เที่ยวดอยอินทนนท์ 2 วัน 1 คืน ตามกระแสดอกไม้สีชมพู

เข้าสู่ช่วงเดือนมกราคมของทุกปี ดอยอินททนท์ จะคึกคักเป็นพิเศษด้วยนักท่องเที่ยว เพราะเป็นช่วงฤดูแห่งดอกนางพญาเสือโคร่งเริ่มเบ่งบานสะพรั่ง จุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งบนดอยยอดฮิต คงไม่พ้นขุนวาง ศูนย์อนุรักษณ์พันธุ์กล้วยไม้ร้องเท้านารี  นอกจากนี้ตลอดเส้นทางเที่ยวในดอยอินททนท์ในช่วงบ้านม้งขุนกลางไปจนถึงขุนวาง รวมถึงเส้นทางไปยังตลาดม้ง ยังมีดอกนางพญาเสือโคร่งที่บานตลอดทั้งสองฝั่งถนนให้ชมอีกด้วย เรียกได้ว่าหันไปทางนั้นก็แน่นด้วยสีชมพู 2  วัน 1 คืนรีบไปตะลุยตามล่าเสือก่อนโรย แถมแวะยังจุดต่างๆที่น่าสนใจบนดอยอินทนนท์ด้วยกัน

 

 

วันแรก

ทริปนี้มาเคลมไว ใช้เวลาแค่ 2 วัน 1 คืน ไม่ได้จองอะไรไว้ยาวนาน รอแค่ข่าวว่าดอกไม้บานแล้ว ก็รีบจองตั๋วเครื่องบินมาลงสนามบินเชียงใหม่ จากนั้นเช่ารถจากสนามบินไปยังดอยอินททนท์ต่อ ขับรถขึ้นดอยอินทนนท์แบบสบาย สำหรับมือใหม่หัดขึ้นดอยถือว่าไม่ยากมากถ้าจะขับรถมาเอง เพราะถนนบนดอยอินทนนท์ค่อนข้างกว้าง ถึงแม้จะโค้งเยอะแต่มีระยะห่างให้ทิ้งโค้งได้อยู่ ไม่ได้แคบและหักศอกมากเหมือนการขึ้นดอยอื่นที่ว่าชัน  จะชันมากตรงจุดขึ้นไปยังพระธาตุและจุดชมวิวสูงสุด ก็ต้องขับด้วยความระมัดระวังกันหน่อย

14.00 น. บ้านม้งขุนกลาง

คืนนีเราพักดอยอินทนนท์ 1 คืน แถวบ้านม้งขุนกลาง ระหว่างทางไปที่พัก บริเวณโรงเรียนบ้านขุนกลาง ก็จะได้พบกับภาพของดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งตลอดริมถนน มีนักท่องเที่ยวจอดรถลงถ่ายรูปตลอด ยังไม่ต้องไปถึงจุดไฮไลท์ก็ฟินแล้ว โรงเรียนบ้านขุนหลางบานทุกปี สามารถเก็บภาพได้ แต่ต้องถ่ายภาพด้วยความระมัดระวังกันหน่อย เพราะมีรถวิ่งไปมาตลอด

 

14.30 น . The garden tent & house

บริเวณบ้านม้งขุนกลาง ซึ่งตั้งอยู่ในเส้นทางที่จะไปขุนวาง ใกล้สถานีเกษตรหลวงอินนนนท์ มีที่พักมากมายให้เลือก ทั้งแบบบ้านและแบบกระโจมเต้นท์ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเต้นท์ รวมถึงร้านอาหาร ร้านกาแฟ หลายร้านก็ตั้งอยู่ในโซนนี้ เรียกได้ว่าเป็นโซนที่ค่อนข้างคึกคักพอสมควร เราเลือกพักที่ The garden tent & house ซึ่งเป็นที่พักที่มีทั้งแบบบ้านและกระโจมเต้นท์ พื้นที่ภายในที่พักกว้างมาก มีสวนดอกไม้สนามหญ้าไว้เดินเล่น นั่งพักผ่อน  ด้านหลังมีวิวของดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพู เราพักแบบบูติคเต้นท์ ราคาหลังละ 2100 บาท  พื้นที่กว้างประดุจบ้านหนึ่งหลัง ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งเตียงนอนที่นอนนุ่มมาก แอร์ ทีวี ตู้เย็น ปลั๊กไปมีเยอะมาก มีห้องน้ำส่วนตัวในที่พักที่แยกส่วนระหว่างห้องอาบน้ำ และห้องสุขา คือดีมาก เต้นท์กระโจมมีทั้งหมดสี่หลัง ซึ่งตั้งอยู่ห่างกัน ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูงมาก จะไม่ใช่เป็นเต้นท์ติดกันกระโจมเต้นท์ทั่วไป ที่บางครั้งจะมีเพื่อนใกล้เคียงส่งเสียงดัง  คุยกันทั้งคืน สำหรับคนที่ต้องการมาพักผ่อนแบบส่วนตัว เงียบสงบที่นี่เหมาะมาก

 

 

วันที่สอง

 

07.30 น. นางพญาเสือโคร่งขุนวาง

เราตื่นแต่เช้ารีบออกจากที่พัก เพื่อไปให้ถึงขุนวางตอนเจ็ดโมงครึ่ง จากที่พักใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง มาถึงตอนเช้านักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมาก แถมได้แสงแดดอ่อนเบา  เมื่อมาถึงภายในพื้นที่ของขุนวาง สำหรับใครที่นำรถส่วนตัวมาให้จอดไว้ในบริเวณด้านนอก หากพิ้นภายในศูนย์ฯสามารถจอดรถไว้ยังลานจอดบริเวณก่อนถึงทางเข้าศูนย์ได้ จากนั้นเดินเข้าไปยังซุ้มอุโมงค์นางพญาเสือโคร่งอีกประมาณ 300 เมตร

 

ก่อนถึงจุดชมนางพญาเสือโคร่งสีชมพู มีดอกนางพญาเสือโคร่งสีขาวให้ได้ชมประมาณ 2 ต้น กำลังออกสะพรั่ง ปกติเคยเห็นแต่สีชมพู เพิ่งเคยเห็นสีขาวครั้งแรกมีความละมุนตา

 

จุดไฮไลท์ของการชมดอกนางพญาเสือโคร่งขุนวาง ที่ขึ้นเรียงรายเป็นทิวทัศน์ทอดยาวกลายเป็นซุ้มนางพญาเสือโคร่งที่สวยงาม โดยจะแบ่งเป็นสองฝั่ง ฝั่งนี้จะเป็นด้านขวา คนจะไม่เยอะมาก มาช่วงเช้าประมาณเจ็ดโมงกว่า ได้แสงแดดอ่อนๆส่องกระทบผ่านลำต้นมายังเส้นถนน

 

 

ศาลานั่งพักผ่อนสำหรับชมวิวธรรมชาติ มองจากมุมด้านล่างมายังศาลา สะพรั่งไปด้วยสีชมพูของต้นนางพญาเสือโคร่ง

 

 

ชมนางพญาเสือโคร่งแล้ว ก็มาจิบเครื่องดื่มและทานอาหาร ยังร้านอาหารของศูนย์ได้ ตั้งอยู่บริเณด้านหน้าทางเดิน มีลานสนามญ้ากว้าง ที่มีแปลงพืชผัก ดอกไม้เมืองหนาว ให้ได้ถ่ายภาพ  หากพูดถึงจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งในเชียงใหม่แล้ว ชื่อของ ขุนวาง ยังคงเป็นอันดับต้นที่นักท่องเที่ยวยังคงคิดถึงเสมอ ภายชุดนี้เป็นภาพอัพเดทของปีนี้ ถ่ายวันที่ 5 มค 63 ซึ่งใบเริ่มจะมาแล้ว ปีนี้ต้องยอมรับว่าดอกไม้บานเร็วมากแบบไม่ทันตั้งตัว และแตกใบเร็วมากเช่นกัน คาดว่าน่าจะอยู่ได้ให้พอถ่ายภาพ นับจากวันนี้ไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ ใบก็จะเยอะแล้วค่ะ

 

 

08.30 น. แม่จอนหลวง

แม่จอนหลวง ตั้งอยู่เส้นทางเดียวกับขุนวางตั้งอยู่ห่างกันประมาณ 7 กิโลเมตร ความพิเศษของแม่จอนหลวง คือ การได้พักผ่อนยังบ้านพักที่สามารถมองเห็นทิวเขา และธรรมชาติเขียวขจี ในบรรยากาศที่เงียบสงบ หากมาในช่วงเดือนมกราคมซึ่งเป็นช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบาน จะได้เห็นภาพสีชมพูสะพรั่งปกคลุมทั่วที่พัก เป็นภาพที่โรแมนติกและงดงาม ท่ามกลางบรรยากาศในหุบเขาที่มีอากาศหนาวเย็น ตั้งใจอยากมาอัพเดพภาพใหม่หลังจากที่ไม่ได้มานานมาก ว่ามีความเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน

 

 

ภายในพื้นที่แม่จอนหลวง มีความเงียบสงบ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ และแปลงไม้ดอกเมืองหนาว ทั้ง เยอบีร่า ผีเสื้อ สะแตติส พิทูเนีย และจัดมุมต่างๆไว้สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน มีจุดชมวิวแม่จอนหลวง ซึ่งในบางวันในช่วงเช้ามีทะเลหมอกบางๆให้ได้ชมด้วย

 

 

ความพิเศษของแม่จอนหลวง คือ บ้านพักที่เกือบทุกหลัง มีร่มเงาของต้นนางพญาเสือโคร่งสีชมพูแบบแนบชิดหลังคาบ้าน แถมมีระเบียงชมวิวทุกหลังให้ได้ชมวิวภูเขา และนางพญาเสือโคร่งได้อีกด้วย บ้านพักแบ่งเป็น 2 โซน โซนนี้เป็นบ้าน ชื่อ ทะเลหมอก จะเป็นบ้านเป็นสีและหลังไม่ใหญ่มาก วิวเบื้องหน้าคือ กว้างไกล และสามารถมองเห็นสายหมอกบางในบางวันได้

 

 

ส่วนโซนนี้ คือ บ้านแบบเอเฟรม มีประมาณ 3 หลัง ชื่อบ้านเคียงเดือน เคียงดาว บ้านต่อเติม และเติมเต็ท  โลเคชั่นต้องเดินลงเขาไปนิดหน่อย แต่มีการทำบันไดไว้ให้เดินได้สะดวก อาจไม่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุเท่าไหร่ แต่บรรยากาศฟินมาก คือ ช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบาน ก็จะถูกสีชมพูปกคลุมแบบนี้ ช่วงเวลาเย็น คือ แสงสวยมาก

 

 

หากกำลังมองหาสถานที่พักผ่อน แบบเงียบสงบ หลีกหนีความวุ่นวาย แม่จอนหลวง คือ เหมาะมากยิ่งมาในช่วงดอกนางพญาเสือโคร่งบานคือดีสุดๆ พักที่นี่แล้ว สามารถชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ขุนวางต่อได้เลย เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลกันมาก

ที่พักแม่จอนหลวง

ที่พักแบบเป็นหลัง พร้อมทีวีและเครื่องทำน้ำอุ่น มีร้านอาหารให้บริการ มีที่แบบเต้นท์ และจุดกางเต็นท์สำหรับผ้ที่นำเต้นท์มาเอง  ราคาบ้านพักและอาหารตามภาพ  เบอร์โทรติดต่อ จองบ้านพักสอบถามข้อมูลที่แม่จอนหลวงโดยตรง โทร 053 315 256-7  หรือสามารถจองที่พักโดยใช้เบอร์เดียวกับ ศูนยิวิจัยเกษตรหลวงขุนวาง โทร 053 114 133 -6

 

10.00 น. บ้านพักโปโป&ปิงปิง

 

ยกบรรยากาศแบบญี่ปุ่นมาไว้ที่ขุนวาง ไปถ่ายรูปเช็คอินกับมุมเก๋ๆ ตามรอยซีรีย์ดัง รักฉุดใจนายฉุกเฉิน ที่ บ้านพักโปโป & ปิงปิง โฮมสเตย์เล็กๆแสนอบอุ่น ที่นี่นอกจากเปิดเป็นบ้านพักแล้ว ยังมีร้านกาแฟ ร้านอาหาร ให้บริการนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมา ถึงแม้ไม่ได้เข้าพักก็มาถ่ายภาพจิบเครื่องดื่มทานอาหารได้

 

 

บ้านพักโปโป&ปิงปิง ตั้งอยู่ริมถนนภายในหมู่บ้านขุนวาง ก่อนถึงจุดชมนางพญาเสือโคร่งขุนวาง ห่างกันประมาณ 2 กม. หลังจากชมนางพญาเสือโคร่งแล้วก็แวะมาเที่ยวได้ โดยในส่วนของร้านกาแฟ ร้านอาหารจะเปิดให้แขกที่ไม่ได้เข้าพัก เข้ามาถ่ายภาพกันได้ในเวลา 10.00 น. เป็นต้นไป เพื่อความเป็นส่วนตัวของแขกที่เข้าพักค่ะ มาถึงด้านหน้าก็จอดรถไว้ในบริเวณหน้าร้านหรือใกล้เคียงได้ ภายในหน้าร้านไม่ใหญ่มากนัก แต่ตกแต่งได้น่ารักมาก จำลองบรรยากาศของญี่ปุ่นมาเลยทีเดียว บางมุมประดับด้วยดอกไม้เหมือนหนาวสีสันสดใส

 

 

ภายในร้านมีที่นั่งสำหรับจิบเครื่องดื่มมีหลายโซนสามารถเลือกนั่งได้ตามใจชอบ เครื่องดื่มมีทั้งร้อนเย็น รสชาติเครื่องดื่มถือว่าโอเคค่ะ ของตกแต่งภายในร้านญี่ปุ่นมาเอง ทั้งโคมแขวน ภาพแขวนญี่ปุ่น ธงปลาคาร์ฟ ต้นซากุระจำลอง ผสมกลมกลืนไปกับธรรมชาติแบบเดิมของที่พัก ออกแนวคาวาอิมากเตรียมชุดและพรอบให้พร้อมไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่น

 

 

มุมที่นั่งทานอาหาร สำหรับอาหารของที่นี่เน้นเป็นเมนูอาหารง่ายๆ มีไม่กี่เมนู เช่น  ผัดกระเพรา ไข่เจียว ต้มจืดเต้าหู้ ผัดผัก ผัดกะหล่ำปลีน้ำปลา อาหารอร่อยโดยเฉพาะกระหล่ำปลีน้ำปลา อร่อยมาก มีความสดกรอบรสชิกลมกล่อมกำลังดี  ส่วนมื้อเย็นก็มีบริการหมูกระทะกับผักสดแต่ต้องโทรมาจองโต๊ะล่วงหน้า1วัน

 

 

ในส่วนของห้องพักมีทั้งหมด 6 ห้อง พักได้มากสุดห้องละ 4 คน เป็นห้องส่วนตัว มีพัดลม ห้องน้ำ พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น ราคาที่พัก คิดคนละ 400 บาท / คืน รวมอาหารเช้า แต่ในช่วงเดือนมีนา-มิถุนายนจะเป็นช่วงที่ปิดบ้านพัก เริ่มเปิดให้บริการในช่วงเดือนกรกฎาคม

บ้านพักโปโป&ปิงปิง โฮมสเตย์ขุนวาง

ตำบล แม่วิน อำเภอ แม่วาง เชียงใหม่ 50360
โทร 087 578 4946 เฟสบุค คลิ๊ก  บ้านพักโปโป&ปิงปิง

 

12.00 น. พระตำหนักดอยผาตั้ง

พระตำหนักดอยผาตั้ง ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ที่8(ดอยผาตั้ง) อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อีกสถานที่ท่องเที่ยวชมพญาเสือโคร่งบานบนดอยอินทนนท์ ที่อยากเชิญชวนให้ไปเที่ยวชม  ที่นี่มีต้นพญาเสือโคร่งที่จะบานสะพรั่งทั่วสนามหญ้าสีเขียวแสนกว้าง สามารถนั่งเล่นหรือเดินชมดอกพญาเสือโคร่งริมสนามหญ้า และเส้นถนนภายในพระตำหนัก ฯ และเนื่องจากตั้งอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขาที่อยู่รายล้อมได้อีกด้วย

 

 

พระตำหนักดอยผาตั้ง ตั้งอยู่ถัดจากแยกบ้านขุนกลาง (ทางไปขุนวาง) เพียงเล็กน้อย สามารถขับรถส่วนตัวขึ้นไปได้ หากผ่านตลาดม้งอินนทนนท์ ก็เตรียมชิดซ้ายแยกขึ้นไปตามถนนเส้นเล็กๆ สู่พระตำหนักดอยผาตั้งเส้นทางขึ้นไปยังดอยผาตั้งจะค่อนข้างแคบและชัน ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง รถทุกชนิดสามารถขึ้นไปถึงได้ ถนนเป็นถนนราดยางไปจนถึงพระตำหนัก เมื่อมาถึงสามารถจอดรถได้บริเวณลานจอดรถ จากนั้นเดินลงไปยังพื้นสนามหญ้าซึ่งสะพรั่งไปด้วยสีชมพูของดอกนางพญาเสือโคร่งได้ เรียกได้ว่าเป็นจุดชมพญาเสือโคร่งที่จอดรถปุ๊บก็เดินลงไปชมได้เลย

 

 

พื้นที่สนามหญ้ากว้างมากจะนั่งเล่นพักผ่อนภายใต้ร่มเงาของต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือจะเดินถ่ายภาพยังมุมต่างๆ จากลานสนามหญ้ามองเห็นเรือนประทับแรมดอยผาตั้งหรือที่นักท่องเที่ยวเรียกกันติดปากว่าพระตำหนักดอยผาตั้ง ซึ่งเป็นเรือนรับรองพิเศษของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ พระบรมราชินีนาถ(ในรัชกาลที่9) ที่มีดอกพญาเสือโคร่งสีชมพูปกคลุมสวยงามมาก

 

 

ต้นนางพญาเสือโคร่งที่นี่ปลูกอย่างเป็นระเบียบ รอบสนามหญ้า ผืนหญ้าสีเขียวผสมผสานกันระหว่างสีชมพูของดอกไม้และท้องฟ้าสีฟ้าได้อย่างลงตัว แถมนักท่องเที่ยวไม่เยอะมากเหมือนกับขุนวางหรือขุนช่างเคี่ยน มีความสงบและเป็นธรรมชาติ ตอนนี้เริ่มมีใบแซมขึ้นมาแล้ว แต่ยังสวยอยู่

 

 

นอกจากต้นพญาเสือโคร่งที่ปลูกริมสนามหญ้าแล้ว ยังมีที่ปลูกริมถนนภายในพระตำหนักด้วย พระตำหนักดอยผาตั้ง เป็นอีกหนึ่งจุดดอกนางพญาเสือโคร่งในบรรยากาศที่เย็นสบาย มองเห็นวิวทิวเขา และธรรมชาติที่ยังสวยงามที่อยู่รายล้อม คาดว่าในปีนี่ 2563 ยังคงชมได้แบบสวยงามอีกหนึ่งอาทิตย์ หลังจากนั้นคงมีใบแซมเยอะแล้ว ภาพชุดนี้ถ่ายในวันที่ 6 ม ค 63 ค่ะ

 

 

13.30 น. ตลาดม้งบ้านขุนกลาง

ก่อนกลับพลาดไม่ได้ต้องมาแวะซื้อของฝาก พืชผักผลไม้เมืองหนาว ที่ตลาดม้งดอยอินทนนทื ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านขุนกลาง ผลไม้ไฮไลท์ในช่วงหน้าหนาว คงไม่พ้นสตรอเบอรี่ ที่มีมากมาย ในราคาไม่แพง แถมสด อร่อย นอกจากนี้ยังผักเมืองหนาว อย่างเช่น ซูกูนี่ มะเขือเทศ แครอท ยอดฟักแม้ว คะน้าดอย ขายกันราคาถูก 20 บาท เท่านั้น ขนซื้อขึ้นรถไปอย่างเยอะ

 

 

ปิดทริปเที่ยวดอยอินนทนนท์แบบเร่งด่วน ตามล่าเสือที่ปีนี้บานเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว เรียกได้ว่าเก็บภาพดอกไม่สีชมพูจนอิ่มไปเลย

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง