1 วัน ชิลๆ 5 จุดเที่ยว กิน ในตัวเมืองชัยภูมิ

หากใครมาเที่ยวชัยภูมิ ลองแวะเข้ามาในตัวอำเภอเมืองชัยภูมิกันนะคะ อย่าเพียงแค่ใช้เป็นทางผ่านไปยังจุดท่องเที่ยวอื่น   มีเวลา 1 วัน แนะนำลองเที่ยวในตัวอำเภอเมือง ทั้งในโซนตัวเมืองและออกนอกเมืองไปนิดหน่อย เพราะในเส้นทางนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อและน่าสนใจหลายแห่งเลยทีเดียว

 

 เที่ยวชัยภูมิในเมือง

 

09.00 น. ปรางค์กู่

เริ่มต้นกันที่จุดหมายแรก ปรางค์กู่  โบราณสถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงของชัยภูมิ  ตั้งอยู่ใจกลางเมือง  ซึ่งในปัจจุบันยังมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัด และยังเป็นที่เคารพของคนในจังหวัดชัยภูมิอีกด้วย    ปรางค์กู่ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตมากนัก แต่มีความงดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากขอม เชื่อกันว่าเป็นอโรยาศาล(โรงพยาบาล) ในสมัยก่อน คำว่าปรางค์กู่นั้น เป็นชื่อเรียกของกลุ่มอาคารที่มีแผนผังและลักษณะแบบเดียวกันกับอาคารที่ เชื่อกันว่าเป็นอโรคยาศาลที่สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 18 ในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7

 

 

ด้านหน้าทางเข้าล้อมด้วยกำแพงซึ่งมีซุ้มโคปุระเฉพาะด้านหน้าทั้งหมด ก่อด้วยอิฐศิลาแลงยกเว้นกรอบประตูหน้าต่าง ทับหลัง เสาประดับล้วนเป็นหินทราย เป็นโบราณสถานที่เราเห็นแว่บ จากภายนอก ยังรู้สึกไม่ได้ตื่นเต้นมาก แต่พอได้เข้าไปชมข้างใน เริ่มรู้สึกว่า โอ้โห สวยจัง ถึงแม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีจุดที่น่าสนใจถ่ายรูปสวยหลายจุด ทั้งซุ้มทางเดิน กรอบประตูหน้าต่าง

 

 

ปรางค์กู่ มีปรางค์องค์ประธานตั้งอยู่ตรงกลาง 1 องค์ บรรณาลัยด้านหน้า 1 หลัง  หน้าบันที่แกะสลักหินเป็นรูปพระโพธิสัตวอวโรกิเตศวร 4 กรรวมถึงทับหลังที่อยู่ทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกที่มีรูปของพระพุทธรูปประทับนั่งปางสมาธิเหนือกาล กับรูปนางปรัชญาปารมิต ที่ช่องประตูหลอกด้านทิศเหนือยังมีพระพุทธรูปศิลาปางสมาธิ ศิลปะแบบทวาราวดี  ประดิษฐานอยู่ 1 องค์ ซึ่งเป็นของที่เคลื่อนย้ายมาจากที่อื่น

 

 

10.30 น. น้ำตกตาดโตน

ออกจากตัวเมือง ไปประมาณ 30 นาที มาถึง น้ำตกตาดโตน แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชัยภูมิ เป็นน้ำตกที่สวยงาม ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติตาดโตน มีน้ำไหลตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูฝนจะสวยงามเป็นพิเศษ ด้านบนเป็นธารน้ำไหลผ่านลานหินสองฝั่งธารร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ เมื่อมาถึงที่ทำการอุทยานฯ จอดรถไว้บริเณลานจอดรถ จากนั้นเดินเท้าไปยังตัวน้ำตกประมาณ  200 เมตร เป็นทางเดินลาดยางอย่างดี  ระหว่างทางมีจุดนั่งพักผ่อน ชมธรรมชาติเพลินๆ

 

 

เมื่อมาถึงตัวน้ำตกมีสภาพเป็นลานหินกว้างประมาณ 50 เมตร และยาวไปตามลำน้ำประมาณ 300 เมตร ทำให้น้ำไหลลาดมาตามลานหิน มีแอ่งน้ำที่สามารถเล่นน้ำได้เป็นจุดๆ และไหลลงมาตกที่หน้าผาเป็นน้ำตกตาดโตนซึ่งมีความสูงประมาณ 6 เมตร  เหมาะที่จะนั่งพักผ่อนชมธรรมชาติและเล่นน้ำเพลินๆ

 

12.00 น.   วัดศิลาอาสน์

จุดหมายต่อไป  วัดศิลาอาสน์  แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของชัยภูมิ  ภายในบริเวณวัดเงียบสงบ มีผาหินซึ่งมีภาพจำหลักกลุ่มพระพุทธรูปทั้งหมด 9 องค์ อันเป็นที่มาของชื่อ ภูพระ  มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประทับนั่งขัดสมาธิ ชาวบ้านเรียก  “พระเจ้าองค์ตื้อ” ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวชัยภูมิและในพื้นที่ ใกล้เคียงมาช้านาน ใกล้กันมีพระพุทธรูปอีก 7 องค์ จำหลักรอบเสาหินทราย พระพุทธรูปทั้งหมดเป็นพระพุทธรูปโบราณมีพุทธลักษณะแบบพระพุทธรูปอู่ทอง มีอายุราวศตวรรษที่ 18-19 กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน-โบราณวัตถุ

 

 

พระเจ้าองค์ตื้อ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ หน้าตักกว้าง 5 ฟุต สูง 7 ฟุต (ตื้อ แปลว่า สิบ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นพระชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้า) มีความเชื่อกันว่า พระเจ้าองค์ตื้อ มีความศักดิ์สิทธิ์ และสามารถดลบันดาลให้ประสบผลสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาได้  ด้านหน้ามีพระพุทธรูปหินทรายสีดำขนาดเล็กสูง 7 นิ้ว ลักษณะเดียวกันอยู่ข้างหน้า 1 องค์

 

 

พระพุทธรูปองค์เล็ก อีก 7 องค์  จำหลักรอบเสาหินทราย ประทับนั่งเรียงแถวปางสมาธิ  5  องค์ ปรางเดียวกับพระเจ้าองค์ตื้อ 2 องค์ นอกจากนั้นใกล้บริเวณลานหินยังพบเป็นรอยพระบาท  ทุกปีพุทธศาสนิกชนจากทั่วประเทศและมีความเชื่อศักดิ์สิทธิ์จะเดินทางมานมัสการพระเจ้าองค์ตื้อที่ภูพระ และประกอบพิธีรำผีฟ้า เพื่อบวงสรวง เชื่อว่ารักษาผู้ป่วยหาย หรือบนบานขอพรได้สำเร็จ ซึ่งประกอบพิธีในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 และวันขึ้น 13-15 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี

 

 

13.00 น.  ชวนชมคาเฟ่

กลับเข้ามาในตัวเมือง นั่งพักทานอาหารกันที่  ชวนชมคาเฟ่ คาเฟ่ร่มรื่นกลางสวน ใจท่ามกลางบรรยาศริมน้ำ ใจกลางเมืองชัยภูมิ มีพื้นที่กว้างขวาง ที่นั่งหลายโซนทั้งโต๊ะนั่งญี่ปุ่นมีแปลตาข่ายริมน้ำ  ที่นั่งห้อยขาริมน้ำ และแบบห้องแอร์ พร้อมบริการทั้งเครื่องดื่มแบบต่างๆ อาหารจานเดียว ทานเล่น และของหวาน ขนมเบอเกอรี่ เป็นคาเฟ่ชัยภูมิที่มาแล้วรับรองว่าจะฟินไปกับบรรยากาศและอิ่มอร่อยไปกับเมนูอาหารทั้งคาวหวานหลากเมนูให้เลือกสรร

 

 

ความเขียวสดชื่นเริ่มตั้งแต่ทางเข้าร้าน ที่จัดแต่งสวนสไตล์อังกฤษพร้อมเก้าอี้ และชิงช้าสำหรับนั่งเล่น เดินเข้ามาในบริเวณเคานเตอร์สั่งอาหาร และโซนที่นั่งในห้องแอร์เป็นแบบห้องกระจกมองเห็นวิวสระน้ำ ในส่วนของเมนูของคาวมีเยอะมาก ทั้งอาหารจานเดียวประเภทข้าว เช่น ข้าวหมูกระเทียม ข้าวหมูน้ำตก ข้าวผัดอเมริกัน ผัดไทย ข้าวไข่ขัน สปาเก็ตตี้  สลัด สเต๊ก และเมนูเครื่องดื่ม ทั้ง ชา กาแฟ แบบต่างๆ อิตาเลี่ยนโซดา รวมทั้งของหวานที่มีเยอะมาก ทั้งโทส โรตี แบบต่างๆ ปังเย็น รวมทั้งเบอเกอรี่โอมเมด เลือกกันแบบไม่ถูกเลยทีเดียว และรสชาตเครื่องดื่มก็ค่อนข้างดี เราสั่ง สมูทตี้สตรอเบอรี่ กาแฟ และชาเขียวปังเย็น รสชาติดีทั้ง 3 อย่าง

 

 

บรรยากาศในโซนด้านนอกแบบโอเพ่นแอร์กันบ้าง มีหลายโซนมากแลน่านั่งทุกโซน เริ่มตั้งแต่ที่นั่งแบบแปลตาข่าย ที่มีขายก๋วยเตี๋ยวเรือด้วย สั่งมานั่งทานกันริมน้ำได้เลย ถัดจากมุมแปลต่าข่ายเป็นที่นั่งแบบโต๊ะ เก้าอี้นั่ง ริมน้ำ ระหว่างทางเดินมีชิงช้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้วย

 

 

ผ่านโซนห้องแอร์ออกไป เป็นที่นั่งริมสระน้ำ ซึ่งมีทั้งแบบชิงช้าแบบเคาน์เตอร์บาร์ มุมนี้เก๋มาก  ถัดไปคือมุมศาลาริมน้ำห้อยขา ที่นั่งเป็นแบบโต๊ะญี่ปุ่นพร้อมหมอนอิงล้านนาให้นั่งเอนหลังแบบสบายๆ เป็นคาเฟ่และร้านอาหารในชัยภูมิ ที่แนะนำเลยค่ะ ว่าต้องมาเพราะแต่งร้านได้น่ารักและน่านั่งมาก แถมเครื่องดื่มรสชาติดี ส่วนอาหารยังไม่ได้ลองทาน แต่เห็นลูกค้าสั่งมาทานกันเยอะมาก สำหรับใครที่หาร้านอาหารทาน นั่งกันแบบเพลินๆ ต้องแวะมา

 

 

ชวนชมคาเฟ่

ถนนวิทยาลัยเทคนิค ชัยภูมิ (หลังเทคนิค ซอยซ้ายมือก่อนถึง รร.อนุยาลเด็กดี2)

เปิดให้บริการทุกวัน 09:00 – 18:30 น.

โทร 086 326 2865

คลิ๊ก เฟสบุค  ชวนชมคาเฟ่

 

15.00 น. ใบเสมาบ้านกุดโง้

จุดหมายสุดท้าย  ใบเสมาบ้านกุดโง้ เป็นใบเสมาหินทรายศิลปทวารวดี  ที่พบเป็นจำนวนมากในบริเวณรอบหมู่บ้าน โดยถูกเก็บรวบรวมไว้ในภายในศาลาวัด ภายในบริเวณโรงเรียนวัดกุดโง้ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่พบเป็นจำนวนมาก  รวมทั้งหมดกว่า 30 ชิ้น

 

 

ใบเสมาบ้านกุดโง้ง เป็นเสมาหินทรายศิลปะทวารวดีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 12-13 ที่พบในภาคอีสาน เป็นโบราณวัตถุที่เป็นหลักฐานแสดงให้เห็นถึงชุมชนในยุคสมัยทวาราวดี ซึ่งเป็นยุคที่พุทธศาสนาลัทธิหินยานได้มีการเผยแผ่เข้ามา ซึ่งใบเสมานี้ได้ถูกใช้ปักเพื่อเป็นการกำหนดเขตในการทำพิธีกรรมของพระสงฆ์ในพระพุทธศานา  โดยปกติหากนึกถึงใบเสมา พบเห็นได้ตามวัด มักจะตั้งอยู่รอบโบสถ์เพื่อแสดงอาณาเขตในการทำสังฆกรรม แต่เสมาหลายชิ้นแห่งในภาคอีสานไม่ได้อยู่ตามวัดตามโบสถ์ แต่สามารถพบเห็นได้ตามทุ่งนา บ้านเรือน และจุดต่างๆในหมู่บ้าน

 

 

ใบเสมาเหล่านี้เป็นใบเสมาที่ทำด้วยหินทรายแดง มีขนาดค่อนข้างใหญ่ บางชิ้นมีความสูงกว่า 2 เมตร ด้านบนมีปลายแหลม มีทั้งเสมาแบบไม่มีลวดลาย และแบบสลักลวดลายเป็นภาพต่างๆ ลวดลายที่ปรากฏเป็นเรื่องราวทางพุทธศาสนาเล่าเรื่องชาดกตอนต่าง ๆ หรือเป็นภาพรูปเคารพ เช่น ภาพพระโพธิสัตว์ประทับยืนบนดอกบัว ภาพพระพุทธเจ้าประทับนั่งบนบัลลังก์ใต้ต้นโพธิ์ นับเป็นกลุ่มเสมาที่สวยงามแห่งหนึ่งในอีสาน นอกจากนี้ใบเสมาบางแผ่นปรากฏมีจารึกอักษรปัลลวะของอินเดียใต้อีกด้วย

 

 

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง