เที่ยว พัก สุด ฟิน ดอยสกาด ความงามแห่งขุนเขา สายหมอก กาแฟ

อีกหนึ่งเสน่ห์ของการพักผ่อน ในสไตล์น่านเนิบๆที่แท้ทรู ต้องยกให้ ดอยสกาด ที่สามารถชมวิวภูเขาสุดอลังการ เช้าตื่นมาสัมผัสหมอก ชมบ้านเรือนตั้งเรียงรายเป็นทิวแถวบนเนินเขา ดอยสกาด มีชื่อเสียงในเรื่องของการปลูกเมี่ยง กาแฟ  ถิ่นปลูกมะแขว่นของดีเมืองน่าน ดอยแห่งนี้ เป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทยภูเขาชนเผ่าลั๊วะ ที่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย และที่สำคัญยังคงมีความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบ มาดอยสกาดต้องมานอนสัก 1 คืน หรือ /คืน เพราะที่นี่มีที่พักวิวดีสุดปังให้เลือกหลายแห่ง เหมาะสำหรับมาพักชาร์ตแบต รีเฟรซร่างกาย ให้หายจากความเหนื่อยล้าได้อย่างดีเยี่ยม

 

ดอยสกาด

 

ดอยสกาด ตั้งอยู่ในอำเภอปัว ห่างจากตัวเมืองปัวประมาณ 22 กม. ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองประมาณ 35 นาที เส้นทางขึ้นดอยสกาดเป็นถนนราดยางตลอดสาย มีความโค้งตลอดแต่เส้นทางไม่ถึงกับชันมาก อาจมีความแคบนิดหน่อย แต่ขับรถขึ้นไปได้แบบสบายๆ รถทุกชนิดขึ้นได้ทั้งหมด มาเที่ยวดอยสกาด ส่วนใหญ่ คือ เน้นมาพักผ่อนยังที่พักบนดอย ที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนเนินเขาและมีวิวที่สวยงาม แวะชมบรรยากาศจิบกาแฟ ชมวิวเขา ซึ่งร้านกาแฟบนดอยสกาด มีประมาณ 3-4 ร้าน ซึ่งส่วนใหญ่เปิดเป็นที่พักด้วย 

 

ที่พักจะเริ่มมีตั้งแต่ก่อนถึงตัวหมู่บ้าน ที่พักโซนนี้ที่ขึ้นชื่อมีประมาณ 4 แห่ง เริ่มตั้งแต่ เคียงเขา ณ สกาด ต่อด้วย สกาด กม. 8 มาจนถึง สกาดคอฟฟี่  และ ม่อนสกาด ที่พักในโซนนี้มีข้อดี คือ ค่อนข้างเงียบสงบ เป็นส่วนตัว และสามารถมองเห็นวิวของภูเขาได้แบบสวยงามชัดเจน ไม่มีวิวของบ้านเรือน และช่วงเช้ายังสามารถชมทะเลหมอกได้แบบปังมาก เพราะฉะนั้น ใครอยากเห็นหมอกแบบใกล้ชิด เลือกพักโซนนี้ได้เลย แต่ขอจำกัดของที่พักในโซนนี้ คือ บางแห่งไม่มีไฟฟ้า ใช้ไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ จึงไม่สามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆได้ นอกจากชาร์ตมือถือ และใช้ไฟปกติในห้องพักเท่านั้น

 

เพราะฉะนั้นก่อนจองที่พักในโซนนี้ สอบถามที่พักล่วงหน้าก่อน ว่ามีไฟฟ้าให้ใช้นอกจากชาร์ตแบบมือถือมั้ย แต่ถ้าไม่ติดอะไรกับตรงนี้ พักโซนนี้วิวสวยมาก แต่ถ้าใครติดเลือกไฟฟ้า ให้เลือกพักในหมู่บ้าน ที่พักก็มีให้เลือกเยอะ แต่ที่พักในหมู่บ้านวิวอาจไม่โล่ง สวยเหมือนในโซนนี้  

 

วันแรก 

มาเที่ยวดอยสกาด ต้องแวะร้านกาแฟ ก่อนเข้าที่พักคืนแรก ที่ เคียงเขา ณ สกาด เราแวะไปที่  สกาดคอฟฟี่  ตั้งอยู่ไม่ไกลกัน ร้านกาแฟในบ้านไม้ พื้นที่กว้างขวาง พร้อมลานชมวิวภูเขาสวย ขับรถขึ้นดอยสกาดมาได้สักพัก ร้านนี้ คือ ร้านแรกที่เราจะเจอ สามาถแวะก่อนเข้าไปยังตัวหมู่บ้านดอยสกาด ถือโอกาสแวะพักรถพร้อมไปกับนั่งชมวิวกันที่ร้านนี้ได้เลย

 

 

จากจุดจอดรถยังมีลานระเบียงชมวิวกว้าง เชื่อมต่อกับสะพานเหล็กยกสูงไปจนถึงตัวร้าน ก่อนเข้าร้านหยุดชมวิวตรงจุดนี้สักครู่ วิวสวยกว้างมาก เห็นทิวเขาสลับซับซ้อนของดอยสกาด 

 

 

ร้านเป็นบ้านไม้สองชั้น ที่พักอยู่ชั้นบนมีจำนวน 4 ห้อง ส่วนชั้นล่าง คือ ร้านกาแฟพื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีที่นั่งเยอะ ทั้งแบบโซฟาวินเทจ และที่นั่งมุมเด็ด แบบเก้าอี้ห้อยขาว ติดกับระเบียง สามารถมองเห็นวิวภูเขาเรียงรายสลับซับซ้อน ผืนป่าอันเขียวขจี มองแล้วสดชื่นมาก

 

 

เมนูมีทั้งเครื่องดื่มและอาหารจานเดียว อาหารทานเล่น  สั่งชากุหลาบ ปีกไก่ทอดมะแขว่น ยำหมูยอ นั่งทานเพลินมองวิวไปด้วย 

 

 

สกาดคอฟฟี่ ดอยสกาด

ที่อยู่ : 39 ตำบล สกาด อำเภอ ปัว น่าน 55120

เปืดให้บริการ : ทุกวัน 8.00 – 18.00 น.

โทรศัพท์:  093 014 9555

 

เคียงเขา ณ​ สกาด 

คืนแรกเราพักที่ เคียงเขา ณ สกาด เป็นที่พักที่ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้าน อยู่ตรงระหว่างทางขึ้น มีที่พักหลายหลัง ตั้งอยู่ลดหลั่นกันตามเนินเขา  โดยที่พักแบบเป็นกระโจมเต้นท์ อยู่ในบ้านแบบกระท่อมแบบธรรมชาติ  โดยแบ่งพื้นที่เป็นห้องนอน ห้องน้ำ ที่นั่งเล่น และอ่างอาบน้ำที่อยู่ข้างนอก สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนจอง เนื่องจากที่นี่ไม่ได้ตั้งอยู่ในแหล่งชุมชนหมู่บ้านดอยสกาด แต่อยู่บริเวณเนินเขาระหว่างทางขึ้น ทำให้ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ซึ่งกำลังไฟไม่มากพอ สำหรับใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องใช้วัตต์สูง อย่างไดร์เป่าผม ที่หนีบผม หม้อไฟฟ้า ที่นี่สามารถใช้ไฟได้แค่ชาร์จแบตโทรศัพท์เท่านั้น และปลั๊กไฟใช้งานได้ไม่เกินสองทุ่ม ส่วนแสงสว่าง พัดลมของที่พักใช้ได้ปกติ เพราะฉะนั้นใครใช้โทรศัพท์เยอะพกพาวเวอร์แบงค์มาด้วย เพราะสองทุ่มชาร์จไม่ได้จนถึงเช้า

 

 

เราเลือกบ้านเคียงหมอก 4  เป็นบ้านที่ตั้งอยู่ข้างล่างสุด และเป็นหลังที่วิวดีที่สุด เห็นภูเขาแบบไม่มีอะไรมาบัง ถ้าหากจองหลังอื่นที่ตั้งอยู่ข้างบนก็จะเห็นวิวบ้านพักหลังนี้ตั้งอยู่ข้างล่าง ราคาหลังละ 2,500 รวมอาหารเช้า กาแฟดริป รวมอาหารเย็นหมูจุ่ม

 

 

พื้นที่ภายในบ้านแบ่งสัดส่วน  ทั้งห้องนอนแบบเต้นท์ มีเตียงนอน พัดลม และปลั๊กไฟที่ใช้ชาร์ตแบตมือถือได้ บริเวณที่นอนยังมีระเบียงเล็กๆและชุดโต๊ะเก้าอี้หวาย ขนาดเล็ก ไว้สำหรับนั่งชมวิว

 

 

ตรงกลางบ้าน คือ พื้นที่นั่งเล่น สำหรับทานอาหาร และมีอ่างอาบน้ำอยู่ริมห้อง ตีฟองแช่อ่างกันได้เลยแต่น้ำจะไหลไม่แรงมาก ใครอยากตีฟองเปิดน้ำทิ้งไว้ อาหารเย็น คือ ชุดหมูจุ่ม รวมราคาในที่พักแล้ว  ซดน้ำซุปร้อน มองวิวภูเขา และแสงตะวันลับขอบฟ้า อิ่มท้องและอิ่มใจ

 

 

เช้าตื่นมาอาบหมอกกันไปเลยค่ะ หมอกเยอะมาก แค่ได้ชมหมอกจากหน้าบ้านก็มีความสุขแล้ว หยิบชุดดริปกาแฟที่ทางที่พักเตรียมไว้ให้ มานั่งดริปให้ได้ความอุ่น ยามเช้า จิบกาแฟ ชมหมอก ฟินสุด

 

 

เดินออกมานอกบ้าน ชมบรรยากาศภายในที่พัก หมอกเยอะจริง ลอยผ่านภูเขาและหน้าบ้าน รู้สึกเหมือนอยู่ใกล้หมอกมาก ที่สำคัญที่นี่มีความเงียบ สงบ และเป็นธรรมชาติ

 

 

อาหารเช้า จัดไว้ให้ที่ลานต้อนรับส่วนกลางซึ่งตั้งอยู่ข้างบนสุด ตรงนี้ยังสามารถนั่งทานอาหารไปด้วย ชมหมอกไปได้เช่นกัน ไม่ว่าจะอยู่ตรงจุดไหนของที่พัก ก็สามารถชมหมอกได้ทั้งหมด เหมือนเราอยู่เคียงหมอก ตามชื่อที่พัก เป็นที่พักที่เน้นความเป็นธรรมชาติ และมีความส่วนตัว ปลีกวิเวกออกมากจากหมู่บ้านดอยสกาดที่จะมีความเป็นชุมชน ที่นี่อาจไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกนัก แต่พักได้แบบสบาย อากาศเย็นสบาย แถมวิวที่ได้รับ คือ สุดปังทั้งภูเขาและสายหมอก

 

 

เคียงเขา ณ สกาด

Facebook : https://www.facebook.com/KiengkheaSakad

จองที่พัก : https://reservation.roomscope.com/1728/th
เบอร์โทร: 094-549-1098
อีเมล์: [email protected]

 

วันที่สอง 

เช็คเอ๊าท์ ออกจากที่พัก เข้าไปยังหมู่บ้านดอยสกาด แวะเที่ยวตามจุดต่างๆ จุดแวะบนดอยสกาด คือ ร้านกาแฟ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นที่พักด้วย บางแห่งให้เข้าได้เฉพาะลูกค้าที่เข้าพักเท่านั้น แต่ยังมีที่พักหลายแห่งบนดอยสกาด เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เข้าพัก ให้แวะมาเที่ยวชมบรรยากาศ จิบกาแฟได้ คือ  สกาดคอฟฟี่ ม่อนสกาด สกาดดีโฮมสเตย์ ร้านกาแฟบ้านจักษ์กะพัฒน์  เราแวะไปที่  ร้านกาแฟบ้านจักษ์กะพัฒน์  ร้านนี้ยกให้เป็นร้านกาแฟที่บรรยากาศอบอุ่นกันเองที่สุดแห่งดอยสกาด  เหมือนนั่งเล่นอยู่ในบ้าน นั่งแล้วไม่อยากลุกไปไหนเหมือนมีอะไรมาสะกด เริ่มไม่อยากมูฟตัวเอง เกิดอาการขี้เกียจแบบกระทันหัน แถมวิวของร้านยังไม่ธรรมดา เพราะตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้านสกาด บนเนินเขาสูงทำให้มองเห็นวิวภูเขา และบ้านเรือนของชาวบ้านที่ปลูกเรียงรายตามไหล่เขาได้เกือบทั้งหมด อยากเห็นความเป็นดอยสกาด มานั่งมองวิวที่ร้านนี้ได้เลย แถมเครื่องดื่ม ขนมปังปิ้ง ยังอร่อยอีกด้วย

 

 

บ้านจักษ์กะพัฒน์ ตั้งอยู่กลางหมู่บ้านดอยสกาดเลยค่ะ หากมาถึงดอยสกาด จะมีทางแยกขึ้นไปยังเนินเขา จะผ่านที่พักบ้านป่าเมืองเถื่อน และก็มาถึงตัวร้าน ที่ตัองอยู่บนเนินเขา เป็นบ้านไม้เรียบง่าย ที่ด้านหน้าเปิดเป็นร้านกาแฟ และช้างใน คือ ที่พักแบบโฮมสเตย์ มาถึงตัวร้านรู้สึกเหมือนเราได้มาเยี่ยมญาติ บ้านเพื่อน เพราะบรรยากาศอบอุ่นมาก

 

 

วิวของร้านยังดีมาก ที่นั่งมีหลายมุม ทั้งภายในบ้าน และชานระเบียงนอกบ้าน ที่สามารถมองเห็นทิวเขา และบ้านเรือนของชาวบ้าวบนดอยสกดา ที่ตั้งอยู่เรียงรายตามไหล่ เขา มองดูเป็นวิถีชีวิตที่มีความเงียบสงบ และเรียบง่าย หากฝนตกจะได้เห็นสายหมอกบางลอยไปมาปกคลุมหมู่บ้าน

 

 

เป็นร้านที่บอกเลยว่าสามารถนั่งนิ่งมองวิว และบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงตรงหน้า ได้เป็นชั่วโมง โดยที่ไม่รู้สึกเบือ ไม่อยากลุกไปไหน อาการของความขี้เกียจมาในทันใด แถมพนักงานยังน่ารัก เป็นกันเองมาก  เจอนักท่องเที่ยวสองคน พูดเหมือนกันเลยว่า นั่งแล้วไม่อยากลุก อยากนั่งนาน ๆ นั่งอยู่บนเก้าอี้ธรรมดา ไม่ได้หรูหราอะไร ก็รู้สึกสบายได้  

 

 

ยิ่งถ้าได้ลองสั่งเครื่องดื่มของทางร้านมาทานด้วยแล้ว ยิ่งเพื่มความฟิน ชาเขียวน้ำผึ้งมะนาว ชาพีช รสชาติดีเข้มข้น ทานคุ่กับขนมปั้งปิ้ง รสชาติดี หอมกรุ่น ยิ่งอยากนั่งมองวิวตรงนี้ให้นานขึ้นอีก ถ้าหากใครรักในบรรยากาศแบบนี้ อยากชมวิวหมู่บ้านดอยสกาดแบบสวยๆ ต้องแวะมานั่งชิลที่ บ้านจักษ์กะพัฒน์

 

 

 

บ้านจักษ์กะพัฒน์

ที่อยู่ : 29 หมู่ 5 ตำบล สกาด อำเภอ ปัว น่าน

เปิดให้บริการ : 08.30 -17.00 น.

โทร : 096 720 6902

Facebook : บ้านจักษ์กะพัฒน์ 

 

ติดกับบ้านจักษ์กะพัฒน์ คือ บ้านป่าเมืองเถื่อน เจ้าของเดียวกับสกาดดี โฮมสเตย์ ที่พักบนดอยสกาด ในยุคแรกๆ ที่สร้างชื่อให้ดอยนี้เด่นดัง แต่เราไม่ได้แวะร้านนี้นะคะ เพราะเห็นป้ายติดว่าเฉพาะลูกค้าที่เข้าพัก แต่ทางน้องที่ร้านกาแฟบ้านจักษ์กะพัฒน์ บอกว่าร้านกาแฟแวะได้ ร้านกาแฟแบบเล็กๆ สามารถไปนั่งจิบเครื่องดื่มได้ วิวของร้านดีมากค่ะ 

 

 

ลงจากร้านบ้านป่าเมืองเถื่อน จะเจอกับร้านเย็นตาโฟ และผัดไทยที่วิวดีที่สุด ร้านนี้ชื่อว่า อึ่ง อบ โอ่ง  เมนูร้านมีอาหารตามสั่งแบบง่าย และอาจมีอาหารอื่นบ้าง แล้วแต่วันค่ะ บนดอยสกาดมีร้านก๋วยเตี๋ยวอีกร้าน คือ ก๋วยเตี๋ยวคุณหลิ่ง แต่เราเคยไปทานแล้ว อยากลองร้านใหม่บ้าง เห็นร้านนี้ตอนขับรถผ่าน แวะเลยค่ะ ใกล้ร้านกาแฟต่างๆ

 

 

เราสั่งเย็นตาโฟ เครื่องแน่นมาก แต่ที่แน่นกว่า คือ วิวที่เห็นตรงหน้าสวยจิง อะไรจริง 

 

 

ก่อนเข้าที่พักในคืนที่สอง เราขับรถเล่นชมวิวในหมู่บ้าน ตลอดเส้นทางก็จะเห็นบ้านเรือน ตลอดสองฝั่งถนน และตั้งอยู่บนเนินเขา บางหลังนำมาปรับปรุงเป็นที่พัก 

 

 

ม่อนสกาด คาเฟ่ & ฟาร์มสเตย์

 

มาถึงที่พัก คืนที่สอง เราพัก ที่ ม่อนสกาด คาเฟ่ & ฟาร์มสเตย์  ร้านกาแฟและที่พักที่วิวสวยสะกดตามาก มีวิวภูเขาสุดอลังการ ในยามเช้าจะได้เห็นสายหมอกหนาลอยมาทักทายถึงหน้าระเบียงห้องพัก หากใครมาเที่ยวดอยสกาด อยากหาที่พักที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้แบบใกล้ชิด ต้องมาพักที่นี่  หรือหากไม่ได้มาพักสามารถแวะมาจิบกาแฟ เครื่องดื่ม ชมวิวภูเขาเขียวกันได้ 

 

 

ม่อนสกาด ตั้งอยู่ระหว่างทางขึ้นดอยสกาด  ที่นี่เปิดให้บริการในส่วนของคาเฟ่และที่พัก สำหรับคาเฟ่ตั้งอยู่ด้านบน ส่วนที่พักอยู่ด้านล่างคาเฟ่  เป็นห้องพักติดกันในอาคาร วิวด้านหน้า คือ ภูเขาที่เรียงรายสลับซ้บซ้อนสวยมาก มองลงไปแล้ว รู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่เหนือท้องฟ้า นั่งมองวิวจากตัวร้าน มีความว้าวมาก ถึงแม้จะมีสายฝนตกลงมาเบาๆ บดบังทัศนียภาพเขาภูเขาไปบ้าง แต่ก็ไม่ทำให้ความอลังการนี้น้อยลงไปเลย

 

 

สำหรับเมนูของเน้นเครื่องดื่ม ชาต่างๆ กาแฟ โกโก้ รวมทั้งอาหารทานเล่น อย่างเช่น นักเก็ต เฟรนฟรายส์ ฮอตดอต ปีกไก่ทอด รวมทั้งขนมปั้งปิ้ง เราสั่งชาดอกอัญชัน ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับคุ้กกี้ อากาศเย็นได้จิบชาอุ่นๆรู้สึกสบายผ่อนคลาย

 

 

สำหรับห้องพักของม่อนสกาด ตั้งอยู่ชั้นล่างภายในตึก มีระเบียงชมวิวทอดยาว มีทั้งหมด 4 ห้อง ราคาห้องละ 2,000 บาท ห้องพัดลม มีห้องน้ำในตัว พักได้ 2 ท่าน ราคานี้รวมอาหารเช้า อาหารเย็นแบบขันโตก และกาแฟดริป  ที่พักไม่ไกลจาก เคียงเขา ที่พักของเราในคืนแรก เพราะฉะนั้นจึงไม่มีไฟฟ้าเหมือนกัน ใช้ไฟฟ้าจากโซลาเซล์ ไฟฟ้าใช้ได้แค่ชาร์ตแบตโทรศัพท์เท่านั้น แต่ที่นี่มีปลั๊กให้ชาร์ตโทรศัพท์แบบได้ตลอดทั้งคืน ไม่ได้จำกัดเวลาเหมือนเคียงเขา ณ สกาด ค่ะ 

 

 

มื้อเย็นเสิร์ฟแบบขันโตก เน้นอาหารแบบง่ายๆ อย่างน้ำพริกอ่อง ไก่ทอด ต้มจืด ผัดผักกูดน้ำมันหอย อาหารรสชาติอร่อย นั่งทานหน้าบ้านพร้อมชมวิวสุดฟินในยามเย็น  ช่วยเพิ่มรสชาติของอาหารที่ดูธรรมดาให้อร่อยเพิ่มมากขึ้น

 

 

ยามเช้าหมอกมาทักทายถึงระเบียงห้อง รีบตื่นมาเก็บภาพกันสักหน่อย หมอกหนาฟูค่อยๆลอยปกคลุมภูเขาสี บางช่วงหมอกหนาจนปิดภูเขาหมด และบางช่วงกลายเป็นสายหมอกบางทำให้ได้เห็นภูเขาแบบชัดเจน 

 

 

จากห้องพักสามารถขึ้นมาที่ร้านกาแฟ เพื่อชมวิวสายหมอกได้  ร้านจะตั้งอยู่ชั้นบน มองเห็นวิวภูเขาและหมอกได้อีกวิวหนึ่งที่อยู่สูงในระดับสายตา

 

 

ประมาณ 8 โมง ฟ้าเริ่มสว่าง  ทะเลหมอกจะกลายเป็นภาพนี้  ปกคลุมอยู่ที่ละหย่อมในภูเขา เป็นภาพที่สวยงามไปอีกแบบ เพราะเราจะได้เห็นความเขียวชัดเจนขึ้น มองแล้วสดชื่นสบายตา ภูเขาแห่งเมืองน่านไม่ว่ามองจากตรงไหนก็สวยตลอด ไม่เคยทำให้ผิดหวัง

 

 

ช่วงเช้าที่พักมาเสิร์ฟชุดดริปกาแฟถึงหน้าห้อง  หรือจะมานั่งดริปที่ร้านกาแฟก็ได้ 

 

 

จากนั้นอาหารเช้า ซึ่งเป็นข้าวต้มก็มาเสิร์ฟต่อ กลับไปนั่งทานหน้าห้องชมวิวกันต่อ

 

 

ประมาณ​เกือบ 9 โมง แต่สายหมอกยังคงอยู่ให้ได้ชม มองลงไปข้างล่างจะเห็นที่พักของม่อนสกาดอีกหนึ่งหลัง ซึ่งเป็นหลังใหญ่สามารถพักได้ 6 ท่าน แยกออกไปเป็นส่วนตัว

 

 

ม่อนสกาด คาเฟ่ & ฟาร์มสเตย์ ดอยสกาด

ที่อยู่ :  1 ตำบล สกาด อำเภอ ปัว น่าน

โทร : 085 666 8878

Facebook :  Monsakad

 

เห็นภูเขาเที่ยวดอยในเมืองไทย มาเยอะ แต่ไม่มีภูเขาไหนที่จะสวยเขียวอลังการแบบสะกดตาได้เท่าที่จังหวัดน่าน โดยเฉพาะที่ดอยนี้ ดอยสกาด ทั้ง คาเฟ่ ที่พัก เหมือนมีมนต์สะกดให้นั่งนิ่ง มองวิวได้แบบไม่อยากลุกไปไหน และให้ความรู้สึกแบบนี้ทุกที่ที่แวะ เคยมาดอยสกาดครั้งแรกสมัยเพิ่งเริ่มเปิดตัว ไม่ประทับใจเท่าไหร่ รู้สึกว่าไม่ค่อยมีอะไร วิวอยู่ในหมู่บ้านมีความอึดอัด  แต่มาครั้งนี้ คาเฟ่ ที่พักมีเยอะ กระจายตัวมากขึ้น ถึงแม้ไม่ชิค ทันสมัย แต่วิวสวยกว้างสบายตา ดีไซน์เป็นบ้านไม้กลมกลืนกับพื้นที่ ทุกที่มีความกันเองเหมือนมานั่งเล่นบ้านญาติ มีความสุขมากๆ ที่ได้มาพักที่นี่ 

 

 

 

ที่พักอื่นๆ บนดอยสกาด คลิ๊ก  16 ที่พักดอยสกาด พักสุดฟิน ชมวิวหมอก

 

 

 

 

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง