แม่แจ่ม ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นอำเภอเล็กๆ ในอ้อมกอดของหุบเขาที่มีอดีตอันยาวนาน มีผู้คนอาศัยจากหลายเชื้อชาติ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงรักษาไว้ คือ วัฒนธรรมและวิถีการดำเนินชีวิตที่ยังคงความเรียบง่าย นอกจากความงดงามของวิถีชีวิตแล้ว แม่แจ่มยังเป็นเมืองสงบมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีเอกลักษณ์แห่งความงดงาม คือ ทุ่งนาขั้นบันไดอันเขียวขจีในฤดูฝน และสีเหลืองทองในช่วงปลายฝน มีวัดวาอารามเก่าแก่อันทรงคุณค่า หากใครยังไม่เคยเดินทางมาแม่แจ่มควรจะหาเวลามาสัมผัสความงามให้ได้สักครั้ง
ฤดูการท่องเที่ยวที่เหมาะสม
สำหรับการมาเยือนเมืองแจ่มนั้น คงไม่พ้นฤดูทำนาในช่วงเดือนกันยายน – ปลายตุลาคม เพราะจะได้พบกับนาข้าวขั้นบันได และวิวทิวทัศน์ทุ่งนาโอบล้อมด้วยภูเขา สามารถเห็นได้ตลอดเส้นทางที่ทางท่องเที่ยวในตัวเมืองแม่แจ่ม
10 พิกัดควรแวะเมื่อมาถึงแม่แจ่ม
1 ชมนาข้าวขั้นบันไดบ้านกองกาน
กิจกรรมแรกที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึง คือ ชมนาข้าวขั้นบันได ซึ่งนาข้าวขั้นบันไดจุดที่เป็นที่นิยมเมืองมาถึงแม่แจ่ม ก็คือ นาข้าวขั้นบันไดบ้านกองกาน ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมือง 7 ก.ม. เส้นทางเดียวกับวัดพุทธเอ้น เลยวัดกองกานไปตามเส้นทางขึ้นเขาประมาณ 1 กิโลเมตร ช่วงเวลาที่เหมาะสมแนะนำเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ เพราะเป็นช่วงเวลาที่จะได้เห็นแสงสีทองยามเย็นส่องกระทบมายังริ้วลายนาข้าว ที่ลดหลั่นเป็นขั้นบันได เป็นภาพที่อบอุ่นและงดงาม
2 ชมนาข้าวขั้นบันไดแม่ปาน
ห่างจากตัวเมือง 7 ก.ม. ไปทางเส้นทางดอยอินททนนท์ คือ จุดชมวิวนาข้าวขั้นบันไดที่สวยอีกจุดหนึ่ง เรียกว่า จุดชมวิวแม่ปาน นาข้าวตรงจุดนี้จะตั้งอยู่สูงกว่านาข้าวขั้นบันไดบ้านกองกาน เพราะฉะนั้นเราจะได้เห็นวิวแบบพาโนรามาแบบกว้างไกล ได้เห็นภาพของบ้านเรือนชาวบ้านที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางนาข้าวอย่างสงบและเรียบง่าย ช่วงเวลาแนะนำ ช่วงเย็น คือ ช่วงเวลาที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้ ช่วงเช้าอาจมีโอกาสได้เห็นวิวของสายหมอกพาดผ่าน หรือช่วงสายก็จะได้เห็นบรรยากาศของท้องฟ้าสวยใสตัดกับสีเขียว เหลืองอ่อนของนาข้าว
การเดินทาง จากวงเวียนหน้าเทศบาลแม่แจ่มแยกไปทางโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ จากนั้นตรงไปเรื่อยประมาณ 5 กิโลขึ้นไปทางโครงการวิวอินนทนนท์ ระหว่างทางจะเห็นจุดชมวิว
3 ชมวิวและวิถีชีวิตรอบเมืองแจ่ม
แม่แจ่มเป็นเมืองเล็กๆ ที่สามารถเที่ยวรอบเมืองโดยใช้เวลาเพียงไม่นาน แต่อาจกินเวลานานถ้าเป็นสายถ่ายภาพ เพราะเกือบทุกจุดนั้นน่าแวะถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง นอกจากจุดชมนาข้าวในมุมสูง 2 จุดยอดฮิต หากขับรถท่องเที่ยวในเมืองแม่แจ่มจะได้เห็นวิวนาข้าวที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสวยๆ อีกหลายจุด เที่ยวช่วงบ่ายได้แสงทองยามเย็น หรือจะตื่นแต่เช้าปั่นจักรยานหรือขับรถมอเตอร์ไซต์ ชมวิวรับอากาศบริสุทธิ์ ชมวิถีชาวบ้าน สร้างความสุขได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
บรรยากาศในยามเช้า ในเมืองแม่แจ่ม
บรรยากาศในช่วงบ่าย
วิวนาข้าวระหว่างทางไปบ้านตีนผาและป่าบงเปียง
4 ชมทะเลหมอกบ้านบนนา
นอกจากนาข้าวขั้นบันไดแล้ว แม่แจ่มยังมีทะเลหมอกให้ชมอีกด้วย ด้วยเป็นเมืองที่โอบล้อมด้วยภูเขา ทำให้เราสามารถมองเห็นภาพของทะเลหมอกลอยคลอเคลียตามไหล่เขาได้ไม่อยาก อาจจะมองเห็นได้จากที่พักในยามเช้าหรือตลอดทั้งวันในช่วงเวลาที่ฝนตก หรือหากอยากชมแบบอลังการ ก็ให้ไปที่ จุดชมวิวบ้านบนนา จุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของแม่แจ่ม โดยระหว่างทางที่เราขับรถขึ้นไปยังเส้นทางบ้านบนนานั้น จะสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้ตลอดทาง พึงพอใจจุดไหนก็จอดรถและแวะชมกันได้
การเดินทาง จากหน้าอำเภอแม่แจ่ม เลี้ยวซ้ายไปทางตลาดแล้วข้ามสะพานปูน จากนั้น เลี้ยวขวาตรงไปประมาณ 2 กิโล มีทางแยกให้เลี้ยวซ้ายไปอีก 5 โลก็จะถึงจุดวิวบ้านบนนาจุดแรก จากนั้นไปต่ออีก 5 กิโลเมตร จะถึงจุดชมวิวจุดที่ 2 ซึ่งสวยงามมาก ถนนเส้นนี้เป็นทางราดยางรถยนต์ทุกประเภทสามารถขึ้นได้ (ถ้าไปไม่ถูกให้ถามชาวบ้านว่าบ้านบนนาไปทางไหน)
จุดชมวิวบ้านบนนา จุดที่ 1
จุดชมวิวบ้านบนนา จุดที่ 2
5 ชมทะเลหมอกดอยม่อนหมาก
เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกจุดในแม่แจ่ม กับทะเลหมอกและวิวภูเขาอันสวยงาม ถ้ามาในวันที่อากาศดีสามารถมองเห็นเมืองแม่แจ่มได้แบบกว้างไกล เส้นทางขึ้นไปจุดชมวิวค่อนข้างขรุขระ แคบและชัน รถที่สามารถขึ้นได้คือรถกระบะ รถมอเตอร์ไซต์เท่านั้น
6 เที่ยววัดสวยในตัวเมือง
แม่แจ่ม มีวัดที่สวยงามหลายวัดให้เยี่ยมชม ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวนาข้าวขั้นบันได ได้แก่
วัดพุทธเอ้น
วัดเก่าแก่ของเมืองแม่แจ่ม มีอายุกว่า 200 ปี เป็นวัดที่มีศิลปะแบบล้านนางดงาม ความพิเศษของวัดนี้ คือ มีโบสถ์ที่ตั้งอยู่กลางน้ำ สร้างในสระสี่เหลี่ยมโดยปักเสาลงในน้ำล้อมรอบ ภายในวัดมีบ่อน้ำพุทธเอ้น ซึ่งมีน้ำใสไหลเย็นไหลออกมาจากพื้นดินตลอดเวลา ชาวแม่แจ่มถือว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์และมักนิยมตักไปบริโภค หรือเก็บไว้เพื่อเป็นสิริมงคล
วัดกองกาน
อยู่ห่างจากวัดพุทธเอ้นประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นวัดสำคัญของชาวแม่แจ่มเนื่องจากภายในวิหารมีพระเจ้าตนหลวงซึ่งเป็น พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองแม่แจ่ม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ชาวแม่แจ่มจะไปสรงน้ำองค์พระกันทุกปีพระเจ้าตนหลวง สร้างด้วยศิลปะแบบล้านนาและมีขนาดใหญ่ที่สุดในอำเภอแม่แจ่ม ตัววิหารเป็นไม้และหลังคา มุงแป้นเกล็ดแบบโบราณ
วัดยางหลวง
สิ่งที่น่าสนใจ คือ กู่ปราสาท ซึ่งตั้งอยู่หลังพระประธาน ในวิหาร คนโบราณถือว่าเป็นประตูไปสู่สวรรค์ ลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นแบบพุกามจากพม่าผสมกับล้านนาสกุลช่างเชียงแสน หลังวัดยางหลวงยังเป็นจุดชมวิวนาข้าวที่สวยงามอีกด้วย
วัดป่าแดด
สิ่งที่น่าสนใจ คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวิหาร ที่ค่อนข้างสมบูรณ์วาดโดยช่างแต้ม ชาวไทยใหญ่ เป็นเรื่องพุทธประวัติและชาดกต่างๆ
7 หมู่บ้านทอผ้าซิ่นตีนตก
ผ้าซิ่นตีนจกแม่แจ่ม เป็นงานหัตถกรรมผ้าทอพื้นบ้านของผู้หญิงในอําเภอแม่แจ่ม ที่คงเอกลักษณ์ดั้งเดิมที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษจากอดีตกาล และยังคงดํารงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ที่เกิดจากฝีมือการทออย่างประณีตตามกรรมวิธีการทอและการสร้างลวดลายบนผืนผ้าด้วยเทคนิคการจกแบบดั้งเดิมที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ทําให้เกิดเป็นผ้าที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นของชาวแม่แจ่ม ที่มีความงดงามและเป็นผ้าทอที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ลักษณะลวดลายของผ้าจะมีลักษณะพิเศษเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ลวดลายจะสะท้อนถึงคติความเชื่อและความศรัทธาผูกพันอยู่กับพระพุทธศาสนา เช่น โคม ขัน นาค หงส์น้ำต้น สะเปา เป็นต้น แม่แจ่มจึงถือได้ว่าเป็นชุมชนหนึ่งที่มีการทอผ้าซิ่นตีนจกกันมากที่สุด โดยมีหมูบ้านผ้าซิ่นตีน และแต่ละบ้านจะมีเครื่องทออยู่ใต้ถุนบ้าน ผลิตภัณฑ์พื้นเมืองชนิดนี้เป็นที่นิยมอย่างสูงเพราะมีความสวยสดงดงามผ่านลวดลายที่ออกมา
การเดินทาง อยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่แจ่มไปประมาณ 6 กิโลเมตร (ข้ามสะพานข้างที่ว่าการอำเภอแล้วเลี้ยวซ้ายตรงหมู่บ้านที่ 4-5 ต.ท่าผา ชาวบ้านที่ตำบลนี้นิยม ทอผ้าซิ่นตีนจกกันมาก
8 แวะทานอาหารร้านอาหารข่วงนา
เป็นร้านอาหารชื่อดัง บรรยากาศดี มีวิวนาข้าวเขียวขจีอยู่ด้านข้างร้าน รสชาติอร่อยประจำเมืองแม่แจ่ม อาหารมีให้เลือกหลายเมนู เมนูอาหารพื้นบ้าน อย่างเช่น ชุดออเดิรฟ์เมือง แกงเลียงกุ้งสด ปลาลวงจิ้ม และทอดมันกุ้ง
ท่องเที่ยวนอกตัวเมืองแม่แจ่ม
9 บ้านตีนผา
บ้านตีนผา เป็นหมู่บ้านที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาของ ดอยอินทนนท์ ห่างจากตัวเมืองแม่แจ่มประมาณ 8 กิโลเมตร ที่นี่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านขาวเขาชาวปกาเกอะญอ ซึ่งนอกจากเราจะได้ชมวิถีชีวิต วัฒนธรรม ของชนเผ่า ที่อาศัยอยู่อย่างเรียบง่ายแล้ว ยังได้พบกับธรรมชาติและ วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของนาข้าวขั้นบันได และพืชทางเกษตรต่าง เช่น ทั้งข้าวไร่ ข้าวโพด ฟักทอง ที่ปลูกลดหลั่น กันไปบนภูเขาสูง สลับกันลูกแล้วลูกเล่า เป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก ถ้าได้มีโอกาสที่บ้านตีนผาจะ ประทับใจในวิว ทิวทัศน์ของนาข้าวขั้นบันไดบนภูเขา ในอีกหนึ่งมุมมอง ซึ่งหาชมจากที่ไหนได้ยาก
10 บ้านป่าปงเปียง
บ้านป่าบงเปียง ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แจ่ม ใช้เวลาเดินทางจากตัวอำเภอแม่แจ่มประมาณ 45 นาที เป็นหมู่บ้านที่รายล้อมไปด้วยนาขั้นบันได ต้นข้าวโพด เป็นสถานที่เที่ยว ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและบรรดาช่างภาพที่ชอบเก็บภาพความสวยงามของภูเขาและสายหมอก หากมาในยามเช้าจะได้พบกับทะเลหมอกและแสงอุ่นยามเช้าแต่ถ้าหากมาช่วงเย็นสามารถชมพระอาทิตย์และแสงยามเย็นสวยๆ ที่ลอดผ่านก้อนเมฆมา กระทบกับหุบเขาที่เรียงรายการสลับซับซ้อนเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก
การเดินทาง
สำหรับการเดินทางไปบ้านตีนผาและป่าบงเปียง จากตัวเมืองแม่แจ่ม ตั้งอยู่เส้นทางเดียวกัน โดยจะถึงบ้านตีนผาก่อน จากนั้นถึงป่าบงเปียง การเดินทางต้องอาศัยรถกระบะที่มีแรงกำลังในการขับเคลื่อน และมอเตอร์ไซต์เท่านั้น เนื่องจากสภาพถนน แคบขรุขะ และเป็นดินแดงตลอดทาง จากที่ว่าการอำเภอแม่แจ่มให้เลี้ยวขวา จะพบ 7-11 อยู่ฝั่งขวามือ ให้ตรงไปประมาณ 1 กิโลี้จะมีทางแยกซ้ายมือไปวัดพุทธเอิ้นและนาขั้นบันไดบ้านกองกาน ให้ตรงไปจะพบบ้านต่อเรือมุ่งตรงไป เรื่อยๆประมาณ 10 กิโล จะมาถึงบ้านทุ่งยาวขับตรงไป สังเกตุคือหลักกิโลแม่นาจร 16 เลี้ยวขวาจะเจอวัดทุ่งยาวให้เลี้ยวซ้าย เข้ามาประมาณ 1 กิโล จะเจอหมู่บ้านแม่มิงค์ สังเกตุป้ายเล็กๆจะบอกว่าไป ร.ร.อินทนนท์วิทยาเลี้ยวขวาจะพบหน่วยจัดการต้นน้ำ แม่อวม และก็จะมาถึงบ้านป่าตึงให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนทางลาดยางจะสิ้นสุดตรงนี้ ชับตรงไปประมาณ 1 กิโลจะพบทางแยก ทางซ้ายไปบ้านตีนผา ส่วนทางขวาไปบ้านป่าบงเปียง
หากไม่มีรถส่วนตัวสามารถเช่ามอเตอร์ไซต์ได้จากร้านให้เช่าในตัวเมือง หรือจากที่พัก หรือใช้บริการรถสองแถวนำเที่ยวสีเหลืองจากแม่แจ่ม คุณเป๊ก โทร 082 888 5180 ค่าบริการไปกลับ 1200 บาท (นั่งได้ 10 คน)
ที่พักแม่แจ่ม
– บ้านม่อนไม้งาม โทร 089-8537194
– ชุมชนสมเด็จย่า ตรงข้ามจุดชมวิวมปาน จะมีบ้านพักคล้ายๆกระท่อม 4 หลัง ราคาหลังเล็ก หลังละ 300 บาท หลังใหญ่หลังละ 500 บาท นอกจากนี้ยังมีเต้นท์ 20 หลัง หลังเล็ก ราคา 100 บาท หลังใหญ่ ราคา 400 บาท ติดต่อที่ 053 485222 ชมรีวิวบ้านพัก คลิ๊ก เที่ยวแม่แจ่ม
โทร 081 740 0147 , 089 948 6301
– มนต์เมืองแจ่ม โทร.089-8524797
– โรงแรมแม่แจ่ม ราคา 400-800 บาท โทร 081 882 8521 ,053 828 025
– เฮือนแรมแจ่มเมือง คุณเพ็ญแข-ศุภชัย ขัติยสุรินทร์ โทร.053-828397 โทรสาร 053-485058 มือถือ 081 387 3638 , 081 99 23242
– สวนป่าแม่แจ่ม โทร. 053 228 068
– นวสรวงรีสอร์ท โทร 053 828 477 ,053 828 228 จำนวน 14 ห้อง ราคา 400-500 บาท
– โรงแรมแพมวิว ห้องละ 200-350 เบอร์โทร 081 883 8794 , 053 485218
– พงศรา รีสอร์ท 053-828219
– องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ โทร.(053)249349 ราคาห้องละ 400 บาท/คืน (มี 2 เตียง), ราคาห้องละ 800 บาท/คืน(มี 5 เตียง)
การเดินทางไปแม่แจ่ม
รถยนต์ส่วนตัว
– เส้นทางดอยอินทนนท์จากอำเภอจอมทองมีป้ายเขียนไว้ว่า “ดอยอินทนนท์” ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทาง จะผ่านด่านที่ 1 ตรงน้ำตกแม่กลาง จากนั้นขับรถไปเรื่อยๆ จะผ่านที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (กม.11) ขับรถตรงไป ตามเส้นทาง จนถึงด่าน 2 จะเห็นป้ายเลี้ยวซ้ายไปแม่แจ่ม (ไม่ต้องตรงไป ถ้าตรงไปจะขึ้นยอดดอยอินทนนท์) ขับมาเรื่อยๆ จนมาถึง ตัวอำเภอ รวมระยะทางแล้วประมาณ 115 กิโลเมตร รถทุกชนิดเดินทางได้ถนนเป็นทางราดยางแต่อาจชันและคดเคี้ยวเป็นหลุมบางช่วง
-เส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียงจากตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มจาก สี่แยกสนามบิน ขับรถตรงไปเรื่อยๆ ตามถนนสาย เชียงใหม่-หางดง ผ่านห้างโลตัส ผ่านอำเภอ หางดง สันป่าตอง จอมทอง และฮอด พอถึงตลาดฮอดจะสังเกตเห็นวงเวียนและหอนาฬิกาขนาดใหญ่
ให้วนขวาจะสังเกตเห็นที่ว่าการอำเภออยู่ด้านซ้ายมือ จากนั้นให้ตรงไปตามถนนสายฮอด-แม่สะเรียง ผ่านออบหลวง ขับรถตรง ไปเรื่อยๆ จากนั้นให้สังเกตป้ายจะเขียนบอกไว้ว่า อ.แม่แจ่ม ให้เลี้ยวขวา พอเลี้ยวเข้าไปจะสังเกตเห็นวัดอยู่ด้านซ้ายมือจากนั้น ให้ตรงไปเรื่อยๆ จะผ่าน หมู่บ้าน อมขูด , ออป.หัวดอย , โหล่งปง , กองแขก จนมาถึงตัวอำเภอ รวมระยะทางแล้วประมาณ 150 กิโลเมตร
รถโดยสารสารธารณะ
– จากกทม. นั่งรถสายกทม.-จอมทอง มีทั้งรถ ปอ. 1และ ปอ.2หลังจากนั้นต่อรถสองแถวที่อ.จอมทอง
– จากจอมทองนั่งรถสายจอมทอง – แม่แจ่มค่าโดยสาร 80 บาท เป็นรถสองแถวสีเหลือง คิวรถอยู่ที่ข้างวัดพระธาตุ
ศรีจอมทอง รถจะออกต่อเมื่อมีผู้โดยสารเต็ม
– จากเชียงใหม่นั่งรถไปลงอาเขต
– จากอาเขต ขึ้นรถแดงไปลงประตูเชียงใหม่ 20 บาท
– จากประตูเชียงใหม่สายเชียงใหม่ – จอมทองค่าโดยสาร 35 บาท แล้วมาลงที่จอมทอง
รถแม่แจ่มรอบแรกประมาณ 07.00 น./ 09.00 น./ 12.00 น./14.00 น./15.00 น. ทั้งไปและกลับ
เที่ยวสุดท้าย 17.00 น. ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1.30 ชม. ( แม่แจ่ม-จอมทอง )
ตัวอย่างทริปท่องเที่ยวแม่แจ่ม 2 วัน 1 คืน
วันแรก
12.00 น. ถึงแม่แจ่ม รับประทานอาหารกลางวันในตัวเมือง พักผ่อนตามอัธยาศัย
15.30 น. เที่ยวนาข้าวขั้นบันไดบ้านกองกาน โดยระหว่างทางจะผ่าน วัดพุทธเอ้น จากนั้นไปยังนาข้าวบ้านกองกาน หรือ จะเลือกไปชมนาข้าวขั้นบันไดป่าบงเปียงและบ้านตีนผาก็ได้
18.00 น. กลับที่พัก พักผ่อน
วันที่สอง
05.00 น. ตื่นเช้าไปชมทะเลหมอกบ้านบนนา
08.00 น. รับประทานอาหารเช้า เที่ยวชมวิวรอบตัวเมือง สูดอากาศบริสุทธิ์ แวะชมนาข้าวบ้านแม่ปาน
10.00 น. แวะเที่ยว วัดยางหลวง วัดป่าแดด หมู่บ้านทอผ้าซิ่นตีนตก
12.00 น. ทานอาหารกลางวัน เดินทางกลับ
ตัวอย่างทริปท่องเที่ยวแม่แจ่ม 3 วัน 2 คืน
วันแรก
12.00 น. ถึงแม่แจ่ม รับประทานอาหารกลางวันในตัวเมือง พักผ่อนตามอัธยาศัย
15.30 น. เที่ยวนาข้าวขั้นบันไดบ้านกองกาน โดยระหว่างทางจะผ่าน วัดพุทธเอ้น จากนั้นไปยังนาข้าวบ้านกองกาน ชมพระอาทิตย์ตกที่นาข้าวขั้นบันไดบ้านแม่ปาน กลับที่พัก
วันที่สอง
05.00 น. ตื่นเช้าไปชมทะเลหมอกบ้านบนนา
08.00 น. รับประทานอาหารเช้า เที่ยวชมวิวรอบตัวเมือง
10.00 น. แวะ วัดยางหลวง วัดป่าแดด
12.00 น. ทานอาหารกลางวัน พักผ่อน
15.00 น. เดินทางไปชมนาข้าวขั้นบันไดบ้านตีนผา บ้านป่าบงเปียง
วันที่สาม
05.00 น. ตื่นเช้าไปชมทะเลหมอกดอยม่อนหมาก
09.00 น. แวะหมู่บ้านทอผ้าซิ่นตีนตก เดินทางกลับ
Tags : เที่ยวแม่แจ่ม, เที่ยวแม่แจ่ม 2 วัน 1 คืน, แม่แจ่ม
