หาดใหญ่ สงขลา  2 วัน 1 คืน  10 พิกัด กิน เที่ยว เด็ด

หาดใหญ่ เมืองสงขลา อีกหนึ่งโซนน่าเที่ยวของภาคใต้ เริ่มจากหาดใหญ่ซึ่งเป็นเมืองศูนย์การค้าของสงขลาที่คึกคัก มากไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร มากมาย มาหาดใหญ่สะดวกครบไปทุกอย่าง แต่ถ้าเข้ามาตัวเมืองสงขลา จะพบกับอีกบรรยากาศ ที่มีความสงบไม่วุ่นวาย มีความคลาสสิค ด้วยสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแห่งการเยี่ยมชม อีกทั้งยังมีหาดสมิหลา สถานที่อันมีชื่อเสียง กับรูปปั้นนางเงือกที่อยู่กับสงขลามานาน  มาถึงหาดใหญ่ สงขลา แล้ว มีเวลาแค่ 2 วัน 1 คืน  พลาดไม่ได้เลยกับ  10 พิกัด กิน เที่ยว ที่จัดว่าเด็ด

 

เที่ยวหาดใหญ่ สงขลา

 

วันแรก

 

10.00 น. เมื่องเก่าสงขลา

เราเดินทางโดยเครื่องบินมาถึงสนามบินหาดใหญ่แต่เช้า ประมาณ 9 โมง กว่า เช่ารถล่วงหน้าจากบริษัทเช่ารถในพื้นที่ เพื่อขบเที่ยวเองตลอด 2  วัน โดยบริษัทมาส่งรถให้ที่สนามบิน เราใช้บริการของ บ. เซาเทิรน์คาร์เรนท์ บริการดี รถโอเค โทร 064 162 4645  เว็บไซต์ https://www.southerncarrent.com/โดยติดต่อเช่าไว้ล่วงหน้า  เริ่มเที่ยวกันที่  เมืองเก่าสงขลา ย่านเมืองเก่าสงขลา ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง มีถนนสายสำคัญน่าเดินเที่ยว 3 สาย คือ ถนนนครนอก ถนนนครใน และ ถนนนางงาม ย่านการค้าที่สำคัญในอดีตของเมืองสงขลา เป็นถนนที่ประกอบไปด้วยอาคารและสถาปัตยกรรมที่งดงามที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้  ตั้งเรียงรายต่อเนื่องกันไปตามถนน แทรกตัวไปพร้อมกับธุรกิจสมัยใหม่ ทั้งร้านอาหารดั้งเดิม ผสมกับร้านอาหารฟิวชั่น  แถมมีการเพิ่มสีสันด้วยภาพวาดสตรีทอาร์ท สุดน่ารักตามผนังอาคารบ้านเรือนต่างๆ ที่สะท้อนเรื่องราววิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนสงขลา ทำให้การเดินเที่ยวชมย่านเมืองเก่าสงขลาไม่ได้เพียงแต่จะได้ชมความงามของตึกโบราณเหล่านี้ แต่ยังได้สนุกสนานไปกับการถ่ายภาพโพสต์ท่ากับภาพวาดต่างๆด้วย

 

 

ในอดีตตัวเมืองสงขลาตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของทะเลสาบ เรียกว่า “เมืองสงขลา ฝั่งแหลมสน” จนกระทั่งขยายมาทางฝั่งทิศตะวันออกบริเวณตำบลบ่อยาง เรียกกันว่า “เมืองสงขลาฝั่งบ่อยาง” โดยเริ่มแรกมีถนนสองสายคือ ถนนนครนอก เป็นถนนเส้นนอกติดกับทะเลสาบสงขลา และถนนนครใน เป็นถนนเส้นในเมือง ต่อมามีการตัดถนนสายที่สามเรียกว่าถนนเก้าห้องต่อมาเรียกกันว่า ถนนนางงาม  ปัจจุบันถนนนครนอก ถนนนครใน และถนนนางงามยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้ มีห้องแถวไม้แบบจีน ตึกคลาสสิคสไตล์ ชิโนโปรตุกีส และยังมีอาคารตึกแถวแบบจีนโบราณ ของชาวจีนฮกเกี้ยน อยู่ปะปนกันทั้งสอง ฟากฝั่งถนน โดยอาคารหลายหลังมีการปรับปรุงทาสีใหม่ แต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของอาคาร

 

 

นอกจากได้ชมอาคารเก่าแก่แล้ว ในย่านเมืองเก่าสงขลายังมีขนมอร่อย ทั้งไทย จีน ฝรั่ง ให้เลือกชมและ ชิมอย่าง เอร็ดอร่อย รวมทั้งของฝากพื้นเมืองให้เลือกซื้อเลือกหาอีกด้วย โดยเฉพาะถนนนางงาม มากไปด้วย อาหารคาวหวานท้องถิ่นอันเลื่องชื่อซึ่ง มีทั้ง ร้านขนมไทย โรตีนางงาม ไอติมโอ่ง ขนมไข่เตาถ่าน ร้านกาแฟ ร้านซาลาเปา โจ๊กเกาะไทย ข้าวสตูร้านเกียดฟั่ง (โกยาว) ก๋วยเตี๋ยวหางหมู ก๋วยเตี๋ยวเป็ด เรียกได้ว่ามีให้ทานกันจนอิ่มท้อง

 

 

จุดเริ่มต้นของการเที่ยวชมย่านเก่าเมืองสงขลา แนะนำเดินจะง่ายที่สุด เพราะหาที่จอดรถยากมาก หากใครนำรถส่วนตัวมาก็สามารถจอดไว้เรียบถนนตามซอกซอยต่างๆ ได้  โดยเส้นทางหลัก ไปตามถ.นครนอก และ ถ.นครใน  และถนนนางงาม ที่ทอดยาวไปตามที่ตั้งของเมือง จะมีซอยเล็ก เชื่อมถนนสายต่าง ๆ เช่น ถ. ยะลา ถ.ปัตตานี  ยะหริ่ง แต่ตึกเก่าและภาพสตรีทอาร์ตที่เด่นๆจะอยู่ในเส้นถนนนางงาม   หลังจากหาที่จอดรถได้ ก็เดินไป ตรงข้ามโจ๊กเกาะไทย ภาพวาดสตรีทอาร์ทเด่น 1 ภาพ  คือ ภาพบรรยากาศของสภากาแฟโบราณ สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรม การดำเนินชีวิตของคนในท้องถิ่น

 

 

เดินผ่านถนนนางงามก็จะมีซอยเล็ก ซอยน้อย ก็เลี้ยวเข้าไป จะพบภาพสตรีทอาร์ท แอบซ่อนอยู่อีกหลายภาพ ใครมีการสร้างสรรค์ท่าทางในการโพสต์ท่าให้เข้ากับภาพแบบไหนบ้างก็งัดออกมากันตามสะดวก ภาพแต่ละภาพก็จะมีมุมที่สามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของภาพได้

 

 

จากถนนนางามเดินตัดมายังถนนนครใน ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารเด่นอีกหนึ่งหลังที่ไม่ควรพลาด นั่น คือ บ้านนครใน  เป็นบ้านเก่าแก่อายุกว่า 300 ปี  เป็นอาคารชุด 2 หลัง หลังที่ 1สร้างด้ยสถาปัตยกรรมแบบจีน และบ้านตึกสีขาวเป็นแบบชิโนยูโรเปี้ยน  ภายในจัดแสดงของเก่าเก็บสะสมที่ทรงคุณค่า อาทิ เตียงโบราณแบบจีน ตู้โบราณ โต๊ะและม้านั่งแบบจีน ถ้วยชามจีน เป็นต้น

 

 

รวมทั้งยังมีมุมจัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้ชมอีกด้วย บ้านนครในเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 -18.00 น. เข้าชมฟรี  ถนนนครในยังมีร้านคาเฟ่สุดเก๋อยู่ 2 ร้าน คือ ร้าน Cafe’ De Roo คาเฟ่ เดรู และ ร้าน Lyn’s The Shanghai  ตั้งอยู่ตรงข้ามกับบ้านนครใน สามารถแวะไปนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆกันได้

 

 

จากนั้นมาจบการเที่ยวชมภาพสตรีทอาร์ท ที่  หับ โห้ หิ้น ตั้งอยู่บนถนนนครนอกเป็นอาคารสีแดงโดดเด่นเป็นโรงสีข้าวที่มีอายุเก่าแก่ร่วม 100 ปี หากย้อนไปในอดีต  เมืองสงขลา  ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยกลุ่มคนเชื้อสายจีนหลายตระกูล โดยทำการค้าขายกับเมืองปีนัง รวมทั้งมีกิจการโรงสีเพื่อรองรับผลผลิตข้าวจากกลุ่มลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาซึ่งต่อมาเมื่อเทคโนโลยีต่างๆเริ่มเข้ามา หลังสงครามโลกที่ 2 กิจการโรงสีขาวจึงได้เลิกการไป กลายเป็นตำนานในความทรงจำของชาวสงขลา ซึ่งปัจจุบันได้นำอาคารมาปรับปรุงเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการถาวรเรื่องราวเมืองเก่าสงขลา แสดงภาพถ่ายเก่าแก่ของสงขลา รวมทั้งภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้านหลังอาคารติดทะเลสงขลา ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือประมง เป็นอีกหนึ่งจุดในย่านเมืองเก่าสงขลาที่ไม่ควรพลาด

 

 

11.30 น. เขาเก้าแสน

วัดเขาเก้าแสน  วัดเก่าแก่ของจังหวัดสงขลา ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองไม่ไกลจากหาดสมิหลา เป็นสถานที่ติดกับริมทะเลได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างทางเดินให้กับนักท่องเที่ยว สามารถเดินได้อย่างสะดวกไปยังบริเวณ หินศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ริมผา ชื่อว่า  “หัวนายแรง” เนื่องจากที่นี่ตั้งอยู่บนยอดเขาทำให้สามารถมองเห็นวิวของมองเห็นวิวทิวทัศน์ของชายหาดแหลมสมิหลา และเกาะหนูเกาะแมวสัญลักษณ์ของแหลมสมิหลาได้อย่างสวยงาม สามารถเดินลงไปชายหาดเพื่อสัมผัสหาดทรายสีขาวสะอาดได้อย่างเพลิดเพลิน รวมทั้งเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยแห่งหนึ่ง

 

 

บริเวณจุดชมวิว ได้มีการปรับปรุงทางเดินให้สะดวกสบายมีบันไดขึ้นลง โดยพัฒนาเส้นทางเดิน ให้ลัดเลาะไปตามเนินเขา หินผา มีจุดชมวิว และมุมถ่ายภาพที่หลากหลาย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถลงไปถ่ายรูปได้ด้วย พร้อมกับจุดเช็คอิน “แสนรัก@สงขลา เก้าแสน”  และไฮไลท์เด่นที่เป็นสัญลักษณ์ของเขาเก้าแสน คือ ก้อนหินขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่เชิงผา ชื่อว่า  หัวนายแรง ซึ่ง นักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาบนนี้จะต้องถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก โดยปัจจุบันเต็มไปด้วยผ้าสี และของเซ่นไหว้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นน้ำแดงที่ผู้คนมักจะมาบนบานสานกล่าวขอโชคขอลาภ  บริเวณโขดหินมีหาดทรายเล็กๆแทรกตัวอยู่ตรงกลางหุบเขา โดยสามารถลงไปเดินเล่นบริเวณหาดทรายได้

 

ตามตำนานของหัวนายแรงและเขาเก้าแสนหรือเขาเก้าเส้งที่เล่าขานสืบต่อกันมาว่า นายแรงเป็นชื่อของเจ้าเมืองเมืองหนึ่ง และได้ขนเงินทองจำนวนเก้าแสนบาทด้วยเรือสำเภา เพื่อไปร่วมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในเจดีย์ที่ จ.นครศรีธรรมราช แต่เรือสำเภาถูกคลื่นซัดถูกชำรุดจึงจอดซ่อมที่ชายฝั่งแห่งนี้จึงไปร่วมพิธีไม่ทัน นายแรงเสียใจมาก จึงได้ให้ไพร่พลขนเงินทองเก้าแสนบาทไปไว้บนเขาลูกนี้ และสั่งให้ลูกเรือตัดหัวของตนไปไว้บนยอดเขา จนกลายเป็นที่มาของชื่อเขาเก้าแสนแต่ปัจจุบันได้เพี้ยนเป็นเขาเก้าเส้งแทน และเชื่อว่าทรัพย์สินเงินทองทั้งเก้าแสนบาทยังคงถูกฝังไว้ใต้หินขนาดใหญ่ที่ปัจจุบันคือเรียกว่าหัวนายแรงนั่นเอง และว่ากันดวงวิญญาณของนายแรงยังสิงสถิตย์เพื่อเฝ้าทรัพย์สมบัติเอาไว้

 

 

หลังจากชมวิวแล้วก็เดินไปที่วัดเขาเก้าแสน  สามารถไปไห้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในวัดพระพุทธเมตตา ซึ่งมีรูปปั้นหล่อเหมือนของ หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด และพระสังกัจจายน์ ประดิษฐานอยู่ด้วย หลวงพ่อดำที่อยู่ภายในโบสถ์ จากนั้นเดินลอดใต้โบสถ์เพื่อให้เป็นสิริมงคล แล้วขึ้นไปชมเจดีย์เก่าแก่ข้างบนซึ่งเป็นเส้นทางธรรมชาติ และสักการะรอยพระพุทธบาทซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าวัด

 

 

12.30 น. เขาตังกวน

เขาตังกวน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งในอ.เมือง จากยอดเขาตังกวนนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองสงขลาได้โดยรอบ บนยอดเขาตังกวนเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์พระธาตุคู่เมืองสงขลา ซึ่งสร้างในสมัยอาณาจักรนครศรีธรรมราช เป็นศิลปะสมัยทวาราวดี นอกจากนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวน่าสนใจอีกหลายจุด ได้แก่ ประภาคาร  ศาลาพระวิหารแดง ลานชมวิวเขาตังกวน การเดินทางขึ้นไปยังเขาตังกวน คือ จอดรถไว้ด้านหน้า จากนั้น ขึ้นลิฟส์โดยสารจากจุดให้บริการณ ค่าบริการ ผู้ใหญ่คนละ 30 บาท เด็ก  20 บาท โดยเปิดบริการในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-19.00 น. และ ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 8.00-19.00 น.  เมื่อขึ้นมาถึงจะพบกับ พระเจดีย์หลวงเป็นอีกหนึ่งในโบราณสถานที่สำคัญของเขาตังกวน พระเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทรงระฆัง สันนิษฐานว่าเป็น พระเจดีย์โบราณที่มีมานาน

 

dew_5105

dew_5107

 

ลานชมวิวเขาตังกวน จากยอดเขาตังกวนก็จะมองเห็นวิวของเมืองสงขลาได้แบบ 360 องศา มีที่นั่งให้นั่งชมวิว ลานชมวิวแห่งนี้มีรูปหลวงปู่ทวดอยู่กลางลาน บนฐานที่ยกสูงขึ้นไป ลานชมวิวหน้าพระเจดีย์หลวงจะมองเห็นตัวเมืองสงขลา ได้กว้างไกลมากๆ ทั้งวิวตัวเมืองและทะเลสาปสงขลา รวมทั้งหาดสมิหลา

 

 

dew_5111

dew_5109

 

 

13.30 น. หาดสมิหลา

 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงของสงขลา อยู่ในเขตเทศบาลเมือง หาดสมิหลามีโขดหินขนาดย่อมยื่นลงทะเล หาดทรายขาวละเอียด ที่เรียกว่า “ทรายแก้ว” มีป่าสนร่มรื่น จากหาดสมิหลาสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของเกาะหนูเกาะแมว จนมีคำกล่าวว่าใครมาเยือนสงขลาแล้วไม่มาเยือนสมิหลาก็เหมือนมาไม่ถึงสงขลา มีสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงรูปปั้น นางเงือกทอง โดยรอบบริเวณได้จัดสวนหย่อมไว้ร่มรื่นเหมาะเป็นที่นั่งพักผ่อนยามเย็น เมี่อมองออกไปในทะเลจะเห็น เกาะหนู เกาะแมวอันเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่ง

 

dew_5115

dew_5121

dew_5125

son04095

 

15.00 น. เช็คอินเข้าที่พักในหาดใหญ่

หาดใหญ่ที่มีที่พักสะดวดสบายให้เลือกมากมาย ส่วนใหญ่จะอยู่ในเรทราคาหลักร้อยถึงพันต้นๆ เท่านั้น เรียกได้ว่า ที่พักออกแบบตกแต่งสวย สิ่งอำนวยความสะดวดครบ ที่คุ้มค่าเกินราคา ได้คัดสรรที่พักหาดใหญ่ ราคาไม่แพง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหาดใหญ่ มาให้เลือกพักถึง 20 แห่ง ถูกใจที่ไหนก็กดจองได้เลยในราคาพิเศษ คลิ๊ก ที่พักหาดใหญ่

 

 

17.00 น. ตลาดน้ำคลองแห

ยามเย็นออกไปหาอะไรทาน ที่ ตลาดน้ำคลองแห ตั้งอยู่ในบริเวณวัดคลองแห  เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของภาคใต้ จำลองวิถีชีวิตดั้งเดิมคือการค้าขายทางน้ำของชาวบ้านคลองแห ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือนำสินค้ามาขาย และมีร้านค้าที่ริมฝั่งมากมายให้เดินเลือกชมอย่างเพลิดเพลิน ทั้งขนมพื้นเมืองและอาหารปักษ์ใต้หลากหลายชนิด ภาชนะที่ใส่อาหารใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง กะลามะพร้าว ไม้ไผ่  เป็นตลาดน้ำเชิงวัฒนธรรมแห่งแรกและแห่งเดียวของภาคใต้ ผสมผสานระหว่างตลาดที่จำหน่ายสินค้าในเรือ และตลาดโบราณจำหน่ายสินค้าบนบก ตลาดน้ำเปิดวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 16.00-21.00 น

 

 

สำหรับการเดินทางมาตลาดคลองแหด้วยรถส่วนตัว สามารถจอดรถได้ที่วัดคลองแห และจุดจอดรถตรงข้ามตลาด ภายในตลาดมีร้านค้าทั้งบนบกและร้านค้าที่ขายบนเรือ มีของกินหลายหลาย ของที่ระลึก รวมไปถึงเสื้อผ้า เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับโซนบนบกที่ตั้งอยู่ริมถนนซึ่งของที่นำมาขายส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋าของที่ระลึก ที่เราจะเห็นขายกันอยู่ทั่วไปตามตลาดต่างๆ

 

เดินข้ามสะพานข้ามคลอง มองไปข้างล่างจะเห็นตลาดน้ำที่เห็นเรือขายของเรียงกันเป็นแนวยาว  พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ของกินมีทั้งของคาวหวาน ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านทางใต้ และและอาหารร่วมสมัย ทั้ง ข้าวยำ ขนมจีน  ไข่กระทะ อาหารทะเล กระเพาะปลา น้ำผลไม้ และขนมแบบถิ่นใต้  แต่ของกินของขายไม่หลากหลายมากส่วนใหญ่จะคล้ายกัน สามารถซื้อหาของฝากกลับบ้านหรือจะนั่งรับประทานที่ตลาดน้ำตามสะดวก

 

 

โซนขายของบนบกเป็นซุ้มแบบกระท่อม ตกแต่งได้บรรยากาศแบบไทย โซนที่อยู่บนบกด้านบกซึ่งเป็นซุ้มกระท่อมขายอาหารและสินค้าพื้นเมืองต่างๆ นอกจากจะมีนักท่องเที่ยวในจังหวัดแล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก น่าจะมากกว่านักท่องเที่ยวไทย ภายในตลาดมีลานวัฒธรรมแสดงดนตรีสดด้วย รวมทั้งโ ชว์การแสดงพื้นบ้าน ช่วยเพิ่มบรรยากาศของการท่องเที่ยวได้มากขึ้น

 

 

 

วันที่สอง

08.30 น. มัสยิดกลางสงขลา

ตื่นเช้าหน่อยหลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว เรามุ่งหน้าไปยัง  มัสยิดกลางสงขลา อยากไปเก็บภาพความสวยงามของมัสยิดที่มีท้องฟ้าสีฟ้ามาเป็นองค์ประกอบ เพราะเคยไปถ่ายช่วงบ่ายจะย้อนแสง  มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา   เป็นศาสนสถาน เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และศูนย์รวมจิตใจของชาวมุสลิม ในสงขลา ต้องบอกว่าที่นี่เป็น มัสยิดที่ใหญ่และอลังการมาก มัสยิด กลางแห่งนี้โดดเด่นจนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่อยู่บนภูเขาใน สวนสาธารณะหาดใหญ่กันเลยทีเดียว หากใครได้มาจังหวัดสงขลาแล้ว ต้องไม่พลาดที่จะมาชมความงดงามของ มัสยิดกลางแห่งนี้  มัสยิดแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า ” ทัชมาฮาลเมืองไทย ” ยิ่งมาในช่วงเวลาเย็นไปถึงช่วงค่ำ มัสยิดเปิดไฟสว่างมีฉากหลังของ ท้องฟ้าเปลี่ยนสีในยามเย็นงดงามยิ่งนัก

 

 

มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา  ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตลาดน้ำคลองแห สำหรับการเดินทางด้วย google maps แนะนำให้พิมว่า  “มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา”  เพราะหากใส่ว่า  มัสยิดกลางดิย์นุลอิสลาม จะไปโผล่ที่มัสยิดในเมืองหาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่คนละแห่งกัน มาถึงมัสยิดสามารถจอดรถไว้บริเวณที่จอดรถภายใต้อาคาร จากนั้นเดินมาด้านหน้าเก็บมุมภาพตามใจชอบ หากต้องการถ่ายภาพแบบไม่ย้อนแสงให้มาช่วงเช้าก่อนเที่ยงและในอีกช่วงเวลาที่มัสยิดสวยงาม นั่นคือ ช่วงเย็นยามพระอาทิตย์ตกและในเวลาค่ำซึ่งมีการเปิดไฟสวยงาม มัสยิดใหญ่โตกว้างขวาง พื้นที่โดยรอบสวยงาม เป็นอาคารสามชั้น ตั้งเด่นกลางทุ่งนา มีสระน้ำข้างหน้าก็ใหญ่ เด่นด้วยโดมทอง ชั้น 3 (บนสุด) เป็นสถานที่ละหมาด ชั้น 2 เป็นสถานที่ทำการของคณะกรรมการอิสลาม ชั้นแรก เป็นสถานที่จอดรถ พื้นที่กว้างขวางมาก

 

 

ภายในมัสยิดสีขาวสะอาดตา ล้อมรอบด้วยกระจกใสสีขาว ภายในตกแต่งได้สวยงาม โล่ง โอ่โถง เหมาะแก่การทำจิตใจให้สงบและทำพีธีกรรมต่างๆ ทางศาสนา   พื้นที่รอบมัสยิดเดินเล่นชมบรรยากาศเหมือนกำลังเดินอยู่ในแดนนภารตะ

 

 

10.30 น. เจดีย์สเตนเลส

วัดพระมหาเจดีย์ไตรภพไตรมงคล หรือ เจดีย์สแตนเลส ตั้งอยู่ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนเขาคอหงส์ หลังม.สงขลานครินท์  โดยองค์พระเจดีย์มีความงดงามและแปลกตาโดยโครงเหล็กทุกชิ้นเป็นสแตนเลสทั้งหมด เรียกได้ว่าเป็น เจดีย์สแตนเลสหนึ่งเดียวในโลก พระมหาธาตุเจดีย์ไตรภไตรมงคล สร้างขึ้นเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติ 60 ปี อีกทั้งยังสร้างเพื่อเป็นศูนย์รวมใจสืบสานพระพุทธศาสนาขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรม ประเพณีไทย การเผยแพร่พุทธประวัติและพุทธจริยวัตรสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

เจดีย์สเตนเลส ตั้งอยู่บนเขาคอหงส์ เส้นทางจะเป็นถนนคอนกรีตที่รายล้อมด้วยต้นไม้ร่มรื่น เป็นลักษณะของถนนที่บนรอบเขา โค้งเล็กน้อย ซึ่งไม่ได้ชันมาก ขับรถขึ้นไปได้แบบสบายๆ  แต่ถนนจะแคบสักหน่อย ควรขับช้าๆ เพราะอาจมีรถสวน  จากปากทางขึ้นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ก็จะถึงเจดีย์สเตนเลส เมื่อมาถึงองค์พระเจดีย์สิ่งแรกที่สัมผัสได้ คือ ความสงบ และร่มเย็น ก่อนไปชมเจดีย์สเตนเลส มีดอกไม้ ธูปเทียน สำหรับไหว้องค์พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ด้านหน้า คือ เจ้าแม่กวนอิม สมเด็จพระพุฒาจารย์โต และพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย

 

 

เจดีย์สเตนเลส มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 22 เมตร ความสูง 32 เมตร สร้างด้วยสแตนเลสสีเงินแวววาวเส้นกลมหลายขนาด มาเรียงเชื่อมกันเป็นรูปของเจดีย์ ส่วนยอดเจดีย์ทำเป็นปล้องไฉน มีฉัตรอยู่บนยอดสุด  สแตนเลสที่เชื่อมต่อเป็นวงต่อขึ้นเป็นองค์เจดีย์ จำนวน 60 ชั้น เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสทรงครองราชย์ 60 ปี โดยมีหอระฆัง ที่ทำขึ้นด้วยสแตนเลส หอระฆังทำด้วยสแตนเลสตั้งอยู่รอบองค์เจดีย์เปรียบเสมือนธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ

 

โดยฐานส่วนล่าง ซึ่งเป็นทางเข้าออกสู่พระเจดีย์ ก่ออิฐถือปูนเป็นฐานวงกลมสีทอง จำนวน 14 ช่อง ไม่มีบานประตู โดยแต่ละห้องมีพระพุทธรูปประจำวันและปีเกิดในปางต่างๆ ประดิษฐานอยู่ภายในช่องวงกลมเป็นห้องเล็กๆ  ให้ได้กราบไหว้ขอพรตามปีเกิด  โดยมีป้า บอกทางเพื่อให้เข้าออกได้ตรงช่องตรงกับวันเกิด  มีจิตรกรรมภาพวาด เป็นเรื่องราวพุทธประวัติ และพุทธจริยวัตร สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ตรงกลางฐานองค์เจดีย์ จะมีแกนสแตนเลสยู่ตรงกลาง โดย เสาตรงกลางจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีผ้าไตรวางรอบๆ ให้เลือกนั่งทิศช่องประจำวันเกิด หยิบผ้าไตรขึ้นมากล่าวบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ภายในพระเจดีย์ถึงแม้จะสร้างด้วยสเตนเลสแต่อากาศเย็นมาก ไม่ร้อนเลยสักนิด

 

 

บันได้ทางขึ้นไปยังยอดเจดีย์ ทำด้วยสเตนเลส ลักษณะเป็นวงกลมวนขึ้นไป มีความสวยงาม เมื่อขึ้นไปบนยอดของเจดีย์จะเห็นชิ้นงานสแตนเลสที่ยึดแต่ละส่วนของเจดีย์ไว้  ประกอบกันจำนวนมากมายหลายชิ้นเป็นวงกลมมีความเป็นเอกลักษณ์ โดยมีช่องแสง มองดูมีมิติและสวยงาม ด้านยอดของเจดีย์จะมีบาตรวางอยู่เป็นกลุ่ม  แต่ละกลุ่มหมายถึงการทำบุญประจำวันเกิด เดือนเกิด และปีเกิด

 

 

12.30 น. เที่ยงกินข้าว Pranee Thai cuisine

ร้านอกาหารบรรยากาศในสไตล์โมเดิร์น เน้นเมนูอาหารใต้แท้ ที่อยากแนะนำว่าต้องมาทาน ร้านเป็นห้องแอร์ตกแต่งเรียบหรู  เน้นสีขาว เทา ดำ โปรงสบายอบอุ่นเหมาะสำหรับนั่งทานกับครอบครัวและกลุ่มเพื่อน  เป็นร้านที่ไม่ได้มีดีแค่บรรยากาศแต่รสชาติอาหารยังจัดจ้านครบทุกรส คือ อร่อยมากถูกปากคนไทยไม่เผ็ดจนเกินไป จัดเต็มด้วยวัตถุดิบคุณภาพ เมนูเด็ด แกงคั่วปูใบชะพลู สะตอผัดกุ้ง ต้มใบมะขามซี่โครงหมู ต้องลอง  หากใครต้องการร้านอาหารดีๆที่รสชาติไม่แพ้บรรยากาศ ปรานี ตอบโจทย์แน่นอน

 

 

ร้านตั้งอยู่ใกล้กับตลาดกิมหยง  ไม่มีที่จอดรถต้องอาศัยจอดริมถนนหน้าร้าน และในบริเวณใกล้เคียง หน้าร้านดูทันสมัยภายในตกแต่งในโทนสีขาวสะอาด ค่อนข้างโปร่งและมีที่นั่งให้เลือกนั่งหลายมุม

 

 

เมนูแนะนำ แกงคั่วปูใบชะพลู เสริฟพร้อมผักเครื่องเคียง เนื้อปูให้มาเป็นก้อนเยอะมาก พร้อมใบชะพลูที่หั่นฝอย รสชาติน้ำแกงอร่อยเข้มข้ม เผ็ดกำลังดรไม่มากจนเกินไป ทานแล้วอยากซื้อกลับบ้านมาก เป็นเมนูที่ต้องสั่งเมื่อมาที่ร้านนี้ ให้สิบเต็มไปเลย  สั่งมาพร้อมกับหมูสามชั้นดน้ำปลา รสชาติถึงเครื่องดี น้ำจิ้มเป็นแบบซีฟู้ด  แต่ติดที่หมูเนื้อจะเหนียวไปสักหน่อยหักคะแนนตรงนี้ไปนิดนึง

 

 

ผัดสะตอกุ้งสด ดีงามอีกแล้ว กุ้งตัวโต สะตอเม็ดใหญ่ คลุกเคล้ามากับกะปิ หอมใหญ่ กระเทียมดอง รสชาติกลมกล่มอร่อยมาก ต้มซี่โครงหมูใบมะขามอ่อน อร่อยมากอีกแล้ว น้ำซุปรสแซ่บครบทุกรส ได้ความเปรี้ยวของใบมะขามอ่อน ช่วยทำให้ซดน้ำในแบบคล่งคอขึ้น ซี่โครงหมูนุ่มมาก ลงตัวที่สุดเมนูนี้  มาหาดใหญ่ฝากท้องที่ร้านนี้ไว้ถึงสองมื้อ เพราะแอบติดใจในรสชาติ ต้องยกนิ้วให้ว่าเป็นร้านอาหารใต้สไตล์ฟิวชั่น ที่บรรยากาศดี นั่งทาได้เรื่อยๆ รสชาติอร่อยมากใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดีจริง

 

 

Pranee Thai cuisine

35-37 ซอย 2 ถนน ศุภสารรังสรรค์ อำเภอ หาดใหญ่ สงขลา 90110

เปิดทุกวัน 11.00น.-21.00น.

https://www.facebook.com/PraneeThaiCuisine/

 

14.00 น. วัดหาดใหญ่ใน 

วัดหาดใหญ่ใน วัดที่เก่าแก่อีกวัดหนึ่งของอำเภอหาดใหญ่ หนึ่งในสถานที่เที่ยวชมวัดที่สวย  มีสิ่งสำคัญ คือ เป็นวัดที่ประดิษฐานพระนอนขนาดใหญ่ยาว 35 เมตร สูง 15 เมตร กว้าง 10 เมตร ชื่อ พระพุทธหัตถมงคล ที่ว่ากันว่าใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศนิยมมากราบไหว้  ใต้ฐานพระนอนมีการสร้างห้องพระไว้ ภายในประดิษฐานพระหลายองค์ และเป็นที่บรรจุอัฐิของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยเปิดให้เข้าได้ทุกวัน โดยทางเข้าอยู่ที่ฐานพระด้านหลัง

 

 

15.00 น. Space Bar หาดใหญ่ 

Space Bar หาดใหญ่ คาเฟ่ที่ตกแต่งน่ารักสไตล์ English country  ที่เหมาะสำหรับนั่งชิล  หรือนั่งทำงาน นั่งเมาท์กับกลุ่มเพื่อน ด้วยตัวร้านตั้งอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร มีสวนหย่อมขนาดเล็กอยู่ด้านหน้า  จึงให้บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองเหมือนนั่งเล่นอยู่ที่บ้าน  โดยแบ่งโซนร้าน 3 แบบให้ลูกค้าได้เลือกนั่งตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เรียกได้ว่ามีมุมเก็บภาพได้ทุกจุด ตั้งแต่หน้าร้านถึงในร้าน ที่สำคัญมี Homemade Bakery อีกด้วย

 

 

ภายในร้านกว้างขวางโออ่า ตกแต่งสไตล์อังฤษมีที่นั่งหลายมุม ที่นี่จะเห็นเด็กนักศึกษามานั่งคุย นั่งอ่านหนังสือกันซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะค่อนข้างเงียบ

 

 

เมนู มีกาแฟและเครื่องดื่มมากมายทั้งยังมีเค้กและเบเกอร์รี่หลายอย่างให้เลือก เหมาะสำหรับคนชอบทานของหวาน โดยส่วนตัวเป็นร้านที่เหมาะสำหรับมานั่งพักยาวๆ ทำงาน คุยกับเพื่อน เพราะบรรยากาศ คือ ค่อนข้างเงียบและเป็นส่วนตัว

 

Space Bar หาดใหญ่

เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น.-19.00 น.

ที่อยู่: ถนน วงศ์วานิช ตำบล หาดใหญ่ อำเภอ หาดใหญ่ สงขลา 90110

 

จบทริปเที่ยวสงขลา หาดใหญ่ 2 วัน 1 บอกเลยว่าเที่ยวคุ้มมาก และกินกันอย่างอิ่มท้อง เป็นอีกจังหวัด ที่ไม่ต้องใช้เวลามาก และเที่ยวสะดวก มีความครบในทุกเรื่อง ขึ้นเครื่องปุ๊บเช่ารถขับเที่ยว ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวและที่กิน ก็อยู่ไม่ไกลกันมากเที่ยวได้แบบสบาย

 

บทความที่เกี่ยวข้องกับหาดใหญ่ สงขลา 

 

คลิ๊ก 20 ที่เที่ยวสงขลา หาดใหญ่

 

 

คาเฟ่หาดใหญ่ คลิ๊ก  15 คาเฟ่หาดใหญ่ สงขลา

 

 

 

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง