ภูลมโล อีกหนึ่งจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ต้องเรียกว่าใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ที่ครอบคลุมพื้นที่ของจังหวัดเลย เพชรบูณ์ พิษณโลก ด้วยพื้นที่กว้างขวางกว่า 100 ไร่ ภูลมโลมีนางพญาเสือโคร่งหลายแปลง และแต่ละแปลงก็บานไม่พร้อมกัน เพราะฉะนั้นจึงสามารถชมนางพญาเสือโคร่งได้ในระยะเวลาที่ยาวนานกว่าที่อื่น
การเดินทางไปภูลมโลที่สะดวกที่สุด คือ ขึ้นทางฝั่งบ้าน ร่องกล้า จ.พิษณุโลก สำหรับข้อมูลทุกอย่างของการเที่ยวภูลมโลแบบละเอียด ไม่ว่าจะเป็น ที่พัก การเดินทาง คลิ๊กอ่านข้อมูลได้ที่ ข้อมูลท่องเที่ยวภูลมโล เราโดยเริ่มต้นการเดินทางประมาณ ตี 5 .30 เพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูลมโล แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่รูปแบบการเดินทางของแต่ละคนด้วย บางคนอาจจะต้องการไปชมดอกไม้อย่างเดียวก็ขึ้นสายหน่อย ซักประมาณ 7 โมง เช้าก็ได้ คือ จะขึ้นเวลาไหนก็ได้แล้วแต่สะดวก เพราะรถมีให้บริการตั้งแต่ตี 5 ถึง เวลาเย็น แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ขึ้นในช่วงเวลาเช้า หรือไม่ก็บ่ายแก่ๆ ไปเลยจะดีค่ะ เพราะถ้าเป็นเวลาเที่ยงหรือบ่ายต้นๆ แดดจะแรงและแสงจะแข็งไปซักหน่อย เมื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อยแล้ว ประมาณ 7 โมงเช้า ก็ไปยังจุดชมพญาเสือโคร่งจุดแรก จุดนี้ชาวบ้านจะเรียกกันว่าแปลงที่ 2 แปลงนี้บานเต็มที่ตรงเวลาทุกปีคือ ช่วงวันที่ 18-20 มค ของทุกปี หลังจากนั้นใบมาแล้ว และจะเป็นจุดแรกที่รถจะพานำชมเสมอ สำหรับปีนี้ 59 ความเห็นส่วนตัวคือ บานยังไม่แน่นเท่าปีที่แล้ว มีใบแซมค่อนข้างเยอะแต่ยังถือว่ายังสวยพอได้ค่ะ
ตรงจุดนี้รอซักหน่อยประมาณซัก 8 โมง แสงจะเริ่มสาดส่องลงมาสวยงาม
บรรยากาศจากที่อึมครึมในตอนแรก ก็เริ่มสดใสขึ้น
แปลงที่ 2 ยังสามารถมองเห็นดงพญาเสือโคร่งบนภูเขาที่อยู่ไม่ไกลได้ด้วย แต่อาจมีหญ้าขึ้นบังซักหน่อย ต้องอาศัยเลนส์ซูมถ่ายเจาะเข้าไป ซึ่งดงที่เราเห็นจะไปชมกันต่อหลังจากชมแปลงนี้เสร็จแล้ว
รถกระบะที่ใช้ขึ้นมายังภูลมโล จากบ้านร่องกล้าราคา เที่ยวละ 800 -1000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาว่าเราจะอยู่นานแค่ไหน โดยปกติใช้เวลาเที่ยวประมาณ 3-4 ชั่วโมง ถ้ามาแต่เช้าประมาณตีห้าครึ่ง รถก็จะไปส่งเรากลับประมาณ 9 โมงกว่า แต่ถ้าเกินเวลาไปเยอะก็อาจจะเพิ่มค่ารถให้เป็น 1000 บาท
เดินข้ามมาอีกฝั่งของแปลงที่ 2 ฝั่งนี้จะเห็นวิวดงพญาเสือโคร่งกว้างไกลซักหน่อย
ชมแปลงที่ 2 แล้ว รถก็นำพาเราย้อนกลับไปยังนางพญาเสือโคร่งแปลงที่ 1 เป็นแปลงต่อไป
มาถึงแล้ว แปลงที่ 1 ซึ่งจะอยู่ก่อนถึงแปลงที่ 2 ใกล้กับจุดชมวิวภูลมโล เมื่อปีที่แล้วรู้สึกว่าจะบานไม่เยอะเลยไม่ได้พาแวะมา ปีนี้ถือว่าบานสวยเลยทีเดียว แต่ก็เริ่มมีใบแซมเยอะแล้วเช่นกัน
เพลิดเพลินกับการเก็บภาพสีชมพูกันไป
แปลงนี้เดินไปชมได้หลายจุดพญาเสือโคร่งจะขึ้นกระจัดกระจายแซมไปกับต้นไม้และใบหญ้าซึ่งเป็นสไตล์ของภูลมโลอยู่แล้ว
มาถึงจุดต่อไปที่รถพานำชม ย้อนกลับไปยังเส้นทางที่เรามาในตอนแรก ตรงนี้คือ จุดชมวิวนางพญาเสือโคร่งที่สามารถเห็นได้ครอบคลุมทั้งหุบเขา เป็นวิวแบบพาโนรามา ตรงกันข้ามมองเห็นจุดชมวิวที่เป็นป้ายภูลมโล อยู่ไม่ไกล ซึ่งเดี๋ยวเราก็จะไปชมตรงนั้นกันเป็นจุดสุดท้าย
ปีนี้จุดนี้บานแน่นสวยมากค่ะ กรี๊ดสุดๆไปเลย
ถูกสะกดจิตอยู่ตรงนี้นานมาก ต้องเรียกว่าภาพนี้แหละถึงจะเรียกว่า คือ ภูลมโล จริงๆ
ไปต่อยังป้ายภูลมโล ฐานนี้เรียกว่ามีการประดับประดาซุ้มถ่ายภาพกับนางพญาเสือโคร่งที่เป็นฉากหลัง หลายจุด
มีระเบียงให้ชมวิวด้วย มาถึงสายแล้วอาจจะย้อนแสงไปซักหน่อย
ระเบียงชมวิวนี้ก็จะเห็นนางพญาเสือโคร่งในมุมแบบนี้ค่ะ
จบการรายงานการบานของนางพญาเสือโคร่งภูลมโลปี 59 เพียงเท่านี้ สำหรับคำถามที่ว่าจะบานถึงเมื่อไหร่ ตอบเป็นแปลงๆไปน่ะค่ะ อย่างแปลงที่เห็นในรีวิว คือ แปลงที่ 1 และ 2 ซึ่งบานเต็มที่ไปแล้วในช่วงกลางเดือน มค และตอนนี้ถ้าเห็นในรีวิวจะสังเกตว่าเริ่มมีใบแซมแล้วแต่ก็น่าจะมาชมกันได้อยู่ถึงสิ้นเดือนม.ค. แต่ตามที่บอกว่าภูลมโลกว้างมากและมีหลายแปลง สอบถามชาวบ้านได้ความว่า แปลงที่ 3 ที่สวยที่สุดยังไม่บานค่ะ น่าจะบานเต็มที่ในช่วงสิ้นเดือน ม.ค ไปถึงกลางก.พ. นำภาพของแปลงที่ 3 ที่ถ่ายเมื่อปีที่แล้วมาให้ชมกันก่อนซึ่งปีที่แล้วบานกลางเดือน ม.ค. แปลงนี้บอกได้เลยว่าสวยและกว้างมาก และมีจุดชมวิวที่สามารถเห็นวิวในมุมสูงของนางพญาเสือโคร่งภูลมโลได้เกือบทั้งภูเขา
ภาพแปลงที่ 3 ปี 58
แปลงที่ 3 ต้อง เดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ
ส่วนอีกหนึ่งแปลงคือ ภูขี้เถ้าที่อยู่ไปทางอ.กกสะทอน ก็ยังไม่บานเช่นกัน คาดว่าน่าจะเป็นช่วงสิ้นเดือนม.ค.ไปแล้ว เพราะฉะนั้น ภูลมโล ยังมีอีก 2 แปลง ที่รอการบานเต็มที่ คาดว่าน่าจะมาชมได้จนถึงเกือบกลางเดือน ก.พ. เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็เป็นการคาดการณ์น่ะค่ะเพราะนางพญาเสือโคร่งนี่ก็เดาใจยากเหมือนกัน ก่อนเดินทางยังไงเช็คเพื่อความแน่นอนอีกครั้งค่ะ
สำหรับข้อมูลทุกอย่างของการเที่ยวภูลมโลแบบละเอียด ไม่ว่าจะเป็นที่พัก การเดินทาง คลิ๊กอ่านข้อมูลได้ที่ ข้อมูลท่องเที่ยวภูลมโล
ภาพภูลมโล ฝั่งภูขี้เถ้า ปี 57