บางสะพาน…ว่างแล้วลองมา

บางสะพาน อำเภอที่อยู่ไกลสุดของประจวบคีรีขันธ์ติดกับชุมพร ซึ่งแยกออกเป็นอำเภอบางสะพาน และ อำเภอบางสะพานน้อยเดิมขึ้นอยู่ในการปกครองของอำเภอบางสะพาน แต่ในปัจจุบันยกฐานะขึ้นเป็นกิ่งอำเภอ ชื่อเสียงของ เกาะทะลุ ทำให้บางสะพานกลายเป็นจุดสนใจของคนรักทะเล มีชายหาดขาว น้ำทะใส มีฝูงปลาและประการังที่สมบูรณ์ แต่บางสะพานไม่ได้มีจุดเที่ยวน่าสนใจเพียงแค่เกาะทะลุเท่านั้นยังมีความสวยงาม Unseen แห่งธรรมชาติที่หลากหลายซุกซ่อนอยู่ หากมีเวลาว่างเมื่อไหร่ ลองแวะมาเที่ยวบางสะพาน และบางสะพานน้อย กันบ้าง รับลอง Have fun ไม่แพ้ที่ใดในประจวบ

 

 

วันแรก

 

ร้านครัวชะเอม

จากกรุงเทพมาถีงบางสะพาน เกือบเที่ยง เราแวะไปอิ่มท้อง ที่ ครัวชะเอม ร้านประจำที่แวะทานตลอดถ้าได้ไปเที่ยวทางใต้ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ครัวชะเอม เป็นร้านอาหารเล็กๆ สไตล์บ้านๆ ที่ตั้งอยู่ติดกับหาดแม่รำพึง เมนูเน้นอาหารทะเล และที่สำคัญร้านนี้ ราคาไม่แพง ปูม้านึ่งโลละ 450 บาท เท่านั้น ปูตัวใหญ่ด้วย  ร้านนี้ขึ้นชื่อในความสดของปูม้า แต่มาครั้งนี้ความสดโอเค แต่เหมือนความแน่นของเนื้อปูจะลดลงไปนิดหนึ่ง ส่วนเมนูเด่นอีกหนึ่งเมนูที่สั่ง คือ แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว ไข่ปลานุ่มใหญ่และสดมาก แต่น้ำแกงส้มจะเปรี้ยวนำไปนิดหนึ่ง แต่ด้วยความสดและใหญ่ของไข่ปลา คือ สามารถทดแทนกันได้  เมนูแนะนำอื่น ๆ อย่างไข่หมึกผัดต้นหอม รสชาติดี ส่วน หมึกต้มหวาน มีตามฤดูกาล และ เอ็นหอยผัดฉ่า ถือว่า รสชาติพอใช้ได้ มาทานครั้งนี้ความอร่อยลดลงไปนิดนึง แต่ถือว่ายังโอเคค่ะ 

 

 

อ่าวบ่อทองหลาง

 

อ่าวบ่อทองหลาง  ชายหาดขึ้นชื่อแห่งบางสะพาน มีลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กรูปร่างครึ่งวงกลม ในยามที่น้ำทะเลนิ่งสงบ มองเห็นน้ำทะเลสีฟ้าใส อ่าวบ่อทองหลาง เป็นชายหาดยอดนิยมแห่งบางสะพาน มีนักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนเล่นน้ำทะเล บริเวณอ่าวบ่อทองหลาง มีร้านอาหารริมหาดหลายร้าน รวมทั้งเก้าอี้ชายหาดให้บริการ ติดกับอ่าวบ่อทองหลาง มีชายหาดซึ่งไม่มีชื่อ แต่บริเวณนี้จะเรียกว่า ทะเลแหวกบางสะพาน เนื่องจากชายหาดมีลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวครึ่งวงกลม ยามน้ำลดจะเห็นสันทรายสีขาวสามารถเดินไปยังเกาะหัวพิน ซึงเป็นเกาะขนาดเล็กกลางทะเลได้อีกด้วย

 

 

เมื่อมาถึงในพื้นที่ของอ่าวบ่อทองหลาง สามารถไปจอดรถได้ที่วัดบ่อทองหลาง ซึ่งสามารถเข้าไปทำบุญไปด้วยได้

 

 

บริเวณวัดบ่อทองหลางสามารถมองเห็นเวิ้งอ่าวของทะเลแหวก น้ำบริเวณนี้ค่อนข้างใส ใครอยากลงไปเดินตรงสันทรายทะเลแหวกแบบใกล้ชิดก็ลงเดินจากตรงนี้ไปได้ค่ะ แต่สันทรายพอเข้าไปใกล้ๆ หาดทรายไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่นัก  มองด้วยตาไกลๆจะสวยกว่า

 

 

ถัดจากทะเลแหวก คือ อ่าวบ่อทองหลาง ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำ นั่งทานอาหารทะเล บริเวณชายหาดมีร้านอาหารให้บริการหลายร้าน เป็นร้านอาหารสไตล์บ้านๆ ขายอาหารทะเล  ช่วงที่ไปคือ เดือนมีนาคม วันที่ไปคลื่นค่อนข้างแรง ทะเลเลยไม่ค่อยสวยมาก ถามชาวบ้านบอกว่าให้มาเที่ยวช่วงเดือนกุมภาพันธ์ น้ำทะเลนิ่งและใส

 

 

วัดถ้ำเขาม้าร้อง

จุดหมายต่อไป วัดถ้ำเขาม้าร้อง ภายในถ้ำมีหลายคูหาแต่ละห้องงดงามด้วยหินย้อย โดยมีหินที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายหัวม้า จึงเป็นที่มาของชื่อวัดถ้ำม้าร้อง  นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปปางสมาธิเรียงรายตลอดแนวและพระพุทธรูปปางไสยาสน์ให้กราบสักการะ รวมทั้งบ่อน้ำทิพย์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกนำไปใช้ในงานพระราชพิธีสำคัญต่างๆ เป็นบ่อน้ำที่ไม่มีวันแห้ง

 

 

ตัวถ้ำตั้งอยู่ภายในวัดเขาถ้ำม้าร้อง เมื่อเข้ามาในพื้นที่ของวัดให้ขับรถขึ้นเขาไปประมาณ 300 เมตร ทางขึ้นเป็นถนนราดยางมีบางช่วงที่ชันแต่ไม่มากขับรถขึ้นได้สบาย มาถึงแล้วจอดรถหน้าถ้ำ จากนั้นเดินลงไปยังตัวถ้ำซึ่งเปิดไฟสว่างไสว  ระยะทางจากปากทางเข้าไปจนสุดปลายถ้ำไม่ไกลประมาณ 500 เมตร ภายในถ้ำแบ่งเป็นคูหา หรือห้อง แยกออกไปให้เดินไปชมความสวยงาม ตลอดทางมีพระพุทธรูปปางสมาธิวางเรียงรายอยู่ชิดผนังถ้ำด้านทางด้านหนึ่ง ถือว่าเป็นถ้ำที่เดินทางท่องเที่ยวได้แบบสะดวกมาก และเดินชมในระยะทางไม่ไกลมาก ภายในถ้ำอากาศค่อนข้างเย็นสบาย

 

 

 

จากปากถ้ำไม่ถึง 10 เมตร ให้เดินเข้าไปในห้องนี้ก่อนเพื่อไปสักการะพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่ประดิษฐานอยู่ในถ้ำ แค่ห้องแรกก็ตื่นตาตื่นใจสวยงามอลังการมาก

 

 

มาถึงห้องสุดท้ายที่รูปหินย้อยลักษณะคล้ายหัวม้า มองขึ้นไปมีปล่องถ้ำขนาดเล็กอยู่ข้างบนให้แสงส่องลอดผ่านเข้ามา และระหว่างทางเดินมีหินศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพันผ้าแพรหลากสี

 

 

จากนั้นเดินกลับยังเส้นทางเดิมแวะไปยัง บ่อน้ำทิพย์ เพื่อชมบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ทางวัดจะจัดพิธีตักน้ำทิพย์เพื่อนำไปใช้ในพิธีสำคัญต่างๆ  เช่น งานพิธีครบรอบ 60 พรรษา และ 72 พรรษา ของในหลวงรัชกาลที่ 9  และพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 โดยนักท่องเที่ยวสามารถอธิษฐานขอพร จากนั้นตักน้ำขึ้นมาลูบตัว ลูบหัว เพื่อความเป็นสิริมงคลได้  ถ้ำเขามาร้อง เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08:00 น. – 16:30 น. โดยไม่เสียค่าเข้าชม

 

 

 

ฝนตก แดดออก Craft and Cafe

ฝนตก แดดออก Craft and Cafe  คาเฟ่ริมทะเลตกแต่งฮิปคูล ย่านบางสะพานน้อยบรรยากาศร้านเป็นแบบโอเพ่นแอร์ทั้งหมด มีลมทะเลและแสงแดดเป็นเพื่อน ให้ได้นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ  หาดทรายสวย บรรยากาศสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน มีถ่ายรูปเก๋เยอะมาก ทั้งภายในร้านและริมชายหาดสายถายรูปถูกใจสิ่งนี้แน่นอน ส่วนเมนูมีทั้งเครื่องดื่ม ทั้ง กาแฟ ชา โกโก้ อิตาเลี่ยนโซดา น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มแบบมิกซ์ต่างๆ  รวมทั้งของหวาน อย่างเช่น วาฟเฟิล ขนมปังปิ้งเนย ไอศครีม  

 

 

พิกัดร้านตั้งอยู่ริมทะเล ทางเข้าเดียวกับท่าเรือไปเกาะทะลุ ในพื้นที่เดียวกับครัวจี๊ดจ๊าด ซึ่งเป็นร้านอาหารเจ้าของเดียวกัน  สามารถสั่งอาหารคาวจากร้านครัวจี๊ดจ๊าดมาทานได้ ตัวร้านเป็นบ้านชั้นเดียวขนาดเล็กสีขาวแบบโอเพ่นแอร์รับลมทะเลทั้งหมด แต่ละมุมตกแต่งด้วยของเก่าโบราณ ทั้งทีวี วิทยุ ชั้นเหล็กเก่า ไม้ฟอกอากาศ และต้นกระบอกเพชร มีความแนวมาก

 

 

อีกมุมด้านนอกติดกำแพงสีขาว เพิ่มดีเทลลูกเล่นด้วยช่องเล็กสี่เหลี่ยม ในตีมออนเดอะบีช มีเซิร์ฟบอร์ด ห่วงยาง และต้นกระบองเพชรประดับอยู่มากมาย เป็นฟีลการแต่งที่อาจดูดิบนิดนึงแต่เท่มาก

 

 

เครื่องดื่มเราสั่งบลูฮาวายโซดา และกาแฟส้ม เน้นความสดชื่น ช่วยดับกระหายเป็นอย่างดี เครื่องดื่มของทางร้านราคาไม่แพงค่ะ หลักสิบกลางๆ เท่านั้น

 

 

มาถึงมุมไฮไลท์ ริมทะเล ที่เปรียบเสมือนสตูดโอขนาดย่อม มีมุมให้ถ่ายรูปมากมาย ทั้ง ทั้งเก้าอี้ริมหาดกับต้นกระบอกเพชร ประตู และที่นั่งที่ประดับด้วยหม้อ กระทะ ปิ่นโต เก๋มากๆ เสียดายันที่ไปพายุเข้าอากาศจะหม่นหน่อย ถ้าแดดดีๆทะเลของหาดสนสวยมากค่ะ น้ำทะเลสีฟ้าไล่ระดับตัดกับหาดทรายเนียนสะอาด ได้แบบสวยงามกว่านี้  ทางร้านบอกว่าจะมีปรับปรุงมุมถ่ายภาพใหม่ตลอด มาครั้งหน้าอาจจะมีมุมอื่นเพิ่มขึ้นมาอีกค่ะ  

 

 

ฝนตก แดดออก Craft and Café

ตำบลบางสะพาน อำเภอบางสะพานน้อย ประจวบคีรีขันธ์

เวลาเปิดร้าน ทุกวัน 10:30 น.  – 20:00 น.  

โทรศัพท์: 096 994 4426

 

หาดสนรีสอร์ท 

จากร้านคาเฟ่ไม่ถึง 300 เมตร ช่วงบ่ายสาม เราเข้าไปพักผ่อนยังที่พักของเรา หาดสนรีสอร์ท  ซึ่งเป็นที่พักติดชายหาดสน ใกล้กับท่าเรือไปเที่ยวเกาะทะลุ หาดสนรีสอร์ท น่าจะเป็นที่พักติดทะเล ที่ดูโอเคในย่านบางสะพานที่ใกล้ท่าเรือไปเที่ยวเกาะทะลุที่สุด จากหน้าหาดของที่พักสามารถมองเห็นเกาะทะลุอยู่ฝั่งตรงข้ามกันแบบไม่ไกลกันมาก พื้นที่ภายในรีสอร์ทค่อนข้างกว้างมาก ให้บริการทั้งห้องพักมีให้เลือกหลายแบบ รวมทั้งร้านอาหารทะเล ภายในที่พัก และแพคเกจดำน้ำเที่ยวเกาะทะลุด้วย เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบ ภายในรีสอร์ทจัดมุมนั่งเล่น พักผ่อนริมทะเลไว้หลายจุด เสียดายในช่วงที่พายุเข้าพอดี เลยไม่ได้เห็นภาพทะเลสีฟ้าสวยๆ ปกติบริเวณหาดสน ถ้าอากาศดีแจ่มใส สีของน้ำทะเลและหาดทรายสวยมาก

สามารถจองห้องพักได้ในราคาพิเศษ คลิ๊ก จองห้องพักหาดสน รีสอร์ท 

 

 

ห้องพักของหาดสนรีสอร์ท  มีทั้งบ้านเป็นหลังกลางสนามหญ้า ในราคาหลักพันต้นๆ 

 

 

ส่วนบ้านอีกแบบที่อยู่ติดกันเพิ่งสร้างได้ไม่นาน เป็นบ้านแบบวิลล่า ออกแบบโมเดิรน์ วิวทะเลทุกหลัง ซึ่งเราเลือกพักแบบวิลล่า ราคาหลังละ 2000 บาท ไม่มีอาหารเช้า แต่อาหารเช้าสามารถไปทานได้ที่ คาเฟฟิชเชอรี่ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกันได้เลย ร้านนี้รสชาติอาหารอร่อยค่ะ ห้องแบบวิลล่า กว้างมากสำหรับสองคน แถมมีระเบียงหน้าบ้าน และดาดฟ้า สำหรับนั่งรับลมทะเล หรือนั่งปิ้งย่างกัน ถือว่าบรรยากาศสงบและค่อนข้างเป็นส่วนตัว 

 

 

ผาฝั่งแดง

ช่วงสี่โมงเย็นแวะไป ที่ ผาฝั่งแดง ที่นี่มีลักษณะพิเศษ คือ แนวหน้าผาสีแดงมีลวดลายสวยงาม ตั้งตระหง่านริมทะเลความยาวกว่า 5 กิโลเมตร ความสูงประมาณ 20 – 30 เมตร ผาผาแดง เกิดจากชายฝั่งมีลักษณะเป็นดินลูกรังแดง และเกิดการกัดเซาะของคลื่น ลมทะเล เป็นระยะเวลานับแสนปีทำให้ได้ลวดลายสวยงาม กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความแปลกตา ที่นักท่องเที่ยวต่างมาถ่ายรูปฮิปเก็บไว้ในเมมโมรี่

 

 

การเดินทางสามารถปักหมุดตาม google maps ได้เลยค่ะ มาถึงแล้วสามารถจอดรถไว้บริเวณทางลงไปยัง ผาฝั่งแดง แล้วเดินลงไปเจอกับหาดทราย ทะเลและหน้าผา มีชาวบ้านมาเดินหาปลาบ้างประปราย ชายหาดถูกปล่อยให้โทรมและดูร้างไปซักหน่อยเห็นครั้งแรกอาจตกใจเล็กน้อย ว่าทำไมไม่เหมือนภาพในรีวิวที่เคยเห็น ชายหาดมองด้วยตา คือ หน้าผาธรรมดาที่มีต้นมะพร้าวขึ้นอยู่ข้างบน  แต่ด้วยลวดลายของหน้าผาและก้อนหินเรียงรายอยู่ตามริมหาด เมื่อมาประกอบกันทำให้ถ่ายรูปออกมาได้ฟีลที่สวยแปลกดี ถ้าได้แสงสวยมาส่องกระทบน่าจะสวยกว่านี้มาก วันที่ไปพายุเข้าอากาศอึมครึม ภาพจะทึมๆไปตามสภาพอากาศ

 

 

บนหน้าผามีซากไม้ลอยอยู่ เป็นป้ายชื่อหาด แต่คาดว่าคงโดนลมทะเลพัดจนร่วงลงมาหมด เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงแล้วมองหาป้ายไม้ไผ่ที่เขียนชื่อ ผาฝั่งแดง ตามภาพรีวิวเก่าๆ จะไม่เจอนะคะ  ล่าสุด คือ ตามภาพ

 

 

ทางเดินไปจนสุดปลายหาดค่อนข้างไกลพอสมควร แล้วแต่ว่าใครจะมีพละกำลังเดินไปได้ไกลแค่ไหน แต่ยิ่งเดินไปไกลจะพบกับก้อนหินที่สวยกว่าหาดช่วงแรก ซึ่งตลอดทางเดินจะพบกับผาหิน รวมทั้งก้อนหินศิลาแลงเล็กบ้างใหญ่บ้างกระจายตามชายหาด บางก้อนมีสีแดง หน้าผาบางช่วงก็มีสีส้มผสมสีขาว มีลวดลายที่สวยงาม ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ในอำเภอบางสะพานน้อย สำหรับคนที่อยากได้ภาพกับผาหินแปลกตา ก็แวะมาเก็บภาพกันได้ มาช่วงเช้าหรือไม่ช่วงเย็นแสงจะค่อนข้างสวย

 

 

วันที่สอง 

เกาะทะลุ 

จากที่พักช่วงเช้าเราไปต่อยัง เกาะทะลุ เกาะที่มีหาดทรายขาวและน้ำใส รวมทั้งเป็นจุดด้ำน้ำตื้นชั้นดี มีปลา สวยงามชุกชุม และปะการังหลากหลายชนิด  เหมาะสำหรับผู้รักธรรมชาติที่นิยมดำน้ำชมปะการัง สัญลักษณ์ที่โดดเด่นของเกาะทะลุ คือ ช่องทะลุ ซึ่งมีลักษณะเป็นโพรงขนาดใหญ่ทะลุ ถึงกันสองด้านแอบอยู่ใต้เพิงผาคล้ายสะพานหิน อันเกิดจากการสึกกร่อนเพราะคลื่นลมกัดเซาะอยู่นับพันหมื่นปี เกาะทะลุเที่ยวได้ตลอดปี แต่ช่วงที่เหมาะที่สุดช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ท้องฟ้าใส คลื่นลมสงบ  แต่ไม่สามารถคาดการณ์อากาศได้ค่ะ เพราะขนาดไปเดือนมีนาคม ยังเจอฝนเพราะพายุเข้าพอดี อากาศเลยทึมๆเล็กน้อย

 

 

การเดินทางสามารถเดินทางไปยังเกาะทะลุ โดยการนั่งเรือท่องเที่ยวออกจากท่าเรือหาดแหลมสน ไปยังเกาะทะลุใช้เวลาในการเดินทางเพียง 30 นาที  สามารถเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ โดยซื้อแพคเกจทัวร์จากบริษัททัวร์ในพื้นที่ ซึ่งมีให้บริการหลายแห่ง สามารถค้นหาได้ในทางอินเทอร์เน็ต ราคาแพคเกจ ราคาประมาณ  400-450 บาท ต่อคน รวมอาหารกลางวัน เริ่มต้นประมาณ 9 โมง – 12.00 น.  โดยจะเน้นดำน้ำเป็นหลัก ประมาณ 2-3 จุด จะไม่พาขึ้นหาด  พร้อมอาหารกลางวันแบบปิกนิกและเครื่องดื่ม เราเลือกใช้บริการของสีฟ้าทัวร์  ส่วนใครที่ต้องการค้างคืน บนเกาะทะลุสัมผัสหาดทรายน้ำทะเลใส บนเกาะมีรีสอร์ทที่ให้บริการเพียงเจ้าเดียว คือ ทะลุไอซ์แลนด์ รีสอร์ท สามารถซื้อแพคเกจท่องเที่ยวเกาะทะลุ โดยตรงกับรีสอร์ทเพียงแห่งเดียวค่ะ 

 

 

บริษัททัวร์จะพาเรามาดำน้ำ ดูปลา ยังจุดดำน้ำหน้าหาด  เกาะทะลุเป็นทัวร์ที่เหมาะสำหรับคนชอบดำน้ำเท่านั้น  จะไม่พาขึ้นไปยังชายหาด เพราะตามที่บอกไป คือ หาดเป็นหาดส่วนตัวของเกาะทะลุ รีสอร์ท ไม่สามารถพาขึ้นไปได้

 

 

ดำน้ำแล้วนั่งเรือไปชม สัญลักษณ์ของเกาะทะลุ ซึ่งมีลักษณะเป็นโพรงขนาดใหญ่ทะลุ ถึงกันสองด้านแอบอยู่ใต้เพิงผาคล้ายสะพานหิน อันเกิดจากการสึกกร่อนเพราะคลื่นลมกัดเซาะอยู่นับพันหมื่นปี

 

 

Cafe’ Fishery

ก่อนเดินทางกลับ เรามานั่งพักผ่อนกันที่  Cafe’ Fishery คาเฟ่ ฟิชเชอรี คาเฟ่สไตล์แนวอินดัสเตรียลสุดเท่ ใกล้ท่าเรือไปเกาะทะลุ ภายในร้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และของประดับสไตล์วินเทจมากมาย รวมทั้งที่นั่งทั้งใกล้ชิดธรรมชาติของสวนเอาท์ดอร์ริมสระน้ำ เป็นคาเฟ่ที่มีเมนูให้เลือกมากมาย ทั้งอาหารคาวแบบไทยอาหารอีสาน อาหารตะวันตก รวมทั้งเครื่องดื่ม ของหวาน มาแบบครบครันมาก ร้านเดียวตอบโจทย์สุดๆ ถูกใจทั้งบรรยากาศและรสชาติ

 

 

ร้านตั้งในซอยท่าเรือที่ไปเกาะทะลุ ใกล้กับหาดสนรีสอร์ท ใครผ่านไปมาต้องสะดุดตาในดีไซน์ของร้านทรงสี่เหลี่ยมสองชั้น  ด้วยโครงสร้างปูนดิบสไตล์ลอฟท์ โดดเด่นด้วยประตูสนิมขนาดใหญ่ที่เชื้อเชิญให้ต้องจอดรถและแวะเข้าไปนั่งเล่น สั่งอาหารและเครื่องดื่มกันซักหน่อย

 

 

ภายในร้านเน้นโครงสร้างเพดานสูงโล่ง การตกแต่งผสมผสานกันระหว่างอินดัสเตรียลและลอฟ โดยมีของแต่งเป็นของเก่าโบราณ ทั้งมอเตอร์ไซต์  ทีวี  วิทยุ ข้าวของเครื่องใช้ที่ประดับอยู่ในตู้ ล้วนเป็นของเก่าทั้งหมด รวมทั้งโซฟาที่นั่งแบบวินเทจ เคาน์เตอร์ของร้านแบ่งเป็น 2 โซน คือ คาเฟ่และในส่วนของบาร์ที่เปิดในช่วงกลางคืน

 

 

ส่วนพื้นที่ในส่วนเอาท์ดอร์ประดับด้วยต้นไม้เขียวขจี ตั้งอยู่ริมสระน้ำแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ชมสวนมะพร้าวที่เป็นวิวทิวทัศน์โดยรอบ เพราะตั้งอยู่ใกล้กับหาดสนซึ่งเป็นพื้นที่ของทะเล ในระยะที่เดินไปไม่ถึง 300 เมตร ก็เห็นทะเล

 

 

มาถึงเมนูมีให้เลือกมากมาย ทั้งอาหารคาวแบบไทย อาหารจานเดียว อาหารอีสานส้มตำ ยำต่างๆ  อาหารฟิวชั่น สไตล์ตะวันตก รวมทั้งเครื่องดื่ม ของหวาน บิงชูชาสายไหม ที่มาแบบครบครันมาก เราสั่งมาลองหลายสไตล์ เริ่มที่ สปาเก็ตตี้ คาโบนารา เมนูนี้ให้สิบเต็ม ใส่แฮมชีสเห็ดแชมปิญอง ชอบรสชาติน้ำครีมซอส หอมชีส มีความละมุนมากถึงกับต้องถามน้องพนักงาน ว่าไปเชฟไปร่ำเรียนมาจากที่ไหน ทำได้อร่อยมากน้องบอกว่าเป็นสูตรของเจ้าของร้าน เราทานแล้วไม่รู้สึกเลี่ยน อีกเมนูสลัดทูน่า ผักสดและน้ำสลัดอร่อยมากเช่นกัน

 

 

มาถึงเมนูแบบอีสานเราสั่งตำแตงปูปลาร้า และหมูสามชั้นทอด สำหรับเมนูสองอย่างนี้ รสชาติปานกลาง ยังไม่ได้ลองเมนูอื่นซึ่งเป็นอาหารไทย รวมทั้งอาหารทะเลว่ารสชาติเป็นอย่างไร  แต่จากที่ลองทาน เราว่าร้านนี้น่าจะเด่นในเรื่องของรสชาติของอาหารแบบตะวันตก และของหวาน

 

 

ส่วนของหวานและเครื่องดื่ม เราสั่งเมนูซิกเนอเจอร์บิงชูชาไทย คือ รสชาติดีมากเกล็ดน้ำแข็งรสชาติชาไทยปั่นมาอย่างละเอียด นุ่มลิ้นมาก มาพร้อมกับไฮศครีม นมข้นหวาน และวิปครีม เมื่อทานด้วยกันยิ่งเพิ่มรสชาติได้ดีมาขึ้น เครื่องดื่มน้ำผึ้งมะนาวอร่อยเข้มข้นหอมมะนาว   โดยรวมเป็น ร้านที่ถ้าผ่านมาในย่านบางสะพานน้อย สามารถแวะมาผ่อนคลาย หามุมโปรดนั่งเล่น ถ่ายรูป ทานอาหารที่มีให้เลือกมากมาย จิบเครื่องดื่ม ของหวาน กันได้ค่ะ ร้านตกแต่งเท่มาก น่าจะที่สุดในย่านบางสะพานแล้วค่ะร้านนี้

 

 

Cafe’ Fishery  คาเฟ่ ฟิชเชอรี

ที่อยู่ 69/3 หมู่3 หมู่บ้านปากคลอง ต.บางสะพาน อำเภอบางสะพานน้อย ประจวบคีรีขันธ์

เปิดให้บริการ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา  09.00 น. –  22.00 น.

โทรศัพท์: 092 253 1969

 

เที่ยวบางสะพาน  เป็นความฟินที่ให้คะแนนระดับความสุข ผ่อนคลายแบบเต็มสิบ แถมมีเวลาแค่ 2 วัน 1 คืน ก็เที่ยวได้สบายมากๆ 

 
 

 

หาที่พักอื่นๆ ในอำเภอบางสะพาน

คลิ๊ก 10 ที่พักบางสะพาน ติดทะเล 

 

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง