เส้นทางเที่ยวม่อนแจ่ม 2 วัน 1 คืน ชมทุ่งดอกไม้ สวนส้ม คาเฟ่ ครบจบ

ม่อนแจ่ม ดอยยอดฮิตตลอดกาลแห่งเชียงใหม่ ยิ่งช่วงปลายฝนไปจนถึงฤดูหนาว ยิ่งคึกคัก ถึงแม้จะมีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป ทั้งที่พักที่มี  เป็นที่เที่ยวใกล้เมืองเชียงใหม่ ที่ยังคงเลือกไปตลอด เพราะมีอะไรใหม่ๆให้เก็บภาพได้เสมอ ทั้ง สวนดอกไม้มุมมองภูเขาและสายหมอก เพิ่มเติมคือ สวนส้ม แถมยังมีคาเฟ่สวยให้แวะตลอดเส้นทาง  แจกเส้นทางเที่ยวม่อนแจ่ม 2 วัน 1  คืน แวะเที่ยว พัก ให้เต็มอิ่มไปเลย

 

 

วันแรก

สวนของฉัน

สวนของฉัน My garden สวนส้มม่อนแจ่ม ตั้งอยู่ในภายในบ้านแม่ขิ ใกล้กับทุ่งดอกเก๊กฮวยแม่ขิ สวนส้มยอดดอยและสวนป้างฮวา เป็นสวนส้มที่พื้นที่ค่อนข้างกว้าง ปลูกลดหลั่นลงไปตามเนินเขา มีการจัดมุมพรอพถ่ายภาพน่ารักไว้หลายมุม 

 

 

ค่าเข้าชมสวนคนละ 50 บาท มีพรอพให้ยืมถ่ายรูป ทั้งหมวก ร่มใส ตระกร้าสะพายหลัง รองเท้าบูทยาง 

 

 

ต้นส้มปลูกลดหลั่นไปตามไหล่เขา สามารถเดินถ่ายภาพได้ทุกมุม  แต่ละจุดยังมีการจัดทำซุ้มสำหรับถ่ายภาพ ทั้งซุ้มทางเดิน ซุ้มกระโจม ที่นั่งไม่ไผ้ 

 

 

สวนดอกไม้ป้างฮวา

อีกหนึ่งสวนดอกไม้และสวนส้มบนดอยม่อนแจ่ม สวนดอกไม้ป้างฮวา ในเวลานี้ดอกมากาเร็ตสีม่วง กำลังบานสะพรั่งท้าลมหนาว กับวิวสุดปังมองเห็นวิวภูเขารอบทิศ นอกจากสวนดอกไม้ยังมีสวนส้ม ที่มีทางเดินไม้ไผ้รอบสวน มาที่เดี่ยวได้ถ่ายภาพทั้งทุ่งดอกไม้และสวนส้มด้วย พิกัดตั้งอยู่ในโซนบ้านแม่ขิ ใกลักับสวนส้มยอดดอย และ my garden

 

 

ค่าเข้าชมสวน คนละ 50 บาท ด้านหน้าคือ สวนดอกมากาเร็ตสีม่วง ที่กำลังบานสะพรั่งดอกไม้อิ่มฟูสวยงามมาก รอบสวนคือ วิวของภูเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อน ถ่ายภาพดอกไม้ก็จะได้วิวของภูเขาเป็นฉากหลังด้วย 

 

 

ทางสวนจัดมุมถ่ายภาพตามจุดต่างๆ ไว้หลายจุด ทั้ง กระท่อม มุมใต้ต้นดอกซากุระจำลองหอชมวิว ทางเดินไม้ไผ่ ซุ้มผ้าสีขาว 

 

 

นอกจากนี้ยังมีดอกไม้เมืองหนาว ทั้งดอกเสี้ยนฝรั่ง และดอกไม้สีม่วง ให้ถ่ายภาพด้วย 

 

 

เดินเข้าไปข้างใน คิอ ทางเดินไม้ไผ่ ที่ขนาบข้างด้วยสวนส้ม โดยทางเดินไม้ไผ่แบ่งออกเป็น 3 ช่องทางเดิน 

 

 

ระหว่างทางสามารถลงไปเดินเล่นยังสวนส้ม และถ่ายภาพกับต้นส้มได้ ส้มของสวนนี้ยังมีสีเขียวอยู่เยอะค่ะ ยังไม่สุกเป็นสีเหลืองมาก  สวนดอกไม้ปางฮวา ม่อนแจ่ม เป็นอีกหนึ่งส่วนฮอตแห่งม่อนแจ่ม ที่สายชอบถ่ายดอกไม้ต้องแวะมาค่ะ ดอกไม้สวยมาก 

 

 

สวนส้มยอดดอย

นอกจากสวนดอกไม้แล้ว ม่อนแจ่มยังมีสวนส้มที่ฮอตไม่แพ้กัน ซึ่งสวนส้มม่อนแจ่มมีประมาณ 3 สวน แต่ที่กำลังออกผลสุกเต็มที่สีส้มสวยงามในตอนนี้ ต้องมาที่ สวนส้มยอดดอย รับรองว่าไม่ผิดหวังกับการได้ภาพคู่กับผลส้มที่ดกเต็มต้นแน่นอน

 

 

สวนส้มยอดดอย ตั้งอยู่ในบ้านแม่ขิ ใกล้สวนส้ม my garden สวนป้างฮวา และทุ่งดอกเก๊กฮวยแม่ขิฟาร์มสเตย์ เสียค่าเข้าชมสวนคนละ 50 มีพรอพทั้งร่ม หมวก รวมถึงตระกร้าสำหรับให้เก็บส้มแล้วกลับมาชั่งกิโลข้างนอก

 

 

บริเวณทางเข้าก็จะตื่นเต้นกับความดกของส้มแล้วค่ะ ตรงจุดนี้มีป้ายเขียนว่า ว่าสำหรับถ่ายรูป ห้ามเก็บ ถ้าจะเก็บส้มใส่ตระกร้าให้เข้าไปข้างใน จะมีจุดเก็บส้ม สวนนี้แบ่งออกเป็นโซนชัดเจนดี

 

 

ภายในสวนมีการจัดทำซุ้มไม้เป็นรูปโค้งที่มีต้นส้มโน้มกิ่งเข้ามาดูสวยงาม กลายเป็นประตูผลส้มไปในตัว นอกจากนี้ภายในสวนยังมีการจัดพรอพที่นั่ง ตามจุดต่างๆ ให้ได้นั่งพักผ่อนใต้ร่มเงาต้นส้ม และถ่ายภาพด้วย ส้มสวนนี้ดกเต็มต้นจริงๆ ถ่ายตรงไหนก็เจอแต่ผลส้มเต็มทุกต้น

 

 

เดินไปจนสุดทางจะเจอจุดชมวิว มีที่นั่งเรียบร้อย มองเห็นวิวภูเขาได้จากตรงนี้ด้วย รวมถึงลูกส้มที่ตัดกับท้องฟ้าสมชื่อ สวนส้มยอดดอย

 

 

เดินชมสวนส้ม ถ่ายภาพกันจนอิ่มแล้ว มานั่งพักตรงร้านขายเครื่องดื่มและขนมได้ค่ะ

 

 

บ้านภูหมอก

บ้านภูหมอก ม่อนแจ่ม ที่พักสุดว้าว มองเห็นวิวของทะเลหมอกได้แบบพาโนรามา พิกัดตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของม่อนแจ่ม มีทัศนียภาพที่สวยงาม สามารถเห็นภูเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อนดุจภาพวาด ชมได้ทั้งบรรยากาศของพระอาทิตย์ตกในยามเย็น และพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมไปกับทะเลหมอกสุดอลังการ ที่สามารถมองเห็นได้จากหน้าห้องพัก แถมยังมีทั้งร้านอาหารและคาเฟ่ให้บริการแบบครบครัน

 

 

บ้านภูหมอก ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงของม่อนแจ่ม ติดกับยิ่งยงสวนดอกไม้ สำหรับเส้นทางขึ้นไปยังบ้านภูหมอก ค่อนข้างแคบและชันรถสวนกันไม่ได้ แต่รถทุกชนิดขึ้นได้ทั้งหมด แต่ต้องขึ้นไปแบบใจเย็นนิดนึงค่ะ เพราะทางชันมากขึ้นแบบยาวๆประมาณ 700 เมตร ยิ่งช่วง 200 เมตร สุดท้ายก่อนถึงบ้านพักทั้งชันและหักศอก แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ขับรถขึ้นเขาแบบชำนาญนักอย่างเรา ก็ใจกล้าขับขึ้นไปได้แต่ถึงกับต้องไหว้พระ ผ่านทางขึ้นไปบ้านภูหมอกแล้ว เขาไหนก็ไม่กลัวแล้วค่ะ แต่ถ้าใครไม่มั่นใจจอดรถข้างล่างตรงลานจอดรถ และโทรแจ้งทางที่พักให้ส่งคนมาขับรถขึ้นไปให้ได้

 

 

ที่พักของบ้านภูหมอก แบ่งออกเป็น 4 โซน คือ  โซน A เป็นบ้านพักวิวทะเลหมอกตั้งอยู่บนจุดสูงสุด มีทั้งหมด 4 หลัง  โซน B เป็นบ้านพักวิวฝั่งหมู่บ้าน มีทั้งหมด 4 หลัง โซน C เป็นบ้านพักวิวฝั่งที่พักและภูเขา มีทั้งหมด 6 หลัง  โซนเต็นท์กระโจมวิวฝั่งหมู่บ้าน มีทั้งหมด 10 หลัง ซึ่งราคาจะแตกต่างกัน

 

 

เราพักโซน A  ซึ่งโซนนี้ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ตัวบ้านเป็นบ้านไม้ทรงสามเหลี่ยมดีไซน์เก๋ บ้านแต่ละหลังมองเห็นวิวไม่เหมือนกัน ห้อง A1 A3 มองเห็นวิวที่พักในม่อนแจ่มที่ตั้งเรียงรายกันบนเนินเขา ส่วนห้องที่มองเห็นภูเขาและทะเลหมอกแบบเต็มๆ คือ ห้อง A4 และ A2  เราเลือกห้อง A4 ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ริมสุดและสูงสุด มองเห็นวิวของภูเขาและทะเลหมอกได้อย่างชัดเจน ราคาห้องคืนละ 2590 บาท รวมอาหารเช้า

 

 

ภายในบ้าน แบ่งเป็นพื้นที่ห้องนอน ห้องค่อนข้างแคบ มีแค่เตียงนอนชั้นวางของและพัดลม  แต่อากาศเย็นสบายพัดลมแทบไม่ต้องเปิด หน้าต่างเป็นกระจกใสสามารถมองเห็นวิวภูเขาได้อย่างสวยงาม ส่วนด้านนอก คือ พื้นที่ของระเบียงที่กว้างขวาง และห้องน้ำในตัวซึ่งอยู่ด้านนอก

 

 

ภายในที่พักมีส่วนของร้านอาหารและคาเฟ่ สามารถสั่งอาหารเครื่องดื่มมาทานได้ จะนั่งทานที่ร้านหรือสั่งมาทานที่บ้านพักก็ได้ เมนูอาหารมีไม่เยอะเน้นเป็นอาหารจานเดียว และกับข้าว รวมทั้งหมูกระทะสำหรับมื้อเย็น  

 

 

สั่งยำปลากระป๋องและข้าวไข่เจียวมาทาน เมนูง่ายๆ แต่ได้นั่งทานในวิวแบบนี้ อาหารธรรมดาเปลี่ยนเป็นอาหารมื้อพิเศษได้เหมือนกัน  สำหรับเราบางครั้งอาหารจะน่าทานหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่สถานที่ด้วยค่ะ ทานไข่เจียวหรือมาม่าที่บ้านอาจจะรู้สึกเฉยๆ แต่ถ้าได้ทานบนดอยสูง คือ สุดยอด 

 

 

บรรยากาศยามเย็นจากหน้าห้องพัก นั่งมองวิวและแสงสวยยามเย็น วิวอีกฝั่งด้านหน้าคือ ทุ่งดอกเก๊กฮวยกลางสายหมอก ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน สามารถเข้าไปถ่ายภาพได้ค่าเข้าชมคนละ 40 บาท แต่ถ้าพ้นช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาวจนถึงหนาว ไม่แน่ใจว่าสวนตรงนี้จะกลายเป็นสวนอะไร น่าจะเป็นพื้นที่โล่ง 

 

 

มาถึงช่วงเวลาที่เฝ้ารอคอย ตื่นแต่เช้ามาชมทะเลหมอกจากหน้าห้องพัก เป็นความอลังการของทะเลหมอกที่แทรกตัวตามทิวเขาทอดยาว มองเห็นแบบพาโนรามาคลอเคล้าไปแสงอาทิตย์ในยามเช้า เป็นภาพที่มองแล้วฟินมาก มองไปทางไหนก็สวย 

 

 

ทางฝั่งขวามองเห็นทุ่งดอกเก็กฮวย และที่พักกระโจมเต้นท์ ชื่อว่า ม่อนทิพย์  วิวดีเลยทีเดียว  มาครั้งหน้าอาจลองมาพักที่นี่บ้าง

 

 

จากนั้นเราเดินไปถ่ายภาพกับสวนดอกเก๊กฮวยกลางสายหมอก ทุ่งดอกเก๊กฮวยเหลืองอร่าม ได้วิวทะเลหมอกสุดปังเป็นฉากหลังในยามเช้า ส่วนช่วงเวลาอื่นจะมองเห็นวิวของภูเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อน 

 

 

หลังจากพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ยังมีทะเลหมอกให้ชม แต่ท้องฟ้าจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าแทน วิวตรงนี้ คือพื้นที่รอบที่พัก มีลานชมวิวข้างบนขนาบข้างด้วยก้อนหินรูปร่างแปลกตา กลายเป็นซิกเนอเจอร์ของบ้านภูหมอกอีกหนึ่งจุด 

 

 

เวลา 9 โมง กลับมายังบ้านพัก สายหมอกยังคงมีให้ชม เป็นที่พักที่หมอกอลังการสมชื่นบ้านภูหมอก และเป็นที่พักในม่อนแจ่มที่วิวดีที่สุด ตั้งแต่เคยพักมาหลายแห่ง วิวโล่งเห็นภูเขาแบบไม่มีที่พักที่แน่นๆมากวนสายตา  ถ้าใครอยากเห็นทะเลหมอกแบบนี้ ต้องมาพักที่บ้านภูหมอก รับรองไม่ผิดหวัง  สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เช็คราคาได้ทางเพจของที่พัก บ้านภูหมอก baanphumork

 

 

 

วันที่สอง

ยิ่งยงสวนดอกไม้

ยิ่งยงสวนดอกไม้ ตั้งอยู่ใกล้บ้านภูหมอก สวนดอกไม้บนเนินเขาสูง ซึ่งน่าจะเป็นเนินเขาที่สูงสุดในม่อนแจ่ม ทำให้สามารถมองเห็นวิวของม่อนแจ่มได้ในมุมสูงได้อย่างสวยงาม เหมือนกำลังเดินอยู่เหนือภูเขาและท้องฟ้า มาอัพเดทภาพล่าสุดซึ่งช่วงนี้ดอกไม้ซึ่งเป็นดอกมากาเร็ตเริ่มโรยราไปพอสมควร กำลังรอแปลงใหม่ที่กำลังปลูกเพื่อให้ดอกไม้กลับมาสวยงามฟูแน่นอีกครั้งในช่วงเดือนธันวาคม  

 

 

ภายในสวนมีทางเดินไม้ไผ่รอบสวน ช่วงนี้ดอกไม้เริ่มโรยไปเยอะค่ะ ต้องหามุมถ่ายภาพกันหน่อย แต่ทราบมาว่ากำลังปลูกต้นไม้ชุดใหม่ ซึ่งจะแบ่งบานเต็มที่ในช่วง ธค-มค ค่าบริการชมสวยคนละ 40 บาท 

 

 

ดอกไม้อยู่ในระดับที่สูงเท่าภูเขาเลย และในช่วงช่วงเช้า หรือฝนตกใหม่ๆ จะได้เห็นสายหมอกลอยผ่านไปมาตลอด

 

 

เดินเข้าไปด้านใน ดอกไม้จะแน่นกว่าข้างหน้า มุมตรงนี้สวยมาก เห็นดอกไม้และวิวภูเขาและบ้านเรือนของชาวบ้านเป็นฉากหลัง 

 

 

สำหรับใครอยากมาเจอกับดอกไม้สวยแบบฟูแน่น ให้มาเที่ยวช่วงเดือนธันวาคมนะคะ เพราะตอนนี้ทางสวนกำลังลงดอกไม้ชุดใหม่ค่ะ 

 

 

ม่อนอิงดาว คาเฟ่

ม่อนอิงดาวคาเฟ่ ม่อนแจ่มสีขาวสุดมินิมอลตกแต่งน่ารัก มองเห็นวิวภูเขาสุดอลังการ ร้านเป็นส่วนหนึ่งของม่อนอิงดาว ที่พักยอดฮิตตั้งอยู่ตรงข้ามกัน วิวของร้านสามารถมองเห็นภูเขาได้อย่างสวยงาม มีมุมถ่ายรูปหลากหลาย เมนูเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็น ที่เหมาะสำหรับแวะมาจิบเครื่องดื่ม นั่งมองวิวแบบสบายตา ในอากาศที่เปิดโล่งเย็นสบาย

 

 

ร้านอยู่ตรงข้ามกับม่อนอิงดาว ตั้งอยู่ริมเนินเขา ตัวร้านไม่ใหญ่มาก เป็นทรงสามเหลี่ยมหลังคาจั่วแบบโมเดิร์น ตกแต่งน่ารักโทนสีขาว หน้าต่างเป็นกระจกรอบร้าน มีระเบียงยื่นออกไปจากตัวร้าน สามารถนั่งชมวิวภูเขาได้อย่างสวยงาม หน้าร้านมีเก้าอี้ในสไตล์แคมปิ้งวางอยู่ข้างหน้า เป็นมุมถ่ายรูปที่คูลๆอีกมุมหนึ่ง

 

 

ภายในร้านเป็นแบบโอเพ่นแอร์ทั้งหมด มีที่นั่งทั้งโต๊ะเก้าอี้ไม้ และสีขาว  และบริเวณชมวิวเป็นที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์ ที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาสีขียวที่อยู่เบื้องหน้าแบบกว้างไกล อากาศบริเวณนี้ค่อนข้างเย็นนั่งชิลไปได้นาน เพราะตั้งอยู่บนดอยม่อนแจ่มที่ค่อนข้างสูง ขับรถเลียบเขาในทางแคบๆวนไปมา ซึ่งจริงๆแล้วตั้งใจมาสวนดอยแม่ขิ มาเจอร้านนี้ที่อยู่ใสนระหว่างทางโดยบังเอิญ สะดุดตากับการการตกแต่งร้านถึงกับต้องแวะ

 

 

เมนูมีไม่มาก เน้นเฉพาะเครื่องดื่มและขนม อย่างครัวซองท์ สั่งโกโก้กับครัวซองท์อัลมอนด์สอดไส้สตรอเบอรี่รสชาติดี ครัวซองท์กรอบนอกนุ่มในอร่อย เป็นคาเฟ่ที่ถึงแม้จะอยู่ไกลใช้เลาเดินทางนานสักหน่อย แต่เมื่อมาถึงแล้วก็คุ้มค่ากับบรรยากาศและวิวที่มองเห็น สำหรับม่อนอิงดาว คาเฟ่ ร้านกาแฟหลักสิบ วิวหลักล้าน

 

 

ม่อนอิงดาว คาเฟ่

พิกัด : อ.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

ตั้งอยู่ : ฝั่งตรงข้ามกับที่พักม่อนอิงดาว

เวลา : 8.00-17.00 น. (เปิดทุกวัน)

เพจ MON ING DAO CAFÉ

 

บรรยากาศ

สายชอบความมินิมอล ญี่ปุ่น เกาหลี ต้องมาร้านนี้ “ Banyakat บรรยากาศ ” ม่อนแจ่ม คาเฟ่มินิมอลได้ฟีลญี่ปุ่นนิดๆ ออกแบบด้วยดีไซน์เรียบง่าย แฝงไปด้วยความอบอุ่นในทุกพื้นที่ ร้านคลุมโทนสีครีมทั้งหลัง ตัดกับกรอบหน้าต่างและประตูไม้ มีพื้นที่เอาท์ดอร์ ทั้งโต๊ะเก้าอี้ดีไซน์สวย ในสวนแบบญี่ปุ่น ส่วนเมนูทั้ง Specialty Coffee ที่นำเมล็ดกาแฟดีกรีแชมป์ประเทศไทย ทานพร้อมกับเมนูเค้ก ผลิตด้วยวัตถุดิบคุณภาพจากออกไกโด ทั้ง  ฮอกไกโดช็อกโกแลตเค้ก ฮอกไกโดนิวยอร์กชีสเค้ก ฮอกไกโดแรร์ชีสเค้ก และอีกมากมายหลายเมนู

 

 

ร้านตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นไปยังม่อนแจ่ม ถ้าเราไปที่พักบนม่อนแจ่ม ต้องผ่านร้านนี้ หน้าร้านมีที่จอดรถประมาณ 5-6 คัน เพราะฉะนั้นหากวันไหนที่จอดรถเต็มสามารถหาที่จอดรถในบริเวณใกล้เคียงได้เลย เข้าจะเจอกับป้ายชื่อร้าน และซุ้มทางเดินกรอบสี่เหลี่ยมสีดำ

 

 

ตัวร้านมีพื้นที่ไม่ใหญ่มาก เป็นบ้านทรงเอเฟรมสีครีมน่ารัก มี บันไดทางขึ้นที่อยู่ด้านข้างขนาบข้างด้วยต้นไม้ในสไตล์ญี่ปุ่น เป็นมุมซิกเนเจอร์ที่ทุกคนต้องมาเช็คอินถ่ายภาพ  นอกจากนี้ยังมุมเก้าอี้นั่งแบบญี่ปุ่น หน้าร้าน ที่ต้องคอยบรรยากาศข้างหลังให้ดี อาศัยจังหวะคนน้อยรีบวิ่งไปนั่งถ่ายภาพทันที เพราะมีลูกค้าเดินเข้าออกตลอดสลับหมุนเวียนตลอด   

 

 

ภายในร้านบรรยากาศตกแต่งเรียบๆ แต่มองดูแล้วสวยเน้นใช้แสงจากธรรมชาติ มีที่นั่งประมาณ 6 โต๊ะ ส่วนใหญเป็นมุมติดหน้าต่างกระจกแบบเปิดโล่ง

 

 

ส่วนโซนที่นั่งข้างนอกมีหลายมุม ทั้งมุมที่นั่งติดร้าน และบริเวณลานสนามในสวนขนาดย่อม

 

 

เมนูเน้นเครื่องดื่มและของหวาน  ส่วนใหญ่เป็นเค้กมีประมาณ 5 แบบ  ผลิตด้วยวัตถุดิบคุณภาพของฮอกไกโด นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น100% ทั้ง ชาเขียว ช็อกโกแลตเค้ก ใช้เนยและผลิตภัณฑ์นมแท้ จากนิวซีแลนด์ แค่อ่านวัตถุดิบที่ใช้ก็อยากลองแล้ว สั่งเครื่องดื่ม คือ โกโก้ และ ฮอกไกโดช็อกโกแลตเค้ก โกโก้เข้มข้นหวานกำลังดี ส่วนเค้กเนื้อเค้กแน่น อร่อยเข้มด้วยรสชาติช็อกโกแลตแท้ คนชอบช๊อคโกเลตทานแล้วฟินสุดๆ  

 

 

บรรยากาศ ม่อนแจ่ม ร้านน่ารักมินิมอล เมนูเครื่องดื่มเค้กรสชาติมีความพรีเมี่ยม ชอบเค้กร้านนี้มาก ที่นี่ยังให้บริการในส่วนของห้องพักด้วย ใครสนใจสอบถามไปได้ที่เพจของร้าน: banyakat

 

Banyakat บรรยากาศ ม่อนแจ่ม

ที่อยู่ : แม่แรม ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

เปิดให้บริการ : ทุกวัน 10.00 – 17.00 น.

โทร : 066 115 2124

 

WTF Coffee Camp

ปิดท้ายกันที่คาเฟ่สุดท้าย  WTF Coffee Camp หรือ Waterfall Coffee Camp ร้านกาแฟริมน้ำตกที่ตกแต่งในสไตล์แคมปปิ้ง ทั้งโต๊ะเก้าอี้ใต้ร่มไฟล์ชีท ตามมุมต่างๆ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งแคมป์ปิ้งกลางป่าเขา ชิลดีแท้ ร้านตั้งอยู่ภายในกังสดาลรีสอร์ท เลยทางเข้าม่อนแจ่มมาไม่ไกลมาก ใครผ่านมาเที่ยวม่อนแจ่มต้องมาถ่ายรูป นั่งจิบเครื่องดื่ม ฟังเสียงน้ำตก ให้จิตใจผ่อนคลาย ร่มรื่นเย็นสบายจากธรรมชาติสีเขียวที่รายล้อม 

 

 

ร้านตั้งอยู่ใน กังสดาล รีสอร์ท ตำบลโป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีที่จอดรถสะดวกสบาย สามารถจอดรถไว้ด้านบนรีสอร์ทแจ้งพนักงานว่าไปคาเฟ่ จากนั้นจะมีบริการรถกอล์ฟมารับลงไปยังคาเฟ่ซึ่งตั้งอยู่ด้านล่างริมน้ำตก มาถึงหน้าร้านเดินลงไปนิดเดียว สั่งเครื่องดื่มและขนม รอรับหน้าเคาน์เตอร์ เครื่องดื่มสั่งเมนูเสารสโซดาผสมกับน้ำส้ม คือ รสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี ดื่มแล้วสดชื่น ทานคู่กับสโคนอร่อยมากเนื้อขนมไม่แข็งจนเกินไปหอมเนย ทีเด็ดคือ ซอสจิ้มเป็นซอสไข่เค็มทานคู่กันได้ความหอมมันของไข่เค็มเบาๆ  

 

 

มุมที่นั่งภายในร้านกระจายไปในแต่ละจุด ทั้งที่นั่งริมน้ำตก และที่นั่งที่อยู่บนเนินหญ้าซึ่งมองลงมาก็เห็นวิวของน้ำตกเช่นกัน ทุกจุดใช้โต๊ะ เก้าอี้ แบบแคมป์ปิ้งทั้งหมด ให้ความรู้สึกเหมือนมาตั้งแคมป์นั่งชิลกลางหุบเขา ฟังเสียงสายน้ำ รับความเย็นสบาย

 

 

มาถึงมุมไฮไลท์ที่ทุกคนต้องมาเก็บภาพ กับมุมนี้เก้าอี้นั่งสองตัวบนเนินทรายติดน้ำตกสูง จะนั่งบนเก้าอี้หรือไปนั่งโพสต์ท่าสวยๆ บนก้อนหินก็ได้ค่ะ

 

 

WTF Coffee Camp  อีกหนึ่งจุดเช็คอินเที่ยว ในพื้นที่ใกล้ม่อนแจ่ม ที่แสนผ่อนคลายไปกับบรรยากาศเครื่องดื่มและขนมรสชาติดี ได้ใจไปอีกหนึ่งร้าน

 

WTF Coffee Camp  

ที่อยู่: ตำบล โป่งแยง อำเภอแม่ริม เชียงใหม่ ประเทศไทย 50180 เชียงใหม่ (ภายในกังสดานรีสอร์ท)

เปิดให้บริการ : จันทร์-ศุกร์ 09:00 น. -18:00 น. เสาร์-อาทิตย์ 07:00 น. -18:00 น.

 

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง