหมด สามารถนั่งพักผ่อนชมวิว ฟังเสียงลำธารได้ตลอดทั้งวันเลยทีเดียว

 

 

Atlantis Valley

พิกัด : 64 หมู่ 2 บ้านแม่ลาย  อำเภอแม่ออน เชียงใหม่ 

เวลาทำการ ทุกวัน 08.00-17.00 น.

 มีค่าเข้าชมคนละ 80 บาท สามารถนำไปลดกับเมนูในร้านได้

 

 

Morning star glamping 

บ่ายสามโมง เราเช็คอินเข้าห้องพัก Morning star glamping  ทางลงเข้าไปยังที่พักต้องลงไปทางเดียวกับร้าน  Atlantis Valley ทางจะต้องลงเนินพอได้หอบเหนื่อย ทางที่พักมีพนักงานช่วยขนสัมภาระ น้องๆพนักงานเป็นคนพื้นที่ให้บริการดีค่ะ ก่อนลงจัดสิ่งของให้เรียบร้อย แบบที่ไม่ต้องขึ้นมาเอาอีกเพราะที่พักห่างจากที่จอดรถพอสมควร ทางเดินมีความลาดชันนิดๆ บ้านพักปัจจุบัน มี 3 หลัง คือ เคบิ้นกระจก 2 หลัง และเอเฟรมสีขาว  1 หลัง อยู่ติดกัน และมีรั้วไม้กั้นเป็นสัดส่วน ราคาเท่ากัน คือ 8900 (รวมอาหารเช้าและมินิบาร์) พื้นที่แต่ละหลังกว้างขวาง ประดุจบ้านส่วนตัวกลางป่า แต่ในย่านริมธารแห่งนี้ยังมีที่พักอื่นที่ตั้งเรียงรายอยู่ด้วย คือ เนรมิต และ riverie camp เราเลือกพักเคบิ้นกระจก โดยจองล่วงหน้า 2 เดือน ตอนจองมีบ้านว่างแค่ 5 วัน และเป็นวันธรรมดาทั้งหมด เพราะฉะนั้นใครอยากพักในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ให้จองล่วงหน้ายาวๆ 

 

 

บ้านเคบิ้นกระจก ตั้งอยู่บนพื้นไม้ยกสูง แบ่งพื้นที่ออกเป็นสองหลัง คือ ห้องนอนกระจกใสรอบทิศยกเว้นบริเวณหัวเตียงเท่านั้น และห้องนั่งเล่นเป็นกระจกเฉพาะด้านหน้า ส่วนห้องน้ำอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น แบ่งเป็นห้องสุขาและห้องอาบน้ำแบบโอเพ่น มีอ่างจากุซซี่ตั้งอยู่หน้าห้องนอน และพื้นที่นั่งเล่นด้านหน้า มีความเป็นอาณาจักรส่วนตัวมาก ที่นี่ไม่ค่อยมีสัญญานโทรศัพท์ แต่มีสัญญาณ wifi ให้ใช้เร็วเลยทีเดียว 

 

 

ห้องนอนในช่วงบ่าย มีแสงส่องกระทบลอดผ่านต้นไม้แสงสวยมาก ภายในห้องนอนเป็นแบบห้องแอร์ มีเตียงขนาดใหญ่ ที่นอนนุ่มหอมสะอาด มีพรอพเก๋ๆอย่าง ลำโพง marshall ต้นไม้ฟอกอากาศ และประตูไม้บานใหญ่เหมือนประตูในเทพนิยาย เมื่อเปิดออกไปจะเป็นอ่างจากุซซี่ที่ตั้งอยู่ด้านนอก บริเวณประตูไม้ยังมีประตูกระจกและแบบมุ้งลวดให้ด้วย ในกรณีที่อยากเปิดประตูไม้ และเปิดแอร์ก็ปิดประตูกระจกแทน เพื่อป้องกันยุงและแมลงเข้ามา

 

 

ห้องนั่งเล่นพื้นที่จะเล็กกว่าห้องนอน สำหรับเก็บของสัมภาระหรือจะแต่งตัวอะไรก็ว่ากันไป ห้องนี้มีโต๊ะนั่ง ตู้เย็น มินิบาร์ คือ น้ำแร่ น้ำอัดลม กาแฟ โอวัลติน  และมาม่ากระป๋อง สามารถทานได้ทั้งหมด รวมราคาอยู่ในห้องพักแล้ว กระจกใสกลมด้านข้างมองจากห้องนั่งเล่นผ่านไปจะเห็นห้องนอน

 

 

ส่วนห้องน้ำอยู่ติดกับห้องรับแขก พื้นที่กว้างขวาง แบ่งเป็นห้องสุขา ถัดไป คือ ห้องอาบน้ำแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคา

 

 

ชมห้องพักแล้ว ได้เวลาลงอ่างและถ่ายภาพวนไป ทางที่พักมีโฟมบาธใส่ในตระกร้า คิดเงินซองละ 150 บาท แนะนำให้เตรียมมาเองค่ะ แช่น้ำในอ่างแล้วไปเล่นน้ำในลำธารต่อ แต่บริเวณลำธารตามที่บอกคือ มีที่พักที่อื่นด้วย ถ้าเดินออกไปจะเห็นแขกที่มาพักหลังอื่น อาจจะไม่ค่อยไพรเวทนัก น้ำที่นี่ไม่ใช่น้ำประปา เพราะฉะนั้นน้ำที่เปิดลงในอ่างหรือในห้องน้ำจะสีเข้มเหมือนน้ำบาดาล ให้คิดว่ากำลังอาบน้ำจากลำธาร แต่ถ้าใครแพ้น้ำแนะนำให้เตรียมน้ำเปล่าใส่ขวดมาล้างหน้า หรือใช้เช็ดชู่เปียกเช็ดแทนค่ะ  

 

 

อาหารมื้อค่ำทางที่พักให้เลือกว่าจะทานหมูกะทะหรือสั่งเป็นกับข้าว ถ้าหมูกะทะต้องขึ้นไปทานอีกแห่งหนึ่งข้างบน แต่ถ้าเป็นอาหารจานเดียวหรือกับข้าว จะมีพนักงานมาเสิร์ฟถึงบ้านพัก แน่นอนค่ะในช่วงเวลาค่ำไม่อยากเดินไปไหนแล้ว อีกอย่างก่อนหน้านี้ เราทานหมูกระทะมาหลายที่จนเริ่มเบื่อ เลยเลือกอาหารตามสั่งบ้าง เป็นอาหารเหนือจากร้านกินเพลิน ร้านอาหารในย่านนี้ เสิร์ฟใส่กล่องพลาสติก สั่งแกงฮังเล ต้มจืดเต้าหู้หมูสับ จิ้นส้มหมกไข่ การบรรจุอาหารอาจไม่ได้ใส่ภาชนะมาอย่างสวยงาม แต่รสชาติอร่อยมากไก่ล้านตัวทุกอย่าง โดยเฉพาะแกงฮังเลอร่อยสุดๆ

 

 

เก็บบรรยากาศยามค่ำคืนบ้าง ใสจนมองเห็นต้นไม้ที่อาจรู้สึกหวิวบ้าง แต่ถ้าไม่จินตนาการมากจนเกินก็ไม่ได้มีอะไร นอนดูต้นไม้ ฟังเสียงลำธาร มีแสงไฟอุ่นในห้องมาส่องกระทบ โรแมนติกดี เหมือนนอนเล่นฟังเสียงป่า แต่เป็นการนอนที่สะดวกสบายบนที่นอนนุ่ม เราไม่ได้เปิดแอร์อยากรับอากาศเย็นแบบธรรมชาติมากกว่า ซึ่งอากาศข้างนอก เย็นสบายทั้งวัน เวลานอนปิดผ้าม่านได้ข้างไว้ แต่บนเพดานยังใสนะคะ  

 

 

 

ตื่นแต่เช้ามาชมลำธาร และเก็บภาพกับห้องพักสักหน่อย หลังจากที่เมื่อวานมัวแต่ลงอ่าง ไม่ได้เก็บภาพตัวเองกับห้องพักเลย

 

 

8 โมง คือ เวลาเริ่มเสิร์ฟอาหารเช้า มีทั้งข้าวต้ม อเมริกันเบรคฟาสต์ น้ำส้ม โยเกิร์ต ครัวซองท์ นั่งทานริมธาร อิ่มทั้งบรรยากาศและอิ่มท้อง

 

 

Morning star glamping บ้านแม่ลาย อีกหนึ่งมิติใหม่ของการพักผ่อนในบ้านกระจก ที่ตกแต่งได้น่ารักและอบอุ่น เป็นความสนุกสนานของคนชอบถ่ายภาพแบบเราค่ะ เพราะสามารถถ่ายภาพได้ทั้งวัน ตั้งแต่เริ่มเช็คอินบ่าย เย็น ค่ำ เช้า จนวินาทีสุดท้ายตอนเช็คเอาท์เวลา 11.00 น. สำหรับสอบถามและจองที่พักผ่านอินบอกเพจเท่านั้นค่ะ ที่ : morningstarglamping 

 

 

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง