เนินมะปราง เป็นอำเภอหนึ่งที่ตั้งอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 68 กิโลเมตร เดิมเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ตั้งมาประมาณ 42 ปี ลักษณะภูมิประเทศประมาณร้อยละ 45 เป็นภูเขาหินปูนอายุกว่า 300 ล้านปี มีถ้ำอยู่มากมาย แบ่งจุดท่องเที่ยวออกเป็น 2 จุดใหญ่ ๆ คือ บ้านมุงซึ่งตั้งอยู่ในตัวอำเภอ มีแหล่งท่องเที่ยว อย่างเช่น ภูเขาหินปูนสัญลักษณ์ของเนินมะปราง ถ้ำค้างค้าว ถ้ำผาท่าพล มีโฮมสเตย์ให้เลือกพักหลายแห่ง และอีกหนึ่งจุด คือ บ้านรักไทย ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านสวนชมวิวที่มีชิงช้าบนต้นไม้ มีบ้านพักแบบโฮมสเตย์หลายแห่งเช่นกัน ซึ่งทั้งสองแห่งจะอยู่ห่างกันประมาณเกือบ 41 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง และมักนิยมเที่ยวเชื่อมโยงกัน โดยจะเลือกพักที่บ้านมุงในตัวอำเภอแล้วมาเที่ยวบ้านรักไทยต่อ หรือจะพักที่บ้านรักไทยแล้วไปเที่ยวบ้านมุงก็ได้ สำหรับการเดินทางหากมาจากกรุงเทพด้วยรถส่วนตัว เส้นทางที่ใกล้ที่สุด คือ ใช้เส้นทางนครสวรรค์ – พิจิตร แต่หากมาจากทางเพชรบูรณ์พิษณุโลกก็ให้มาทางเส้นนครไทย วังทอง จากภาพภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตากลางทุ่งนาสีเขียว ภาพชิงช้าบนต้นไม้ที่มองเห็นวิวภูเขา ทำให้เราอยากไปทำความรู้จักกับอำเภอเล็กๆ ที่ชื่อว่า เนินมะปราง พิษณุโลก
ทริปนี้ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน โดย เลือกไปพักที่บ้านรักไทย หากเอ่ยถึงชื่อนี้ ในพิษณุโลกอาจจะไม่คุ้นเคยกันเท่าไหร่นัก เพราะปกติจะคุ้นกันแต่ชื่อ บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน บ้านรักไทย เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ ตั้งอยู่ใน ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง เป็นหมู่บ้านอันเงียบสงบที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาและธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ มีโฮมสเตย์ให้เลือกพักสัมผัสกับธรรมชาติหลายแห่ง ที่ได้รับความนิยม คือ บ้านสวนชมวิว บ้านพักที่มีชิงช้าบนต้นไม้ให้แกว่งเล่นมองวิวทิวเขา ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ในการท่องเที่ยวเนินมะปราง แต่การเดินทางมาที่เนินมะปรางของเราในครั้งนี้ เกิดไปสะดุดตาและชอบบรรยากาศของที่พักแห่งหนึ่ง ชื่อว่า สวนพงษ์แตง โฮมสเตย์ พิกัดที่ตั้งจะอยู่ท้ายสุดของบ้านรักไทย ไม่ไกลจากบ้านสวนชมวิวมากนัก เป็นโฮมสเตย์ที่เงียบสงบ บรรยากาศดีมาก รายล้อมด้วยสวนต้นไม้ จุดเด่นของที่นี่ คือ มีระเบียงชมวิวที่ สามารถมองเห็นวิวได้แบบพาโนรามา เบื้องหน้าคือภาพทิวเขาเรียงรายสลับซับซ้อนไกลสุดตา ในยามเย็นพระอาทิตย์ตกลับเหลี่ยมเขาหน้าบ้าน หากเที่ยวในฤดูฝนมีโอกาสที่จะได้เห็นทะเลหมอกด้วยค่ะ
บ้านพักที่เราเลือกพัก คือ บ้านต้นไม้ ซึ่งมีอยู่เพียงหลังเดียว ใกล้ชิดภูเขาและเห็นวิวได้ชัดเจนที่สุด ราคาหลังละ 900 บาท พักได้ 2 ท่าน เป็นบ้านพักแบบพัดลมไม่ต้องอาศัยแอร์ค่ะ เพราะอากาศถือว่าเย็นสบายมาก มีลมพัดเข้ามาตลอด เพราตรงจุดนี้คุณลุงเจ้าของที่พักบอกว่าเป็นช่องลม ภายในห้องมีทีวี กาน้ำร้อนพร้อมกาแฟ โอวัลติน ให้ชงทานในยามเช้า
มีระเบียงส่วนตัวรอบด้าน พร้อมเก้าอี้ให้นั่งชมวิว มองภูเขา
เก๋ไก๋ ที่สุด คือ ห้องน้ำแบบ sea view มีอ่างล้างหน้า ฝักบัวอาบน้ำและชักโครก ตั้งอยู่หน้าบ้าน แต่ไม่ต้องห่วงว่าใครจะเห็นเพราะมีม่านส่วนตัวให้เลื่อนบังไว้ แต่ถ้าใครอยากอาบน้ำหรือปล่อยทุกข์ ชมวิวภูเขารับลมเย็น แบบธรรมชาติก็เปิดไว้เฉพาะด้านหน้าก็ได้ค่ะ คุณลุงเจ้าของบอกว่าไม่ต้องห่วงว่าใครจะเห็นเพราะข้างหน้ามีแต่ภูเขา
แต่ถ้าใครรู้สึกหวิวๆ ไม่สะดวกที่จะอาบน้ำแบบโอเพ่น ไม่ไกลจากบ้านมีห้องอาบน้ำรวมให้บริการสะอาดมากค่ะ ซึ่งเป็นห้องน้ำไว้บริการสำหรับแขกที่มากางเต็นท์
ในยามเย็น สวนพงษ์แตง ถือว่าเป็นจุดที่วิวของพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมาก บ่ายแก่ๆ จะเริ่มสาดแสงอุ่นมายังพื้นที่ของบ้าน กระทบกับพื้นหญ้าและดอกหญ้าพลิ้วไหว ภายในสนามมีการจัดมุมไว้สำหรับนั่งเล่นหลายจุด ทั้งชิงช้า เก้าอี้
อ่างล้างหน้าในสนามท่ามกลางดอกหญ้า สำหรับคนที่มากางเต้นท์ค่ะ
ดอกหญ้าพริ้วไหวในยามเย็น
บ้านพักอีกหนึ่งหลัง ซึ่งข้างบน คือ ระเบียงชมวิว ที่สามารมองเห็นวิวได้แบบพาโนรามา
เราเดินขึ้นไปยังระเบียงชมวิวของบ้านหลังนี้ เฝ้ารอพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า
แสงสีของพระอาทิตย์ยามเย็น ค่อยๆเปลี่ยนและลาลับขอบฟ้าไปในที่สุด นั่งมองวิวเบื้องหน้าด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากนั้นคุณลุงเจ้าของก็จัดเตรียมอาหารเย็นให้เราทาน เป็นเมนูงายๆ ไข่เจียว พัดกระเพรา ต้มยำไก่บ้าน สำหรับมื้อเย็นและมื้อเช้าจะไม่รวมอยู่ในราคาที่พัก มื้อเย็นกับคิดราคาคนละ 100 บาท
หนึ่งความประทับใจในยามเย็นกับบ้านพักของเรา
ตื่นแต่เช้าประมาณ 6 โมง เดินทางไปชมบรรยากาศของพระอาทิตย์ ที่ บ้านสวนชมวิว หากไมได้เป็นแขกที่พักอยู่ที่นี่จะเปิดให้เข้าชมได้ในเวลา 6 โมงค่ะ เรามาถ่ายภาพมุมไฮไลท์ของเนินมะปรางอีกจุดหนึ่ง นั่นคือ ชิงช้าบนต้นไม้
เป็นการนั่งชิงช้าที่แอบหวิวนิดหน่อย แต่ก็สนุกดีค่ะ
บ้านพักของบ้านสวนชมวิว ดีไซน์จะทันสมัยซักนิดนึง ราคาหลังละ 1500 บาท บ้านหลังใหญ่ๆ คือ จุดกางเต็นท์
กลับมายังบ้านพักรับประทานอาหารเช้า จากนั้นเก็บสัมภาระไปต่อ เข้าไปยังบ้านมุง ตัวอำเภอเนินมะปราง ใช้เวลาเดินทางจากที่พักประมาณ 1 ชั่วโมง การเดินทางแนะนำว่าตั้งจาก google map พิมพ์ว่าบ้านมุง หรือไม่ก็ถามชาวบ้านในละแวกนั้นเพื่อประกอบกันค่ะ อย่าเชื่อ google ทั้งหมดเลยทีเดียว เส้นทางจากบ้านรักไทยไปยังบ้านมุงในช่วงแรกจะผ่านถนนคดเคี้ยว ชันบ้างในบางช่วง แต่เป็นถนนดีราดยางตลอดสาย บรรยากาศดีมากระหว่างทางเป็นป่าต้นไม้ มาถึงทางแยกนี้ เลี้ยวซ้ายไปเลยค่ะ เส้นทางไปยังตัวอำเภอผ่านเส้นทางถนนที่เรียกได้ว่ายังมีแต่นาข้าว และธรรมชาติแบบดั้งเดิม
นั่งรถชมวิวมาเรื่อยๆ หากเราเริ่มเห็นภูเขาหินปูนระหว่างทางแบบนี้นั่นหมายความเรากำลังใกล้ถึงบ้านมุงแล้วค่ะ จอดรถแวะถ่ายภาพตรงจุดนี้ซักหน่อย
จากจุดที่เราจอดรถ ขับรถมาไม่ไกลจะเจอซอยเล็กที่เขียนว่า บ้านมุง ให้เราเลี้ยวรถเข้าไปเลย แต่ป้ายอาจจะเล็กมากต้องสังเกตุดีๆ เพราะ google จะไม่ได้บอกให้เราเลี้ยวเข้ามาค่ะ ต้องคอยมองเอาเองหรือไม่ก็ต้องถามชาวบ้านอีกเช่นเคยค่ะ สำหรับเราสังเกตภูเขาหินปูนไว้ค่ะ เห็นคลับคล้ายว่า เหมือนในภาพที่เคยเห็นก็เลี้ยวรถเข้าไปค่ะ ซึ่งก็จะเป็นภาพนี้ ถนนทอดยาวที่รายล้อมไปด้วยหมู่บ้านและภูเขาหินปูน สัญลักษณ์ ของบ้านมุงอยู่เบื้องหน้า บริเวณหน้าหมู่บ้านเห็นมีป้ายบ้านพักโฮมสเตย์ติดไว้ด้วย ซึ่งตามที่บอกไว้แต่แรกว่าหากใครมาได้พักทีบ้านรักไทย ก็เลือกมาพักในตัวอำเภอก็ได้ค่ะ
เราขับรถชมพูเขาระหว่างทางไปเรื่อยๆ อยากจอดถ่ายภาพตรงจุดใดก็จอดเลย
มาจนถึงจุดนี้ มองเห็นภูเขาหินปูนสวยมาก เลยเลี้ยวรถเข้าไป ทางเข้าเป็นถนนดินแดง ตามที่บอกว่า บ้านมุง คือ หมู่บ้านเก่าแก่ ลักษณะภูมิประเทศประมาณร้อยละ 45 เป็นภูเขาหินปูนอายุกว่า 300 ล้านปี มีถ้ำอยู่มากมายซึ่งเราจะพาไปเที่ยวถ้ำในลำดับต่อไป
ขับรถย้อนกลับไปทางเดิมที่เราเข้ามา เพื่อไปต่อ ยัง เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล หรือ มักจะเรียกกันสั้นๆว่า ถ้ำผาท่าพล จากบ้านมุงไปยังถ้ำประมาณ 13 ก.ม. ใช้เวลา 13 นาที หรือมากว่านั้นค่ะ ตั้งชื่อสถานที่ใน google แต่กระนั้นนางก็พาเราไปแบบงงๆ นิดหน่อย ซึ่งเราก็ต้องใช้วิจารณญานและถามชาวบ้านประกอบกันไปด้วยค่ะ แต่อย่างน้อยเอาเป็นว่าพามาใกล้ถึงเขตพื้นที่นั้นได้ก็ถือว่าโอเคแล้วค่ะ จนมาถึงหน้าทางเข้า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล เปิดทำการ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 18.00 น. โดยเสียค่าบริการเข้าชมคนละ 20 บาท จากนั้นขับรถเข้าไปชมถ้ำต่างๆ ได้เลยค่ะ เพราะถ้ำแต่ละแห่งไม่ได้ลึก จอดรถและชมได้แค่เพียงบริเวณหน้าปากถ้ำ ถือว่าเป็นการเที่ยวถ้ำที่สะดวกสบายที่สุด เท่าที่เคยไปเที่ยวมาเลยค่ะ
ถนนระหว่างไปชมถ้ำในช่วงแรกเป็นถนนสายเล็กๆ มีวิวของต้นไม้ที่ร่มรื่นมาก และพ้นจากถนนลาดยางนี้ก็จะเป็นถนนดินแดง
ถ้ำผาท่าพล เป็นภูเขาหินปูนขนาดใหญ่หน้าผาสูงชัน ทอดยาวมีลักษณะคล้ายรูปเกือกม้า มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ที่ประมาณ 236 เมตร มีหน้าผาแหว่งเว้า อันเกิดจากการกัดเซาะของน้ำฝนหลายล้านปี ก่อให้เกิดถ้ำมากมาย การเที่ยวชมถ้ำจึงเป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยวที่นี่ เริ่มจากถ้ำแรกที่มาถึง ถ้ำเรือ เดินข้ามสะพานไม้เล็กๆ เข้าไป มาถึงปากถ้ำซึ่งมีแอ่งน้ำอยู่ข้างล่าง ยืนชมได้แค่เพียงเท่านี้ค่ะ เข้าไปไม่ได้ ข้างถ้ำเรือจะเป็นถ้ำซากดึกดำบรรพ์ กับถ้ำอักษรญี่ปุ่น ซึ่งเราไม่ได้เดินเข้าไปค่ะ เพราะทางเข้ามีเจ้าถิ่น คือ ลิงเยอะมาก แอบมีความกลัวเล็กน้อย
เราเลยขับรถไปต่ออีกนิด ก็มาถึงถ้ำเต่า ทุกถ้ำด้านหน้าจะมีป้ายบอกประวัติความเป็นมา
ถ้ำเต่า คือ ถ้ำที่เราชอบและคิดว่าสวยที่สุด เพราะมีความสวยงามแปลกตาของหินงอกหินย้อย จนกลายเป็นปฎิมากรรมรูปทรงที่สวยงาม
สามารถเดินเข้าชมในถ้ำได้นิดนึง
ต่อไปคือ ถ้ำลอด มีทางเดินทอดยาวไปจนถึงตัวถ้ำ มีลักษณะคล้ายห้องโถง
ถ้ำผาแดง มีค้างคาวอาศัยอยู่มา เมื่อเดินเข้าไปถึงปากถ้ำเราจะได้กลิ่นมูลค้างคาวแรงมากทีเดียวค่ะ
ขับรถมาจนเกือบสุดทาง มาเจอป้ายบริเวณนี้ ถ้ำค้างคาว แต่หาทางไปเข้าไม่เจอ เพราะรกร้างมาก เลยขับรถผ่านไป มาถึงทางเข้าที่เราเข้ามาในตอนแรก เพราะลักษณะถนนจะเป็นแบบวงกลมค่ะ มาบรรจบยังจุดเดิม
อำเภอเนินมะปราง สถานที่ไม่ลึกลับสำหรับเราอีกต่อไป โดยส่วนตัวชอบบรรยากาศของอำเภอนี้มาก เพราะมีความเงียบสงบ และยังมีความบริสุทธิ์ของธรรมชาติอยู่เยอะมาก มีสถานที่เที่ยวหลากหลายให้เราได้แวะ ถือได้ว่าเป็นอำเภอที่เหมาะสำหรับมาพักผ่อนปล่อยชีวิตให้เดินไปอย่างช้าๆ เพื่อเว้นว่างจากความวุ่นวายและพันธนาการทั้งหลาย
ข้อมูลเพิ่มเติม
บ้านสวนพงษ์แตง โทร 081 953 2062 เฟสบุคhttps://www.facebook.com/phongtangGarden/
บ้านสวนชมวิว โทร 097 198 6647 , 097 193 1820
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิ๊ก ถ้ำผาท่าผล
ที่พักบ้านรักไทย คลิ๊ก รวมที่พักบ้านรักไทย เนินมะปราง
Tags : บ้านรักไทย เนินมะปรา, บ้านสวนชมวิว, บ้านสวนพงษ์แตง, เที่ยวพิษณุโลก, เนินมะปราง, โฮมสเตย์บ้านรักไทย พิษณุโลก