เที่ยวชมเมือง ถ่ายภาพชิค สตรีทอาร์ตเบตง

เที่ยว เบตง ยะลา นอกจากจะเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และประวัติศาสตร์  ชมกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด คือ  เที่ยวในตัวเมืองเบตง ชมวีถีชีวิตของผู้คน อาคารบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ละภาพจะวาดอยู่ตามผนังอาคารบ้านเรือน ในตรอกซอกซอย ให้ได้แวะแชะถ่ายภาพ ครีเอทท่ากันอย่างสนุกสนาน ที่สะท้อนเรื่องราวและวิถีชีวิตของความเป็นเบตง แถมยังเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างผู้มาเยือนกับเจ้าของบ้านผู้เป็นเจ้าของเรื่องเล่าบนผนังบ้านที่ยังมีชีวิตอยู่อีกด้วย   ช่วยแต่งแต้มสีสันให้เมืองเบตงมีบรรยากาศน่ารักสดใส และน่าเที่ยวมากขึ้น

 

 

จุดเริ่มต้นเที่ยวชมเมืองถ่ายภาพสตรีทอาร์ต เริ่มที่หอนาฬิกาในพิกัดที่สามารถเดินได้ในระยะไม่กี่ร้อยเมตรเกือบทั้งหมด แต่ถ้าพักที่โมเดิร์นไทยใกล้แบบเดินไม่กี่ก้าวถึงหอนาฬิกาและใกล้กับซอยที่มีสตรีทอาร์ตหลายภาพ สำหรับเราปักหมุดเริ่มต้นที่โรงแรมโมเดิร์นไทย จะมีซอยเล็กๆ ที่อยู่ทางฝั่งซ้าย ที่เป็นร้านรถเข็นขายอาหารของกินต่างๆ ซอยนี้จะเจอกับภาพวาดและบรรยากาศน่ารักของคนเบตงรุ่นเดอะมานั่งดื่มกาแฟเสวนากันแบบนี้ 

 

 

เดินมาเรื่อยๆ ผ่านถนนเล็กระหว่างทางขนาบข้างด้ยบ้านเรือนของชาวบ้าน จะเจอกับภาพสตรีทอาร์ทกลุ่มใหญ่ที่อยู่ใกล้กันทั้งหมด เริ่มจากภาพไฮไลท์ ยิ้มสยาม ที่มีรูปของอากง อาม่า เจ้าของบ้าน รวมทั้งชาวเบตง หลากหลายวัย ทั้งชาวไทยพุทธ ชาวไทยมุสลิม ที่อาศัยอยู่ที่เบตงจริงๆ สังเกตุว่าจะมีชื่อของคนนั้นไว้ที่ภาพด้วย เห็นภาพนี้ คือ น่ารักมาก สร้างรอยยิ้มให้ตามชื่อของภาพเลยค่ะ 

 

 

ภาพนี่เราจะได้รู้จัก กับอาหารขึ้นชื่อของเมืองเบตงทุกอย่าง ที่มารวมกันอยู่ตรงนี้  ทั้งไก่สับเบตง ผัดหมี่เบตง ปลานิลสายน้ำไหล เฉาก๊วย เป็นภาพที่วาดได้น่ารักมาก 

 

 

ภาพรถสวน ที่อยู่ติดกับโรงซีอิ๊ว เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางในอดีตของคนเบตง ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าเกษตร การเดินทางไปมาหาสู่ รวมทั้งการไปโรงเรียนตอนเช้าๆ ในภาพก็จะเห็นเด็กแต่งชุดนักเรียนขึ้นเต็มรถ เป็นรถสิบล้อคันใหญ่ เป็นภาพที่คนเบตงได้ย้อนรำลึกถึงเรื่องราวในอดีต 

 

 

ภาพนักบาสบนผนังบ้านไม้เก่าสุดคลาสสิค  เป็นภาพนักบาส 2 คน อายุ 70-80 ปี  บาสเก็ตบอล คือ กีฬาในเบตงที่ดังมาก รางวัลที่ได้ คือ ถ้วยทองคำหนักถึง 50 บาท ของนักบาสหญิงที่ได้มาจากการแข่งขันกับจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งถ้วยนี้ได้ถูกนำไปขายแล้วนำเงินบางส่วนเอาไปทำกิจกรรมในการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ ภาพนี้ จึง สื่อถึงอีกหนึ่งความหมายคือ ความเสียสละและกตัญญู  

 

 

ภาพนกเงือก สัญลักษณ์ของผืนป่าฮาลาบาลา และภาพหญิงสาวชาวจีนและมังกร ที่วาดได้อ่อนช้อยมาก 

 

 

สุดซอยของภาพถนนในกลุ่มนี้ คือ ข้ามถนนมาจะเจอกับภาพนี้จะเจอภาพไก่เบตง และข้ามถนนไป คือ ภาพรถเข็นขายของของอาเป๊ะ และทุเรียนมูซานคิง ทุเรียนพันธุ์ดังขึ้นชื่อของเบตง 

 

 

ภาพกบภูเขาหรือที่ชอบเรียกว่ากบยักษ์กำลังกินป๊อบคอร์น กบภูเขาอาหารขึ้นชื่อและสัตว์เศรษฐกิจของเบตง กบภูเขาเบตง เป็นกบที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ ในป่าเบญจพรรณที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีขนาดใหญ่กว่ากบทั่วไป  ชาวเบตงนิยมนำประกอบอาหารหลากหลายประเภท ทั้ง กบทอดกระเทียมพริกไทย ผัดเผ็ดกบ แกงส้มกบดอกดาหลา เป็นต้น เมนูกบภูเขานั้นมีขายอยู่ตามร้านอาหารชื่อดังของเบตงหลายร้าน นักท่องเที่ยวหลายคนได้มาทานแล้วจะติดใจในความอร่อยของเนื้อกบ ติดกันคือ ภาพแหมวเหมียวน่ารัก

 

 

ตู้ไปรษณีย์สีแดง อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองเบตง ภาพชุดนี้เพิ่มสีสันด้วยภาพเด็กผู้หญิงสะพานเป้เหมือนนักท่องเที่ยว น้องแมว น้องหมาซึ่งเชือกให้เราทำท่าจูงด้วย  พิกัดอยู่ในซอยภมรสิงห์

 

 สตรีทอาร์ตเบตง

 

มาถึงจุดหมายสำคัญที่เราตั้งใจต้องแวะมาให้ได้ ที่โรงเรียนอนุบาลเบตงอยู่ติดกับศาลาประชาคมบริเวณผนังของอาคารเรียน มีภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวง ร 9  เป็นภาพที่สวยเหมือนพระองค์ท่านมาก ความหมายที่ยิ่งใหญ่ของภาพนี้ คือ ข้อความบนภาพ ที่ครั้งหนึ่งเคยเสด็จฯ เยี่ยมเยียนประชาชน ที่อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ในเวลาประมาณสองทุ่มเศษ ได้มีประชาชนกราบทูล ระหว่างเข้าเฝ้าว่า เวลานี้พระองค์ควรเสด็จฯ กลับได้แล้ว เพราะหากเวลาล่วงเลยจนดึกดื่นไปกว่านี้ เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย และได้รับอันตรายจากโจรได้  พระองค์ท่านรับสั่งว่า  ไม่ได้จะมารบกับโจร ฉันจะมาเยี่ยมเยียนประชาชน มาช่วยเหลือคนเจ็บไข้ได้ป่วย เพราะพสกนิกรที่นี่ยากลำบากมาก พร้อมกับหันไปตรัสกับผู้ติดตามว่า หากใครกลัวก็กลับไปก่อน ฉันยังไม่กลับ และตลอดระยะทางจาก อ.เบตง ไป อ.รือเสาะ เสด็จฯ ผ่านภูเขาที่มีโจรชุกชุม จุดบอด จุดมืดอันตรายมาโดยตลอด แต่พระองค์ก็ยังมีรับสั่งให้จอดรถ เพื่อลงไปทักทายกับชาวบ้านที่มารอรับเสด็จ ยืนมองภาพด้วยความสงบนิ่งและอ่านข้อความซ้ำไปมาอยู่หลายรอบ แอบน้ำตาไหลด้วยความคิดถึงพระองค์

 

 สตรีทอาร์ตเบตง

 

ถ่ายภาพสตรีทอาร์ต แล้ว สามารถนั่งรถชมเมืองต่อ ไปชมสนามกีฬากลางหุบเขา ที่มีวิวสวยและบรรยากาศน่ามาวิ่งออกกำลังหรือปั่นจักรยานเป็นที่สุด  เป็นสนามกีฬาที่ตั้งอยู่ในระดับความสูงที่สุดในบรรดาสนามกีฬาแห่งอื่นๆ ในประเทศไทย แอบมีความอิจฉาประชาชนชาวเบตงแบบเบาๆ

 

18-son00901

19-son00899

 

ต่อด้วยวัดพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมเบตง เป็นสถานที่ตั้งศาลเจ้าอันเป็นที่ประดิษฐานของเทพสำคัญ ๆ หลายองค์ ทั้งเจ้าแม่กวนอิม ท่านแป๊ะกง ท่านกวงกง  มีสถาปัตยกรรมของเจดีย์ 7 ชั้น ที่สวยงาม บริเวณวัด ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของเมืองเบตงได้อีกด้วย

 

20-son00904

21-son00908

 

รถพาชมรอบเมืองผ่านศาลาประชาคม มาถึงจุดนี้ให้คนขับจอดรถสักครู่ เพราะอยากถ่ายภาพตู้ไปรษณีย์ใบใหม่ ที่มีขนาดใหญ่กว่าตู้ไปรษณีย์แดงบริเวณหอนาฬิกา  ถือเป็นตู้ไปรษณีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน

 

22-son00910

 

จากนั้นไปต่อที่ วัดพุทธาธิวาส วัดสวยที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเบตง โดยองค์เจดีย์ตั้งอยู่บนเนินเขา มีบรรยากาศร่มรื่นทัศนียภาพงดงาม มองเห็นภูเขาที่รายล้อมเมืองเบตงอยู่เบื้องหน้า วัดพุทธาธิวาส มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธศาสนิกชนนิยมมาสักการะบูชา 3 สิ่งคือ พระมหาธาตุเจดีย์ พระพุทธธรรมประกาศ พระพุทธธรรมกายมงคลปยุรเกศานนท์สุพพิธาน และวิหารหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

 

7-dew_3412

7-dew_3421

8-dew_3425

 

อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด นั่นคือ พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 น. – 16.30 น. นอกจากเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมสิ่งของโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้ในสมัยเก่า แล้ว บริเวณชั้น3 ยังเป็นหอคอยชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองเบตงทั้งเมืองได้แบบสวยงาม  ยิ่งช่วงไหนฝนตกก็จะมีหมอกเข้ามาเป็นองค์ประกอบด้วย แต่เสียดายเพราะมัวแต่เพลินกับการเที่ยวชมเมืองถ่ายภาพสตรีทอาร์ตมากไปหน่อย มาถึงสี่โมงครึ่งกว่าๆพิพิธภัณฑ์ปิดพอดีจึงไม่สามารถขึ้นไปชั้น 3 ได้ ชมวิวได้แค่จากลานระเบียงข้างล่าง แต่แค่นี้ก็สวยแล้วสำหรับเรา ติดกับพิพิภัณฑ์มีภาพมือสองมือที่ประกบกันเป็นรูปหัวใจให้ถ่ายภาพด้วย ต้องยอมรับว่าในเมืองเบตงมีจุดถ่ายภาพเก๋เยอะจริงๆ ตามเก็บภาพกันสนุกมาก

 

เบตง

 

 

เบตง

เบตง

 

มาเที่ยวเบตงมีเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ต้องนั่งรถเที่ยวชมเมือง ถ่ายภาพสตรีทอาร์ตที่กระจายอยู่รอบเมือง ถึงจะเรียกว่ามาถึงและเข้าถึงความเบตงแบบแท้จริง 

 

 

รีวิวท่องเที่ยวเบตงแบบ 3 วัน 2 คืน คลิ๊ก เที่ยวเบตง

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง