ย่างเข้าหน้าฝนในความคิดแว่บแรกของฉันเป็นฤดูที่ชอบมากอีกฤดูหนึ่งเลยทีเดียว ฉันชอบเที่ยวธรรมชาติของป่าเขา ชอบถ่ายภาพดอกไม้ ดอกหญ้า ชอบอะไรที่ดูเขียวขจี บรรยากาศแบบนี้ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่น ครั้งหนึ่งในหน้าหนาวเคยไปเที่ยวสถานที่แห่งหนึ่ง ทุ่งแสลงหลวง รู้สึกชอบและประทับใจในแสงสวยและความเป็นธรรมชาติของที่นี่มาก ทุ่งหญ้าสะวันนาสีทองกว้างใหญ่ ป่าสนกว้างไกลแห่งทุ่งนางพญา ฉันจินตนาการไปต่างๆ นา ๆ ถ้ากลับมาเที่ยวในบรรยากาศช่วงหน้าฝนทุกอย่างเป็นสีเขียว จะสวยขนาดไหน จุดเริ่มต้นของการเดินทางเสาะแสวงหาความเขียวขจีของธรรมชาติจึงเริ่มต้นอีกครั้งที่นี่ ทุ่งแสลงหลวง
เข้าสู่ฤดูแห่งความชุ่มชื่นในช่วงเดือนมิถุนายน เรามุ่งหน้ามายังจุดหมายหลัก ณ ทุ่งแสลงหลวง หน่วยหนองแม่นา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ มาถึงประมาณ 4 โมง กว่า ไฮไลต์จุดแรกที่ต้องแวะ คือ ป้ายชื่อ ทุ่งแสลงหลวง หน้าทางเข้าอุทยาน เป็นภาพแห่งความเขียวขจีที่ได้เห็นและไม่ทำให้ฉันผิดหวังเลยแม้แต่นิดเดียว ทุ่งหญ้าพริ้วไหวกว้างไกลสุดตา หันไปทางซ้ายก็เขียว หันไปทางขวาก็เขียว สำหรับฉัน ทุ่งแสลงหลวงหน้าฝน แจ่มไม่แพ้หน้าหนาว
ความสวยงามที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้ฉันและเพื่อนตื่นเต้นและสุขใจไม่น้อย ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ความกังวลกับอะไรหลายอย่าง ถูกลืมไปในชั่วขณะเมื่อพวกเราได้มายื่นอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวจี นอกจากสุขใจที่ได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้แล้ว ยังสุขใจที่ได้บันทึกภาพประทับใจกลับมา
ยิ่งมีแสงอ่อนในยามบ่ายมาส่องกระทบทุ่งหญ้าด้วยแล้ว ฉันรู้สึกว่าภาพที่ได้เห็นมันวิเศษมาก
หญ้าเจ้าชู้ ได้ยินเพื่อนเรียกแบบนั้นขึ้นอยู่เต็มทุ่ง ในขณะที่เดินถ่ายภาพไปก็ติดขากางเกงไป แอบคันเล็กน้อย ได้ยินเสียงบ่นไปตามๆกัน แต่ยามต้องแสงอาทิตย์ หญ้าเจ้าชู้ดูน่ามองไม่น้อยเลยทีเดียว
มองเห็นบ้านพักอุทยานที่อยู่ไกลๆ ในใจก็แอบฝันไปเรื่อย อยากมีบ้านในบรรยากาศแบบนี้บ้างจัง
เกือบ 1 ชั่วโมง กว่า ที่พวกเรา เดินเล่นถ่ายภาพ ถึงเวลาที่ต้องเข้าไปเช็คอินเข้าที่พัก ซึ่งได้จองไว้ที่อุทยานในคืนนี้ เป็นบ้านหลังใหญ่นอนได้ 10 คน มี 2 ห้องนอน ราคาหลังละ 3000 บาท มีสิ่งอำนวยความสะดวก ตู้เย็น ผ้าเช็ดตัว แต่อย่างที่รู้กันบ้านพักอุทยานน้อยนักจะมีทีวี แต่อย่าลืมว่า เราหาความสุข มาอยู่กับธรรมชาติ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้วางไปชั่วขณะ
วิวตรงระเบียงที่พัก ที่พวกเราเรียกว่าเป็นวิวชั้นยอด นั่งปาร์ตี้ ทานอาหาร คุยเล่นกัน มองวิว ชิวสุดๆ ที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงมีร้านอาหารแต่เห็นว่าไม่เปิดบริการ เพราะฉะนั้นใครมาพักที่นี่เตรียมเสบียงมาเองให้พร้อมค่ะ
บรรยากาศยามเย็นยามพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า มองจากระเบียงบ้านพักอุทยาน แสงสวยแบบนี้ คืนนี้หลับฝันดีท่ามกลางสายฝน ที่ตกลงมาเบาๆ ให้พอชุ่มชื่น
รับเช้าวันใหม่ของอีกวัน พวกเราติดต่อเช่ารถกระบะจากอุทยานเพื่อไปยังจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและจุดชมทะเลหมอกในยามเช้าที่ลานดุสิตา ในหน้าหนาวฉันเจอพระอาทิตย์สาดส่องเคล้าสายหมอกลงมากระทบต้นไม้ แต่ในหน้าฝนเจอแสงอาทิตย์ได้น้อยถึงน้อยมาก แต่ถึงแม้จะไม่เจอแต่ก็ได้ความรู้สึกสดชื่นในความเขียวของต้นไม้ พร้อมสายหมอกคลอเคลียไปตามไหล่เขาเขียวจนฉันรู้สึกว่าเหมือนภาพวาดที่ใครเอาสีเขียวมาเติมแต่ง
เส้นทางสีเขียวระหว่างทาง เป็นเส้นทางที่น่าขับรถหรือนั่งรถผ่านที่สุดในเวลานี้ ปลอดรถติด ปลอดมลพิษ
ดอกกระเจียวขาวบานซ่อนตัวอยู่ในทุ่งหญ้า ถ้าต้นสูงกว่านี้ มีเยอะมาก เผลอๆ มากกว่าทุ่งดอกกระเจียวของจริงอีก
วิวเขียวสวย และต้นไม้สลับสีระหว่างทางไปทุ่งนางพญา
ทุ่งนางพญา ถือเป็นไฮไลต์ของการมาเที่ยวทุ่งแสลงหลวง ไม่ว่าคุณจะมาในฤดูไหนก็ตาม ไม่ควพลาดแวะมาชมความงามของทิวสนเรียงรายสวยงาม อยู่นับร้อยต้น สำหรับฉันเป็นรู้สึกว่าเป็นภาพศิลปะที่ธรรมชาติช่างสร้างสรรค์ได้อย่างเยี่ยมยอด
แค่ได้ยืนนิ่งหรือเดินถ่ายภาพ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ ดูจากสีหน้าของผู้ร่วมทริปคงไม่ต้องบรรยายความรู้สึกว่ามีความสุขขนาดไหน
ลูกสน และใบสนที่ร่วงหล่น อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ฉันมองว่ามันคือ เสน่ห์ ของที่นี่
สิ่งมีชีวิตทุกสิ่ง ล้วนต้องการความอยู่รอด เจ้าต้นไม้สีเขียวเล็กๆ นี้ก็เช่นกัน
ความเขียวหลากสายพันธุ์ ที่ผสมกลมกลืนกันได้อย่างลงตัว เดินเสาะหาธรรมชาติเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวเพื่อถ่ายภาพไปเรื่อยก็เพลินดี
ย้อนกลับไปยังเส้นทางเดิม ขอบคุณ ผืนป่าหน้าฝนของทุ่งแสลงหลวง ที่ชวนให้หลงไหล ถึงแม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นที่ได้อยู่ที่นี่ แต่เป็นช่วงเวลาที่มีความหมายสำหรับโดยแท้จริง ความสุขเล็กๆเริ่มต้นไม่ยากถ้าลองเปิดใจรับ
ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊ก ทุ่งแสลงหลวง
Tags : ทุ่งแสลงหลวงหน้าฝน, สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝน, สถานที่ท่องเที่ยวเพชรบูรณ์, เที่ยวทุ่งแสลงหลวงหน้าฝน, เที่ยวหน้าฝน