จะดีแค่ไหนหากเราได้ล่องเรือแบบส่วนตัวออกทะเล ชมปลาโลมาแบบใกล้ชิดว่ายมาทักทายแบบสนิท เที่ยวหาดทรายสีขาวน้ำทะเลสีฟ้าใสเล่นน้ำพายคายัคเสมือนว่าเกาะนี้มีเพียงเรา ตบท้ายด้วยดินเนอร์บนเรือชมวิวพระอาทิตย์ตกในน่านน้ำทะเลของแหลมพรหมเทพ เป็นความพิเศษที่คุณสามารถสัมผัสได้เมื่อเดินทางไปเรือ Discover Catamaran เรือนำเที่ยวส่วนตัวที่จะพาคุณไปพบกับประสบการณ์ที่แสนประทับใจเหล่านี้
โปรแกรมการเดินทางเริ่มต้นเวลา 12.00 โดยทัวร์มารับเราที่โรงแรม ซึ่งถือว่าไม่เช้าจนเกินไปแตกต่างจากทริปทัวร์ของเรือสปีดโบ๊ทที่ต้องเริ่มแต่เช้าประมาณ 9 โมงกว่า มาถึงท่าเรืออ่าวฉลองซึ่งเป็นจุดจอดเรือ
โปรแกรมท่องเที่ยวเริ่มเวลา 12.30 รายละเอียดคือ ชมปลาโลมาหน้าเกาะไม้ท่อน ต่อด้วยเกาะราชาน้อย ราชาใหญ่ และจบท้ายชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ ในราคา 3600 บาท ราคานี้รวมอาหารว่างเครื่องดื่มและอาหารเย็น 1 มื้อ พร้อมรถรับส่งยังโรงแรมที่พัก ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับโปรแกรมท่องเที่ยวที่ให้มาแบบจัดเต็มทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และที่สำคัญที่สุดคือ ได้ความรู้สึกที่เป็นส่วนตัว รวมถึงบรรยากาศที่แตกต่างจากการนั่งเรือสปีดโบ๊ท เพราะเรือมีพื้นที่พอสมควรสามารถเดินเล่นรับลมชมวิวจิบเครื่องดื่มยังมุมใดก็ได้โดยที่ไม่ต้องห่วงว่าเรือจะกระแทกกับคลื่น จะได้ความรู้สึกชิวมากกว่า
เรือเป็นเรือ Catamaran ขนาดเล็ก มีทั้งหมด 2 ชั้น จัดที่นั่งสำหรับลูกค้าไว้อย่างสะดวกสบาย
มุม Mini bar เล็กๆ เครื่องดื่มในส่วนนี้จะไม่รวมอยู่ในค่าทริป
กัปตันเรือพร้อมพาเราไปสู่โลกกว้างเพื่อชมความงดงามของท้องทะเลไทย
2 หัวเรือใหญ่ของทริป
สำหรับใครที่ชอบรับลมทะเลแบบจัดเต็มและไม่หวั่นแดดสามารถมานั่งตรงด้านหน้าหัวเรือเพื่อชมวิวได้แบบมุมกว้าง
นั่งเรือมาประมาณครึ่งชั่วโมงมาถึงโปรแกรมแรกนั่นคือ ชมปลาโลมาหน้าเกาะไม้ท่อน ด้วยลักษณะของเรือเป็นเรือ 2 ท้อง แล่นแบบนิ่งไปบนผิวน้ำไม่กระแทกเหมือนสปีดโบ๊ทจึงไม่รบกวนโซนาร์ของปลาโลมา จึงไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะพบเห็นปลาโลมาได้แบบง่ายดาย ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าแปลกที่ได้เห็นปลาโลมาแบบใกล้ชิดอยู่ตรงหน้าเรือเลยทีเดียว บางจังหวะก็ว่ายเรียบเคียงเรือเสมือนเพื่อนร่วมทาง บางจังหวะก็กระโดดหมุนตัวโผล่ตรงนั้นตรงนี้รอบเรือ ในแบบที่เราไม่ต้องซุ่มดูอย่างเงียบๆ เหมือนอย่างที่เคยดูที่อื่น เป็นการดูปลาโลมาที่สนุกและตื่นเต้นมากมาย เพราะต้องคอยขับเรือไล่ตามให้ทัน
แอบเห็นดวงตาโลมา น่ารักเหมือนการ์ตูนเลย
เพลิดเพลินกับปลาโลมาแล้วล่องเรือต่อไปยังจุดหมายต่อไป เกาะราชาน้อย เห็นภาพเกาะแทบกรี๊ด ต้องเรียกว่าเป็นอะไรที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะมาเจออะไรสวยที่เกาะนี้ น้ำทะเลสีฟ้าใสและสันทรายสีขาวที่เห็นอยู่ไม่ไกลตรงหน้า เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสมาเที่ยว เพราะปกติหากพูดถึงเกาะราชา จะนึกถึงแต่เกาะราชาใหญ่ ทริปทัวร์ส่วนใหญ่ก็จะพาไปเที่ยวแต่เกาะนี้เท่านั้น บอกได้เลยว่าในเวลานี้ยังไม่มีทริปทัวร์เจ้าไหนทำโปรแกรมท่องเที่ยวมาถึงที่เกาะราชาน้อย เพราะเกาะอยู่ค่อนข้างไกลจากเกาะราชาใหญ่ และบางช่วงจังหวะคลื่นลมแรง เรือเล็กอาจเดินทางลำบาก มีบ.ทัวร์เจ้าเดียวที่มีโปรแกรมเกาะราชาน้อย คือ Discover catamaran เป็นความโชคดีที่มีโอกาสได้มาทำความรู้จักกับเกาะที่เรียกว่าไม่ได้ใหม่เพียงแต่แอบซ่อนตัวเงียบมานาน
เรือจอดนิ่งสนิทอยู่กลางทะเล ทำให้เราได้ชมความงามของเกาะจากเรือได้อย่างเต็มที่ เป็นความรู้สึกที่ยืนมองได้แบบไม่เบื่อถึงแม้จะเป็นวิวเดิมก็ตาม สีน้ำทะเลและทรายระดับสิมิลันเลยทีเดียว
สันทรายสีขาวเชื่อมต่อระหว่างเกาะสองเกาะ ยามน้ำลดสามารถเดินข้ามไปมาคล้ายกับทะเลแหวก
ถึงเวลาที่จะต้องยกพลขึ้นบก แล้วจะไปยังไงดีละ ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะบนเรือมีทั้งเรือคายัคสำหรับลูกค้าที่อยากออกกำลังกาย และเสียเหงื่อให้ท้องทะเล พายจากเรือไปยังฝั่งก็ไม่ไกลมากนัก
สำหรับใครที่ไม่อยากเสียเหงื่อและใช้กำลังก็มีเรือยนต์ขับพาขึ้นฝั่ง หรือหากใครอยากเอาตัวไปสัมผัสน้ำทะเลสามารถว่ายน้ำไปที่เกาะได้มีอุปกรณ์ดำน้ำและฟินตีนกบให้พร้อมทุกอย่าง
เกาะราชาน้อย เกาะเล็กที่อยู่ห่างจากเกาะราชาใหญ่ประมาณ 6 กม. ยังมีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ มีหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลสีฟ้าใส ลักษณะเกาะเป็นเนินเขาและโขดหิน เนื่องจากอยู่ไกลออกจากฝั่งไปเยอะ ทำให้เกาะสวรรค์ แห่งนี้อุดมไปด้วยทรัพยาการใต้ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ เป็นจุดดำน้ำลึกที่มีปะการังหลากหลายชนิดทั้งปะการังโขด ปะการังจาน ปะการังอ่อนรวมทั้งฟองน้ำและกัลปังหาเคยมีการสำรวจพบปลาไหลทะเล ปลาฉลามขนาดเล็กด้วย และเป็น เกาะที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ความงดงามที่ซ่อนตัวอยู่กลางทะเล รู้สึกดีใจที่ได้เห็นภาพแบบนี้ และยังคงอยากให้ความสวยสงบและความบริสุทธิ์นี้คงอยู่ตราบนานเท่านาน
เกลียวคลื่นม้วนตัวซัดเข้าหากันในส่วนที่เป็นทะเลแหวกจนเกิดเป็นฟองคลื่นงดงาม
สมาชิกร่วมทางกำลังเดินข้ามไปยังอีกเกาะพร้อมโบกมือทักทายมาแต่ไกล คงไม่ต้องถามว่ายืนอยู่ตรงนั้นมีความสุขแค่ไหน
ส่วนคนที่เดินเล่นอยู๋บนชาดหายก็คงมีความสุขที่แสนจะส่วนตัวเช่นกัน
เรือจอดนิ่งอยู่กลางผืนน้ำสีฟ้าใส
ได้เวลากลับขึ้นเรือ ใครใคร่ว่ายน้ำกลับก็ว่าย ใครใคร่พายคายัคก็ตามสะดวก เช่นเคย
จากเกาะราชาน้อย โปรแกรมต่อไปคือ ดำน้ำหน้าเกาะราชาใหญ่ หากใครไม่ลงไปดำน้ำก็นั่งเล่นชมวิวรับลมไป
ดำน้ำกันเหนื่อย ทางเรือก็เตรียมอาหารเย็นไว้ให้ทาน
จัดเต็ม ทั้งอาหารคาวและผลไม้
หลังจากอิ่มท้องแล้วก็ล่องเรือไปยังจุดสุดท้ายนั่นก็คือ แหลมพรหมเทพ เพื่อไปชมพระอาทิตย์ตก
แดดร่มนอนรับลมเคล้าแสงอาทิตย์ในยามเย็นมีความสุขที่สุด
โดยปกติมาแหลมพรหมเทพ ได้แต่ยืนชมพระอาทิตย์จากบนฝั่งพื้นดินมองลงมาข้างล่าง เคยเห็นเรือวิ่งผ่านดวงอาทิตย์ก็ยังแอบฝันว่าอยากไปอยู่ตรงนั้นบ้าง ไม่คิดว่าฝันจะได้เป็นจริง
สิ้นสุดการเดินทางแห่งความสุข เรือมุ่งหน้ากลับไปยังท่าเรืออ่าวฉลอง หลังจากนั้นก็มีรถไปส่งยังโรงแรม มีคนเคยบอกว่าการได้เดินทางท่องเที่ยวไปยังโลกกว้างถือว่าเป็นช่วงเวลาที่วิเศษ แต่สำหรับฉันการเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ที่ไม่เคยไป หรือไปยังที่เดิมแต่ได้ทำอะไรที่แตกต่างจากที่เคยพบเห็น เป็นความรู้สึกที่วิเศษกว่า ความรู้สึกพิเศษแบบนี้ฉันมีโอกาสได้พบเจอหลายครั้ง หนึ่งในนั้นคือ การได้ร่วมเดินทางไปเปิดประสบการณ์ใหม่กับ Discover Catamaran ขอบคุณน้องทีมงานและเพื่อนร่วมทุกทริปทุกท่านที่ทำให้การเดินทางครั้งนี้มีความหมายมากขึ้น สำหรับใครที่สนใจเดินทางตามทริปนี้ สามารถเข้าไปชมรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/discovercatamaran