เมืองกาญจน์ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ไปเที่ยวบ่อยมาก เพราะมีที่เที่ยวให้เราได้เที่ยวเยอะ ในขณะเดียวกันยังมีที่พักบรรยากาศดีให้เลือกพักผ่อนมากมาย ทั้งแพริมน้ำยอดฮิต บ้านพักเป็นหลัง ทั้งแบบตกแต่งแนวธรรมชาติ หรือแบบบูติคหรูหรา โดยที่ไม่ต้องออกไปเที่ยวที่ไหน แค่ได้อยู่แต่ในที่พักก็มีความสุข เรามาสะดุดตาและชื่นชอบบรรยากาศของที่พักแห่งหนึ่งแถวอำเภอไทรโยค ชื่อว่า ปิงปาลีย์ รีสอร์ท ที่พักติดริมน้ำแควน้อย ตกแต่งเข้ากับธรรมชาติรอบด้าน มีมุมให้เราได้นั่งเล่นพักผ่อนหลากหลาย เข้าตากรรมการแบบนี้ เราไม่รอช้ารีบชวนเพื่อนเก็บกระเป๋าไปกาญจนบุรีด่วน ด่วน
ปิงปาลีย์ ตั้งอยู่ในอำเภอไทรโยค อยู่ในโซนเดียวกับถ้ำกระแซ จากถ้ำกระแซไปยังรีสอร์ทใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยต้องใช้รถส่วนตัวเท่านั้นค่ะไม่มีรถประจำทางผ่าน คำแนะนำคือ อย่ามาตาม Google map เด็ดขาดค่ะ เพราะอาจจะหลงได้และเป็นเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง ดูตามแผนที่ของรีสอร์ทง่ายกว่ามาก ที่พักจะอยู่ลึกเข้าไปซักนิด มาถึงปุ๊บไปยังที่จอดรถไว้ด้านหน้า จากนั้นจะมีรถพ่วงข้างของทางรีสอร์ทมารับและนำสัมภาระไปเก็บให้ ประตูทางเข้าเป็นสีชมพูบานเย็นสดใส เดินเข้าข้างใน ความรู้สึกแล้ว คือ ที่นี่เหมือนเป็นบ้านส่วนตัวของเรา เพราะบรรยากาศสงบมาก เจ้าของที่พัก พี่ลีย์และพี่ป้อม เดินเข้ามายิ้มต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ที่นี่เจ้าของดูแลเองทั้งหมด จะมีแม่บ้าน 2-3 คน มาคอยช่วยซึ่งแม่บ้านที่นี่ก็น่ารักมาก
โซนล๊อบบี้ต้อนรับ
Welcome drink ที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ มีคุกกี้โฮมเมดและอิตาเลี่ยนโซดา ดื่มแล้วสดชื่นมากแอบติดใจในรสชาติ ส่วนคุกกี้พี่ลีย์บอกว่าเป็นคนทำด้วยตัวเอง รสชาติหอมเนยอร่อยเช่นกัน
ปิงปาลีย์ เป็นรีสอร์ทเล็กๆ ประมาณ 1 ไร่ แต่บรรยากาศการตกแต่งของที่นี่น่ารักในทุกมุมมอง ด้านข้างล๊อบบี้ มีสระว่ายน้ำเล็กๆ โซนนี้ตกแต่งน่ารัก มาก ชิค ๆ เก๋ๆ ด้วยโต๊ะและเก้าอี้ไม้สไตล์เอิรธ์โทน มีกลิ่นไอของความเป็นธรรมชาติ มุมนี้เราชอบมากอารมณ์คล้ายกับหนังสือบ้านและสวน ถ่ายรูปมายังรู้สึกว่าไม่สวยเท่ากับบรรยากาศจริงที่ได้เห็น
มีต้นไม้ประดับซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นต้นกระบองเพชรพันธุ์ต่างๆ เมื่อเอามาวางรวมอยู่ได้กันก็ดูสวยงามลงตัวมาก
ทางเดินเข้าสู่ที่พักซึ่งจะตั้งอยู่ข้างใน ด้านข้างจะเป็นโซนออกกำลังกายเล็กๆ ส่วนอีกฝั่งก็จะเป็นห้องนวด ที่นี่มีบริการนวดสำหรับแขกที่เข้าพักด้วยแต่ต้องแจ้งล่วงหน้าโดยคิดค่าบริการชั่วโมงละ 300 บาท
บรรยากาศในฝั่งติดริมน้ำซึ่งทางรีสอร์ทได้จัดมุมพักผ่อนไว้หลายมุม ถูกใจที่สุดคงเป็นกระท่อมริมน้ำ ที่สามารถมองเห็นวิวของลำน้ำแควได้อย่างใกล้ชิด
ห้องพักมีหลายแบบราคาขึ้นอยู่กับแบบของห้องที่เราเลือก สำหรับห้องที่ขายดีที่สุดของที่นี่ คงเป็นห้องที่เห็นวิวริมน้ำ คือ วิลล่า 1 และ 2 ซึ่ง คืนนี้เราเลือกพักที่วิลล่า 2 ราคาห้องอยู่ที่คืนละ 3800 บาท รวมอาหารเช้า 2 ท่าน แต่เรามาพักในวันธรรมดาราคาจะอยู่ที่ 3500 บาท
เปิดประตูเข้ามาในห้องครั้งแรกต้องบอกว่า ว้าวมาก ห้องกว้างขวาง พื้นที่ใช้สอยเยอะ แบ่งเป็นสัดส่วน สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งแอร์ ทีวี ตู้เย็น โต๊ะนั่งทำงาน
เปิดประตูออกไปนอกระเบียงปุ๊บก็จะได้เห็นวิวแม่น้ำแควน้อย สดชื่น ผ่อนคลายมาก นอนเล่น นั่งเล่น อ่านหนังสือได้ทั้งวัน
ห้องน้ำกว้างขวางแยกเป็นสัดส่วน มีทั้งอ่างอาบน้ำ และห้องน้ำแบบฝักบัว
วันที่เราไปพักเป็นวันธรรมดาและในวันนั้นไม่มีลูกค้า มีแค่เรา 3 คน เท่านั้น ทั้งรีสอร์ทเป็นของพวกเรา เลยขอทางพี่ลีย์เจ้าของ ไปดูห้องแบบอื่นเป็นบางห้องด้วยว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ห้องนี้คือ ห้องวิลล่า 8 วิวติดแม่น้ำ ลักษณะการตกแต่งภายในจะคล้ายกับห้องที่เราพัก
มีระเบียงออกไปชมวิว มีโต๊ะกับเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อน แต่มุมมองในการเห็นวิวริมน้ำอาจไม่กว้างเท่าห้องวิลล่า 2 แต่ถือว่าได้บรรยากาศของความชิลเช่นกัน ห้องนี้ราคาจะอยู่ที่ 3200 บาท
บ้านหลังต่อไป เป็นห้องวิลล่า 10 กับ 11 ชั้นล่าง คือ ห้องวิลล่า 10 ห้องนี้จะเห็นวิวแม่น้ำอยู่ไกลๆ เฟอร์นิเจอร์รูปแบบการตกแต่งทุกอย่างของห้องพักจะคล้ายกันทั้งหมด
ขึ้นไปชั้น 2 จะเป็นห้องวิลล่า 11 เปิดห้องเข้าไปต้องร้องว้าวอีกแล้ว คือ อลังการมากห้องนี้คล้ายกับห้องวิลล่า 2 ที่เราพัก แต่ราคาจะถูกกว่า เป็นอีกห้องที่น่าเช็คอินเข้าพักมาก
ส่วนวิวในการมองเห็นแม่น้ำจะสูงขึ้นกว่าวิลล่า 2 แต่ก็มองเห็นได้แบบกว้างเช่นกัน คือ เท่าที่ดูห้องพักทุกห้องของปิงปาลีย์ ออกแบบให้อยู่ในคอนเซ็ปต์เดียวกัน คือ ค่อนขว้างกว้าง สงบและเป็นส่วนตัว คือ แค่ได้พักผ่อนนอนเล่นอยู่ในห้องพักก็เพียงพอแล้ว
ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว บรรยากาศของล๊อบบี้ถูกตกแต่งด้วยไฟจากแสงเทียน โรแมนติกมาก ที่นี่มีร้านอาหารเล็กๆ ให้บริการด้วยค่ะ ชื่อว่า PITA STEAK HOUSE เมนูอาหารเน้นเป็นอาหารฝรั่ง อย่างเช่น สเต็ก สปาเก็ตตี้ สลัด ด้วยโลเคชั่นของที่พักจะออกไปทานอาหารข้างนอกคงลำบากมาก เพราะที่ตั้งอยู่ค่อนข้างลึกและเส้นทางที่มาก็แทบไม่มีร้านอาหาร สั่งทานจากที่พักจะสะดวกที่สุด ซึ่งตอนจองห้องพักทางพี่ลีย์จะถามก่อนว่าจะทานมื้อเย็นที่นี่มั้ย จะได้เตรียมไว้ล่วงหน้า
โต๊ะอาหารถูกจัดตกแต่งไว้อย่างเรียบง่าย แต่พิถีพิถัน เมนูแต่ละจานเริ่มทยอยมาเสริฟ์ที่โต๊ะ ตั้งแต่ ซีซ่าสลัด พาสต้าซึ่งหอมชีสมาก สเต๊กหมู และแซลมอน ซึ่ง Chef ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นพี่ป้อมแฟนพี่ลีย์นั่นเอง ดูจะชื่นชอบการทำอาหารเป็นพิเศษ ไม่ใช่แค่เพียงหน้าตาที่ดูดีและน่ารับประทานแต่รสชาติยังอร่อยมากด้วยค่ะ แนะนำเลยมื้อเย็นควรค่าแก่การฝากท้องไว้มาก นั่งดินเนอร์ใต้แสงเทียนในบรรยากาศริมสระน้ำยามค่ำคืน โรแมนติกมาก
บรรยากาศบริเวณสระน้ำยามค่ำ น่ากระโดดลงไปในสระมาก
ตื่นเช้ามาฟังเสียงนกและเสียงสายน้ำ เลือกมุมพักกันได้ตามใจชอบ บรรยากาศในเวลานี้มันคือ ช่วงเวลาที่ได้พักผ่อนจริงๆ นั่งมองสายน้ำต้นไม้สีเขียวขจีที่อยู่เบื้องหน้า ไม่มีเสียงใด ใด มารบกวน นอกจากเสียงอันไพเราะของธรรมชาติที่ขับกล่อม
อาหารมื้อเช้าเราทานกันที่โซนนี้ค่ะ เป็น เซ็ทเมนู อเมริกันเบรคฟาสต์ จัดมาแบบเต็มหน้าตาหน้าทานมาก
หลังจากทานอาหารมื้อเช้าแล้วเดินเล่น พักผ่อน เก็บมุมตุ๊กตาเครื่องปั้นดินเผาตกแต่งสวนน่ารักภายในรีสอร์ทซักหน่อย
แวะไปชมร้านขายของที่ระลึกด้านหน้า ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อยืด และไวน์
ก่อนกลับไม่ลืมที่จะสั่งอิตาเลี่ยนโซดามาทานอีกรอบยังติดใจในรสชาติ พี่ลีย์บอกเป็นสูตรของที่นี่เลยค่ะ
ปิงปาลีย์ ที่พักที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมาพักผ่อน อยู่แบบสงบ ไปกับธรรมชาติ สายน้ำ ภูเขา ต้นไม้ ก่อนกลับพี่ลีย์เดินมาส่งเราที่หน้าบ้าน เป็นอีกหนึ่งที่พักที่เราไม่ได้เพียงแต่จะประทับใจในเรื่องของบรรยากาศ แต่ยังประทับใจการบริการของเจ้าของรวมถึงพี่แม่บ้านทุกคน ใจดีและเป็นกันเองมาก ขอบคุณมากค่ะที่ดูแลและต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดีไว้จะกลับไปอีกแน่นอนค่ะ
รายละเอียดเพิ่มเติม
ปิงปาลีย์ รีสอร์ท โทร 090 138 7309