1 วัน ลพบุรี หาที่โล่งไปปิคนิค

ออกสตาร์ทการเดินทาง หาที่โล่งวิวสวยนั่งพักผ่อนคลาย ในแบบที่ไม่ต้องเจอผู้คนมาก ภาพของลพบุรีลอยเข้ามา ครั้งนี้ ไม่เน้นไปชมโบราณสถาน หรือเที่ยวคาเฟ่ในตัวเมือง เพราะไปบ่อยแล้ว แต่เปลี่ยนแผนออกมานอกเมืองเพื่อวิ่งเข้าหาธรรมชาติในอำเภอพัฒนานิคม ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งในลพบุรี ยังมีความเป็นชนบทที่เรียบง่ายอยู่มาก ที่นี่เป็นที่ตั้งของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ รวมถึงจุดท่องเที่ยวยอดฮิตของสายฮิป สายชอบแต่งภาพโทนเกาหลี แวะเวียนมาถ่ายรูปกันบ่อยครั้ง อย่างทางรถไฟลอยน้ำโคกสลุง และจุดชมวิวพนังกันน้ำโคกสลุง ให้เราได้ชมวิวสะพานแบบเก๋ๆ แถมเที่ยวได้ใน 1 วัน อีกด้วย

 

ทางรถไฟลอยน้ำโคกสลุง

ออกเดินทางประมาณ 6 โมงเช้ามายังจุดหมายที่กำลังฮอตแห่งลพบุรี ทางรถไฟลอยน้ำโคกสลุง และ จุดชมวิวทางรถไฟลอยน้ำโคกสลุง ตั้งอยู่ในตำบลโคกสลุง อำเภอพัฒนานิคม   เส้นทางรถไฟในบริเวณนี้วิ่งเลียบเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีทัศนียภาพที่กว้างใหญ่สวยงาม ช่วงเดือนมีนาคม-กันยายน น้ำในเขื่อนลดระดับ ทำให้น้ำแห้งขอดมองเห็นพื้นหญ้าสีเขียวสลับกับแอ่งน้ำ  กลายเป็นจุดชมวิวทางรถไฟที่สามารถขับรถเข้าไปถ่ายรูป หรือนั่งเล่นพักผ่อนปิคนิคชมวิวสะพานข้ามรถไฟ แถมยังมีฝูงควายหลายสิบตัว ที่ชาวบ้านปล่อยให้มาเดินหากินแทะเล็มหญ้าเล่นน้ำ เป็นภาพที่ทำให้รู้สึกว่าได้กลับมาสัมผัสกับธรรมชาติ และความเป็นวิถีแบบชาวบ้านดั้งเดิมที่หาชมได้ยาก

 

 

ตำบลโคกสลุงอยู่ติดกับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ทางทิศตะวันตก หลังจากสร้างเขื่อนแล้วสภาพพื้นที่อยู่ต่ำกว่าเขื่อน จึงต้องสร้างพนังกั้นน้ำเพื่อป้องกันหมู่บ้าน พนังกั้นน้ำดังกล่าวจึงกลายเป็นจุดท่องเที่ยวและจุดชมวิวทางรถไฟลอยน้ำและวิวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่สวยงาม

 

 

สำหรับการเดินทางมาที่นี่ให้พิมพ์เส้นทางใน google map ว่า จุดชมวิวทางรถไฟลอยน้ำโคกสลุง เมื่อใกล้ถึงจุดชมวิว มีถนนที่วิ่งไปยังทางรถไฟ เลียบไปกับถนนดินแดงข้างล่างมีช่องทางสำหรับรถลงไปยังถนนดิน จากนั้นขับรถผ่านถนนดินแดงจะเจอกับจุดชมวิวทางรถไฟ

 

 

สามารถขับรถได้รอบ หาพิกัดถ่ายรูป ตั้งจุดปิคนิคได้ตามใจชอบ หรือจะมากางเต้นท์นอนแต่ไม่มีห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆทั้งสิ้น และเนื่องจากที่นี่เป็นพื้นที่โล่ง แดดค่อนข้างแรงมาก ควรมาในช่วงที่แดดร่มสักหน่อย แต่ถ้ามีไฟล์ชีทมาบังแดดด้วยก็หายห่วง ที่สำคัญช่วยกันรักษาความสะอาดเก็บขยะกลับไปด้วย ได้จุดปิคนิคริมน้ำแล้ว มองเห็นวิวของสะพานที่อยู่ตรงหน้าพอดี อุปกรณ์ทุกอย่างเตรียมมาเองทั้งหมดครวมถึงข้าวกล่องสำหรับทานในมื้อเช้าด้วย โชคดีที่วันเดินทางไม่มีแดด มีลมพัดเย็นสบาย ได้นั่งกันแบบยาว แต่ถ้ามีแดดเมื่อไหร่อาจนั่งไม่ได้นานนัก

 

 

เป็นสถานที่ชิลสุดๆ นั่งดริปกาแฟ จัดพรอพถ่ายรูป มองวิวที่อยู่เบื้องหน้าได้ทั้งวันแบบไม่รู้สึกเบื่อ แถมพื้นที่โล่งมากค่อนข้างสงบไม่มีผู้คน

 

 

สัตว์ประจำถิ่น คือ ฝูงน้องควาย เดินแทะเล็มหญ้า บ้างก็เล่นน้ำคลายร้อน ต้องเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งภาพประจำของที่นี่ไปแล้ว ฝูงควายค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้คนนะคะ เขาก็อยู่ของเขา ส่วนเราก็อยู่ในที่ของเราไป

 

 

ระหว่างที่ชมวิวมีรถไฟวิ่งผ่าน อยู่ที่นี่เกือบทั้งวันเท่าที่เห็นมีรถไฟวิ่งผ่านแค่ 2 ขบวน คือ ช่วงเช้าประมาณ 9.30 -10.00 น. และช่วงบ่าย ประมาณบ่ายสามโมงครึ่ง หากใครอยากได้ภาพรถไฟวิ่งผ่านรางรถไฟ ลองมาในช่วงเวลานี้หรือเพื่อความชัวร์ลองเช็ค ตารางรถไฟที่แน่นอนกับสถานีรถไฟโคกสลุงก็ได้ค่ะ เพราะช่วงนี้สถานการณ์โควิด อาจมีรถวิ่งไฟผ่านน้อย

 

 

นั่งเล่นปิคนิคจนเกือบ 11 โมง เก็บของขับรถไปยังจุดอื่นในบริเวณเดียวกัน ใกล้ทางรถไฟมาอีกหน่อย หามุมถ่ายรูปต่อ ก่อนข้ามสะพานมีมุมแอ่งน้ำเล็กๆ ที่มีผืนหญ้ารายล้อม มองไปเห็นทางรถไฟอยู่เหนือน้ำแบบใกล้ๆ

 

 

ช่วงน้ำแห้งสามารถขับรถผ่านใต้สะพานไปได้เลย จะเห็นเรือของชาวบ้านจอดอยู่หลายลำ   มาจอดรถพักใต้สะพานตรงนี้ก็ได้ ใต้สะพานค่อนข้างร่มเลยทีเดียว

 

 

ชมวิวข้างล่างจนอิ่มใจแล้ว เดินขึ้นไปถ่ายรูปบนทางรถไฟกันต่อ ทางรถไฟโค้งสวยทอดยาว วิวเบื้องล่าง คือ จุดที่เราถ่ายรูปกันในตอนแรก จุดชมวิวทางรถไฟลอยน้ำโคกสลุง  เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินใกล้กรุง ที่มาแล้วค่อนข้างผ่อนคลาย อยู่ได้ตลอดทั้งวันได้ตั้งแต่เช้าจนจรดบ่าย ได้กลับไปอยู่กับธรรมชาติ ความเงียบสงบ แถมยังมีมุมถ่ายรูปเยอะมาก

 

 

ทะเลน้ำจืดมะนาวหวาน

จากโคกสลุงไปต่อยัง ทะเลน้ำจืดมะนาวหวาน สถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ริมเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตั้งอยู่ในอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ในช่วงเดือนมีค – กย ซึ่งเป็นช่วงที่นำ้ในเขื่อนลดระดับ สามารถมองเห็นผืนหญ้าสีเขียวเป็นลานกว้าง กลายเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม มองแล้วสบายตา แถมพื้นที่ค่อนข้างโล่งกว้างสูดอากาศได้แบบเต็มปอด นักท่องเที่ยวนิยมมาขับรถชมวิว รวมทั้งมาตั้งแคมป์ในช่วงแดดร่ม โดยเฉพาะในยามเย็นจะเห็นพระอาทิตย์ลาลับผืนน้ำ เป็นภาพที่สวยงามมาก

 

 

ที่นี่ห่างจากทางรถไฟลอยน้ำประมาณ  44 กิโลกว่า ใช้เวลาเดินทางมาเกือบ 40 นาที สามารถเดินทางมาในช่วงขากลับเข้ากรุงเทพได้ค่ะ ช่วงเวลาแนะนำคือ ช่วงบ่ายแก่ๆ ถึงเย็น เหมาะสำหรับมาขับรถชมวิวหรือนั่งพักผ่อนการเดินทางมาที่นี่ สามารถปักหมุดใน google maps “อ บ ต มะนาวหวาน ” ขับเลยมาแค่นิดเดียวจะเจอทางเข้าทะเลน้ำจืดมะนาวหวาน  หรือจะไปอีกจุดหนึ่งที่เหล่านักถ่ายภาพและแคมป์ปิ้งนิยมไป คือ “หน่วยพิทักษ์ป่าท่าฤทธิ์” ห่างจากทะเลน้ำจืดมะนาวหวาน 6.4 ก.ม. วิวจะคล้ายกัน ทั้งสองแห่งถึงแม้จะอยู่ในเขตอำเภอพัฒนานิคม แต่จะเป็นอีกฝั่งหนึ่งของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ไปทางจังหวัดสระบุรี

 

 

ยามน้ำลดมองเห็นทุ่งหญ้าสีเขียวกว้างไกลสุดตา มองไปเบื้องหน้าคือวิวของภูเขาและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ บริเวณที่เป็นสันดินก็จะเห็นเรือของหาปลาของชาวบ้านจอดอยู่

 

 

ช่วงห้าโมงครึ่ง คือ เวลาที่กำลังที่แดดเริ่มอ่อนลงเหมาะสำหรับมานั่งปิคนิครับแสงแดดได้วิตามิน D จากธรรมชาติไปเต็มๆ

 

 

เก็บภาพความทรงจำผ่านกล้องโพราลอยด์ไว้ ถ้ารอจนถึงประมาณหกโมงครึ่ง ก็จะได้เห็นภาพพระอาทิตย์ตกลาลับขอบฟ้าสะท้อนแสงกระทบกับผืนน้ำแบบงดงาม สำหรับที่นี่วิวดีและเงียบสงบมาก แค่ได้นั่งพัก จิบเครื่องดื่มเย็น เก็บภาพในช่วงเย็นก็สวยแล้วค่ะ

 

 

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน