นั่งเรือไฟฟ้า เที่ยวริมคลองแสนแสบ ชมงานอาร์ตใจกลางกรุงฯ

ชวนนั่งเรือเที่ยวริมคลองแสนแสบแบบต๊าซ ๆ ชมงานอาร์ต หลากสไตล์ ใจกลางกรุงฯ กับ นิว ชัยพล ที่จะมาชวนทุกคนทดลองใช้เรือไฟฟ้าล่องคลองแสนแสบส่วนต่อขยาย อีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวกรุงเทพฯ ด้วยการนั่งเรือเที่ยวชมทัศนียภาพและวิถีชีวิตริมคลองในเมืองกรุง แวะเที่ยวตามจุดต่างๆ การันตีว่าน่าเที่ยวตามรอยอย่างมาก และปัจจุบันน้ำในคลองแสนแสบสะอาดขึ้นกว่าเดิมมาก มาสร้างความทรงจำใหม่ของคลองแสนแสบ พร้อมนั่งเรือเที่ยวไปกับนิว ชัยพล ได้เลย

 

 

เริ่มตั้งแต่ท่าเรือวัดศรีบุญเรือง ถึงท่าเรือสำนักงานเขตมีนบุรี  เส้นทางเดินเรือระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 50-60 นาที  เรือให้บริการวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 05.30-20.30 น. ส่วนวันเสาร์-วันอาทิตย์และวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 06.00-19.00 น. โดยให้บริการฟรี 6 เดือน ตั้งแต่เดือนมี.ค.-ส.ค.65 หลังจากนั้นเก็บค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย 

 

 

ขณะนั่งเรือไฟฟ้า สิ่งแรกที่รู้สึกได้ คือ  เสียงเครื่องยนต์ที่เงียบและเบามาก  แถมคลื่นในคลองน้อย นั่งเรือแล้วรู้สึกมีความปลอดภัยมากขึ้น ที่สำคัญเรือลำนี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย  ระหว่างทางผ่านจุดแวะเที่ยวหลายจุด อย่างเช่น ตลาดน้ำขวัญเรียม

 

 

สำหรับใครที่อยากจะต่อเรือไปในกรุงเทพฯชั้นในก็ง่ายนิดเดียว แค่ไปต่อเรือที่ท่าเรือวัดศรีบุญเรืองไปต่อยังจุดหมายปลายทาง ที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย  มองไปที่น้ำในคลองแสนแสบ จะรู้สึกแปลกตาไปจากที่เคยเห็น เพราะปัจจุบันน้ำในคลองแสนแสบสะอาดมากขึ้น แถมภูมิทัศน์ริมคลองทั้ง 2 ฝั่งยังมีความสวยงาม มองแล้วสบายตามากขึ้น  

 

 

เราไปขึ้นเรือที่ท่าเรือสะพานหัวช้าง เดินข้ามมาอีกฝั่งเพื่อไปยัง “สวนเฉลิมหล้า” เขตราชเทวี ศูนย์รวมงานศิลปะแนวกราฟฟิตี้จากศิลปินอิสระทั่วประเทศที่มาสร้างสรรค์ผลงานไว้บนผนังตึกเก่า จนกลายเป็นจุดเช็กอินสุดชิคของคนเมือง ที่น่าแวะมาถ่ายรูปมาก

 

 

สวนเฉลิมหล้า เน้นแนวการวาดรูปบนกำแพงแบบกราฟฟิตี้ สีสันสวยงาม  มีหลายภาพ หลายมุม ใครชอบถ่ายรูปรับรองถูกใจ มายืนถ่ายรูปอาร์ต แอ๊คท่าให้สวยเท่กันไปเลย 

 

 

จากนั้นเดินเล่นเลียบริมคลองแสนแสบ  บริเวณนี้บนกำแพงทั้ง 2 ฝั่งคลอง ยังมีภาพสตรีทอาร์ตให้เดินดูกันเพลินๆ อยากหยุดแวะถ่ายภาพ ชมวิวตรงจุดไหน จัดไปตามใจชอบ

 

 

เดินมาเรื่อย ๆ สามารถแวะเที่ยว พิพิธภัณฑ์บ้านไทยจิมทอมป์สัน แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง เสน่ห์ของพิพิธภัณฑ์บ้านจิมทอมป์สัน คือ หมู่เรือนไทยซึ่งปลูกด้วยเรือนไม้สักเก่า 6 หลัง บนเนื้อที่ 1 ไร่ จัดแสดงศิลปวัตถุของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะพระพุทธรูปยุคสมัยต่าง ๆ ไว้เป็นจำนวนมาก บ้านหลังนี้เคยเป็นที่พักอาศัยของ เจมส์ เอช. ดับเบิลยู. ทอมป์สัน  ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมผ้าไหมไทยให้โด่งดังไปยังต่างแดน ภายใต้แบรนด์ “จิม ทอมป์สัน ” จนได้รับฉายาว่า “ราชาผ้าไหมไทย”

 

 

ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์จิมทอมป์สัน สามารถเดินลัดเลาะคลองแสนแสบ มาที่ ชุมชนบ้านครัว ชุมชนชาวไทยมุสลิม หนึ่งเดียวใจกลางมหานคร ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการทอผ้าและผลิตภัณฑ์ผ้าไหมทอมือ ภายใต้แบรนด์ “ผ้าไหมบ้านครัว”  ที่สำคัญเป็นสินค้าขายดีของ Bangkok Brand อีกด้วย

 

 

คุณลุงอู๊ด หรือ นิพนธ์ มนูทัศน์ ชาวบ้านในชุมชนแห่งนี้ เล่าประวัติความเป็นมาให้ฟังว่า ชาวบ้านที่นี่เป็นแขกจาม การทอผ้าของชาวบ้านเดิมทอไว้ใช้สอยในครัวเรือน ชื่อเสียงของผ้าไหมที่นี่เริ่มโด่งดังเมื่อ จิม ทอมป์สัน แวะมาชมและประทับใจกับผ้าไหมของชาวบ้านที่มีความงดงามและมีเอกลักษณ์ทอมือแบบดั้งเดิม จึงซื้อผ้าไหมนำกลับไปอเมริกา ก่อนกลับมาส่งเสริมให้ชาวบ้านทอผ้าไหมขายในรูปแบบต่าง ๆ ภายใต้ชื่อ “จิม ทอมป์สัน” จึงกลายเป็นจุดเริ่มที่นำผ้าไหมยุคนั้นออกสู่ตลาดโลก 

 

 

 ถึงแม้ทุกวันนี้ผ้าไหมบ้านครัวอาจไม่ได้รุ่งเรืองเหมือนสมัยก่อน แต่คุณลุงพยายามอนุรักษ์ไว้ เพราะเป็นวัฒนธรรมเป็นอาชีพเก่าแก่ของบรรพบุรุษ ปัจจุบันยังเหลือเฉพาะแค่บ้านลุงอู๊ดที่ยังทอผ้าอยู่ ทอส่งตามร้านและไปแสดงตามงานต่าง ๆ รวมทั้งมีหน่วยงานราชการมาสั่งทอ  เพื่อนำไปมอบเป็นของที่ระลึกให้กับแขกสำคัญด้วย

 

 

จุดเด่นของผ้าไหมบ้านครัว คือ เนื้อผ้าแน่น เงางาม สีสันสวยสด เมื่อนำมาใช้สวมใส่มีความสง่า ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ของผ้าไหม และยังมีคุณสมบัติปกป้องผิวพรรณอีกด้วย

 

 

หากใครอยากจะซื้อผ้าไหมของบ้านครัว สามารถแวะมาซื้อที่บ้านของคุณลุงนิพนธ์ได้เลย แวะมาแล้วยังสามารถชมการทอผ้าด้วยไหมแบบดั้งเดิมที่หาชมได้ยากในเมืองกรุงแห่งนี้

 

 

ปิดท้ายการเดินทางที่คลองสายสำคัญอีกสายหนึ่งของกรุงเทพฯ คลองผดุงกรุงเกษม ที่เปิดให้บริการเรือไฟฟ้าเช่นกัน เป็นทั้งเส้นทางสัญจร แหล่งท่องเที่ยว และพื้นที่สีเขียวริมคลองที่เชื่อมคน เชื่อมย่าน และเชื่อมคลองเข้าหากัน

 

 

โดยกรุงเทพมหานคร ได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองให้สวยงามร่มรื่น น้ำในคลองใสสะอาด สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและแนวทางการอนุรักษ์  ทำให้คลองสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย อาทิ เป็นเส้นทางสัญจร สถานที่พักผ่อน สถานที่ออกกำลังกาย สถานที่ท่องเที่ยว หรือจะมาถ่ายภาพชิลเก็บมุมสวยในเมืองกรุงก็ย่อมได้

 

 

ในอนาคตพื้นที่บริเวณนี้ จะเกิดกิจกรรมมากมายเช่นเดียวกับหลายคลองในกรุงเทพฯ ที่จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง เพื่อพลิกฟื้นคลองให้อยู่คู่กับคนเมือง รวมไปถึงพัฒนาและสานต่อคุณภาพชีวิตที่ดีและความสุขของชาวกรุงเทพฯ  สำหรับใครที่อยากติดตามข่าวสารดี ๆ รวมไปถึงที่เที่ยวใหม่ของกรุงเทพมหานคร ติดตามได้ผ่านช่องทางออนไลน์ตามภาพได้

ช่องทางติดต่อ

Facebook / Twitter : กรุงเทพมหานครโดยสำนักงานประชาสัมพันธ์

Youtube / Tiktok / Instagram : PRbangkok

www.prbangkok.com

#กรุงเทพมหานคร #กรุงเทพมหานครโดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ #BANGKOK #PRBANGKOK #มหานครเศรษฐกิจและการเรียนรู้

 

 

ชมคลิปวีดีโอ

 

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง