สัมผัสกลิ่นไอทะเล ชมวิวมุมสูง อช หมู่เกาะอ่างทอง

ในประเทศไทยมีจุดชมวิวทางทะเลมากมายหลายแห่ง แต่หากพูดถึงจุดชมวิวทางทะเลที่สวยงามที่สุดสำหรับฉันคงไม่พ้นที่นี่ จุดชมวิวเกาะวัวตาหลับ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี  หลายคนที่เคยมีโอกาสได้ขึ้นไปชมวิวบนนั้นคงคุ้นเคยในความโหดของการขึ้นไปพิชิตจุดชมวิวจุดนี้เป็นอย่างดี  แต่เมื่อขึ้นไปถึงข้างบนแล้วมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คุ้มค่ากับความเหนื่อยที่ต้องอาศัยทั้งแรงกายแรงใจขึ้นไปเพราะแอบเสียวหน่อยๆตรงจุดสุดท้าย ฉันจะพาทุกคนไปพิชิตจุดชมวิวนี้อีกครั้ง ความตั้งใจของฉันในครั้งนี้คือ จะต้องขึ้นไปให้ถึงจุดสูงสุดให้ได้

 

DEW_3265

 

เริ่มการเดินทางจากท่าเรือดอนสัก เนื่องจากคณะของฉันไปจำนวนคนเยอะจึงเช่าเหมาเรือสปีดโบ้ทส่วนตัว เพื่อเดินทางไปยังหมู่เกาะอ่างทอง  โดยเรือจะพาไปยังจุดหลักๆของหมู่เกาะอ่างทอง ได้แก่ เกาะวัวตาหลับ ทะเลใน เกาะสามเส้า และ เกาะท้ายเพลา  โดยปกติมาเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองถ้ามาจำนวนน้อยคนส่วนใหญ่แล้วจะไปเริ่มต้นที่เกาะสมุยโดยการซื้อแพคเกจทัวร์แบบ Onedaytrip  จากทัวร์ที่ให้บริการนำเที่ยวราคาคนละ 1100 บาท แต่จะเที่ยวได้ไม่ครบทุกเกาะ บ.ทัวร์จะแวะเฉพาะ เกาะวัวตาหลับ ทะเลใน เท่านั้น แต่ถ้าหากมากันหลายคนประมาณ 10- 20 คน ขึ้นไป ถ้าไม่ติดเรื่องค่าใช้จ่ายก็แนะนำเหมาสปีดโบทจะดีกว่า เพราะเราสามารถแวะได้หลายจุด ราคาเหมาะจะอยู่ที่วันละ 22000 บาท  ในกรณีค้างคืนกลับก่อนเที่ยง  บวกเพิ่มอีก 3000 บาทใช้เวลาเพียง 45 นาที ก็มาถึง เกาะวัวตาหลับ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง

รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมและเบอร์โทรต่างๆ ในการท่องเที่ยวคลิ๊ก    หมู่เกาะอ่างทอง 

 

 

วันที่เดินทางอากาศปลอดโปร่ง คลื่นลมสงบ น้ำทะเลนิ่งมาก ทำให้มองเห็นความใสของน้ำทะเลได้ชัดเจน

 

 

อช. หมู่เกาะอ่างทอง มีบ้านพักของอุทยานให้บริการรวมถึงสถานที่กางเต้นท์สามารถนำเต้นท์มาเองหรือใช้บริการเต้นท์ของอุทยานก็ได้  อุทยานมีห้องน้ำและร้านอาหารให้บริการ

 

 

บ้านพักแบบต่างๆ ทั้งแบบหลังใหญ่พักได้ 6 -8 คน  ราคาจะอยู่ที่ 1200-1400 บาท  หรือจะเป็นแบบหลังเล็กพักได้ 2-3  คน  ราคาประมาณ 500 -700 บาท บ้านพักเป็นแบบพัดลมไม่มีแอร์ ไฟฟ้าใช้ได้ตั้งแต่ หกโมงเย็น ถึง สี่ทุ่ม

 

 

หลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อย ออกมาเดินเล่นชมบรรยากาศริมชายหาดซักหน่อย  เกาะวัวตาหลับ ถือได้ว่าเป็นเกาะที่มีต้นมะพร้าวเยอะมาก  มีบรรยากาศสงบ ร่มรื่น นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน เหมาะำสำหรับมาพักผ่อนมากทีเดียว

 

 

มีมุมสำหรับเล่นวอลเล่ย์บอลชาดหาดด้วย

 

 

เรือสปีดโบ้ทของคณะเราจอดแน่นิ่ง

 

 

เรือหางยาวที่คอยรับส่งนักท่องเที่ยวจากเรือใหญ่ขึ้นฝั่ง เรือใหญ่จะจอดอยู่กลางทะเลไม่สามารถเข้าฝั่งได้เหมือนเรือสปีดโบ้ทหรือเรือหางยาวลำเล็กๆ

 

 

กิจกรรมพายคายัครอบเกาะ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตของหมู่เกาะอ่างทอง หากไปยังเกาะบริวารเกาะใดก็จะเห็นเรือคายัคถูกวางอยู่ริมฝั่งเสมอ

 

 

เดินถ่ายภาพชมบรรยากาศ สัมผัสกลิ่นไอทะเล อากาศในเวลานี้ร้อนมาก แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้บรรยากาศในการถ่ายภาพของฉันสุขน้อยลง  ร้อนแค่ไหน หรือจะต้องดำอีกเท่าไหร่ ถ้าได้เจอสภาพบรรยากาศใสๆ แบบนี้ก็ไม่หวั่น ต้องยอมดำกันไป

 

 

ประมาณ 11 โมง กว่า เตรียมเดินทางต่อไปยัง เกาะแม่เกาะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ทะเลใน ใช้เวลาเพียง 15 นาที ก็มาถึง 

 

 

มาถึงในช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่กำลังเตรียมตัวพายคายัค  สีสันของเรือคายัคตัดกันสวยงาม

 

 

เดินขึ้นบันไดซึ่งสูงเล็กน้อยเพื่อไปชม ทะเลใน ถือเป็นอีกหนึ่งจะไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเืีที่ยวหมู่เกาะอ่างทอง

 

 

ทะลใน  คือ ทะเลสาบซึ่งเกิดอยู่ในแอ่งยุบขนาดใหญ่ของภุเขาหินปูน มีรูปเป็นวงรีล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน  น้ำทะเลนิ่งเป็นสีเขียวมรกต เหมือนใครมาแต่งแต้มสีไว้

 

 

มองไปได้ซ้ายก็จะเห็นท้องทะเลสีครามอันกว้างใหญ่และบันไดทางขึ้นมายัง จุดชมวิวทะเลใน กว่าจะมาถึงข้างบนก็ทำเอาหอบเหนื่อยทีเดียว

 

 

เนื่องจากทะเลในมีทางเข้าออกของน้ำทะเลทางด้าน ทิศตะวันออกทำให้ระดับน้ำของทะเลในเท่ากับระดับน้ำทะเล ภายนอก

 

 

เดินลงมาข้างล่าง พักกินน้ำแตงโมปั่น นั่งชมบรรยากาศริมหาดให้หายเหนื่อย

 

DSC_3910

 

หลังจากนั้นก็นั่งเรือต่อไปยัง เกาะสามเส้า  เห็นน้ำใสมาแต่ไกล

 

 

เกาะสามเส้า อยู่ตรงข้ามกับเกาะแม่เกาะ มีแหล่งประการังค่อนข้างสมบูรณ์ จึงเป็นอีกจุดที่นิยมมาดำน้ำชมปะการัง แต่ตามที่บอกคือ ถ้าซื้อแพคเกจมากับบริษัททัวร์จะไม่แวะให้ ต้องเหมาเรือส่วนตัวมาเที่ยวเองเท่านั้น คณะเรารับประทานข้าวกลางวันแบบกล่องกันที่เกาะนี้

 

 

ลักษณะที่พิเศษของเกาะนี้ คือ มีสะพานหินธรรมชาติที่ยื่นโค้งออกไปในทะเลคล้ายกับเกาะทะลุ ของจังหวัดประจวบ ฯ

 

 

บรรยากาศรอบชายหาด  เกาะสามเส้า แม้ชื่ออาจจะดูเศร้าๆ แต่บรรยากาศกลับไม่เศร้า  ณ วินาทีสุขสดใสดีแื้ท้

 

 

นอกจากดำน้ำชมปะการังแล้ว เกาะนี้เป็นอีกเกาะที่เหมาะกับการพายคายัครอบเกาะมากอีกเกาะหนึ่ง

 

 

เนื่องจากมีเส้นทางให้เราลัดเลาะได้อย่างสนุกสนาน พายไปเรื่อยๆ รอบเกาะแล้วมาวนลอดซุ้มประตูหิน

 

 

จากเกาะสามเส้า บ่าย 3 โมงกว่า ก็กลับมายัง เกาะวัวตาหลับ  เพื่อเตรียมตัวไปยังจุดไฮไลต์ของทริป คือ จุดชมวิวเกาะวัวตาหลับ ระยะทาง 500 เมตร ดูเหมือนจะเป็นระยะทางสั้นๆ แต่ตลอด 500 เมตร เราต้องขึ้นผ่านเส้นทางแบบนี้โดยตลอดเส้นทางเป็นก้อนหินและชันมากไม่มีทางราบเลยแม้แต่น้อยจะมีเชือกให้จับไปตลอดทาง  ฉันเรียกจุดชมวิวนี้ขำๆ ว่า เกาะวัวตาเหลือก เพราะกว่าจะขึ้นไปถึงข้างบนได้แทบแย่ เคยเดินป่าไกลๆเกือบ 10 กิโล ยังไม่เหนื่อยและแอบถอดใจเท่าขึ้นจุดชมวิวเกาะวัวตาหลับ ฉันใ้ช้เวลาเดินขึ้นไปถึงข้างบนเกือบ 45 นาที

 

 

เดินมาได้ 50 เมตร ก็มาถึง จุดชมวิว จุดแรก มองเห็นชายหาดสีขาวที่อยู่ด้านล่าง

 

 

จากนั้นเดินปีนหินจับเชือกไปเรื่อยๆ ระยะทาง 150 เมตร  ก็มาถึงจุดชมวิวจุดที่ 2  เริ่มเห็นเป็นเกาะแก่งมากขึ้น ฉันว่าการที่มีจุดชมวิวให้เราแวะระหว่างทางก็ช่วยให้เราเหนื่อยน้อยลง

 

 

ฉันเดินผ่านจุดชมวิวจุดที่ 3 ไป เนื่องจากดูเวลาเกือบ 4 โมง  เกรงจะขึ้นไปจุดชมวิวสูงสุดไม่ทันไม่อยากพลาดอีก จากจุดชมวิวที่ 3 จนถึง จุดที่ 4 ซึ่งเป็นจุดชมวิวสูงสุด เป็นระยะทางที่ลุ้นระทึกพอสมควรเพราะเต็มไปด้วยหินแหลม  ต้องขึ้นอย่างระมัดระวัง และที่สำคัญที่สุด หันมองไปข้างหลังมันเสียวมาก

 

 

ฉันกลั้นใจหันหลังพยามปีนขึ้นไปให้ถึงข้างบนอย่างรวดเร็วที่สุด จุดหมายปลายทางอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม แต่เมื่อแอบเห็นวิวด้านข้างก็อดไม่ได้ที่จะยกกล้องถ่ายรูปหันไปเก็บภาพนั้นกลับมา

 

 

เพียงไม่กี่อึดใจในที่สุดภารกิจหลักในทริปนี้ก็สำเร็จซักที ฉันร้องตะโกนบอกเพื่อนร่วมทริปด้วยความดีใจ เราขึ้นมาได้แล้ว ในที่สุดก็ขึ้นมาถึงข้างบนซักที  มองลงไปข้างล่างเห็นเพื่อนร่วมทริปค่อยๆ ทยอยตามขึ้นมาทีละคนสองคน

 

DEW_3286

 

หมู่เกาะน้อยใหญ่เรียงราย เป็นภาพแห่งความมหัศจรรย์ ที่ฉันเคยมีโอกาสเห็นมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนั้นมองอยู่ในมุมที่ต่ำกว่า ใจก็คิดว่ามันสวยสุดที่สุดแล้ว แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นการมองหมู่เกาะอ่างทอง ในจุดสูงสุดช่างกว้างไกลและสวยยิ่งกว่า

 

DEW_3294

 

เรือหางยาววิ่งผ่านไปมาเกิดเป็นริ้วน้ำลำแล้วลำเล่า

 

DEW_3276

 

ปิดท้ายกันด้วยภาพนี้กับความประทับใจที่ฉันได้กลับมายืนมองวิวนี้อีกครั้ง  เป็นการมองด้วยความรู้สึกที่วิเศษ มีความสุขและภูมิใจว่าในที่สุดเราก็ทำตามความตั้งใจที่เก็บไว้มานานได้สำเร็จแล้ว แล้วคุณอยากทำตามฝันมายืนมองวิวสวยๆ ในมุมที่ไม่เหมือนใครบ้างมั้ยค่ะ

 

 

ทริปนี้เดินทางวันที่ 22-23  มี ค 56  ค้างหมู่เกาะอ่างทอง 1 คืน

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง