เที่ยวปราจีนบุรี 1 วัน กับ 6 จุด กินเที่ยวเด่น

ปราจีนบุรี อีกหนึ่งจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ ที่ใช้เวลาเดินทางแค่เพียงสองชั่วโมง ก็จะได้พบกับเมืองที่เด่นในเรื่องประวัติศาสตร์ รวมถึงโบราณสถานที่สวยงาม มีมุมของธรรมชาติที่แสนสงบ หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่านอกจากตึกอภัยภูเบศร ดาษดาแกลลี่ ทุ่งดอกหงอนนาค ที่หลายคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว ปราจีนยังมีในอีกหลายแง่มุมให้ลองมาสัมผัส รับรองว่าแค่เพียง 1 วัน ก็จะทำให้คุณหลงเสน่ห์เมืองนี้ได้อย่างง่ายดาย

 

เที่ยวปราจีนบุรี

 

วัดแก้วพิจิตร

เริ่มต้นการเดินทางด้วยความเป็นศิริมงคล เมื่อเข้าสู่ตัวเมืองปราจีนบุรี เรามุ่งหน้าไปที่ วัดแก้วพิจิตร วัดเก่าแก่และสำคัญประจำจังหวัด ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองริมแม่น้ำปราจีนบุรี ไม่ไกลจากตึกอภัยภูเบศร์ ความโดดเด่น คือ อุโบสถที่มีการบูรณะใหม่จากเดิมสีขาวให้เป็นสีแดงอิฐและสีชมพู มีลวดลายแกะสลักที่งดงาม ตัวอุโบสถเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทย จีน ยุโรป ขอม ที่ผสมผสานได้อย่างลงตัวซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในประเทศแลดูแปลกกว่าวัดโดยทั่วไป

 

 

อุโบสถล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วสีชมพู ซุ้มประตูแก้ว ซึ่งเป็นศิลปะกรรมเขมร ศิลปกรรมไทย คือ รูปแบบแผนผังอุโบสถ ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ บานประตูหน้าต่าง ลงรักปิดทองเป็นทวารบาล ส่วนศิลปกรรมจีน คือ รูปปั้นมังกรเขียวหน้าจั่ว  หลังคาลายมังกร ราวบันไดขึ้นอุโบสถ ส่วน ศิลปกรรมแบบยุโรป คือ เสาแบบโครินเธียล โดมหลังคาโรงเรียนบาลีนักธรรมวินัย การวาดภาพรูปชาวต่างประเทศล้อมรอบใต้ชายหลังคาด้านนอกอุโบสถ

 

 

เมื่อเข้าไป ภายในอุโบสถ จะเห็นความโดดเด่นหลายอย่าง คือ มีเสานางเรียงสองแถวขนานไปตามความยาวของอุโบสถ ช่วยนำสายตาไปสู่องค์พระประธานภายในอาคาร เสานางเรียงดังกล่าวเป็นเสาเซาะร่องแบบกรีกเหมือนด้านนอกอาคาร แต่ต่างกันที่เป็นหัวเสาแบบไอโอนิก คือม้วนเป็นก้นหอย ส่วนที่กรอบประตูหน้าต่างทำเป็นกรอบยอดแหลมคล้ายโดมในศิลปะเปอร์เชีย ประดับลายไม้ฉลุที่ช่องแสงเหนือหน้าต่างประตู ส่วนที่บานประตูหน้าต่างของอุโบสถ ยังเขียนภาพลงรักปิดทองเป็นรูปเทวดา ภายในอุโบสมี พระประธานคือหลวงพ่ออภัยวงศ์ เป็นพระพุทธรูปสีดำออกแบบโดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ส่วนภาพจิตรกรรมฝาผนังวาดโดยช่างหลวงสมัยรัชกาลที่ 6

 

 

 

ตีกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

จุดหมายต่อไป ที่ ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของปราจีนบุรี ตั้งอยู่ในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นตึกสีเหลืองสไตล์ย้อยนยุค ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมยุโรปแบบบาโร้ค มีมุขด้านหน้าตรงกลางเป็นโดมผนังด้านนอก มีลายปูนปั้น ลายพฤกษาประดับ ซุ้มประตูและ หน้าต่างภายในตึกแบ่งออกเป็นหลายห้อง โดยกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเป็น โบราณสถาน และได้มีการเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการ โดยจัดทำเป็น พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร เป็นศูนย์การรวบรวมอนุรักษ์ตำราไทย สมุนไพรไทย การแพทย์แผนไทย

 

 

ภายในอาคารชั้นล่างจัดแสดงประวัติตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ตำนานหมอหลวง การแพทย์แผนไทยแพทย์พื้นบ้านและ ตัวอย่างเครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์แผนไทย เช่น ตู้ยา หินฝนยา หินชนวน มีดหมอ ชั้นบน จัดแสดงสมุดข่อย หนังสือและตำรายา หินบดยาในอดีตสมัยทวารวดี  ถัดจากห้องโถงใหญ่คือ  ร้านยาไทยต้นแบบโพธิ์เงิน-อภัยภูเบศรโอสถ ร้านขายยาของโรงพยาบาลที่ยังคงรูปแบบของร้านขายยาโบราณ ทั้งตู้ยาโบราณ เคาน์เตอร์จ่ายยา ตู้ยาสมุนไพร โหลดองยา และตัวอย่างสมุนไพรอีกนับไม่ถ้วน ทั้งที่นำมาแปรรูปแล้ว และที่ยังคงรูปแบบดั้งเดิมอยู่ ซึ่งร้านยาแห่งนี้ยังคงเป็นสถานที่ให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำการใช้ยาสมุนไพร และการจ่ายยาลูกกลอน ยาต้ม ยาสมุนไพรแคปซูล โดยมีแพทย์เฉพาะทางดูแลอย่างใกล้ชิด

 

ชั้น 2 ของตึกแบ่งเป็น 3 ห้อง  เริ่มจากโรงงานยาสมุนไพรบุณยะรัตเวช เป็นการจัดแสดงตัวอย่างโรงงานยาไทย ทั้ง ครื่องมือการผลิตยา ได้แก่เครื่องแร่งยา เครื่องอัดเม็ดยา เครื่องบดลูกกลิ้งใหญ่ เครื่องบรรจุผงยา ตู้อบไฟฟ้า ตู้ยา อุปกรณ์วิจัยสมุนไพรเพื่อใช้ในการผลิตยาหอม ยาอุทัยกฤษณา ไหยอหมกเกลือ ซึ่งนับว่ามีคุณค่าในประวัติศาสตร์ยาไทย ห้องต่อไป คือ พิพิธภัณฑ์การปรุงยา ที่จัดแสดงกรรมวิธีปรุงยาแผนไทย 28 วิธี มีทั้งยาสำหรับดื่มกิน ยาสำหรับการชะล้าง ยาสำหรับการประคบ ขั้นตอนการปรุงก็มีการต้ม การบดผสม การตำ ฯลฯ โดยนำเสนอเป็นรูปแบบการ์ตูน แล้วย่อส่วนให้เล็กจิ๋ว เหมาะสำหรับเด็กๆ ที่จะเรียนรู้เรื่องยาสมุนไพรแบบเข้าใจง่าย

 

 

ข้างตึกมีสวนสมุนไพรอภัยภูเบศร ที่ตกแต่งสไตล์ยุโรป แต่ต้นไม้ที่ปลูกในสวนทั้งหมด คือ พืชสมุนไพรไทยที่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้ทุกชนิด เดินชมสวนไปก็จะได้กลิ่นของสมุนไพรต่างๆมาเป็นระยะ

 

 

สำหรับใครที่ต้องการเลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์อภัยภูเบศร ที่ตึกโรงพยาบาลมีห้องจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของอภัยภูเบศร ไม่ว่าจะเป็นยาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ความงาม ผลิตภัณฑ์ยาสระผม บำรุงผิว ต่างๆ ซึ่งมีให้เลือกมากมาย

 

ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

เปิดบริการทุกวันเวลา 08.30-17.00 น. โทร. 0 3721 1088 ต่อ 3166 หรือ 0 3721 6164
ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ในราคาย่อมเยาว์ชั้นล่างของโรงพยาบาล เปิดทุกวัน เวลา 08.30-20.30 น.

โทร. 0 3721 1088 ต่อ 3166

 

11.00 น. บ้านเล่าเรื่องสมุนไพร

มาเที่ยวปราจีนบุรีเมืองสมุนไพรทั้งทีต้องไม่พลาดมาทานร้านนี้  บ้านเล่าเรื่องสมุนไพร บ้านไม้เก่าแก่สีขาวริมน้ำ ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ที่ถูกดัดแปลงเป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพรวมทั้งและเครื่องดื่มสมุนไพร ที่ตกแต่งร้านในรูปแบบย้อนยุค นอกจากจะให้บริการในเรื่องของอาหารแล้วยังให้ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไทย ซึ่งปราจีนบุรีถือเป็นหนึ่งจังหวัดที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น เป็น 1 ใน 4 เมืองสมุนไพรของประเทศ

 

บริเวณหน้าบ้าน ถูกปกคลุมด้วยต้นไทรขนาดใหญ่ที่มีเส้นสายของลำต้นห้อยระย้าลงมา ตอกย้ำความเป็นบ้านเก่าแก่ได้เป็นอย่างดี ตัวบ้านเป็นบ้านไม้สีขาวบริเวณหน้าบ้าน คือ สวนสมุนไพร ที่บรรยากาศร่มรื่นมากมีมุมน่ารักอย่างเช่นภาพเพนท์กำแพงสีสันสดใส เป็นภาพของสถานที่ท่องเที่ยในตัวเมืองปราจีนบุรีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน  เช่น ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ วัดแก้วพิจิตรศาลหลักเมือง เป็นต้น รวมทั้งภาพเพนท์กำแพงหลังเก้าอี้นั่ง ซึ่งเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่สร้างชื่อเสียงให้กับปราจีนมานาน นั่นก็คือ ล่องแก่งหินเพลิง

 

 

เมื่อเดินเข้าภายในบ้านจะเป็นส่วนของร้านกาแฟ ที่เน้นขายเครื่องดื่ม สั่งมาแล้วก็มานั่งจิบชิลๆ กันตรงนี้ ที่นั่งเป็นชุดเก้าอี้ไม้ ตั้งอยู่ริมหน้าต่างตกแต่งด้วยผ้าม่านสีขาว มีระเบียงชมวิวขนาดเล็กสำหรับนั่งชมวิวสวนข้างนอก มุมนี้เป็นมุมที่คลาสิคมากคล้ายกับฉากในละคร ส่วนบริเวณกลางบ้านมีการจัดแสดงความเป็นมาของเมืองวัฒนธรรมประเพณีรวมถึงสมุนไพรที่คนปราจีนบุรีใช้ในการดูแลสุขภาพมาอย่างยาวนาน รวมทั้งมุมห้องสมุดที่สามารถนั่งอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรู้เรื่องสมุนไพรต่างๆ

 

 

ด้านในสุด คือ ส่วนของร้านอาหาร ซึ่งหากใครอยากทานอาหารคาวก็มานั่งทานกันตรงนี้ซึ่งจะมีทั้งโซนห้องแอร์ และสวนริมระเบียงติดสวนแบบเอาท์ดอร์ บริเวนเพดาของร้านตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นส่วนหนึ่งของการนำมาใช้ทำสมุนไพรและยา รวมทั้งภาพประวัติกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในปราจีนบุรี ทั้งกลุ่มชาวจีน ญวณ เขมร

 

 

เมนูอาหารเน้นอาหารเพื่อสุขภาพและน้ำดื่มสมุนไพรเป็นหลัก มีเมนูให้เลือกหลากหลายมาก แต่ละเมนูหน้าตาน่ารับประทานทั้งนั้น ลองสั่งเมนูนำสีสันสวยงาม เริ่มจาก ราดหน้าทะเลเส้นอัญชัน เส้นหนุบๆ ผักมาแบบจัดเต็ม กุ้ง ปลาหมึก ชิ้นโตมาก ยำวุ้นเส้นอัญชันกุ้งสดรสชาติจัดจ้านอร่อยมาก ยำหัวปลีก็เช่นเดียวกันรสชาติดี โดยส่วนตัวแอบชอบรสชาติอาหารประเภทยำเพราะรู้สึกว่าทำมาได้ถึงรสชาติมาก  เทมปุระเล็บครุฑ อีกเมนูน่าลอง เพราะหาทานยาก ทอดอย่างกรอบมาพร้อมกับกุ้ง ทานพร้อมน้ำจิ้มแบบอาจาดเข้ากันดี ส่วนเครื่องดื่มสั่งน้ำอัญชันมะนาวโซดากับชาเขียวมะนาว มาทาน แอบติดใจเครื่องดื่มทั้งสองเมนูมาก รสชาติดีอีกแล้ว อัญชันมะนาวมาพร้อมส่วนผสมต่างๆ ให้เราได้ปรุงเองตามรสชาติที่ชอบ เรียกได้ว่ามา บ้านเล่าเรื่อสมุนไพร อิ่มทั้งบรรยากาศและอิ่มท้องกับอาหารและเครื่องดื่มรสชาติดี ที่อาจหาทานที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่

 

 

บ้านเล่าเรื่องสมุนไพร

ที่ตั้ง: 51 ต.หน้าเมือง อ.เมือง เทศบาลเมืองปราจีนบุรี

เปิดให้บริการ :  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-19.30 น. ครัวปิดวันจันทร์แต่มีเครื่องดื่มบริการ

โทร : 097 021 1037

พิกัด google maps : https://goo.gl/maps/eWi78krk2CB2

 

The River Café ปราจีนบุรี

กินคาวแล้วก็ต้องด้วยของหวาน ที่  The River Café  คาเฟ่สุดริมน้ำตกแต่งสไตล์ลอฟท์ทันสมัยในเมืองปราจีนบุรี  มีมุมถ่ายรูปหลายมุม โลเคชั่นตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดแก้วพิจิตร  หลังจากตะลอนเที่ยวตามจุดต่างๆ ก็สามารถมานั่งพักผ่อนปล่อยใจไปกับบรรยากาศริมน้ำสุดชิลได้

 

ร้านแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนแรก คือ อินดอร์แบบห้องแอร์ ออกแนวโปร่งโล่ง ตกแต่งสไตล์ลอฟผนมผสานวินเทจให้ความรู้สึกเท่ขรึม มีทั้งที่นั่งแบบโซฟา และเก้าอี้บาร์สูง โซนนี้มีมุมน่ารักโซฟาที่มีตุ๊กตาหมีมุมนี้ถูกใจเด็กๆ โซฟาสีแดงที่มีโคมไฟเป็นรูปคนยื่นหน้าออกมา

 

 

ส่วนโซนที่สอง คือ เอาท์ดอร์ติดริมน้ำตกแต่งแนววินเทจนิดๆ มีทั้งที่นั้งแบบเก้าอี้ไม้ โซฟาวินเทจ ความพิเศษคือ มีเป็นเปลตาข่ายที่ยื่นลงไปในน้ำ เมนูอาหารให้บริการทั้งอาหารคาวและอาหารหวานพร้อมเครื่องดื่มหลากหลาย เมนูเครื่องดื่มดี เข้มข้นอร่อย เค้กละมุนนุ่มดี สามารถสั่งอาหารโดยจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์รับสัญญาณไฟเรียกก็ไปรับที่เคาน์เตอร์ได้เลย

 

 

The River Café & Bistro Prachinburi

ที่อยู่: 209/3 ถนน ปราจีนอนุสรณ์ หน้าเมือง เมือง ปราจีนบุรี 25000

เปิด ⋅ ปิด  08.00 – 20:00

โทรศัพท์: 084 520 3662

 

พระพุทธทวารวดีศรีปราจีน 

จากตัวเมืองปราจีน เรามุ่งหน้าไปยังเขาอีโต้ ซึ่งห่างออกมาจากตัวเมืองนิดหน่อย เขาอีโต้ คือ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมาชาติที่ชึ้นชื่อ เขาอีโต้จึงเป็นจุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงปราจีนบุรี เป็นพื้นที่ป่ากลางเมืองปราจีนที่สามารถเดินทางมาพักผ่อนหย่อนชมวิวถ่ายภาพเหนืออ่างเก็บน้ำได้ทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือจะพักค้างคืนแบบแคมปิ้งสัมผัสบรรยากาศก็ดีไม่น้อย ภายในพื้นที่ของเขาอีโต้มีจุดท่องเที่ยวหลายจุดไม่ว่าจะเป็นอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ จุดชมวิวเขาหินซ้อน น้ำตกเขาอีโต้ และอีกหนึ่งจุดที่เราจะแวะไปดับแรก คือ พระพุทธทวารวดีศรีปราจีน สิรินธรโลกนาถ พระนาคปรกที่ใหญที่สุดในประเทศไทย  เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บริเวณพุทธวนอุทยานโลกเขาอีโต้ ถอดแบบจากองค์พระพุทธรูปสมัยทวารวดี เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองและเป็นศูนย์รวมจิตใจ และสร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 60 พรรษา

 

พระปางนาคปรกเป็นพระประจำท้องถิ่นเมืองปราจีนบุรี ซึ่งมีลักษณะงานศิลป์เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองถือว่าเก่าแก่ที่สุดแห่งแผ่นดินสยาม บริเวณรอบองค์พระได้จัดทำเป็นระเบียงชมวิวรอบองค์พระที่สามารถมองเห็นวิวของภูเขาและต้นไม้เขียวขจี

 

 

 อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์

จากนั้นเราขับรถย้อนกลับมายังเส้นทางเดิม เพื่อไปเดินเล่นชมวิว ที่อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์  อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อยู่บริเวณเชิงเขาอีโต้ เป็นโครงการตามพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 สร้างขึ้นเพื่อกักเก็บน้ำไว้ให้เกษตรกรในพื้นที่ได้ใช้ยามหน้าแล้ง รวมทั้งเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่มีทิวทัศน์และธรรมชาติมองเห็นวิวอ่างเก็บน้ำที่รายล้อมด้วยขุนเขาอันสวยงามในบรรยากาศเงียบสงบ สำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวในบริเวณอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ มีทั้งปั่นจักรยาน เดินเล่น หรือชมวิวตามแนวสันเขื่อน และกางเต้นท์แคมปิ้งริมน้ำ

 

 

เมื่อเข้ามาในพื้นที่ของวนอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ ผ่านเส้นทางป่าเขาอันร่มรื่น จะพบอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์เป็นที่แรก บรรยากาซร่มรื่น เงียบสงบท่ามกลางความเป็นธรรมชาติของเขาอีโต้ อ่างเก็บน้ำมีหน้าที่สำรองน้ำที่ไหลต้นน้ำแหล่งต่างๆบนเทือกเขาอีโต้จึงมีน้ำตลอดทั้งปี ภายในอ่างเก็บน้ำมีจุดพักผ่อนหลายจุดไม่ว่าจะเป็นศาลาริมน้ำ ระเบียงชมวิว 2 แห่ง ที่ทอดยาวอยู่เหนือพื้นน้ำ เห็นวิวของทิวเขาที่รายล้อมอ่างเก็บน้ำอยู่เบื้องหน้า รวมทั้งมองเห็นพระพุทธทวารวดีศรีปราจีน สิรินธรโลกนาถอยู่ไม่ไกล

 

 

อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์  จุดกางเต้นท์ยอดนิยมของผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศแนวแคมปิ้ง ทำอาหารทานกับกลุ่มเพื่อนฝูงและครอบครัวอย่างสนุนสนาน มีลานกางเต้นท์เป็นสนามหญ้ากว้างขวาง หรือจะกางชิลริมน้ำ ผูกแปลญวนกับต้นไม้ก็ย่อมได้ มีห้องน้ำในส่วนกลางให้ใช้งาน  โดยพื้นที่กางเต้นท์ให้บริการฟรีแต่ต้องช่วยกันรักษาความสะอาดกันสักหน่อย สำหรับใครที่เป็นขาปั่นก็มีเส้นทางปั่นจักรยานศึกษาธรรมชาติชมทัศนียภาพป่าเขาลำเนาไพรโดยรอบ ให้ได้ปั่นกันอย่างสนุกสนาน

 

 

พื้นที่บริเวณด้านหลังของอ่างเก็บน้ำ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารปลายเขื่อน ร้านอาหารชื่อดังเพียงร้านเดียวที่ตั้งอยู่ที่นี่ วิวของอ่างเก็บน้ำบริเวณด้านหลังเป็นถนนทอดยาวขนานไปกับอ่างเก็บน้ำ บริเวณนี้ ถนนจะไม่ค่อยดี มีหญ้าขึ้นปกคลุมบังพอสมควร แต่วิวก็สวยใช้ได้

 

 

จบทริป 1 วันเที่ยวปราจีน  ลองหาเวลาสัก 1 วัน ขับรถออกจากบ้านมุ่งหน้ามาปราจีนมาสัมผัสกลิ่นอายของความเป็นเมืองสงบมีมุมของความย้อนยุคผสมผสานกับความเป็นธรรมชาติกันค่ะ

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง