บ้านป่าริมธาร ชมธาร ฟังเสียงธรรมชาติ
ชุมชนทุ่งเพล มีบ้านพักแบบโฮมสเตย์หลายแห่ง ติดริมธาร และภูเขาอันเงียบสงบ ตั้งเรียงรายไปตามสายน้ำใส เพื่อสัมผัสบรรยากาศได้แบบเต็มอิ่ม หนึ่งในนั้น คือ บ้านป่าริมธาร บ้านพักในป่าใหญ่ ที่แสนร่มรื่น บ้านพักที่เราเลือกพักสำหรับการพักผ่อนของเราในครั้งนี้
การเดินทางมาบ้านทุ่งเพล จากกรุงเทพ เราใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์เลี้ยวซ้ายเข้าสู่อำเภอบ้านบึง ชลบุรี ผ่านอำเภอแกลง ระยอง จากนั้นมุ่งหน้าไปยังจันทบุรี ก่อนเข้าสู่อำเภอเมืองมีทางแยกซ้ายไปยังอำเภอมะขาม ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ชุมชนทุ่งเพล สังเกตง่ายๆ คือ เส้นทางเดียวกับถนนที่ตัดไปจังหวัดสระแก้วนั่นเอง จากแยกดังกล่าวขับรถประมาณเกือบ 45 นาที มาถึงซอยทางเข้าไปยังชุมชนทุ่งเพล ซึ่งมีป้ายเขียนไว้ว่าเขาหินกูบให้เลี้ยวและขับตรงไปเรื่อยๆ นั่งรถผ่านถนนสายนี้เข้ามาในถนนสายนี้ให้ความรู้สึกเปลี่ยนเหมือนหลุดเข้ามาอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ถนนเงียบสงบ สองข้างทางเขียวชอุ่มด้วยต้นไม้ สวนผลไม้ ปลายทางเห็นภูเขาสูงอยู่ไกลๆ มองแล้วชุ่มชื่น ยังกับโอเอซิสเวิลด์ ลดกระจกรถให้ลมปะทะหน้าสูดหายใจรับอากาศบริสุทธิ์เข้าไปให้เต็มที่ ในขณะเดียวกันอดไม่ได้ที่จะใช้มือถือตั้งกล้องรอเตรียมแชะภาพในมุมที่ต้องการ
เพลินไปกับธรรมชาติ จนลืมไปว่าเราขับรถเข้ามานานพอสมควรเริ่มเข้าสู่เขตชุมชน น่าจะใกล้ถึงที่พักแล้ว แต่เนื่องจากนี่คือครั้งแรกที่ผ่านมายังเส้นทางนี้ เท่าที่ทราบคือ มีโฮมสเตย์ที่เรียงรายกันเป็น 10 แห่ง Google map แอพพลิเคชั่นประจำตัวที่ขาดไม่ได้สำหรับการเดินทางจึงถูกเปิดขึ้นมาหาพิกัดของ บ้านป่าริมธาร อย่างรวดเร็วผ่านการใช้นิ้วสแกนบนโทรศัพท์ วีโก สมาร์ทโฟน (จากฝรั่งเศส) ความดีงามของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ คือ มีระบบ finger print ที่สามารถเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานบ่อยได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ใช้นิ้วที่สแกนไว้สัมผัสปุ่มโฮมเพื่อปลดล๊อค Google map ถูกเปิดขึ้นทันทีโดยที่ไม่ต้องเข้าไปหาจากหน้าจอหลัก สะดวกในเวลาที่เราขับรถ ซึ่งอีกมือหนึ่งอาจไม่สะดวกในการเลื่อนหาเพราะต้องจับพวงมาลัย
ไฮเทคขนาดนี้ อยากรู้จักแล้วใช่มั้ยค่ะ ว่าระบบ finger print คืออะไร และทำงานอย่างไร ก่อนอื่นมารู้จักหน้าตาของเจ้ามือถือยี่ห้อนี้กันซักหน่อย วีโก สมาร์ทโฟน สมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการเอนดรอย มีหลากหลายรุ่นให้เลือก ส่วนรุ่นที่เราใช้งาน คือ Wiko U FEEL LITE ดีไซน์สวยงาม บางเฉียบ น้ำหนักเบามาก สะดวกในการพกพาและใส่กระเป๋ากางเกงเวลาเดินถ่ายภาพได้แบบสบายๆ หน้าจอละเอียดชัดเจน สีสดใส ชอบเวลาดูภาพผ่านสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ ราคาเครื่องอยู่ที่ 4590 บาท ซึ่งถือว่าเบามาก สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมอื่น สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ www.wikomobile.co.th
มาถึงบ้านป่าริมธาร ซึ่งได้ทำการจองไว้ล่วงหน้า สำหรับในช่วงนี้ต้องบอกว่า ชุมชนทุ่งเพล ค่อนข้างฮอตมาก บ้านพักส่วนมากถ้าเป็นวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ จะเต็มตลอด แต่ถ้ามาในวันธรรมดาแบบเรายังพอได้อยู่แต่มีบางวันก็เต็มเหมือนกัน เพราะฉะนั้นใครอยากมากพักต้องจองล่วงหน้ากันยาวๆ ที่พักมีหลายแบบให้เลือก ซึ่งส่วนใหญ่บ้านจะติดลำธารซึ่งบ้านในโซนนี้ไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวกันหลายคน แค่ถ้ามากัน 2 คน จะจัดเป็นห้องพักแบบพริกไทยซึ่งจะไม่ติดลำธาร ราคาทุกหลังคิดเป็นแพคเกจรายคน คือ ที่พัก 1 คืน พร้อมอาหาร 2 มื้อ เย็น กับเช้า ราคาคนละ 1500 บาท แต่ถ้าใครอยากพักแบบติดลำธารจะคิดในราคาเต็มตามจำนวนคนที่พักหลังนั้น
บรรยากาศภายในบ้านพัก ด้วยภาพที่อาจจะมองว่า คือ บ้านพักที่อยู่ท่ามกลางป่าเขาอาจไม่สะดวกสบายแน่ แต่ทุกอย่างผิดหมด ห้องพักตกแต่งสวย ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่กลมกลืนเข้ากับธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งแอร์ พัดลม ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น
ห้องพักตกแต่งให้ความรู้สึกเหมือนพักผ่อนอยู่ในบ้านส่วนตัว ชอบที่สุด คือ มีโต๊ะนั่งทำงานเป็นสัดส่วน ปลั๊กไฟมาเต็ม มีอยู่เกือบทุกจุดโดยที่ไม่ต้องใช้ปลั๊กพ่วงหรือแย่งกันใช้
มีบันไดเชื่อมต่อขึ้นไปยังชั้นใต้หลังคา ซึ่งจัดเป็นที่นอนเสริมพักได้อีก 2 คน
หลังจากนอนพักเพื่อผ่อนคลาย ได้เวลาไปสำรวจบรรยากาศกันบ้าง เดินเข้าไปในโซนที่ติดกับลำธาร เจอลำธารแรกซึ่งอยู่ด้านหน้าทางเข้า เป็นลำธารสายเล็กๆเห็นครั้งแรกถึงกับกรี๊ด เพราะน้ำในลำธารใสมาก ทางที่พักได้ทำสะพานเชื่อมต่อกันไปจนสุดลำธารอีกฝั่ง
มีบ้านพักในโซนนี้อยู่ 2 หลัง เป็นบ้านหลังใหญ่ที่พักได้ตั้งแต่ 10-20 คน
เดินเข้ามาเจอบรรยากาศที่ต้องเรียกว่า ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ชะอุ่มมาก โซนนี้บ้านพักอยู่ติดลำธาร มีทั้งหมด 4 หลัง เรียงกัน ซึ่งเป็นบ้านพักสำหรับมาเป็นหมู่คณะ 4- 10 คน
เดินมาสุดทางจนเจอลำธารน้ำตกที่ไหลรินมาจากยอดเขาเป็นสายน้ำยาวจรดไปถึงข้างล่างจุดไฮไลท์ บ่งบอกถึงความอุดมบูรณ์ของผืนป่า ซึ่งโซนนี้เป็นที่ตั้งของล๊อบบี้ส่วนกลาง สามารถนั่งพักผ่อน ชมวิว หรือจะกระโดดลงไปเล่นน้ำก็ได้ น้ำใสมาก ขนาบข้างด้วยต้นไม้ และภูเขา หากวันใดฝนตกก็จะเห็นสายหมอกคลอเคลีย อยู่บนยอดเขาด้วย คือ สวยเป็นธรรมชาติมาก
เดินลงไปเล่นน้ำ หรือจะนั่งเล่นฟังเสียงน้ำ และเสียงนก เสียงไม้ เพลินมาก นี่แหละคือ ธรรมชาติที่เราใฝ่หา ไม่คิดว่าจันทบุรี มีสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้ให้เราได้มาพักด้วย
บ้านพักหลังนี้อยู่ข้างล๊อบบี้ พักได้ 4 คน บรรยากาศ คือ ดีมาก เดินลงจากบันไดก็เจอน้ำตกอยู่ตรงหน้า นั่งเล่นน้ำกันหน้าบ้านได้เลย หากมากัน 2 คน และต้องการพักบ้านหลังนี้จะคิดราคาตามจริงเหมาเป็นหลัง คือ หลังละ 4800 บาท พร้อมอาหาร 2 มื้อ
ลำธารน้ำตกสามารถเล่นน้ำได้เกือบทุกจุด เพราะน้ำไม่ลึกมากประมาณแค่เข่าถึงเอว แต่ระมัดระวังกันซักหน่อยเพราะช่วงที่เป็นโขดหินน้ำตกอาจไหลลงมาปะทะค่อนข้างแรง
มื้อเย็นของของที่พักมาเสริฟถึงบ้าน หน้าตาอาหารน่ารับประทานมากเป็นเมนูง่ายๆ มี ต้มยำไก่ใส่เห็ด น้ำพริกกะปิพร้อมผัก ไข่เจียว แกงหมูใบชะมวง อาหารขึ้นชื่อของเมืองจันทร์ และผัดผักใส่แฮม พร้อมผลไม้ อาหารทุกจานรสชาติอร่อยมาก
หลับสบายฟังเสียงสายฝนและสายน้ำตลอดทั้งคืน เป็นอะไรที่หลับสนิทมาก ตื่นมารับประทานอาหารเช้าซึ่งมาเสริฟถึงบ้านเช่นเคยอาหารมี 2 อย่าง คือ ข้าวต้มและไข่กระทะ
ก่อนเดินทางกลับเก็บภาพดื่มด่ำกับบรรยากาศความประทับใจกันอีกครั้ง บ้านป่าริมธาร ชุมชนบ้านทุ่งเพล ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพักผ่อน ในบรรยากาศเงียบสงบ ท่ามกลางป่าเขา ลำเนาไพร ที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างมาก เหมือนเราอยู่ท่ามกลางป่าที่เหมือนอยู่กันคนละโลกกับเมืองใหญ่ แต่ยังคงเป็นการพักผ่อนที่ยังคงมีความสะดวกสบายครบครัน บ้านพักของชุมชนทุ่งเพลยังมีอีกหลายแห่งค่ะ ซึ่งเราตั้งใจไว้ว่าจะลองมาพักที่อื่นด้วย สถานที่แบบนี้ให้มากี่ครั้งก็ไม่รู้สึกเบื่อ
รายละเอียดบ้านป่าริมธาร
บ้านป่าริมธาร โทร 081 854 5205
เฟสบุค บ้านป่าริมธาร