ร้อยเอ็ด แดนดินถิ่นอีสาน หากให้เรียงลำดับจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวในภาคอีสาน ร้อยเอ็ด อาจไม่ใช่เมืองที่จะคิดถึงในอันดับต้นๆ จังหวัดนี้ไม่ได้มีสถานท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยงามที่ติดอันดับ แต่หากเอ่ยถึงความสวยงามแปลกตาของวัดวาอารามนั้น ต้องเรียกว่า ติดอันดับ Unseen ของประเทศหลายวัดเลยทีเดียว หากอยากมาสัมผัสกับความสวยงามของวัดวาอารามที่ไม่เหมือนใคร ต้องมาเที่ยวร้อยเอ็ด
สำหรับการเดินทางมาร้อยเอ็ด เราเลือกใช้รถส่วนตัวออกจากกรุงเทพแต่เช้าประมาณ 7 โมง แวะรายทางมาเรื่อยๆจนมาถึงร้อยเอ็ดประมาณบ่าย 3 โมงกว่า พระเจดีย์มหามงคลบัว คือ สถานที่แห่งแรกที่มีความตั้งใจอยากมาชมสถาปัตยกรรมความงามให้ได้สักครั้ง เจดีย์มหามงคลบัว ตั้งอยู่ใน ต.หนองแวง อ.เมือง สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ของพระธรรมวิสุทธิมงคล หลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด สำหรับเผยแพร่ธรรมะและปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสศรัทธาในหลวงตามหาบัว
จุดเด่นที่น่าสนใจของเจดีย์มหามงคลบัว คือ เจดีย์สีทองอันโดดเด่นกลางสวนสวย ซึ่งมีการออกแบบไว้เป็นอย่างดี มีสระน้ำไว้ด้านหน้าและด้านข้างเจดีย์ ทำให้เกิดภาพสะท้อนของเจดีย์บนผิวน้ำ เจดีย์มีความสูงพอดีและมีความเด่น เพราะอยู่บริเวณกลางทุ่งนา ทำให้สามารถมองเห็นมาจากที่ไกลๆได้ พื้นที่ของเจดีย์กว้างใหญ่ทำให้ไม่เกิดความแออัด ร่มรื่นสมกับเป็นสถานที่แห่งพลังศรัทธาของชาวพุทธเป็นอย่างดี เจดีย์มหามงคลบัว เป็นเจดีย์เดียวที่ได้รับอนุญาตจากท่านหลวงตาในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้มาดูการถมที่ วางศิลาฤกษ์ และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วยตัวท่านเอง นับเป็นแลนด์มาร์คอีกหนึ่งแห่งของเมืองร้อยเอ็ดที่ใครมาจะต้องแวะมาสักการะบูชา
ภายในองค์พระเจดีย์มีทั้งหมด 4 ชั้น ชั้นที่ 3 รูปเหมือนหลวงตาและเป็นที่นั่งภาวนาสำหรับผู้ต้องการความสงบ รวมถึงภาพถ่ายของหลวงตามหาบัว และพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทรงเสด็จมาเยี่ยมเยือนกราบนมัสการองค์หลวงตา โดยเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ จากพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์เป็นการส่วนพระองค์
ประมาณ 4 โมงเย็น เดินทางไปยังโบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด ปรางค์กู่ ตั้งอยู่ที่ อำเภอธวัชบุรี เป็นปราสาทขอม สร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง มีลักษณะเป็นกลุ่มอาคารโดยมีปรางค์ประธานองค์ใหญ่เป็นตั้งอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว แสดงให้เห็นว่าร้อยเอ็ดก็เป็นอีกหนึ่งจังหวัดทางภาคอีสานที่มีปราสาทขอมเหมือนจังหวัดอื่นเช่นกัน ถึงแม้จะเป็นโบราณสถานขนาดเล็ก ไม่ใหญ่โตอลังการเหมือนปราสาทขอมที่เคยพบเห็น แต่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสข้างใน เราจะรู้สึกได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ ลวดลายโบราณของหน้าบันและความเก่าแก่ของศิลาแลงที่นำมาวางเรียงรายกันซึ่งยังคงสภาพเดิมไว้อยู่มาก
เช็คอินเข้าที่พักในตัวเมืองร้อยเอ็ด เลือกพักที่ มาเดอ เออ รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในตัวเมือง ที่พักสวย สะอาด มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ในราคาเพียงคืนละ 650 บาท(รวมอาหารเช้า) ซึ่งที่พักส่วนใหญ่ในจังหวัดร้อยเอ็ดส่วนใหญ่จะราคาไม่แพงแค่หลักร้อย และสภาพที่พักส่วนใหญ่ คือ ดี เหนือราคา เพราะถ้าลองไปตามเมืองท่องเที่ยวฮิต ด้วยบรรยากาศแบบนี้น่าจะเกินร้อย ถือว่าประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ
ตรงข้ามกับที่พัก คือ ร้านสเต็กโคขุน เป็นร้านอาหารของรีสอร์ท จำหน่ายเครื่องดื่ม สเต๊กและอาหารตามสั่ง มื้อเย็นหากไม่อยากไปทานที่ไหนไกลมาฝากท้องไว้กับร้านนี้ได้
พักผ่อนกันสักครู่ ช่วงเวลาเย็นไปเดินเล่นสูดบรรยากาศ ที่ บึงพลาญชัย อีกหนึ่งสัญลักษณ์ ของจังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 10 นาที บึงพลาญชัย มีลักษณะเป็นเกาะอยู่กลางบึงน้ำขนาดใหญ่ เป็นสวนสาธารณะสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ตกแต่งประดับประดาเป็นสวนไม้ดอก รวมทั้งมีการประดับตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ต่างๆ จึงเกิดความร่มรื่นสบายตา และในบึงน้ำมีปลาชนิดต่างๆ หลากหลายพันธุ์ อีกทั้งยังมีเรือจักรยานน้ำและเรือพายไว้บริการประชาชนให้พายเล่น
ภายในบึงพลาญชัยยังมีสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจคือ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวร้อยเอ็ดเคารพนับถือและเชื่อว่า เจ้าพ่อจะช่วยดลบันดาลให้ชาวเมืองร้อยเอ็ด มีความสุขความเจริญ คิดสิ่งใดให้สมปรารถนา จึงเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่ชาวเมืองร้อยเอ็ด และนักท่องเที่ยวต่างก็มากราบนมัสการขอพรกันเป็นประจำ
ตื่นมาแต่เช้า แสวงบุญกันต่อที่วัดแรก วัดบูรพาภิราม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองร้อยเอ็ด วัดนี้เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปปางประทานพรที่สูงที่สุดในประเทศไทยคือ พระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือหลวงพ่อใหญ่ประทับยืนเด่นเป็นสง่ามองเห็นได้จากระยะไกล พระเจ้าใหญ่ยังเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัด ตามคำขวัญของเมืองร้อยเอ็ดว่า “สิบเอ็ดประตูงาม เรืองนามพระสูงใหญ่ ผ้าไหมสาเกตุ บุญผะเหวดประเพณี มหาเจดีย์ไชยมงคลงามน่ายลบึงพระลานชัย เขตกว้างไกลทุ่งกุลา โลกลือชาข้าวหอมมะลิ” ที่ฐานพระพุทธรูป องค์นี้มีห้องที่ใช้ในศาสนกิจและห้องพิพิธภัณฑ์จำนวนหลายห้อง
ชาวร้อยเอ็ดถือว่าพระใหญ่นั้นเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่คอยปกป้องคุ้มครองชาวร้อยเอ็ดให้มีชีวิต ความเป็นอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขด้วยความสูงขององค์พระทำให้เกิดความเชื่อว่า หากได้มากราบไหว้ จะได้อานิสงส์สูงเทียมเมฆ เทียม ฟ้าทำการสิ่งใดก็สำเร็จผลด้วยประการทั้งปวง
ภายในบริเวณวัด มีลานธรรม มีพระพุทธไสยาสน์ศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานภายในต้นไม้ และรูปปั้นจำลองขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่ทรงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน
ไปต่อยัง วัดกลางมิ่งเมือง ตั้งอยู่ใกล้กับวัดบูรพาภิราม เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่าสร้างก่อนตั้งเมืองร้อยเอ็ด วัดกลางมิ่งเมือง มีสถาปัตยกรรมอาคารภายในวัดที่สวยงาม มีอุโบสถที่สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย บริเวณ ผนังรอบอุโบสถมีลวดลายภาพวาด แสดงถึงพุทธประวัติ สวยงามและมีคุณค่าทางศิลปะ โดยภายในพระอุโบสถแห่งนี้ ประดิษฐานปูชนียวัตถุ ซึ่งเป็นพระประธานในอุโบสถมีนามว่า พระพุทธมิ่งเมือง
นอกจากนี้ก็ยังมีอาคารสถาปัตยกรรมอื่นๆภายในวัดอีกพระอุโบสถหลังนี้ สร้างด้วยปูนที่มีลวดลายอ่อนช้อย ข้างบนมีจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองร้อยเอ็ด ได้โดยรอบ มองเห็นองค์พระใหญ่ของวัดบูรพาภิราม อยู่ไม่ไกล
วัดสุดท้าย วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วราราม ตั้งอยู่ในอำเภอหนองพอก ห่างจากตัวเมืองประมาณ 30 กม. วัดแห่งนี้มี พระเจดีย์มหาชัยมงคล อันงดงามมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
พระมหาเจดีย์ชัยมงคล เป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ที่วิจิตรพิสดาร ใช้ศิลปกรรมร่วมสมัยระหว่างภาคกลางและภาคอีสานเป็นการผสม กันระหว่างพระปฐมเจดีย์ และพระธาตุพนม ดำเนินการสร้างโดย “พระอาจารย์ศรี มหาวิโร” ซึ่งเป็นศิษย์ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ออกแบบโดยกรมศิลปากรเป็นสีขาวตกแต่งลวดลาย ตระการตาด้วยสีทอง เหลือง อร่าม รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศ
องค์พระมหาเจดีย์ มีทั้งหมด 5 ชั้น ซึ่งสามารถเข้าไปเยี่ยมชมข้างในได้ ภายในป็นห้องโถงโอ่อ่าเช่นกัน ชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุและพระสาวก สามารถชมวิวในมุมสูงของวัดได้อย่างดงาม
เที่ยวร้อยเอ็ด 2 วัน 1 คืน ได้โบราณสถานและวัดสวยแปลกตา มาไหว้พระ อิ่มบุญไปด้วยกัน