ปล่อยใจไปรีแลกซ์ เที่ยวเมืองปากน้ำ

ปากน้ำ หรือ สมุทรปราการ จังหวัดที่เรียกว่าเกือบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกรุงเทพ เพราะใกล้มากเดินทางไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง วันหยุดหนึ่งวัน พักผ่อนแสนสบาย ไม่อยากไปไหนไกล มาเที่ยวปากน้ำ เริ่มจากหามุมถ่ายภาพคาเฟ่สวยในย่านพระสมุทรเจดีย์ เริ่มจากตัวเมืองเที่ยวมุมอันซีน หาร้านอร่อย ไปจบที่บางปู ดูฝูงนกนางนวลนับพันบินโฉมไปมา บอกลาพระอาทิตย์ดวงโต เมืองปากน้ำมีดีมากว่าที่คิด

 

 

Sea You Cafe & Bar

เริ่มต้นกันแบบไม่เร่งรีบ ออกจากบ้านสายหน่อย ไปที่ Sea You Cafe & Bar คาเฟ่สุดฮอตฟีลออนเดอะบีช ในย่านพระสมุทรเจดีย์ ชมวิวริมแม่น้ำ โดดเด่นด้วยสไตล์การตกแต่งร้านในสไตล์บาหลีผสมความมินิมอลนิดๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวร้าน โต๊ะเก้าอี้นั่งชายหาด  แพดเดิ้ลบอร์ด บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ริมชายทะเล ร้านนี้มีทั้งอาหารคาว หวาน เครื่องดื่มพร้อมเสิร์ฟ ผ่านไปมาเที่ยวในย่านนี้แวะมาถ่ายรูปหามุมแบบออนเดอะบีชแบบไม่ต้องไปไกลถึงชายทะเล

 

 

มาถึงแล้วสามารถจอดรถฝั่งตรงข้ามร้านได้เลย ที่จอดรถค่อนข้างกว้างขวาง มองหน้าร้านเหมือนมีพื้นที่ไม่มากนัก แต่พอเข้าไปข้างในกว้างในระดับหนึ่ง ที่สำคัญสายของถ่ายภาพต้องปลื้ม เพราะมีมุมให้ถ่ายรูปเริ่มตั้งหน้าร้าน ที่เหมือนยกบรรยากาศริมทะเลมาไว้ตรงนี้ ทั้งเก้าอี้ ร่มชายหาด บนพื้นทราย มีต้นปาล์มเล็กๆอยู่ด้านข้าง เหมือนนั่งเล่นริมชายหาด ต่อด้วยแพดเดิ้ลบอร์ดสีสันสดใสพิงบนกำแพงไม้ไผ่ ยืนถ่ายรูปเก๋ไปอีก

 

 

ช่องทางเดินเข้าไปข้างใน ยังมีมุมที่นั่งที่ตกแต่งในสไตล์ทรอปิคอล แบบบาหลี ฝั่งตรงข้าม คือ เก้าอี้ติดริมกำแพงและหน้าต่างกระจกวงกลม

 

 

ภายในร้านที่เป็นพื้นที่นั่งในโซนห้องแอร์ พื้นที่ไม่กว้างมาก ตกแต่งให้ฟีลเกาหลีไปอีก ร้านมีทั้งอาหารคาว ทั้งแบบอาหารจานเดียว ทานเล่น เครื่องดื่มต่างๆเบอเกอรี่ รวมไปถึงบาร์ทด้านนอกที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย สั่งอิตาเลี่ยนโซดาทานกับเค้กบลูเบอรี่ครีมสดมินิเค้ก หน้าตาน่ารัก รสชาติดี

 

 

พื้นที่นั่งข้างนอกติดริมน้ำแบบโอเพ่นแอร์ แบบบีชบาร์ ริมแม่น้ำ พื้นที่ในนี้แบ่งเป็นโซนบาร์ ช่วงกลางวันอากาศค่อนข้างร้อน หากมานั่งในช่วงเย็น บาร์เปิดเต็มสตรีม พร้อมดนตรีสด แดดร่มชมวิวพระอาทิตย์ตกด้วยน่าจะบรรยากาศดี

 

 

ส่วนช่วงกลางวันมาถ่ายรูปได้ มีมุมน่ารัก ทั้งบีชแบค และชิงช้า Sea You Cafe & Bar น่ารัก ละมุน ได้ทั้งฟีลทะเลและเกาหลี เกาใจ แวะมาแชะภาพจิบเครื่องดื่มทานอาหารกันได้เลย

 

 

Sea You Cafe & Bar

ที่อยู่ : 70/2 ม.6, สุขสวัสดิ์ แหลมฟ้าผ่า พระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ สมุทรปราการ (ใกล้ศาลเจ้าพ่อปากอ่าว ประมาน 200 เมตร)

เปิดให้บริการ : 10:30 – 22:30 น. (หยุดทุกวันจันทร์)

โทร 086 602 1402

Facebook : Sea You Cafe & Bar

 

เจ๊จุกเย็นตาโฟ

ช่วงบ่ายท้องเริ่มร้อง แวะมาทาอาหารที่ ครัวเจ๊จุก เย็นตาโฟ ร้านเก่าแก่มในตำนาน ที่ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติเย็นตาโฟที่อร่อยเด็ด ร้านอยู่ในตึกแถวริมถนนในตลาดปากน้ำ ไม่ที่จอดรถ  แต่สามารถจอดรถที่วัดพิชัยสงครามเสียค่าจอด 10 บาท แล้วเดินต่อมาที่ร้านได้เลย ร้านสะอาด เป็นห้องแอร์เย็นสบาย 

 

 

เมนูออเดิฟมทานเล่น เห็นคนในพื้นที่ สั่งกันทุกโต๊ะเลยสั่งตาม เกี้ยวกรอบหมูสับ ทานกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน เคี้ยวกรุบกรอบเพลินดี

 

 

เมนูเด็ดขึ้นชื่อ ต้องสั่งเย็นตาโฟ มีให้เลือกหลายแบบทั้งแบบถ้วย และเย็นตาโฟทะเลหม้อไฟต้มยำ ที่ใส่เครื่องแน่น รสชาติของน้ำเย็นตาโฟกลมกล่อม ไม่เปรี้ยวและเข้มจนเกินไป คลุกกับน้ำพริกเผาที่ใส่มาด้ว รสชาติลงตัว 

 

 

เมนูอาหารจานเดียวแบบข้าวก็มีค่ะ เมนูแนะนำ ข้าวหมูกรอบพริกเกลือ แค่เห็นหมูกรอบ ก็กรีดร้อง เนื้อแน่นฉ่ำน่าทานมาก รสชาติเมนูนี้จะออกไปทางหวานนำ แนะนำให้ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดที่มาพร้อมกับลูกชิ้นปลาสามแบบไปด้วย อร่อยลงตัวมาก หรือถ้าไม่ได้สั่งลูกชิ้นปลาลองขอทางร้านได้ ลูกชิ้นปลาโอเค แต่ทีเด็ด คือ น้ำจิ้ม 

 

 

หอชมเมืองสมุทรปรากา

ใกล้ร้าน ร้านเจ๊จุกเย็นตาโฟ คือ หอชมเมืองสมุทรปราการ นำรถจอดต่อที่ลานจอดรถด้านข้างหอ ยกให้เป็นหอชมเมืองที่ดีไซน์สวยทันสมัย  มีแนวคิดที่สร้างสรรค์ที่สุด นอกจากสามารถชมวิวเมืองสมุทรปราการได้แบบ 360 องศา ทั้งวิวเมือง ตัวตึก แม่น้ำเจ้าพระยา แล้ว สิ่งที่ทำให้ตื่นเต้นที่ได้ชมจากหอชมวิวแห่งนี้ คือ มองเห็นสถานท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในตัวเมืองสมุทรปราการหลายแห่ง เช่น วัดพระสมุทรเจดีย์ ป้องพระจุล พิพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ผ่านหน้าต่างกระจกบนหอคอยชมวิวโดยมีการมาร​คจุด พร้อมป้ายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้เราทราบว่า มุมนี้เห็นอะไรบ้าง

 

 

อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “หอชมเมืองสมุทรปราการ” ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองสมุทราปราการ เมื่อเข้ามาในตัวเมืองแล้ว จะมองเห็นหอชมวิว มาแต่ไกล หรือหากใครนั่งรถไฟฟ้ามา สามารถมาลงที่สถานีปากน้ำแล้วเดินไปที่หอชมเมืองได้เลยสะดวกมาก หอชมเมือง ที่ใช้เวลาสร้างกว่า 10 ปี

 

 

ภายในตัวอาคารหอชมเมือง สร้างเป็นอาคารฐานทรงกลม 2 ชั้น แกนกลางมีลักษณะเป็นแท่งแปดเหลี่ยม สูงขึ้นไปเป็นหอคอยทรงกระบอก ด้านบน ชั้น 23 เป็นจุดชมวิว ที่ทำเป็นหน้าต่างห้องกระจกใสทรงกลม สามารถมองเห็นทัศนียภาพเมืองสมุทรปราการแบบ 360 องศา รวมทั้งวิวปากแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยที่สุดแห่งเดียวในประเทศไทย

 

 

หอชมเมืองสมุทรปราการ ให้เข้าชมฟรี โดยแบ่งพื้นที่การเข้าชมเป็นสองส่วน  คือ นิทรรศการร้อยเป็นเรื่องเมืองปากน้ำ และหอชมวิว หากใครต้องการชมนิทรรศการ ให้มาตามรอบที่แจ้งไว้ หรือจะไม่ชมนิทรรศการแล้วไปไปชมวิว เลยก็ได้ นิทรรศการร้อยเป็นเรื่อง อยู่ในแต่ละชั้นของตัวอาคาร บอกเล่าความเป็นมา ของสมุทราปราการใน ทุกยุคทุกสมัย ผสานนวัตกรรมอันทันสมัย ที่ทำให้ผู้เข้าชมสัมผัสได้ทั้ง 6 โซน ประกอบด้วย ปากน้ำเมื่อนานมา, เข้าท่าเมืองหน้าด่าน, ปรากฏเป็นปราการ, ปราการป้องแผ่นดิน, หน้าด่านสานเศรษฐกิจ และ มอง(กาล)ไกลไปด่านหน้า อีกทั้งยังมีนิทรรศการรวบรวมความผูกพันของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่ออาณาประชาราษฎร์ที่เกิดขึ้น ณ สมุทรปราการ ใช้เวลาชมประมาณ 40 นาที

 

 

หากใครต้องการไปชมวิว ก็ขึ้นลิฟท์ไปยังชั้น 23  มีเจ้าหน้าที่คอยบอกและดูแลทุกจุด ขึ้นลิฟท์มาถึงแล้วเห็นภาพครั้งแรก แสงสวยมองแล้วสบายตา มีกล้องส่องทางไกลวางไว้ในแต่ละจุดให้ชมวิวแบบชัดเจนเสียค่าใช้งาน 10 บาท  บริเวณฐานตรงกลางมีภาพวาดเหตุการณ์และพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ภาพวาดเหมือนที่มีชีวิต มองแล้วยิ่งทำให้คิดถึงพระองค์มาก

 

 

ความว้าว คือ บริเวณที่ตั้งกล้อง มีป้ายสถานที่บอกไว้ ว่ามุมนี้เห็นอะไรบ้าง เราสามารถมองเห็นสถานที่นั้นด้วยตาเปล่า โดยที่ไม่ต้องส่องกล้องก็ได้ แต่ถ้าอยากเห็นชัดขึ้น พาเด็กๆมาเที่ยวก็หยอดเหรียญเพื่อให้กล้องใช้งานได้

 

 

มุมนี้ มองเห็นพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ แต่ต้องใช้กล้องส่องถึงจะเห็นชัด

 

 

มุมนี้ คือ วัด พิชัยสงคราม เห็นวัดอยู่ท่ามกลางชุมชน วัดตั้งอยู่ไม่ไกล เดินไปจากหอชมวิวได้เลย

 

 

จากวิวเมือง คือ วิวของแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถมองเห็นวิวของโค้งน้ำที่สวยที่สุดอีกจุดหนึ่ง ซึ่งตามที่ทราบกันว่า สมุทรปราการ แบ่งเป็น 2 ฝั่ง โดยมีแม่น้ำเจ้าพระยาพาดผ่านระหว่าง อำเภอเมือง และอำเภอ พระสมุทรเจดีย์ ซึ่งฝั่งที่เรายืนอยู่ คือ อำเภอเมือง เมื่อมองผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาไป คือ ฝั่งของอำเภอพระสมุทรเจดีย์  ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ทั้ง วัดพระสมุทรเจดีย์ ป้อมพระจุล ป้อมผีเสื้อสมุทร

 

 

จากจุดวิวฝั่งแม่น้ำเข้าพระยา มองไปเห็นพระสมุทรเจดีย์ และสะพานภูมิพล อยู่ไม่ไกล รวมทั้งเรือบรรทุกสินค้าที่แล่นผ่านไปมา

 

กดลิฟท์ไปต่อยังชั้น 25 ซึ่งเป็นพื้นที่แสดงนิทรรศการเรื่องเที่ยวเรื่องใหญ่ ที่แสดงนิทรรศการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสมุทรปราการไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตการทำเกษตร รูปปั้นอริยสงฆ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองปากน้ำ และประเทศไทย  เป็นต้น เป็นการชมวิวเมืองสมุทรปราการที่ประทับใจและว้าวกับวิวที่ได้เห็น ไม่คิดว่าเราจะได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของเมืองสมุทรปราการ ได้ในอีกมุมซึ่งเป็นมุมสูงได้อย่างชัดเจน  อยากให้แวะมาเที่ยวมาก รับรองว่าต้องชอบแน่นอน

 

 

หอชมเมืองสมุทราปราการ

เปิดให้บริการ :  ทุกวันอังคาร – วันอาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ เวลา 10.00 – 17.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)

(รับผู้ชมรอบสุดท้ายเข้าชมนิทรรศการ  เวลา 15.00 น.) ส่วนหอชมวิวเข้าชมก่อน 17.00 น.

การเดินทาง สามารถนั่ง รถไฟฟ้า  BTS  มาลงสถานีปากน้ำ ทางออก 6 (สามารถเดิน หรือนั่งแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์ต่อมาได้)

 

สถานตากอากาศบางปู 

ช่วงเย็นไปต่อ ที่ สถานตากอากาศบางปู  ที่นี่ไม่ใช่เพียงจุดชมนกนางนวลและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามเท่านั้น แต่ที่นี่ คือ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ แห่งความสุข ของทุกเพศ ทุกวัย ภาพฝูงนกนางนวลนับพันตัวบินโฉบไปมาริมทะเลกว้าง ผู้คนต่างหลั่งไหลมาพักผ่อนดื่มด่ำบรรยากาศยามเย็นืรอชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ภาพนักท่องเที่ยวให้อาหารนกจากมือด้วยความตื่นเต้น ลุ้นว่าจะบินมากินอาหารเมื่อไหร่ด้วย บางปู สถานที่พักผ่อนใกล้กรุง สร้างความอบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่ได้มาเยือน 

 

 

สถานตากอากาศบางปู สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของสมุทรปราการมานาน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ เป็นแหล่งท่องเที่ยวดูนกที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะนกนางนวลที่อพยพหนีหนาวจากไซบีเรียมาในต้นฤดูหนาว ช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ของทุกปี โดยมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 5,000 ตัวในแต่ละปี รวมทั้งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกได้สวยที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย

 

 

สำหรับการเดินทางเพื่อมาดูนกที่ บางปู แนะนำให้มาถึงประมาณสี่โมงเย็นเป็นต้นไป เพราะแดดไม่ร้อนมาก แสงเริ่มอ่อนลง ได้ชมบรรยากาศของพระอาทิตย์ตก เมื่อมาถึงข้างในจะมีลานจอดรถกว้างขวาง สามารถนำรถเข้าไปจอดได้ จากนั้นเดินเข้าไปข้างในบางปูซึ่งเป็นสะพานปูทอดยาว มองเห็นวิวทะเลขนาบข้าง มีนกนางนวลโฉบบินไปมาตลอด ข้างในสุดมีอาคารร้านอาหารทะเลให้บริการ  หรือใครจะใช้บริการรถตุ๊ก นั่งสนุกๆ ไปยังอาคารก็ได้ ค่าบริการแล้วแต่จะหย่อนใส่ตู้ tip box ด้านหลัง

 

 

บริเวณด้านหน้าทางเดินมีกากหมูซึ่งเป็นอาหารนกขายถุงใหญ่ 50 บาท ถุงเล็ก 20 บาท การได้  shot ถ่ายภาพสวยๆแต่เวลายื่นอาหารนก ต้องใช้ความอดทนหน่อย ต้องยื่นมือแช่ไว้รอจังหวะให้นกมาโฉบ ซึ่งบางทีก็ค่อนข้างนานพอสมควร บางคนเทอาหารใส่มือแบไว้กลางอากาศรอนกมาโฉบ เวลาที่นกมาโฉบอาหารไปทีเหมือนได้รับชัยชนะ มิชชั่นคอมพลีท แต่ต้องมาลุ้นภาพอีกทีว่าจะได้ภาพถูกใจและชัดมั้ย สำหรับการตั้งค่ากล้องเพื่อถ่ายนกแล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน สำหรับเราใช้โหมด M ตั้ง speed shutter 2000  ค่ารูรับแสงหรือ F ประมาณ 16-22  ISO 4000  ใช้ Mode ถ่ายภาพต่อเนื่องกดรัวๆไปก่อน แล้วค่อยมาเลือกภาพทีหลัง และใช้เลนส์ซูมระยะ 70-300 ถ่ายทั้งหมด

 

 

ยามเย็นลมพัดเย็นสบาย ได้ยินเสียงหัวเราะตื่นเต้น เวลานกมาโฉบอาหารที่มือเป็นบรรยากาศที่สนุกดี

 

 

มุมนี้ถ่ายภาพมามองเห็นนกบินโฉบไปมาเยอะมาก บางจังหวะฝูงนกบินพร้อมกันเป็นแถวสวยงาม 

 

 

ถ่ายภาพตรงกลางถนนที่นกคอยบินโฉบข้ามไปมา จะได้มุมสวยๆอีกมุม 

 

 

อีกหนึ่งบรรยากาศของบางปูที่สวยงาม คือ ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ประมาณ 6 โมงกว่า พร้อมภาพฝูงนกที่บินหยอกล้อแสงอาทิตย์  ภาพนักท่องเที่ยวทุกวัย กำลังให้อาหารนกล่อแสงอาทิตย์เป็นภาพที่อบอุ่นและงดงาม แค่มองก็มีความสุขมาก 

 

 

 

ยิ่งพระอาทิตย์คล้อยต่ำลง ดวงก็จะกลมโตขึ้น 

 

 

โบกมือลาไปพร้อมกับความประทับใจ และความสุขเต็มหัวใจ วันหยุดนี้ มาเที่ยวที่ บางปู เดินกินลม ชมฝูงนก ฟินกันได้ใกล้กรุง

 

 

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง