ปาย เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งความฮิบ เป็นเมืองศิลปะและแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ที่สร้างชื่อให้กับแม่ฮ่องสอนมานาน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไปเที่ยวปายก็มักเที่ยวช่วงหน้าหนาว เพื่อไปสัมผัสอากาศเย็น มองวิวทิวทัศน์ภูเขาที่สวยงาม เที่ยววัดวามอารามเก่าแก่ สัมผัสบรรยากาศแบบจีนยูนนาน เดินเที่ยวชิคๆ ที่ถนนคนเดิน นั่งจิบกาเฟเท่ๆตามร้านกาแฟ เรียกว่าปายมีครบทุกเรื่องราว แต่หากพูดถึงการเที่ยวปายในฤดูฝนนั้น ภาพของปายในฤดูนี้จะน้อยมาก เรียกว่าไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าใดนัก แต่ถ้าได้ลองมาเที่ยวซักครั้ง จะได้สัมผัสถึงความมีเสน่ห์ของปายในฤดูนี้ในอีกมุมหนึ่ง ที่มีความเงียบสงบ สดชื่นเขียวขจี มีสายหมอกบางคลอเคลียภูเขามาทักทายยามเช้า ซึ่งหากมาเที่ยวในฤดูหนาวอาจมาได้เห็นภาพบบรรยากาศเช่นนี้ก็เป็นได้
ถนนที่ใช้สัญจรไปมาในเมืองปาย ฤดูฝนมีความเขียวขจี
ก่อนเข้าไปยังที่พัก เราแวะไปพักจิบเครื่องดื่มที่ Romance another story in Pai ซึ่งให้บริการที่พักบรรยากาศดีสไตล์ชาวฟาร์ม โดยแบ่งพื้นที่ในส่วนของฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ร้านกาแฟ ตกแต่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในชนบทแถบยุโรป ตั้งอยู่ห่างออกไปนอกตัวเมืองปายแต่ไม่ไกลมาก พื้นที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเห็นวิวภูเขาแบบพาโนรามา รวมถึงวิวของนาข้าวสีเขียวในฤดูฝน
พื้นที่ด้านหน้า คือ ในส่วนของ Romance Farm ซึ่งมีทั้งฟาร์มเลี้ยงสัตว์ บรรยากาศรอบๆ ฟาร์ม ในช่วงฤดูฝนให้ความรู้สึกสดชื่นเขียวขจี บ้านสีแดงหลังใหญ่ คือ ฟาร์มเลี้ยงม้า รวมถึงมีร้านกาแฟบรรยากาศน่ารัก ถึงแม้ไม่ได้พักที่นี่ก็สามารถแวะมาจิบเครื่องดื่มและเบอเกอรี่แสนอร่อย นั่งชมวิวริมทุ่ง ดีไซน์เป็นบ้านไม้ ผสมผสานกับสังกะสี ตกแต่งออกแนวฟาร์มผสมกับวินเทจนิดๆ มีมุมนั่งเล่นใต้ต้นไม้ใหญ่ มีทั้งชิงช้าให้ไกวเล่น และเก้าอี้นั่ง
ภายในร้านเป็นส่วนของห้องแอร์ และเคาน์เตอร์ขายเครื่องดื่มและเบอเกอรี่ รสชาติอร่อย โซนด้านนอกเป็นแบบโอเพ่นแอร์ มีที่นั่งแบบมองวิวริมทุ่งนา
Romance another story in Pai
ที่อยู่ 134 ม.8 ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน 58130
โทร 080-0313535,053-699809
เว็บไซต์ : www.romance-pai.com
การเดินทาง : จากตัวเมืองขับผ่านสะพานข้ามแม่น้ำปาย แล้วเลี้ยวซ้ายแยกแรก สู่ถนน แม่เย็น-แม่นาเติงนอก ขับตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 2.2 กม. จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าซอยวัดศรีดอนชัย เมื่อถึงหน้าวัดให้เลี้ยวซ้าย ไม่เกิน 100 ม. จะถึง Romance Farm
หลังจานนั้นมาเช็คอินเข้าที่พัก โดยเลือกพักที่มะลิปาย รีสอร์ท ตั้งอยู่ติดกับร้าน coffee in love เป็นรีสอร์ท ที่เรียกได้ว่ามีทำเลที่ตั้งที่ดีอีกแห่งหนึ่งของเมืองปาย อยู่ติดถนนสายหลัก ไม่ไกลจากตัวเมืองปาย และถนนคนเดินมาก เดินทางสะดวก ที่สำคัญที่พักมีพื้นที่ร่มรื่นกว้างขวาง ด้านหลังเห็นวิวภูเขา โดยทางรีสอร์ทจัดทำเป็นจุดชมวิวเป็นระเบียงบนต้นไม้ และมีชิงช้าให้ไกวเล่น
บ้านพักมีให้เลือกหลายแบบ เราเลือกพักแบบรถบ้าน มีความเก๋ไปอีก พักได้หลังละ 2 คน ที่พักมีสิ่งอำนวยความสะดวกราบทั้งแอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น ตอนแรกคิดว่าการนอนรถบ้านจะอึดอัดและแคบ แต่ไม่เลย เตียงนอนกว้างขวางพอสมควร หลับสบาย ราคาห้องในช่วงฤดูยิ่งฝนราคาถูกกว่าฤดูหนาว คืนละ 900 บาท(ไม่รวมอาหารเช้า) ได้วิวสวยๆ และพื้นที่ของที่พักก็มีมุมให้นั่งเล่นพักผ่อนเยอะ ถือว่าคุ้มราคา
ที่สำคัญที่ตั้งของมาริปาย ใกล้ร้านกาแฟชื่อดัง บรรยากาศดีของเมืองปาย coffee in love สามารถเดินจากที่พักไปเพียงนิดเดียวก็ถึงร้าน ไปนั่งเล่นจิบเครื่องดื่มชม วิวภูเขาและทุ่งนาสีเขียวของเมืองปายได้จากร้านนี้
ดอกดาวกระจายสีเหลือง ที่ปลูกอยู่บริเวณด้านหน้าบ้านสีเหลืองหลังโต สามารถเดินเข้าไปชมแบบใกล้ชิดและถ่ายภาพได้
มุมถ่าพเก๋ๆของร้าน coffee in love
ตกค่ำไปหาอะไรทานที่ถนนคนเดินปาย รวมถึงเดินเล่น ช้อปปิ้งซื้อของที่ระลึกกันซักหน่อย
ถนนคนเดินปายในช่วงฤดูฝน นักท่องเที่ยวไม่คึกคักมาก นักท่องเที่ยวคนไทยมีน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นคนจีนมากกว่า มาเดินถนนคนเดิน มีแต่ป้ายภาษาจีน มีความรู้สึกว่าคนจีนจะครองเมืองปายแล้วนะเนี่ย
หมาล่าเมืองปาย พริกซ่า อร่อยเด็ดดวงมาก ซื้อกลับมาทานที่บ้านด้วย ขวดละ 150 บาท
ร้านของโปสการ์ด และ ของที่ระลึกต่างๆ ที่มีให้เห็นตลอดทั้งสอง ข้างทาง แอบชื่นชอบร้านนี้เป็นพิเศษ หน้าร้านเป็นรถสีชมพู และของที่นำมาขายส่วนใหญ่ มีความเก๋ และมีกิมมิคมาก อย่างเช่นพวงกุญแจไม้ก๊อก ตอนแรกก็มองว่าเป็นพวกกุญแจธรรมดา แต่พอเจ้าของร้านสาธิตการใช้งานว่าสามารถนำมาวางมือถือได้เลยมีความน่าสนใจขึ้นมาทันที แถมราคาที่ขายไม่แพงด้วย 7 อัน 100 บาท เท่านั้น
กระเป๋าใส่กุญเจต่างๆ เป็นรูปชาวเขา ข้างในเปิดออกมาห้อยกุญแจได้หลายดอกเลยทีเดียว
มาเดินถนนคนเดินจะได้เห็นคนแต่งตัวแปลกมายืนหารายได้ อย่างเจ้าหนูน้อยคนนี้แต่งตัวมาเป็นทหารญี่ปุ่น ถูกใจก็ช่วยค่าทุนการศึกษากันไป
เช้ามืดประมาณ 6.30 น. เราออกจากที่พัก เพื่อไปยังจุดชมทะเลหมอกหยุ่นไหล ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านสันติชล ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ห่างจากหมู่บ้านสันติชล ประมาณ 1.6 กิโลเมตร เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามของอำเภอปาย ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว สามารถมองเห็นทะเลหมอกที่ถูกรายล้อมไปด้วยทิวเขาน้อยใหญ่ และทัศนียภาพบ้านเรือนของเมืองปายที่ถูกปกคลุมด้วยสายหมอก คำว่าหยุนไหล เป็นภาษาจีนกลาง หมายถึง แหล่งที่เมฆไหลมารวมกัน ซึ่งเปรียบเสมือนคนจีนยูนานที่อพยพมาจากเมืองจีน แต่ในที่สุดก็อพยพย้ายถิ่นฐานมารวมกัน จุดชมทะเลหมอกหยุนไหล สามารถชมได้ทั้งฤดูฝนและฤดูหนาว
บริเวณจุดชมวิวได้จัดทำเป็นระเบียงชมวิวและจุดถ่ายภาพน่ารักๆ หลายจุด ทั้งระเบียงชมวิว จุดคล้องกุญแจคู่รัก ป้ายร้อยที่บอกรัก และศาลาสำหรับนั่งชมวิวยามเช้า ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ
นอกจากนี้ยังมีบริการเครื่องดื่มชาร้อนใส่มาในกาน้ำร้อน ให้จิบไปชมวิวไปได้อีกด้วยโดยคิดราคาชุดละ 20 บาท สำหรับการมาชมจุดชมวิวเสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท บริเวณจุดชมวิวมีสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ ห้องพัก ลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ และร้านค้า คอยบริการนักท่องเที่ยวช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับชมทะเล ควรมาแต่เช้าประมาณ 6 โมง – 7 โมงเช้า
การเดินทางไปจุดชมทะเลหมอกหยุนไหล
ตั้งอยู่เส้นทางเดียวกับหมู่บ้านสันติชน จากตัวเมืองปาย ผ่านวัดน้ำฮู ตรงไปจะถึงหมู่บ้านสันติชน จากนั้นตรงไปจนเกือบสุดทางผ่านหมู่บ้าน จะมีป้ายเขียนว่าจุดชมทะเลหมอกหยุนไหล เส้นทางก่อนถึงหยุนไหล จะแคบและชันเล็กน้อยควรขับรถด้วยความระมัดระวัง
จากทะเลหมอกหยุ่นไหลไปต่อยัง สะพานบุญโขกู้สุ่ย สะพานไม้ไผ่แห่งศรัทธา ตั้งอยู่ในหมู่บ้านแพมบก ตำบลทุ่งยาว อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ห่างจากตัวเมืองปายประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นสะพานไม้ไผ่ที่ทอดยาวคดเคี้ยวไปในทุ่งนาข้าวโดย มีฉากหลังเป็นภูเขาสวยงามจนกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของเมืองปาย หากมาจากตัวเมืองปายผ่านร้าน coffee in love ทางเดียวกับโรงเรียนบ้านแพมบก จะเจอซอยให้เลี้ยวขวาไปในซอยนั้น จากนั้นขับตรงไปเรื่อยๆ จากปากทางเข้า ไปจนถึงหมู่บ้านแพมบก บางช่วงทาง ค่อนข้างชัน และแคบ ถึงแม้ถนนจะเทปูนแล้วแต่บางช่วงทางชำรุด ไม่ค่อยดีนัก ในช่วงฤดูฝนรถที่สัญจรไปมาได้แนะนำว่าเป็นรถกระบะจะเหมาะที่สุด รถมอเตอร์ไซต์วิ่งได้ตามปกติ แต่ถ้าเป็นรถรถตู้หรือรถเก๋งไม่แนะนำเพราะสงสารรถมากๆ แต่ตอนมาถึงเห็นรถเก๋งเข้ามาคันนึง เป็นคันเดียวที่มาจอด ตอนนั้นยังมองด้วยความรู้สึกว่าโอ้โห เก่งมาก ที่สามารถเข้ามาได้
โขกู้โส่ เป็นภาษาไทยใหญ่ คำว่าโข แปลว่าสะพาน และ กู้โส่ แปลว่า กุศล หรือ บุญ แปลเป็นภาษาไทยว่า สะพานบุญโขกู้สุ่ย เกิดขึ้นจากพระอาจารย์สาคร จารุธัมโม ผู้ดูแลสำนักสงฆ์คายคีรี ได้มีแนวคิดที่จะทำสะพานเชื่อมระหว่างสำนักสงฆ์ กับหมู่บ้านแพมบก เพื่อให้พระสงฆ์สามารถเดินไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน ที่ห่างกันประมาณ 1 กม. เดิมพระสงฆ์จะต้องเดินผ่านทุ่งนาข้าวของราษฎรซึ่งเส้นทางที่แคบลื่นในหน้าฝน สร้างความลำบากในการเดินทางและชาวบ้านที่จะเดินทางมาทำบุญที่วัด จึงปรึกษากับคณะศรัทธาญาติโยม ในหมู่บ้านแพมบก บ้านปางตอง และบ้านแม่แลบ ในการที่จะสร้างสะพานบุญขึ้นมา และคณะศรัทธาต่างเห็นชอบ จึงได้ลงมือสร้างสะพานขึ้นมาเมื่อต้นปี พ.ศ.2559
สะพานบุญโขกู้สุ่ย มีความยาวทั้งหมด 815 เมตร สูงจากพื้นดินประมาณ 1-2 เมตร สร้างขึ้นจากโครงปูนและเหล็ก ใช้ไม้ไผ่สานเป็นพื้นด้านบน กว้างประมาณ 1 เมตร สองฟากฝั่งทางเดินจะเป็นนาข้าวสุดกว้างไกล ซึ่งถือว่าเป็นสะพานไม้ไผ่อีกแห่งหนึ่งที่มีความสวยงามและยาวมาก ความมีเสน่ห์ของสะพานแห่งนี้ คือ ปกติเราจะเห็นแต่สะพานไม้ไผ่ที่สร้างเป็นเส้นตรงและอาจมีโค้งบ้าง เพียงอย่างเดียว แต่สะพานบุญโขกู้สุ่ย เป็นสะพานที่มีทางแยกเชื่อมต่อไปยังสะพานในบริเวณอื่นได้อีกหลายจุด ทำให้เรามีความเพลิดเพลินในการเดินชม ไปยังจุดตรงนั้นตรงนี้ ไม่ได้ตัดตรงเพียงอย่างเดียว บริเวณสะพายมีบ้านพักแบบโฮมสเตย์ที่เปิดให้บริการ ตั้งอยู่ท่ามกลางนาข้าวที่เขียวขจี มีเบอร์ติดต่อเขียนไว้ด้านหน้าด้วย
จากนั้นเราแวะทานอาหารเช้า และเข้าไปเก็บของยังที่พัก check out ออก จากนั้นไปยังจุดหมายสุดท้าย โป่งน้ำร้อนไทรงาม ตั้งอยู่ที่บ้านไทรงาม อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ห่างจากตัวเมืองปายประมาณ 15 กิโลเมตร บนเส้นทางสายปาย ปางมะผ้า เมืองแม่ฮ่องสอน เป็นบ่อน้ำผุดที่มีอุณหภูมิอุ่นซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ในเขตอนุรักษ์ป่าไทรงาม รายล้อมด้วยต้นไม้ที่เขียวขจี ลักษณะเป็นแอ่งน้ำนาดเล็กที่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ คล้ายกับน้ำตก ผืนน้ำมีสีเขียวใสแจ๋วสามารถมองเห็นหินและทรายเบื้องล่าง เพราะน้ำไม่ลึกมากประมาณแค่เขา โป่งน้ำร้อนไทรงาม เป็นที่นิยมขิงนักท่องเที่ยวมาแช่น้ำให้ผ่อนคลายในบรรยากาศแบบแนบชิดธรรมชาติ สำหรับชื่อนั้น บางคนมักเรียกติดปากกันว่า น้ำพุร้อนไทรงาม แต่ชื่อตามป้ายบอกทางที่เขียนบอกนักท่องเที่ยว คือ โป่งน้ำร้อนไทรงาม เพราะลักษณะของตาน้ำเป็นน้ำผุดที่ขึ้นมากจาเบื้องล่าง จะไม่ใช้ลักษณะน้ำพุที่พุ่งขึ้นมาเหมือนบ่อน้ำร้อนอื่นๆ
การเดินทางมายังโป่งน้ำร้อนไทรงาม จากตัวเมืองปายออกนอกเมืองใช้เส้นทางปาย ปางมะผ้า ประมาณ 15 กิโลเมตร ถึงทางเข้าจะเห็นป้ายเขียนว่าโป่งนำร้อนไทรงามให้เลี้ยวเข้าไปได้เลย แต่ถ้ามาจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน หรือปางมะผ้า ก่อนเข้าตัวเมืองปายจะผ่านโป่งน้ำร้อนไทรงามก่อนสามารถแวะเข้าไปเที่ยวได้ เส้นทางไปยังโป่งน้ำร้อนเป็นถนนลาดยาง ถนนค่อนข้างดี แต่อาจจะแคบและชันต้องขับด้วยความระมัดระวัง รถทุกชนิดสามารถไปได้ หากกลัวหลงทางก็ให้ตั้ง google maps พิมพ์ข้อความ น้ำพุร้อนธรรมชาติป่าอนุรักษ์ไทรงาม เมื่อมาถึงต้องเสียค่าบริการคนละ 20 บาท ตรงข้ามกับจุดเก็บเงิน มีร้านอาหารเป็นซุ้มเล็กๆ ขายเครื่องดื่มและอาหารตามสั่ง
มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นห้องเล็กๆทำจากไม้ไผ่มีประมาณ 3 ห้อง
โป่งน้ำร้อนไทรงาม มองไปก็เหมือนน้ำตกขนาดเล็ก มีแอ่งให้แช่ประมาณ 3 แอ่ง แอ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวคงเป็นแอ่งบนสุด ซึ่งน้ำใสและนิ่งมาก พื้นด้านล่างส่วนใหญ่ คือ ทรายสีขาว ทำให้ยิ่งเห็นความใสได้ชัดเจนขึ้น ส่วนแอ่งข้างล่าง ส่วนใหญ่จะเป็นก้อนหิน อุณหภูมิของน้ำจะไม่ร้อนมาก แค่ประมาณอุ่นๆ ทำให้สามารถแช่ได้อยู่นาน เหมือนเล่นน้ำปกติ
มองจากข้างบนเราจะเห็นเป็นน้ำสีเขียวนิดๆ แต่ถ้าเราใช้กล้องถ่ายใต้น้ำลงไป จะได้ความเก๋อีกแบบ คือ น้ำเป็นสีฟ้า เรียกว่าดำผุด ดำว่าย ถ่ายใต้น้ำกันสนุกเลยทีเดียว โป่งน้ำร้อนไทรงาม ถือว่าเป็นจุดท่องเที่ยวน่าแวะอีกจุดหนึ่ง สำหรับคนที่เดินทางมาเที่ยวปาย หรือไปยังเส้นปางมะผ้า ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน สามารถแวะมาแช่น้ำหรือถ่ายภาพสนุกๆ ใต้น้ำกัน
จบทริปการเดินทางท่องเที่ยวไปในหน้าฝน โดยส่วนตัวชอบบรรยากาศของปายฤดูนี้มากกว่าฤดูหนาว มีความเขียวชอุ่มสดชื่น ชมความสวยงามของนาข้าว ได้สัมผัสถึงความสงบเงียบในแบบฉบับของความเป็นปายอย่างแท้จริง