ขั้นตอนขอวีซ่า เที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ ด้วยตัวเอง

เตรียมตัวก่อนเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ ขอวีซ่าด้วยตัวเอง มีอะไรที่ต้องเตรียมบ้าง มีรายละเอียดคร่าวๆมาแนะนำ

 

ขั้นตอนการขอวีซ่า

 

เมื่อได้วันเดินทางแล้ว  นัดหมายวันที่สะดวกกับ VFS ซึ้งเป็นตัวกลางในการยื่นวีซ่า ที่ได้รับมอบหมายจากสถานทูต  ทางเว็บ https://visa.vfsglobal.com/tha/th/che/book-an-appointment  แนะนำควรจองวันล่วงหน้าซัก 2 -3 เดือน ก่อนเดินทาง เพื่อความอุ่นใจ  ในเว็บให้เลือกวันเวลา ที่สะดวกได้เลยค่ะ จากนั้นชำระค่าจองคนละ 800 บาท ค่าใช้จ่ายนี้จะนำไปหักออกตอนชำระค่าทำวีซ่าเต็ม จากนั้นปรินท์เอกสารใบจองเก็บไว้ ตอนไปยื่นวีซ่า

 

เอกสารขอวีซ่าท่องเที่ยว

– แบบฟอรม์คำร้องขอวีซ่า (กรอกออนไลน์และโหลดเอกสารได้จากเว็บ VFS)

กรอกแบบฟอรม์คำร้องขอวีซ่า เข้าไปกรอกออนไลน์ผ่านเว็บ VFS   

วิธีการกรอกดูได้จากช่องนี้ อธิบายดีมาก ทำตามได้เลย กรอกเสร็จแล้วปรินท์ออกมาค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=4XEbvDalTcY

– รูปถ่ายรูปถ่ายสีหน้าตรงขนาด 3.5 ซม. x 4 ซม. จำนวน 2 ใบ

– หนังสือเดินทางฉบับจริง (Passport) พร้อมสำเนาถ่ายเอกสารหน้าแรกและหน้าที่เคยได้รับวีซ่าท่องเที่ยวประเทศใดประเทศหนึ่ง

– หนังสือเดินทางเล่มเก่า (ถ้ามี) ถ่ายเอกสารหน้าแรกและหน้าที่เคยได้รับวีซ่าท่องเที่ยวประเทศใดประเทศหนึ่ง

– ประกันการเดินทาง (แนะนำของ msig ราคาไม่แพง)

– หลักฐานการจองที่พัก/โรงแรม (จองก่อนค่อยจ่ายได้ รอวีซ่าผ่าน)

– เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ (จองก่อนค่อยจ่ายเมื่อวีซ่าผ่าน แต่ราคาอาจมีปรับเปลี่ยน)

– แผนการเดินทางโดยละเอียด ทำเป็นเพลนว่าในแต่ละวันเราไปไหนบ้าง ทำเป็นเอกสารสรุปย่อ แค่ 1 ใบ  

– หลักฐานการจ้างงานและหลักฐานทางการเงิน สำหรับฟรีแลนซ์ต้องมีจดหมายแนะนำตัวเพิ่มเติม สามารถหาดูวิธีการเขียนได้ในเน็ตมีเยอะมาก ส่วนใหญ่เขียนแบบเดียวกัน

 

เมื่อเอกสารครบแล้ว ไปตามเวลานัดหมาย อาจมีคนกังวลว่าวีซ่าจะผ่านมั้ย ยกตัวอย่างตัวเราเอง เคยไปแค่ญี่ปุ่นครั้งเดียว ไม่เคยเดินทางไปประเทศอื่น แต่ประวัติการทำงานมั่นคง มีธุรกิจที่เมืองไทยต้องรับผิดชอบ เคยทราบมาว่าถ้ามีเงินในบัญชี 6 หลัก ขึ้นไป ส่วนใหญ่จะขอวีซ่าผ่าน แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าจะได้กี่วัน ขอครั้งแรกจะได้ตามวันที่ไปเที่ยว อาจมีเกินมานิดหน่อย อย่างเราไปเที่ยว 10 วัน ขอครั้งแรก ได้วีซ่า 1 เดือน บางคนเคยมีประวัติเที่ยวสวิสมาแล้ว และเขียนในจดหมายแนะนำตัวว่าจะกลับมาเที่ยวอีก อาจได้ยาว 1 ปี ขึ้นไป  แล้วแต่ทางสถานทูตพิจารณา  สำหรับระยะเวลาการพิจารณาวีซ่า ตอนที่เราขอใช้เวลาเพียง 1 อาทิตย์ก็ทราบผล

 

หลังจากวีซ่าผ่าน

ซื้อ swiss pass

หลังจากทราบผลวีซ่าว่าผ่าน ขั้นตอนต่อไปเตรียมตัวซื้อ swiss pass ได้เลย swiss pass คือ บัตรที่สามารถใช้ขึ้นตั๋วรถโดยสารสาธารณะทุกประเภทของสวิสทั้งหมด ได้แก่ รถไฟ รถบัส รถเทรม เรือ จะขึ้นวันละกี่รอบก็ได้ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ตามวันที่เราได้จองไว้ แค่ save ลงมือถือ หรือปรินท์เป็นเอกสาร 1 แผ่น โชว์บาร์โค๊ดของบัตรให้เจ้าหน้าที่ scan เวลาใช้บริการรถโดยสารต่างๆ  swiss pass ยังสามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดในการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในสวิส โดยเฉพาะยอดเขาชื่อดัง ทั้ง จุงเฟรา เมทเทิรน์ฮอล  ริกิ ทิสลิส ฮาร์เดอร์คัม ลดได้เกือบครึ่งราคา ช่วยประหยัดเงินได้เยอะ รวมทั้งเข้าพิพิธภัณฑ์ โบสถ์ ฟรีในหลายแห่ง  swiss pass  เป็นของที่ต้องมีสำหรับคนเที่ยวสวิสด้วยตัวเอง ที่อาศัยการเดินทางด้วยรถสาธารณะทั้งหมด บัตรเดียวเที่ยวได้ทั่วสวิส สำหรับการซื้อสวิส pass เราซื้อผ่านเว็บ SBB เว็บการเดินทางของสวิสโดยตรง  เข้าไปที่ลิงค์นี้ https://www.sbb.ch/en/travelcards-and-tickets/buying-options/buy-travelcards-and-tickets.html  เลือก หัวข้อตามภาพ และเลือกจำนวนวัน หลังจากทำการซื้อเรียบร้อย จะส่งตั๋วมาให้ทางอีเมล์ค่ะ เก็บตั๋วไว้ในโทรศัพท์ไว้แสดงตอนตรวจตั๋ว  เพราะเจ้าหน้าที่จะตรวจทุกครั้งที่เราใช้บริการระบบสาธารณะของสวิส  และปรินท์ออกมาเผื่อติดตัวไว้ด้วยค่ะ 

 

 

แอพ SBB และการใช้งาน

 

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องมีและใช้งานให้เป็นเมื่อมาเที่ยวสวิสด้วยตัวเองแบบไม่เช่ารถ  คือ แอพ SBB เป็นแอพการเดินทางทั่วสวิส ที่แสดงตารางเวลารถสาธารณะของสวิสทั้งหมด เพื่อใช้ดูเวลาว่าจะไปเที่ยวตรงนั้นนี้  ไปเมืองนี้ ต้องนั่งรถอะไร  ไปต่อสถานีไหน รถแต่ละประเภทมีช่วงเวลาไหนบ้าง ใช้เวลาเดินทางนานเท่าไหร่ จะได้วางแผนการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้ถูกต้อง ซึ่งการใช้งานไม่ยาก ใช้ประกอบกับ google maps ได้เลย รถสาธารณะในสวิส ประกอบด้วย รถไฟ  รถบัส รถเทรม หรือรถรางวิ่งเฉพาะในเมืองนั้น  เรือ รับส่งเฉพาะเมืองที่มีท่าเรือ เช่น Interlaken , Thune ,  Montreux  , Vevey ,  Lausanne , Brienz, iselwald  เป็นต้น

 

สิ่งที่เราต้องรู้เบื้องต้น คือชื่อ สถานีรถไฟในเมืองท่องเที่ยวหลัก เริ่มจาก  Zürich flughafen (สถานีรถไฟของสนามบินซูริค จำให้แม่น ) zürich HB (สถานีรถไฟในเมืองซูริคหากพักในเมืองซูริคต้องจดจำชื้อไว้)  Bern ( สถานีเมืองหลวงของสวิส ซึ่งเป็นสถานีใหญ่ เป็นจุดศูนย์กลางการต่อรถไฟไปยังหลายเมือง สถานีนี้สำคัญมาก เพราะเป็นจุดต่อรถเสมอ  interlaken west (สถานีรถไฟยอดนิยมเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดรอปพัก และนั่งรถไปเที่ยวยังจุดต่างๆ   interlaken ost (สถานีที่อยู่ใกล้กับ interlaken west เป็นจุดเปลี่ยนรถเพื่อไปยังสถานีจุงเฟรา สถานี Lausanne โลซาน เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมริมทะเลสาบเจนีวา ที่คนไทยจะต้องมาเพราะเมืองนี้ คือ เมืองที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงศึกษาตั้งแต่เมื่อยังทรงพระเยาว์ สถานี  Lucerne ลูเซิร์น เมืองท่องเที่ยวยอดฮิต ที่ตั้งของสะพานไม้ชาเปง และรูปปั้นสิงโต ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะ   สถานี Lauterbrunnen ลาเทอร์บรุนเนิน เมืองเล็กๆ จุดเปลี่ยนรถไปเที่ยวยอดเขาจุงเฟรา สถานี grindelwald อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตที่เราต้องไป  สถานี Zermatt เซอร์เมท สถานีสำหรับไปเที่ยวยอดเขาเมทเทิร์นฮอลล์ ทั้งหมดคือ สถานีที่เราต้องแวะ เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ส่วนการโดยสารด้วยเรือ ในกรณีที่เราอยากล่องเรือชมบรรยากาศ ท่าเรือของเมืองนั้นๆ จะลงท้ายด้วย See เพราะฉะนั้นเวลาพิมพ์เมืองนั้นให้พิมพ์ see ต่อท้าย แต่ต้องดูด้วยนะคะ ว่ามีท่าเรือมั้ย อย่างท่าเรือหลักที่เรามักใช้งานบ่อย ซึ่งเป็นจุดขึ้นเรือเพื่อล่องเรือชมความงามของทะเลสาบ Brienz และ Thune  คือ  interlaken west (see)  interlaken ost (see)  สัญลักษณ์ที่ปรากฏใน app คือ BAT หมายถึง การเดินทางโดยเรือ  

 

 

การใช้งานแอพ SBB

 

เปิดแอพ คลิ๊ก Tab timetale พิมพ์ชื่อสถานที่ต้นทาง และปลายทางที่ต้องการ

 

 

 

หลังจากพิมพ์แล้ว จะปรากฏตารางรถไฟหรืออาจมีการเดินทางแบบอื่นด้วย ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่เราจะไป แต่รถไฟ คือ การเดินทางหลักที่ต้องใช้เดินทางทุกครั้ง เพื่อไปต่อการเดินทางแบบอื่น เช่น อาจนั่งรถไฟอย่างเดียวแล้วเดินต่ออีกนิดนึงก็ถึงจุดหมาย หรืออาจนั่งรถไฟต่อรถบัส หรือต่อเรือ หรือรถเทรม  แอพจะแสดงวิธีการเดินทาง ตารางรถทั้งหมด ซึ่งสะดวกมาก ซึ่งรถไฟที่สวิสจะออกห่างกันทุก 30 นาที และตรงเวลามาก พลาดแล้วรอขบวนใหม่

 

 

 

 

ยกตัวอย่างการใช้งาน

เราเริ่มต้นจาก  Zürich flughafen เพื่อไปยัง  interlaken west ที่พักของเรา ให้คลิ๊กเลือกเวลาที่เดินทาง จะแสดงตารางทั้งหมดว่าต้องนั่งรถไฟขบวนไหน ไปขึ้นเพลทฟอร์มหรือชานชาละไหน ผ่านสถานที่ใดบ้าง  ซึ่งส่วนใหญ่ รถไฟไปยังเมืองต่างๆหากเริ่มจาก Zürich flughafen  จะต้องไปต่อรถไฟขบวนใหม่ที่เมือง Bern แทบทั้งสิ้น ไม่มียิงตรงต่อเดียว  หรือถ้าจะนั่งย้อนกลับมายัง Zürich หรือจากบางเมืองไปยังบางเมืองก็ต้องต่อรถที่ Bern เช่นกัน พยามเลือกการเดินทางที่ต่อรถน้อยที่สุด คือ ต่อที่ Bern เพียงที่เดียว จะได้ไม่เหนื่อยในการเดินทางมาก

 

ค่าใช้จ่ายในการเที่ยวสวิส

สำหรับการเที่ยวสวิส 7-10 วัน ขั้นต่ำต้องมี 70,0000 up  เราเดินทาง 10 วัน ค่าใช้จ่ายรวมทุกอย่างแล้ว ตั้งแต่ขอวีซ่ายันจบทริป ใช้งบประมาณ ​100,000 บาท นิดๆ  (ค่าใช้จ่ายอาจน้อยกว่าหรือแพงกว่านี้ตามจำนวนวัน ราคาตั๋ว ที่พัก อาหาร  สถานที่ท่องเที่ยว (เพราะแต่ละที่มีค่าธรรมเนียมไม่เท่ากัน)  

ค่าตั๋วไปกลับการบินไทย 35,000 บาท (ราคาตั๋วขึ้นลงตามปัจจัยต่างๆ)

ค่าสวิสพาส  8 วัน ประมาณ 14,000 บาท

ค่าที่พัก 9 คืน เฉลี่ยราคาที่พักแค่แบบธรรมดา ห้องเล็กๆ ราคาเริ่มต้น คืนละ 3500  บาท up  ถ้าแบบดีขึ้นมาอีกนิดก็หมื่นขึ้น ยกเว้นพักแบบ hostel ที่นอนรวมกันจะถูกลงไปตกคืนละ 1500 บาทอัพ ต่อคน

ค่ากิน ให้เตรียมไว้ วันละ 2000 บาท (ราคานี้คือกินง่ายๆ ในซุปเปอร์มาร์เก็ต)   ยกเว้นอยากประหยัดแพคข้าว อาหารซอง สำเร็จรูป จากเมืองไทยไปกินในบางมื้อก็ประหยัดได้มาก หรือถ้าไม่อยากทานตามร้าน ในซุปเปอร์มาร์เก็ตของสวิสก็มีอาหารให้ทานเยอะ แต่ราคาไม่ถูกนัก

 

ซุปเปอร์มาร์เก็ตในสวิส coop (คูพ)

เมืองไทยมีเซเว่น สวิสมีร้าน coop เป็นร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีอยู่ทั่วเมือง จะได้เห็นตลอด ทั้งตามสถานีรถไฟ และในเมืองต่างๆ มีเยอะมาก coop มีทุกอย่าง ทั้งของกิน ของใช้ นึกอะไรไม่ออก ไม่รู้จะกินอะไร อยากประหยัดเรื่องกิน เข้าร้านนี้เลย และเมนูยอดนิยมของคนไทย ก็คือ ไก่ coop ที่รสชาติจะออกไปทางเค็มนิดๆ แต่อร่อยค่ะ อยากกินโปรตีน เนื้อสัตว์ แก้เลี่ยน ไก่ coop ช่วยได้เยอะ พกน้ำจิ้มซีฟู้ดจากไทยไปด้วย รับรองฟินสุด

 

 

ไก่ coop มีทั้งแบบเป็นชิ้น และแบบตัวนะคะ  ราคาแตกต่างกัน 

 

 

สลัด ขนมปังต่างๆ  ผักผลไม้มีหมดนะคะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ 

 

 

โยเกิรต นม ของสวิสอร่อย และราคาไม่แพง 

 

  

 

ขนมทานเล่น มันฝรั่งก็อร่อย 

 

 

สิ่งที่ถูกที่สุดในสวิส คือ ช๊อคโกเลต ราคาตีเป็นเงินไทย เริ่ม 38-100 บาท นิดๆ จะถูกไปไหน และที่สำคัญอร่อยด้วย 

 

 

 

สัญญาณโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต

แนะนำ AIS สัญญาณดีมีทั่วทุกจุด เราใช้ระบบ AIS อยู่แล้ว จึงเปิดแค่บริการข้ามแดนอัตโนมัติโดยใช้เบอร์เดิม จำนวนขั้นต่ำ 15 วัน ราคา 899 บาท ราคานี้เฉพาะใช้บริการเน็ต ส่วนรับสายเข้า โทรออก มีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากราคาแพคเกจ เปิดใช้งานง่ายมาก แค่สมัครในแอพของ AIS ระบุที่ใช้งานและประเทศที่ต้องไปการใช้  หรือถ้าใครไม่ใช้ AIS ซื้อซิม 2 fly ของ AIS ใช้งานชั่วคราวได้ ราคาเดียวกัน สำหรับเราสัญญาณดีเกือบทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะบนยอดเขาหรือที่ห่างไกลแค่ไหน มีสัญญาณทั้งหมด

 

สุดท้ายเที่ยวเอง อาจหลงบ้าง งงบ้าง ไม่ต้องตกใจ เป็นธรรมดาของการเดินทาง ไม่รู้อะไรให้ถาม พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็ชี้สถานที่ให้เขาดู ชี้เมนูอาหาร ชี้ของที่จะซื้อ จบรู้เรื่อง พูด yes , no,  thank you ให้ได้พอ คนสวิสค่อนข้างเป็นมิตร และเฟรนด์ลี่มาก พนักงานในร้านค้า ร้านอาหารส่วนใหญ่จะพยายามสื่อสารและจะเข้าใจนักท่องเที่ยวสุดๆ หรือแม้กระทั่งคนไทยหรือนักท่องเที่ยวด้วยกันเองก็เดินไปถามได้ หลงทางถามคนพื้นที่  งงกับสนามบินซูริคหาทางออก ทางเข้าไม่เจอ มองหาคนไทยไว้ เดินไปถามได้เลย ที่สวิสเราจะเจอคนไทยตามสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก เหมือนเวลาเราไปเที่ยวญี่ปุ่นอุ่นใจได้  สำหรับคนที่ไม่เก่งภาษาเพื่อความมั่นใจ โหลดแอพ google transalate มาติดเครื่องไว้เพื่อความอุ่นใจ อยากจะสื่อสารอะไรเป็นภาษาอังกฤษแล้วนึกไม่ออก ก็พูดภาษาไทยไป มันจะแปลเป็นภาษาอังกฤษให้เอง

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน