หากกล่าวถึงสตรีทอาร์ตในเมืองไทย ส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับภาพสตรีทอาร์ตที่วาดตามกำแพงริมถนนหรือตามอาคารตึกเก่าต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับ วิถีชีวิตและเอกลักษณ์ของที่แห่งนั้น แต่ถ้ามา บึงกาฬ จะตื่นตาตื่นใจกับ สตรีทอาร์ต ในหมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ ที่ได้นำความเชื่อและความศรัทธาที่มีต่อพญานาค ผสมผสานกับอาชีพเกษตรกรรมและความชอบของแต่ละครอบครัว บรรจงวาดเป็นภาพเขียนสีพญานาคบนผนังของแต่ละบ้านจำนวน 22 รูป กลายเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวสตรีทอาร์ต หรือหมู่บ้านภาพวาดเขียนสีพญานาค หนึ่งเดียวในโลก ที่มีบรรยากาศน่ารักสร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้มาเยียมเยือน ในหมู่บ้านยังมี พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต ที่จัดแสดงวิถีชีวิตของชุมชนชาวอีสานแบบดั้งเดิม รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ในอดีตที่ เรียกว่า เมื่อมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้เราจะได้สัมผัสกลิ่นอายวิถีชีวิตชุมชนชนบทแบบดั้งเดิมที่ผสมผสานศิลปะร่วมสมัยได้อย่างลงตัว
หมู่บ้านท่องเที่ยวสตรีทอาร์ท และ พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต ตั้งอยู่ในหมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ เป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบโอบล้อมด้วยธรรมชาติ ยังคงมีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ทั้งการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยการนุ่งซิ่น สะพายกระติ๊บ ตักบาตรข้าวเหนียว สำหรับการสร้างหมู่บ้านสตรีทอาร์ต คือการเปิดใจร่วมกันทั้งหมู่บ้าน โดยผสมผสานวัฒนธรรมดั้งเดิมกับงานศิลปะสมัยใหม่ ผู้ริ่เริ่ม คือ คุณขาบ ฟู้ดสไตล์ลิสต์ชื่อดัง เจ้าของรางวัลเวทีระดับโลก และยังเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิโครงการหลวงมากว่า 14 ปี ที่ตั้งใจกลับบ้านเกิดเพื่อพัฒนาชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยใช้ทุนส่วนตัว และได้รับความร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชน รวมทั้งการสนับสนุนจากภาครัฐ ภาคเอกชน สร้างหมู่บ้านสตรีทอาร์ตภาพวาดเขียนสีพญานาค และพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต เพื่อเปิดพื้นที่แสดงวัฒนธรรม ถ่ายทอดวิถีท้องถิ่นให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาเยี่ยมชมในแบบที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
สำหรับการเดินทางมาหมู่บ้านเพื่อความสะดวกแนะนำตั้งการเดินทางจาก google maps มาได้เลย รับรองไม่มีหลง เมื่อเข้าสู่ตัวหมู่บ้านจะเริ่มเห็นภาพวาดพญานาคบนผนังบ้านตลอดสองข้างทาง และเมื่อเข้าไปจนสุดทางจะเจอกับ พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต เป็นบ้านเรือนไม้ทรงไทยอีสานอายุกว่า 60 ปี แต่งแต้มสีเขียวลงไปที่ประตู หน้าต่าง บันได และต่อเติมพื้นที่ข้างบ้านเพื่อเพิ่มลูกเล่นให้ดูมีดีไซน์ทันสมัยขึ้นโดยยังคงรูปแบบเดิมไว้ บ้านหลังนี้เป็นบ้านของครอบครัวคุณขาบที่อยู่อาศัยกันมาหลายรุ่น หลังจากลูกหลานแยกย้ายกันไปจึงนำบ้านมาปรับปรุงเป็น พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต เพื่ออนุรักษ์บ้านเรือนไทยอีสานดั้งเดิม ไว้ให้คนรุ่นหลังได้เยี่ยมชม
พื้นที่บริเวณชั้น 2 แบ่งเป็นห้องโถงกลางใหญ่ และเป็นห้องต่างๆแต่ละห้องตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้แบบอีสาน และผ้าซิ่นไหม ซึ่งคนอีสานสมัยก่อนมักจะนุ่งผ้าซิ่นไหม นุ่งโสร่ง สวมใส่เสื้อสีขาวเข้าวัด ความน่าตื้นตันใจที่สุด คือ ผนังบ้านทุกห้องประดับด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9
ห้องครัวอีสานแบบสมัยก่อน มีข้าวของในครัวที่เคยใช้งานจริงจัดแสดงไว้ ทั้ง เตาถ่าน หม้อ ตระกร้า กระทะ จานชาม
ห้องรับแขก ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ทั้งโซฟาหวายที่บริเวณด้านหลังมีภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ประดับไว้ รวมในแต่ละมุมของห้องมีข้าวของโบราณที่ตกแต่งได้ชิคมาก กลายเป็นมุมถ่ายภาพแสนเก๋
จากชั้น 2 ลงมาบริเวณห้องด้านล่าง คือ พื้นที่ทำงานของคุณขาบ ตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความมีดีไซน์ ตามแบบฉบับของฟู้ดสไตล์ลิสต์ ชื่อดัง
มาต่อด้วยพื้นที่ด้านนอก ซึ่งเป็นลานวัฒนธรรมกลางต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น มีแคร่ไม้ไผ่สำหรับนั่งพักผ่อน เพิ่มความน่ารักด้วยภาพวาดกำแพงสังกะสี ตกแต่งด้วยพรอพประกอบฉากจริง ทั้งสุ่มไก่ ภาพสาวน้อยหาปลาที่มีการเอาสุ่มปลาจริงมาแขวนไว้ที่ตัว ภาพควายน้อยที่มีเชือกจริง ภาพเด็กน้อยปิ่งข้าวจี่พร้อมเตาถ่าน ให้ได้หยิบอุปกรณ์ต่างๆมาโพสต์ท่าอย่างสนุกสนาน
เดินเข้าไปข้างในก็จะเป็นส่วนของยุ้งข้าวซึ่งกลายเป็นจุดถ่ายภาพที่กิ๊บเก๋มาก ถัดไปเป็นพื้นที่ฟาร์มเกษตรและทุ่งนา
ชมพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิตแล้ว เดินออกมาชมภาพเขียนสีพญานาคบนกำแพงบ้านบ้าง โดยภาพจะกระจายไปตามบ้านแต่ละหลัง จำนวน 22 รูป ภาพวาดดังกล่าวได้ร่วมกับนักศึกษาและคณาจารย์ ในหลักสูตรจิตรกรรมเพื่อสังคม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อวาดภาพให้กลายเป็นหมู่บ้านอีสานต้นแบบภาพวาดศิลปะ สามารถเดินชมได้รอบหมู่บ้านโดยใช้เวลาไม่นาน โดยปกติจะคุ้นเคยกับภาพพญานาคที่ดูจริงจัง น่าเกรงขาม แต่ภาพวาดบนกำแพงบ้านเป็นภาพพญานาคตามความศรัทธาและความเชื่อ ที่ถูกปรับให้ทันสมัยเข้ากับความเป็นชุมชน ภาพพญานาคจึงมีความน่ารัก สีสันสดใส ชวนให้ยิ้มและอยากเดินเข้าไปถ่ายภาพ โดยภาพพญานาคส่วนใหญ่วาดตามอาชีพและความชอบของเจ้าของบ้าน เช่น บ้านที่ขายไอศกรีมมีพญานาคที่ชอบไอศกรีมซันเดย์ บ้านที่ขายลอดช่อง มีพญานาคที่อยู่ในถ้วยลอดช่อง บ้านที่เลี้ยงเป็ดมีภาพพญานาคช่วยเลี้ยงเป็ดให้ บ้านที่นั่งสมาธิมีภาพพญานาคกับเณรน้อยนั่งสมาธิ บ้านที่เป็นร้านตัดผมก็มีภาพพญานาคกำลังตัดผม
บ้านที่ชอบนั่งสมาธิมีภาพพญานาคสนใจธรรมะ และอีกด้านหนึ่งของผนังบ้านเป็นภาพพญานาคหลากสีสัน
พญานาคขับรถไถนาอยู่ตรงข้ามกัน
ถัดไปเป็นภาพพญานาคคูน้ำเกษตรพอเพียง
พญานาคหน้าร้านตัดผม
พญานาคที่บ้านขายไอศครีม
ถัดไปเป็นภาพพญานาคเฝ้าบ้าน
ส่วนที่วัดประจำหมู่บ้านก็มีภาพพญานาคเช่นกัน เจ้าอาวาสท่านขอภาพพญานาคเจ็ดเศียร
ภาพญานาคที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก จะมีเด็กอยู่บนตัวพญานาค และมีภาพของคุณขาบผู้ก่อตั้งบนกำแพงด้วย
ภาพเกมส์บันไดพญานาค
บ้านขายลอดช่อง มี 2 ภาพ คือ ภาพพญานากอดถ้วยลอดช่อง และพญานาคในกระติ๊บข้าวเหนียว
พญานาคใส่ชุดไทย
สำหรับใครที่ต้องการพักแรม ที่ชุมชนยังมีให้บริการบ้านพักแบบโฮมสเตยหลังใหญ่แบ่งเป็นห้อง สามารถพักได้ถึง 20 คน ห้องพักสะดวกสบายเป็นห้องแอร์ทุกห้อง มีโถงนั่งเล่นส่วนกลาง ในราคาคนละ 300 บาท (ไม่รวมอาหาร)
รายละเอียดเพิ่มเติม
พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต ค่าเข้าชมท่านละ 50 บาท เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น.
สำหรับใครที่สนใจมาชมภาพเขียนพญานาคในหมู่บ้านสามารถเดินชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต หมู่บ้านท่องเที่ยวสตรีทอาร์ท จ.บึงกาฬ
โทร 086 229 7626
เฟสบุค คลิ๊ก พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต
แผนที่ท่องเที่ยวชมภาพวาด
การเดินทาง
ผู้เขียน
บทความที่เกี่ยวข้อง
15 ที่เที่ยวบึงกาฬ อัพเดท 2024 ความเชื่อศรัทธา แห่งลุ่มน้ำโขง
แนะนำ ที่เที่ยวบึงกาฬ จังหวัดเล็กๆ กำลังโด่งดั่งในเรื่องความเชื่อ ความศรัทธาเรื่องพญานาค ทำให้นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไกลมาเที่ยวบึงกาฬมากขึ้น
ทุ่งดอกเหลืองทิพวรรณ บึงกาฬ
ทุ่งดอกเหลืองทิพวรรณ หรือทุ่งดอกขี้กลาง ทุ่งดอกไม้สีเหลืองแสนสวยแห่งบึงกาฬ บานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งอวดความงามให้ผู้คนได้เห็นกันแล้ว โดยทุ่งดอกไม้แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ บ้านโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ จะบานสะพรั่งทุกปีในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ใครผ่านไปบึงกาฬสามารถแวะไปถ่ายภาพและสัมผัสความงามของทุ่งดอกไม้แห่งนี้ได้
น้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ
น้ำตกถ้ำพระ หรือน้ำตกถ้ำพระภูวัว ตั้งอยู่บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว บ้านถ้ำพระ ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น ที่ไหลอยู่บนภูเขาหินทรายขนาดใหญ่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมความงามของน้ำตก นอกจากนี้ยังมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่และร่องน้ำที่สามารเล่นเป็นสไลเดอร์ได้
วัดโพธาราม บึงกาฬ
วัดโพธาราม ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองบึงกาฬประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจังหวัดบึงกาฬและชาวจังหวัดใกล้เคียงรวมไปถึงในสปป.ลาว ที่อยู่ในลุ่มน้ำโขงแถบนี้ เมื่อเข้ามายังตัววัดจะพบกับอุโบสถเมื่อมองเข้าไปด้านในก็จะเห็นหลวงพ่อพระใหญ่ประดิษฐานอยู่ด้านในตัวอุโบสถ
วัดอาฮงศิลาวาส แก่งอาฮง
วัดอาฮงศิลาวาส ตั้งอยู่ อ. เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 21 ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณแก่งอาฮง แอ่งน้ำขนาดใหญ่จากฝั่งไทยถึงฝั่งลาว เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดบึงกาฬ ด้วยเหตุที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม พื้นที่ติดกับแม่น้ำโขงเป็นแนวโค้งยาว
บึงโขงหลง บึงกาฬ
บึงโขงหลง ตั้งอยู่ที่ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดบึงกาฬ เป็นแหล่งพักผ่อนและชมวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ที่มีหอชมนก และระเบียงชมวิว โดยเฉพาะในยามเย็นซึ่งพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน บึงโขงหลงมีบรรยากาศที่งดงามมาก นอกจากนี้หากมาเที่ยวในฤดูร้อน จะได้เห็นหาดคำสมบูรณ์วิวเนินทรายที่สวยงาม
อลังการหินสามวาฬ สักครั้งต้องไปเยือน
หินสามวาฬ หนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพื้นที่ป่าภูสิงห์ ตั้งอยู่ในอำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ ที่มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง เหตุผลที่เเรียกว่าหินสามวาฬ เพราะลักษณะของจุดชมวิวนี้ เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ 3 ก้อน รูปร่างคล้ายปลาวาฬเรียงกันยื่นออกไปสู่หน้าผา
