น้ำมวบวิว โฮมสเตย์วิวทุ่ง ชิมอาหารพื้นเมือง

น่าน ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดฮิตที่สุดจังหวัดหนึ่งในเวลานี้ หากเอ่ยถึงความเป็นเมืองน่าน แน่นอน ต้องมาเที่ยววัดในเมือง ไปปัว  แวะบ่อเกลือ ต่อด้วยสะปัน คือ สถานที่ในอันดับต้น แต่ถ้าพูดถึงชื่อ บ้านน้ำมวบ  หลายคนอาจไม่คุ้นเคยเท่าใดนัก เพราะเพิ่งเปิดตัวเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบวิถีชุมชนได้ไม่นาน บ้านน้ำมวบ เป็นตำบลเล็กๆ ในอำเภอเวียงสา ที่ซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติอันเงียบสงบ โอบล้อมด้วยขุนเขาเขียวขจีของเทือกเขาหลวงพระบาง ชาวบ้านในชุมชนใช้ชีวิตเรียบง่าย มีความเป็นมิตรอัธยาศัยดี  กิจกรรมเมื่อมาถึงบ้านน้ำมวบจะสลับหมุนเวียนไปในแต่ละฤดู เช่น ในช่วงฤดูร้อนมีเห็ดเยอะจะพาไปเก็บเห็ดในป่ามาประกอบอาหาร จับปูนามาทำน้ำปู๋ หรือ น้ำปู  ดูการทำกลอย  ทำกล้วยเบรคแตก ซึ่งล้วนเป็นวิถีชีวิตของคนในชุมชน หากมาเที่ยวในช่วงฤดูทำนา บ้านน้ำมวบจะเขียวขจีไปด้วยนาข้าว เป็นบรรยากาศแบบกรีนๆที่น่ามาเที่ยวยิ่งนัก

 

น้ำมวบวิว

น้ำมวบวิว

 

บ้านน้ำมวบ มีที่พักเพียงแห่งเดียว คือ  น้ำมวบวิว ซึ่งเป็นจุดหมายหลักที่ทำให้ตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวบ้านน้ำมวบในครั้งนี้ อยากมานอนเล่นชมวิวทุ่งนา เป็นโฮมสเตย์ที่สร้างแบบกระท่อมไม้ไผ่ขนาดกระทัดรัด จำนวน 4 หลัง สำหรับราคาห้องพัก คิดต่อหัวคนละ 300 บาท รวมอาหารเช้า มีห้องน้ำส่วนกลางแยกออกมาซึ่งสะอาด มีเครื่องน้ำอุ่นให้พร้อม เรียกว่าราคาหลักร้อยแต่วิวหลักล้านตามคอนเซ็ปต์ แต่ที่เด็ดกว่าบ้าน คือ เจ้าของบ้าน นามว่า ป้ายอง ที่น่ารักและคุยเก่งมาก ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ตั้งแต่เริ่มจองบ้านพักยังไม่ได้เดินทาง ป้ายองก็ส่งรูปมากระตุ้นต่อมให้อยากไปเที่ยวตลอด ทั้งภาพบรรยากาศทุ่งนา บ้านพัก สถานที่ท่องเที่ยว และอาหาร พร้อมบอกว่า “มาน้ำมวบ ป้าพาเที่ยวเอง ”  คุณป้าดูแลเหมือนเป็นลูกเป็นหลานรู้สึกอบอุ่นมาก

 

น้ำมวบวิว

น้ำมวบวิว

น้ำมวบวิว

 

บรรยากาศภายในห้องพัก เรียบ ง่าย  มีฟูกที่นอน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว พัดลม  น้ำดื่มให้พร้อม ทุกสิ่งมีกลิ่นหอม สะอาด สะอ้าน

 

น้ำมวบวิว

 

พื้นที่ส่วนกลางสำหรับนั่งเล่น ล้อมวงทานอาหาร ตรงนี้มีกระติกน้ำแข็ง พร้อมน้ำดื่มมาวางไว้ให้

 

น้ำมวบวิว

 

ความโดดเด่นของน้ำมวบวิว คือ ทางเดินไม้ไผ่เชื่อมต่อจากบ้านในแต่ละหลัง เพื่อเดินไปชมวิวท้องทุ่งนาและภูเขา ที่สามารถมองเห็นได้จากหน้าบ้านไม่ว่าจะอยู่ในมุมใดก็ตาม เรียกได้ว่าวิวสวยและบรรยากาศดีมาก แค่ได้นั่งเล่นนอนเล่นอยู่ตรงชานระเบียงนาบ้าน มองวิวทุ่งนา แบบนิ่งๆ ก็มีความสุขแบบไม่ต้องขยับตัวไปที่ไหนก็ยังได้

 

น้ำมวบวิว

น้ำมวบวิว

น้ำมวบวิวน้ำมวบวิว

 

ช่วงบ่ายป้ายองพาไปยังจุดท่องเที่ยวในบ้านน้ำมวบ เริ่มจากสถานที่สำคัญ  วัดพระธาตุแดนทอง พระธาตุศักดิ์สิทธ์ คู่บ้าน คู่เมืองแห่งบ้านน้ำมวบ ตั้งอยู่บนที่สูงบนภูเขาไม่ไกลจากที่พัก  ป้าเดินดุ่มๆ นำทางไปอย่างรวดเร็ว นอกจากจะเป็นเจ้าของที่พักแล้ว ยังเป็นไกด์พาเราเที่ยวอีกด้วย น่ารักที่สุด

 

บ้านน้ำมวบ

 

นอกจากองค์พระธาตุแดนทอง ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านแล้ว ยังมีพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ มีชื่อว่า หลวงพ่อทันใจศากยมุณีศรีแดนทอง  มีความสูงขนาด 9 เมตร และหน้าตักกว้าง 6 เมตร ประดิษฐานอยู่บริเวณลานกว้าง  หันหน้าไปทางทิศตะวันออก สวยงามเด่นเป็นสง่า

 

dew_1431

บ้านน้ำมวบ

บ้านน้ำมวบ

15-dew_1391

 

บริเวณพระธาตุได้จัดทำเป็นจุดชมวิวหลายจุด ทั้งระเบียงชมวิวทอดยาว สามารถมองเห็นทิวเขาหลวงพระบาง ฝั่งประเทศลาว และวิวบ้านน้ำมวบอย่างสวยงาม เริ่มจากป้ายชื่อสีสันสดใส “ น้ำมวบใต้เงาเทือกเขา หลวงพระบาง”  ป้ายสีขาว “ที่นี่น้ำมวบ” และกระท่อมน้อย ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพชมวิวกันอย่างจุใจเลยทีเดียว

 

บ้านน้ำมวบ

17-dew_1404

18-dew_1386

บ้านน้ำมวบ

บ้านน้ำมวบ

 

บ้านน้ำมวบ

บ้านน้ำมวบ

 

ภายในศาลาวัดมีกลุ่มของชาวบ้านนั่งจักสาน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ทั้งกระติ๊บข้าวเหนียว  ที่ใส่ของ ถือเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่งของชาวบ้านน้ำมวบ เรียกได้ว่าเป็นสินค้าโอทอประดับตำบล ทั้งขายส่งและขายปลีกให้นักท่องเที่ยวในราคาไม่แพง

 

บ้านน้ำมวบ

บ้านน้ำมวบ

 

ระหว่างทางไปยังวัดพระธาตุแดนทอง สะดุดตากับสิ่งก่อสร้างหนึ่ง มีลักษณะเป็นอาคารที่สร้างด้วยอิฐแดงคล้ายโรงบ่มอะไรสักอย่าง ป้ายองบอกว่า คือ โรงบ่มยาสูบโบราณซึ่งปัจจุบันเลิกกิจการไปนานแล้ว สมัยก่อนป้าเคยทำงานที่นี่ด้วย ได้ค่าแรงวันละ 3 บาท ต่อมาขึ้นเป็นวันละ 15 บาท  ได้ยินแล้วถึงกับอึ้ง แต่คงเป็นค่าแรงในสมัยนั้น เพราะป้าบอกว่า 20 กว่าปีก่อน ว่าแล้วก็เดินเข้าไปชมและถ่ายรูปเก๋ๆ มาสักหน่อย

 

บ้านน้ำมวบ

บ้านน้ำมวบ

บ้านน้ำมวบ

 

ตรงข้ามกับโรงบ่ม คือ  ตลาดตอนเย็น ซึ่งจะเป็นตลาดขนาดเล็ก ที่คนในชุมชนนำกับข้าว อาหารท้องถิ่น ผักต่างๆ มาขายในราคาย่อมแค่หลักสิบ และป้ายองก็เดินช้อปผัก ที่จะนำไปประกอบอาหารให้เราทานในมื้อเย็น

 

บ้านน้ำมวบ

บ้านน้ำมวบ

บ้านน้ำมวบ

 

กลับมาถึงที่พักน้ำมวบวิว ในยามเย็นแดดเริ่มอ่อนลง คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเดินเล่น ชมวิวทุ่งนา นั่งพักผ่อน มองภูเขาที่อยู่เบื้องหน้าให้รู้สึกผ่อนคลาย

 

น้ำมวบวิว

น้ำมวบวิว

น้ำมวบวิว

 

พื้นที่ในส่วนของนา ซึ่งเลี้ยงปูนาไว้ เพื่อจะนำมาทำน้ำปู๋ หรือน้ำปู เครื่องปรุงรสที่สำคัญในอาหารไทยภาคเหนือ เหมือนกับภาคใต้มีน้ำบูดู ภาคอีสานมีน้ำปลาร้า ภาคกลางมีกะปิ  น้ำปู๋ ทำจากปูนา โดยนำปูนาที่ล้างสะอาด ใส่ครกตำกับตะไคร้ เพื่อดับกลิ่นคาว อาจใส่ใบขมิ้น ใบมะกอกหรือใบฝรั่ง  น้ำที่ได้นำมากรองกากออก นำมาเคี่ยวให้ข้น ใส่เกลือ น้ำมะกรูด น้ำปูที่เคี่ยวจนได้ที่แล้วจะเป็นสีดำข้น นำมาใส่ในน้ำพริก ส้มตำ หรือยำ เพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยขึ้น โดยเฉพาะยำส้มโอน้ำปู๋ จะเข้ากันมาก น้ำปู๋ ถือเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนขึ้นชื่อของบ้านน้ำมวบ และป้ายองถือว่าเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ และอาหารมื้อเย็นจะได้ลองทานน้ำปู๋ของบ้านน้ำมวบที่ว่ากันว่า อร่อยเด็ดมาก

 

น้ำมวบวิว

 

อาหารมื้อเย็นถูกจัดใส่ขันโตก ปูเสื่อทานกับแบบเรียบง่าย  เมนูที่ทานก็เป็นเมนูง่ายๆ อย่างเช่น ไข่เจียว ลาบคั่วหมู และอาหารที่เรารอคอย คือ น้ำพริกน้ำปู๋ทานกับหน่อไม้ต้ม  ผักที่หาได้จากรั้วบ้าน  คำแรกที่ได้ทานอร่อยสุดยอดได้ความรู้สึกว่าเราได้กินน้ำปู๋ของแท้แบบไม่มีอะไรมาผสมให้เสียรสชาติ ได้กลิ่นหอมของปูมาเต็มๆ ป้าเผยสูตรว่าน้ำปู๋ของป้าไม่เหมือนใคร เพราะเป็นน้ำปูจากตัวปูล้วนๆไม่ผสมแป้งอะไรเลย มีใส่เครื่องเทศต่างๆ เช่น ตะไคร้ อัญชัน และอีกหลายอย่างลงไปด้วย เพื่อเพิ่มความหอม  เคี่ยวกันข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว ป้ายองบอกว่ามีลูกค้าหลายคนเห็นหน้าตาน้ำพริกดำ ๆครั้งแรกไม่กล้าทาน แต่พอได้ลองถึงกับติดใจร้องจะซื้อกลับบ้านกันทุกคน และหนึ่งในนั่นคือ เรานั่นเอง  “ป้าค่ะมีให้หนูบ้างมั้ย อยากซื้อกลับไปทำทานที่บ้านมาก แต่จะอร่อยเหมือนที่ป้าทำหรือเปล่าไม่รู้ ” ป้าบอกทำไม่ยาก ทำแบบน้ำพริกหนุ่ม และจากนั้นใส่น้ำปู๋คลุกให้เข้ากันก็ทานได้แล้ว โห ง่ายขนาดนั้นเลยหรือ  สุดท้ายได้มาแค่ 2 กระปุก กระปุกใหญ่ 80 บาท กระปุกเล็ก 50 บาท ป้าบอกว่าของมีน้อยผลิตไม่ทัน แค่ส่งขายในชุมชนก็หมดแล้ว คือ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำปู๋ที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าของป้ายอง อันนี้เห็นด้วยอย่างมาก เพราะเคยทานน้ำปู๋มาหลายที่ น้ำปู๋ป้ายอง คือ ของจริง ทานไปก็ได้กลิ่นของปูแตะจมูกตลอด ไม่มีกลิ่นคาว และรสชาติกลมกล่อมกำลังดี  ป้าบอกของที่ให้น้องมีเจ้าของจองแล้วนะ แต่ป้าให้เห็นว่าชอบเลยให้ก่อน  จริงๆต้องสั่งล่วงหน้า นับว่าโชคดีมากที่ป้าอุตส่าห์แบ่งมาให้

 

น้ำมวบวิว

น้ำมวบวิว

 

อิ่มท้องเพราะจัดนำปู๋ไปแบบเต็มมาก หลับไหลไปกับอากาศที่เย็นสบายในกระท่อมน้อยริมนา แบบไม่ต้องเปิดพัดลมแม้แต่น้อย  ตื่นมาในเช้าวันใหม่รับอากาศที่แสนสดชื่นในบรรยากาศกลางสายหมอกที่ปกคลุมทั่วทั้งหมู่บ้าน เรานั่งรถไปยังตลาดเช้าซึ่งเป็นตลาดขนาดเล็ก  ป้ายองบอกว่าวันนี้มีของขายไม่มากนัก ของส่วนใหญ่ก็เหมือนกับตลาดสดทั่วไป  ตรงข้ามกับตลาด คือ ศาลเจ้าพ่อช้างงาแดง  สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองที่คนในชุมชนให้ความเคารพนับถือ อดีตท่านเป็นเจ้าเมืองที่ น้ำมวบ ผู้คนต่างร่ำลือว่ามาบนและขอพรเรื่องงาน มักจะสำเร็จกันแทบทุกราย

 

 

บ้านน้ำมวบ

บ้านน้ำมวบ

บ้านน้ำมวบ

บ้านน้ำมวบ

 

กลับมายังโฮมสเตย์ แสงแดดในยามเช้าเริ่มสาดส่องผ่านสายหมอก เป็นภาพที่สงบและอบอุ่น  นั่งจิบโอวัลตินอุ่นๆ มองวิวทุ่งนา ในบรรยากาศที่เงียบสงบ

 

น้ำมวบวิว

น้ำมวบวิว

น้ำมวบวิว

น้ำมวบวิว

น้ำมวบวิว

น้ำมวบวิว

 

อาหารเช้าฝีมือป้ายอง เสริฟมาในโตก  มีไข่เจียว ต้มหมูผักกาดดองป้าบอกว่าดองเองกับมือ รสชาติจะเปรี้ยวนิดน้ำซุปกลมกล่อม  น้ำพริกอ่องสูตรป้ายองอร่อยมาก แตกต่างจากที่เคยทานที่จะเน้นใส่หมูบด แต่ของป้าจะทำคล้ายกับน้ำพริกหนุ่มแต่เปลี่ยนเป็นพริกแดง และที่ขาดไม่ได้ น้ำพริกใส่น้ำปู๋ เราขอให้ป้าทำให้ทานอีกรอบเพราะติดใจในรสชาติ เป็นอาหารที่หน้าตาดูธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดาช่วยเจริญอาหารแบบไม่รู้ตัว

 

น้ำมวบวิว

น้ำมวบวิว

 

บ้านน้ำมวบ อีกมุมที่แสนมีเสน่ห์ของเมืองน่าน ใช้ชีวิตแบบเนิบช้า สัมผัสไออุ่นของธรรมชาติตามแบบแบบฉบับวิถีดั้งเดิม เป็นชุมชนใต้เงาของเทือกเขาหลวงพระบาง ที่รอให้ทุกคนมาเยือนด้วยรอยยิ้ม

 

น้ำมวบวิว

 

รายละเอียดเพิ่มเติม

น้ำมวบวิว ตำบล น้ำมวบ อำเภอ เวียงสา จังหวัดน่าน

ค่าบริการคนละ 300 บาท ที่พัก 1 คืน รวมอาหารเช้า ช่วงไฮซีซั่นเดือนธันวาคม-มกราคม คนละ 400 บาท

โทร  085 294 2122

บ้านน้ำมวบ ห่างจากตัวเมืองน่านโดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ผ่านเส้นทางถนนที่คดเคี้ยวพอสมควร แต่ถนนเป็นคอนกรีตจนถึงหมู่บ้าน รถทุกชนิดสามารถสัญจรได้ ไม่มีรถโดยสารไปถึงบ้านน้ำมวบโดยตรง ต้องใช้รถส่วนตัว หรือนั่งรถโดยสารมาลงที่ตัวอำเภอเวียงสาและว่าจ้างลงท้องถิ่นให้ไปส่งที่บ้านน้ำมวบได้

 

 

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง