พักใจให้ผ่อนคลาย บ้านปากประ พัทลุง

บ้านปากประ พัทลุง คือ หนึ่งในสถานที่ในใจมาเมื่อไหร่ รู้สึกผ่อนคลายและประทับใจเสมอ เสน่ห์และเอกลักษณ์ของบ้านปากประ คือ  ยอยักษ์ ที่ตั้งอยู่เรียงรายกลางทะเลสาบสงขลา โดยเฉพาะช่วงเวลาเช้ายามพระอาทิตย์ขึ้น บรรยากาศอบอุ่นสวยงามยิ่งนัก กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ หลงใหลธรรมชาติและวิถีชีวิตอันเรียบง่าย มาเที่ยว บ้านปากประ ต้องมานอนพักยังที่พักริมทะเลสาบสงขลา ชมวิวยอ หรือนั่งเรือชมวิวของทะเลน้อยและพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า รวมทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง อย่างเช่น ทะเลน้อย สะพานเฉลิมพระเกียรติ รวมทั้งร้านอาหารคาเฟ่ให้ได้แวะ มีเวลา 2 วัน 1 คืน จะพาไปเที่ยวพักผ่อนให้สุขใจที่บ้านปากประ

 

 

 

วันแรก 

สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ฯ

มาถึงบ้านปากประประมาณช่วงบ่าย จุดหมายแรกแวะไปที่ สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ฯ หรือ สะพานเอกชัย สร้างขึ้นในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550  สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีความยาวประมาณ 5.5 กิโลเมตร เป็นสะพานข้ามทะเลสาบที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เริ่มจากทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ไปสู่อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา  ตลอดเส้นทางจะได้เห็นวิวทิวทัศน์และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติของทะเลน้อยทั้งสองฝั่ง บนสะพานยังมีจัดทำจุดชมวิวหลายจุด สามารถจอดรถชมวิวตลอดสองข้างทาง บริเวณทะเลน้อยยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกน้ำหลากหลายชนิด สามารถเห็นนกน้ำบินโฉบไปมาในช่วงเย็นสามารถมาชมพระอาทิตย์ที่ส่องแสงกระทบผิวน้ำ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่สวยงามบนสะพานแห่งนี้

 

 

สะพานทอดยาวบางช่วงของสะพานมีความโค้งสวยงาม ขอบสะพานทาสีฟ้าเข้มและสีเหลือง ตัดกับผืนหญ้าเขียว เริ่มต้นจากทางขึ้นสะพานทางฝั่งพัทลุง มองจากมุมสูงจะเห็นว่าสะพานมีความยาวมากทอดยาวสุดสายตา ในช่วงน้ำขึ้นจะเห็นสะพานลอยอยู่เหนือน้ำ แต่ยามน้ำลดสามารถมองเห็นพื้นหญ้าสีเขียว สลับกับน้ำในทะเลสาบเป็นภาพที่สวยงามแปลกตา

 

 

ช่วงต้นสะพานฝั่งอำเภอพัทลุงน้ำไม่เยอะมา ยังคงมองเห็นหญ้าเขียว และนกน้ำบินโฉบไปมาอยู่หลายตัว และหากโชคดียังมีโอกาสได้เห็นฝูงควายน้ำที่ออกมาหาหญ้ากินท่ามกลางธรรมชาติ  รวมทั้งชาวบ้านที่ขับเรือหางยาวออกมาหาปลา บริเวณขอบสะพานยังมีการทำป้ายเป็นภาพชื่อของนกน้ำชนิดต่างๆที่อาศัยอยู่ในทะเลน้อย 

 

 

รถบนสะพานขับค่อนข้างเร็วมาก เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่อยากเดินไปถ่ายภาพกลางสะพาน ต้องระวังให้มากค่ะ เพราะรถที่วิ่งผ่านสะพานเหมือนจะน้อยเว้นระยะห่าง แต่ถ้าขับมาคันหนึ่ง คือ อย่างเร็วมาก ขนาดยืนชมวิวอยู่ตรงจุดชมวิวที่จัดไว้ยังแอบเสียว

 

 

ตลอดเส้นทางของสะพาน มีการจัดจุดจอดรถหลายจุด สามารถจอดชมวิวระหว่างทางได้ โดยจุดยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพจะเป็นจุดที่มีบ้านสองหลังหลังคาสีส้ม ซึ่งตั้งอยู่ในช่วงบริเวณกลางสะพาน ช่วงน้ำเยอะลมแรง น้ำจะขึ้นมาเกือบถึงตัวบ้าน แต่ถ้าน้ำน้อยจะมองเห็นหญ้าสีเขียว ยามเย็นสามารถมาชมพระอาทิตย์ตกบริเวณสะพานได้อีกด้วย บรรยากาศยามเย็นค่อนข้างดีมาก อากาศไม่ร้อน ลมพัดเย็นสบาย ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะนิยมมาถ่ายภาพกันในเวลานี้  เป็นอีกหนึ่งจุดท่องที่ยวขึ้นชื่อของพัทลุง ที่แนะนำว่าต้องมาจอดรถเพื่อดื่มด่ำกับวิวและทัศนียภาพงาม ๆ ก็จอดรถลงมาและก็ถ่ายภาพเก็บความประทับใจและบรรยากาศดี ๆ

 

 

 

ชานไม้ ชายเล

บ่ายสอง เช็คอินยังที่พัก ชานไม้ ชายเล ที่พักสุดฟินแห่งบ้านปากประ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของพัทลุง ตั้งอยู่ริมคลองปากประ  ท่ามกลางแมกไม้และธรรมชาติ  มีความเงียงสงบเป็นส่วนตัว สามารถมองเห็นวิวของทะเลสาบและยอยักษ์ซึ่งเป็นวิถีประมงแบบดั้งเดิมของพัทลุง มีลมที่พัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน ปกคลุมด้วยพืชพันธุ์ไม้น้ำเขียวขจีกลายเป็นอุโมงค์ต้นไม้ที่ช่วยเพิ่มความร่มรื่นความพิเศษ คือ บ้านพักเป็นหลังที่เรียงรายใกล้ชิดทะเลสาบ เดินผ่านทางเดินออกมาหน้าบ้านก็เห็นวิวและพระอาทิตย์ขึ้นอยู่ตรงหน้า  แถมบ้านทุกหลังมีสะพานเชื่อมต่อไปยังระเบียงไม้ส่วนกลาง สามารถพักนั่งชมวิวยอได้แบบพาโนราม่าให้ความรู้สึกฟีลกู๊ดมาก  

 

 

ภายในห้องพักกว้างขวาง เป็นแบบห้องแอร์มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ประตูและหน้าต่างเป็นแบบกระจก สามารถมองเห็นวิวได้จากภายในห้อง มีทางเดินไม้จากตัวบ้านไปยังชานนั่งเล่นข้างนอกทุกหลัง เราพักบ้านหลังสีดำซึ่งอยู่ตรงกลาง สามารถมองเห็นวิวได้แบบชัดเจนไม่มีอะไรมาบดบัง

 

 

หน้าห้องพักทุกหลังมีชานระเบียงส่วนตัว มีแปลตาข่าย โต๊ะเก้าอี้  รวมทั้งที่นั่งโซฟาขนาดใหญ่ซึ่งที่เป็นที่นั่งส่วนกลางอยู่ด้านหน้า มองไปเบื้องหน้า คือ วิวของยอยักษ์เอกลักษณ์ของบ้านปากประ ที่ตั้งเรียงรายกลางทะเลสาบ เราอาจสงสัยว่ายอยักษ์พัทลุงจับปลาอะไร จับปลาลูกเบร่ ปลาตัวเล็กคล้ายปลาจิ้งจั้ง แต่ตัวเล็กและเนื้อบางกว่า ซึ่งต้องใช้ยอจับเท่านั้น ไม่สามารถใช้แหอวนจับเหมือนปลาตัวใหญ่ได้  ปลาลูกเบร่ เป็นสินค้าโอทอปขึ้นชื่อของพัทลุง ที่มีในเมนูอาหารของร้านอาหารในพัทลุงเกือบทุกร้าน นิยมเอามายำกับมะม่วงสับใส่มะพร้าวคั่ว หรือทานกับข้าวต้ม 

 

 

ช่วงบ่ายถึงเย็นแดดร่มนั่งชมวิวตรงนี้รับลมเย็น วิวทิวทัศน์ที่กว้างไกลของทะเลสาบ วิถีชีวิตชาวเลที่เรียบง่าย มองเห็นเรือประมงขับผ่านไปมา ช่วยให้รู้สึกนิ่งสงบและผ่อนคลายมาก   

 

 

ภายในที่พักยังมีร้านกาแฟเล็กๆ ตกแต่งน่ารักเข้ากับบรรยากาศ  มีชานระเบียงส่วนกลางที่มีบาร์เล็กขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งแปลตาข่าย และโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งเล่น

 

 

วิวยอ

ช่วงค่ำแวะมาทานอาหารที่ร้าน วิวยอ ซึ่งอยู่ใกล้กับที่พัก เป็นร้านอาหารที่อยู่ในที่พักศรีปากประ ที่พักอีกหนึ่งแห่งของบ้านปากประ ตั้งอยู่ติดทะเลสาบและมองเห็นวิวยอเช่นกัน น่าจะเป็นร้านอาหารเพียงร้านเดียวที่ใหญ่โตในย่านนี้ทำให้ลูกค้าเยอะ เมนูเน้นเป็นอาหารท้องถิ่นแบบใต้ ที่มีให้เลือกหลายอย่าง เราสั่งเมนูแนะนำ คือ ปลาดุกร้าพัทลุง ยำปลาลูกเบร่ แกงส้มปลาทะเล และไก่บ้านต้มขมิ้น โดยส่วนตัวรสชาติอาหาร คือ พอทานได้ น่าจะมีแค่ยำปลาลูกเบร่ที่ยำกับมะม่วง  รู้สึกว่ารสชาติถูกปาก ส่วนปลาดุกร้าอาจไม่ชินกับรสชาติที่ไปทางเค็มปนหวานและมีกลิ่นนิดๆ มาทราบที่หลังว่า ปลาดุกร้าพัทลุงใส่น้ำตาลและอาจมีอบน้ำผึ้งด้วย จึงทำให้มีความหวานเป็นสูตรเฉพาะของจังหวัดนี้ ปกติเคยชินแต่รสชาติปลาดุกร้า อ.ปากพนัง นครศรีฯ ที่ขึ้นชื่อ มีรสเค็มนิดๆ เหมือนทานปลาเค็ม พอบีบมะนาว ใส่ พริก หัวหอมแดง เปรี้ยว เค็ม รสชาติอร่อยลงตัว 

 

 

วันที่สอง 

บรรยากาศยามเข้าหน้าที่พัก ตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้น เดินไปยังชานระเบียงส่วนกลางที่สามารถมองเห็นวิวของพระอาทิตย์และวิวยอยักษ์ได้แบบชัดเจน สภาพอากาศมีเมฆมาบดบังไปบ้าง ไม่ได้เห็นแบบดวงกลมโต แต่ยังมีแสงสีทองส่องลอดออกมาจากก้อนเมฆให้พอชื่นใจ

 

 

แสงในยามเช้าส่องผ่านอุโมงค์ต้นไม้สวยมาก

 

 

หลังจากพระอาทิตย์ขึ้น เดินกลับไปยังห้องพัก นั่งชมวิวหน้าห้องกันต่อ  

 

 

อาหารเช้าเป็นแบบอาหารพื้นถิ่น มีทั้งข้าวต้ม ทานกับปลาลูกเบร่ รวมทั้งไข่ปลาทอดสมุนไพรอีกเมนูขึ้นชื่อของพัทลุง ที่นำไข่ปลาหลายชนิดมาปั้นเป็นก้อนแบนๆผสมกับสมุนไพรให้มีความหอม เป็นไข่ปลาแท้ไม่ผสมแป้ง ทานแล้วมันหนึบหนับ อร่อยจนต้องฝากที่พักซื้อกลับบ้าน ยังมีขนมจีนและน้ำแกงขนมจีนแบบต่างๆ อาหารเช้าจัดเต็ม และอร่อย พนักงานบอกว่านี่ยังถือว่าน้อยถ้าแขกพักเต็มทุกหลังจะเยอะกว่านี้มาก ถือเป็น ความประทับใจอีกหนึ่งเรื่อง นอกจากบรรยากาศ และการบริการที่กันเองเหมือนญาติมิตร ก็ คือ อาหารเช้าเมนูท้องถิ่นที่อร่อยถูกปาก เป็นความสุข ความผ่อนคลาย ที่ได้มาพักที่ ชานไม้ ชายเล แล้วจะกลับไปเยี่ยมเยือนกันใหม่แน่นอน

 

 

ชานไม้ ชายเล

ที่อยู่  126 ม 4 ตำบลพนางตุง อำเภอ ควนขนุน พัทลุง

ราคาห้องพัก : วันศุกร์-อาทิตย์ 2,200 บาท , จันทร์ –  พฤหัส 1,800  (รวมอาหารเช้า)

โทรศัพท์  081 638 5966

เฟสบุค คลิ๊ก ชานไม้ชายเล

จองที่พักราคาพิเศษกับอโกด้า คลิ๊ก จองที่พักชานไม้ชายเล

 

สำเภาไทย 

เช็คเอาท์จากที่พักแวะไปที่ร้าน สำเภาไทย สถานที่ท่องเที่ยวและคาเฟ่กลางทุ่งนาโดดเด่นด้วย หุ่นฟางคิงคองยักษ์กำลังลากจูงเรือสำเภาไทยอยู่กลางทุ่งนา มีทางเดินสะพานไม้ตัดทุ่งนา รวมทั้งจุดถ่ายรูปหลายจุด พร้อมมีที่นั่งชิลให้ซึมซับบรรยากาศท้องทุ่ง นั่งห้อยขาจิบกาแฟมองวิวเขาทะลุ สัญลักษณ์ของพัทลุง อย่าลืมชิมเมนูเพื่อสุขภาพอย่างข้าวยำ อาหารไฮไลท์แดนใต้ เสิร์ฟพร้อมไก่ทอด และขนมจีนน้ำยา รับรองว่าต้องออกปากว่าหรอยจังฮู้

 

 

สำเภาไทย ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองพัทลุง เสียค่าบริการเข้าชมผู้ใหญ่ 20บาท เด็ก10บาท เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเกษตร ระหว่างทางเดินจะได้ถึงความร่มรื่น ทั้งซุ้มดอกไม้ สวนเกษตร และคอกเลี้ยววัว สัตว์ต่างๆ

 

 

เข้ามาข้างในมีซุ้มขายเครื่องดื่มโซนนี้จัดสถานที่ออกแนววินเทจนิคๆ  ริมทุ่งนามีจุดให้ถ่ายภาพหลายจุดมาก ทั้งเก้าอี้สีแดง แปลตาข่าย ซุ้มหัวใจสีชมพู และที่นั่งตาข่ายวงกลมสีแดง ตัดกับสีเขียวของท้องทุ่ง  แถมวิวข้างหน้าคือ สำเภาและหุ่นคิงคองยักษ์ รวมถึงภาพของภูเขาอกทะลุสัญลักษณ์ของพัทลุง

 

 

บริเวณระหว่างทางเดินสะพานไม้กลางทุ่งนา ยังมีการจัดทำจุดถ่ายภาพระหว่างทางอีกหลายจุด ทั้งที่นั่งบนฟางประดับด้วยม่านสีขาว ประตูไม้ที่เปิดไปคือ ชฎามโนรา การละเล่นพื้นเมืองของพัทลุงที่มีชื่อเสียงและเป็นแกลัษณ์ กลางทางเดิน คือ ไฮไลท์ของร้าน หุ่นคิงคองยักษ์ลากสำเภาไทย ข้างๆมีหุ่นควายน้อยอยู่ด้วย

 

 

นอกจากนี้ยังมีที่พัก ทั้งห้องพักแบบเต้นท์เอาใจสายแคมป์ที่วิวด้านหลังคือภูเขา รวมทั้งห้องพักแบบบ้านให้ได้พักผ่อนสัมผัสวิวทุ่งนา ข้างเต้นท์ยังมีสไลเดอร์ให้เล่นถูกใจเด็กๆเป็นอย่างมาก

 

 

สำเภาไทย พัทลุง

ที่อยู่ : เลขที่ 214 หมู่ 4 บ้านท่าสำเภาใต้ ตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง

เปิดให้บริการ : ทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.

โทร : 081 904 5260

Facebook : byTasorn

 

ขนมหวานป้ากี้ 

ก่อนกลับมาถึงพัทลุงทั้งทีไม่แวะ ขนมหวานป้ากี้ ร้านดังแห่งเมืองลุง เหมือนมาไม่ถึงค่ะ ร้านเก่าแก่ ขึ้นชื่อ ที่เปิดขายมาอย่างยาวนาน ร้านขายขนมหวานสไตล์ไทย แต่เดิมขนมจะขายราคาถ้วยละละ 10 บาท ปัจจุบันยุคโควิด ขนมที่ร้านจะใส่ถ้วยกระดาษแบบ take away ราคาปรับมาเป็น 12 บาท ซึ่งก็ยังเรียกว่าถูกมาก ขนมหวานมีให้เลือกมากมาย จนเลือกทานกันไม่ถูกเลยทีเดียว ทั้งสาคูใส่กระทิ เมนูขึ้นชื่อ บวดข้าวโพด กล้วย ข้าวเหนียวดำ รวมมิตร

 

 

 

มาถึงป้ากี้  ต้องทานเมนูเด็ดอย่างสาคูสดที่ทำจากต้นสาคูแท้ เป็นพันธุ์ไม้ในท้องถิ่น สาคูแท้เม็ดจะออกสีน้ำตาลอ่อนและหนึบกว่าสาคูที่ผลิตจากแป้งทั่วไป รสชาติไม่หวานมาก กลิ่นหอม กินกับกะทิราดเค็มนิดๆ เข้ากันได้ดี ทุกเมนูที่สั่งมาทาน อร่อยทุกอย่างค่ะ ทำเอาคนไม่รักการทานขนมหวานอย่างเรา ทานเกือบหมด และอีกเมนูที่แนะนำต้องสั่ง คือ เต้าหู้ทอด ราดกับน้ำจิ้มหวาน ใส่ถั่วบ แตงกวา เต้าหู้หอมนุ่ม อร่อยมากค่ะ ยกนิ้วให้เลย ขนมหวานป้ากี้ เป็นความอร่อยของพัทลุง ที่ประทับใจจริงๆ อยากสั่งมาทานทุกอย่าง

 

 

หากให้นึกถึงสถานที่ที่อยากปล่อยใจแบบสบายเพื่อหยุดนิ่ง และหยุดพักไปกับนิ่งสงบ เรียบง่าย บ้านปากประ คือ คำตอบในการเดินทางที่อยากให้มาเที่ยวมากๆ 

 

 

ที่พักบ้านปากประ คลิ๊ก  5 ที่พักปากประ นอนชิล ดูวิวยอ

 

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน