ความสุขแสนเรียบง่าย ที่พะเยา

พะเยา เป็นจังหวัดที่ผ่านบ่อยเวลาไปเชียงรายและหากมาเที่ยวพะเยา ส่วนใหญ่ คือ ไปโซนภูลังกามากกว่า แต่มีความตั้งใจว่าซักครั้งจะหาโอกาสเที่ยวในตัวเมืองพะเยาแบบเจาะลึก เพราะชอบในความสงบเงียบ ตัวเมืองพะเยาในปัจจุบันต่างจากเมื่อก่อน ที่เริ่มมีจุดให้แวะเที่ยว แวะพัก ที่อินเทรนไม่แพ้จังหวัดใด ขากลับจากเที่ยวเชียงราย แวะไปพักที่ตัวเมืองพะเยา 1 คืน เพราะจากตัวเมืองเชียงรายไปพะเยาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง แวะค้างคืนเพื่อซึมซับกับบรรยากาศ เที่ยว กิน ให้เต็มที่ 

 

 

วันแรก

 

วัดศรีโคมคำ

มาถึงพะเยา ไม่แวะ วัดศรีโคมคำ ไม่ได้เลย  วัดนี้เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองพะเยา มีพระวิหารที่สร้างในรูปแบบล้านนามีหน้าบันที่สวยงาม ภายในวิหารประดิษฐาน พระเจ้าตนหลวง พระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพะเยา และนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาในจังหวัดพะเยา ก็มักจะใส่ วัดศรีโคมคำเป็นจุดหมายหลักที่ต้องแวะเมื่อมาเยือนพะเยา

 

 

พระเจ้าตนหลวง เป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยหน้าตักกว้าง 14×16 เมตร ปัจจุบันประดิษฐานเป็น พระประธานในวิหารหลวง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวปีพ.ศ. 2034 ในรัชสมัยของพญายอดเชียงราย กษัตริย์ลำดับที่ 10 แห่งราชวงศ์มังราย  ต่อมาในสมัยพระยาอุปราชเจ้าบุรีย์รัตน์ได้ทำการ ก่อสร้างพระวิหาร ,เสนาสนะต่างๆและลำดับต่อมาก็ได้ตั้งเป็นวัดขึ้นในสมัยของพระยาตู้ครองเมืองพะเยา ชาวพะเยาถือเป็น พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เดือนหกของทุกปีจะมีงานนมัสการพระเจ้าตนหลวง

 

 

วัดจอมทอง

แวะวัดศรีโคมคำแล้ว ต้องไม่ลืมแวะอีกหนึ่งวัด ดที่สวยงามและศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้กัน คือ วัดพระธาตุจอมทอง ชื่อคล้ายกับวัดจอมทอง เชียงใหม่  วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดวัดศรีโคมคำ  เป็นวัดสำคัญที่ประดิษฐาน พระธาตุจอมทอง ปูชนียสถานที่อยู่คู่เมืองพะเยามาแต่โบราณกาล เป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองพะเยามาแต่โบราณ

 

 

องค์พระธาตุจอมทอง นั้น จะเป็นสีทองเหลืองอร่ามตั้งอยู่บนดอยจอมทอง เป็นเจดีย์ทรงล้านนาสูง 30 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้าง 9 เมตร ซ้อนทับกันสามชั้น ส่วนยอดด้านบนสุดจะเป็นฉัตรสีทอง ฐานโดยรอบก็จะบุด้วยแผ่นโลหะ ดุนลายเป็นรูป 12 นักษัตร และลายไทยอย่างสวยงดงามโดยภายในจะบรรจุเกศาธาตุและพระธาตุแขนขวาของพระพุทธเจ้าเอาไว้  

 

 

นอกจากนี้ภายในวัดยังมีศักดิ์สิทธิ์ คือ พระเจ้าทันใจ ที่ประดิษญานอยู่ในตู้กระจก มีความเชื่อว่าหากขอสิ่งใด สม​ปราถ​นา​อีกด้วย

 

 

กว๊านพะเยา

ไม่ไกลจากทั้งสองวัด ต้องไม่ลืมแวะ กว๊านพะเยา ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพะเยา ทัศนียภาพโดยรอบสวยงามเพราะมีภูเขาน้อยใหญ่เป็นฉากหลังบริเวณรอบกว๊าน มีร้านอาหารและโรงแรมที่ให้บริการหลายแห่ง มีมุมไฮไลท์สุดฮิต  คือ รูปปั้นพญานาคกลางน้ำหันหน้าเข้าหากัน กว๊านพะเยาจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของจังหวัดพะเยาที่ไม่ควรพลาด และสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนกว๊านพะเยา คือการล่องเรือชมกว๊าน และล่องเรือชมวัดติโลกอาราม วัดกลางน้ำ ซึ่งเป็นอันซีนพะเยา

 

 

บริเวณริมกว๊านยังมีร้านอาหาร สวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ  ผู้คนจากทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดต่างพากันมาพักผ่อนหย่อนใจ เดินเล่นกินลมชมวิว ปั่นจักรยาน วิ่งออกกำลังกาย ชมบรรยากาศยามพระอาทิตย์อัสดงในยามเย็น สีสันของท้องฟ้าที่สวยงาม ทิวเขาเรียงรายสลับซับซ้อนและผืนน้ำอันเงียบสงบที่สะท้อนเงาของทิวเขาและพระอาทิตย์ตกดินช่างงดงามดังภาพวาด เป็นภาพบรรยากาศอันแสนประทับใจ

 

 

ตรงข้ามกับกว๊านพะเยา มีอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง   อนุสาวรีย์ที่จะทำให้คุณรำลึกถึงบูรพกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต และเป็นบุคคลสำคัญที่ชาวพะเยาไม่เคยลืมเลือน  พระองค์เป็นพระสหายร่วมน้ำสาบานกับพ่อขุนเม็งรายแห่งเมืองเชียงราย และพ่อขุนรามคำแหงแห่งกรุงสุโขทัย ซึ่งทั้งสามพระองค์ได้กระทำสัตย์ต่อกัน ณ แม่น้ำอิง ซึ่งก็คือบริเวณสถานีประมงน้ำจืดพะเยาในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าพ่อขุนงำเมืองเป็นผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ โดยกล่าวกันว่าเมื่อพระองค์เสด็จไปทางไหน “แดดก็บ่อฮ้อน ฝนก็บ่อฮำ จักให้แดดก็แดด จักให้บดก็บด” จึงได้พระนามว่า “งำเมือง” และในวันที่ 5 มีนาคม ของทุกปี จะมีการจัดพิธีสักการะบวงสรวงพ่อขุนงำเมือง

 

 

 

บ้านอิงกว๊าน

หลังจากทำบุญไหว้พระ เที่ยวกว๊านพะเยาแล้ว หากกำลังมองหาคาเฟ่บรรยากาศดีในเมืองทำเลที่ตั้งโดดเด่น ต้องมาเวะ บ้านอิงกว๊าน คาเฟ่ริมน้ำ ออกแบบในสไตล์ลอฟท์ ในโทนสีขาวตัด้วยสีส้มของอิฐบล็อก ภายในร้านตกแต่งคลาสสิคได้ฟีลแบบยุโรป มีที่นั่งด้านนอกแบบห้อยขา ที่สามารถมองเห็นวิวทะลสาบแห่งกว๊านพะเยา แวะมาสั่งเครื่องดื่มพร้อมเบเกอรี่ มานั่งทานมองวิวให้ผ่อนคลายหายเหนื่อย

 

 

ร้านตั้งอยู่ใกล้กับถนนสายหลัก  เยื้องพระตำหนักกว๊านพะเยา เป็นร้านเล็กๆ 2 ชั้น ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านส่วนตัว โดยชั้นล่างเป็นร้านกาแฟ ส่วนชั้นสองเป็นที่อยู่อาศัยของเต้าของบ้าน ออกแบบหน้าร้านด้วยดีไซน์ที่ชิคทันสมัย โดยใช้สีขาว เพิ่มความโดดเด่นด้วยช่องกำแพงสี่เหลี่ยมที่ประดับด้วยอิฐบลอคสีส้ม หน้าร้านมีมุมถ่ายรูปสวย คือ กรอบสี่เหลี่ยมป้ายชื่อร้านสีดำติดกำแพงที่ออกแบบมาได้แบบมินิมอลมาก รวมถึงมุมโต๊ะเก้าอี้ข้างร้านแบบเรียบง่ายแต่สวย

 

 

 

ส่วนภายในร้านตกแต่งแบบวินเทจผสมกับความเป็นบ้านแบบคอทเทจนิดๆ ด้วยผ้าปูโต๊ะ หมอนอิง ลายดอกไม้หวานแหวว

 

มุมที่นั่งเอาท์ดอร์ข้างนอก เป็นแบบเก้าอี้บาร์ห้อยขา ที่มองไปเบื้องหน้า คือ ผืนหญ้าเขียวและวิวของกว๊านพะเยา ที่มองแล้วสบายตามาก เมนูที่นี่เน้นเครื่องดื่มและเค้กเป็นส่วนใหญ่ จะมีไม่เยอะมากค่ะ  สั่งเครื่องดื่มอย่างชาเขียวเย็นและเค้กส้มมาทานคู่กัน นั่งมองวิวชิลสุดไปเลย

 

 

บ้านอิงกว๊าน

ที่อยู่ : 306 ถนน พหลโยธิน พะเยา (เยื้องพระตำหนักกว๊านพะเยา)

โทร : 092 652 9211

เปิดให้บริการ :  10.00 – 21.00 น.

Facebook :  baaningkwan

 

ม่อนสามเคียน

แอบมองไว้ และตั้งใจอยากไปพักผ่อนอยู่เนิ่นนาน สำหรับ ม่อนสามเคียน ฟาร์มสเตย์ พะเยา  Monsamkien Farmstay  ฟาร์มสเตย์ดีไซน์สวยมีเอกลักษณ์ ด้วยตัวบ้านไม้สีเข้มแบบเท่ๆ 2 หลังใหญ่ สุดเก๋ด้วยทางเดินเชื่อมต่อกัน บ้านแทรกตัวอยู่ในป่าสักสูงใหญ่ ที่ช่วยมาแต่งเติมเพิ่มความสดชื่น ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านกลางป่าแบบเคบินในต่างประเทศบรรยากาศโดยรอบเป็นส่วนตัว เงียบสงบ เหมาะมากสำหรับมาพักพักผ่อนปลีกวิเวก หรือจะมาพักเป็นกลุ่มเพื่อน ครอบครัว ก็ดีไม่น้อย  แถมยังมีคาเฟ่ที่ตกแต่งแบบมีดีไซน์ไม่แพ้กัน แค่เดินเล่นรอบบ้านชมการออกแบบตกแต่งก็เพลินตาเพลินใจแล้ว 

 

 

ม่อนสามเคียน ฟาร์มสเตย์ ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองพะเยา แต่ออกมานอกเมืองประมาณ 14 กิโลเมตร ปักหมุดใน Google map มาได้เลย ทางเข้าตั้งอยู่ภายในหมู่บ้าน มีป้ายบอกแต่ค่อนข้างเล็ก  จะดูลึกลับพอสมควร จนไม่คิดว่าจะมีที่พักดีไซน์สวยแบบนี้ซ่อนอยู่ เส้นทางก่อนเข้าที่พักช่วงสุดท้ายเป็นดินแดงขรุขระเล็กน้อย ไม่ต้องตกใจคุณมาถูกทางแล้ว ขับตาม google ไปจนถึงปลายทาง เมื่อมาถึงภายในที่พักสามารถจอดรถไว้ด้านหน้า จากนั้นต้องเดินผ่านสะพานแขวนข้ามลำห้วยเพื่อไปยังบ้านพัก ซึ่งอยู่อีกโซน บ้านพักมีสองหลังใหญ่ ท่ามกลางป่าต้นสักปกคลุมตัวบ้าน ได้ฟีลบ้านในป่ามาก แต่เป็นบ้านกลางป่าที่ดีไซน์ได้เท่มาก เหมือนบ้านในต่างประเทศ  เงียบสงบ ชวนให้หลบไปพัก

 

 

พื้นที่ส่วนกลางของบ้าน  ถือเป็นอีกหนึ่งมุมไฮไลท์ สะพานทางเดินเชื่อมต่อระหว่างบ้านสองหลัง และมีที่นั่งเล่นห้อยขาชิลๆ อยู่ตรงกลาง

 

 

บ้านทั้งสองหลังมีห้องพักรวมกัน ทั้งหมด 5 ห้อง ภาพแรกเป็นบ้านที่มีห้องพักห้องไฮไลท์ หลังนี้มีเตาผิงไฟด้วย บ้านจะเน้นตกแต่งด้วยกระจกและไม้ต่างๆนำมาเรียงต่อกัน เป็นทรงบลอคสี่เหลี่ยม

 

 

ส่วนอีกหลังดีไซน์เป็นแบบหลังคาทรงสามเหลี่ยมเท่ๆ ซึ่งเราจองได้ห้องพักที่อยู่บ้านหลังนี้ หลังนี้มีห้องพัก 4 ห้อง ชั้นบน 2 ห้อง และชั้นล่าง 2 ห้อง เป็นห้องแอร์และมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง ห้องที่พักเป็นแบบห้องเดี่ยวอยู่ชั้นสอง ราคาห้องละ 1290 บาท พักได้ 2 ท่าน ราคารวมอาหารเช้าหรือเย็น และfree bar ทั้งน้ำเปล่าและน้ำอัดลม ซึ่งแช่ตู้เย็นอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางของบ้าน  

 

 

พื้นที่ส่วนกลางของบ้านหลังนี้  ชั้นสองตกแต่งเป็นที่นั่งเล่นพักผ่อน ทั้งมุมเก้าอี้ โซฟาและชิงช้า ส่วนชั้นล่างเป็นแบบเก้าอี้ห้อยขา และยังมีที่นั่งเป็นมุมเก้าอี้หวายตัวน้อย ที่มีเบลคกราวน์เป็นต้นไม้เลื้อยบนกำแพงอิฐ

 

 

ภายในห้องพักกว้างในระดับหนึ่ง เน้นหลังคาสูงโปร่ง หน้าต่างกระจกทั้งข้างบน ที่เก๋ คือ หน้าต่างกระจกบนเพดาน จะเห็นว่าการสร้างห้องพักยังมีลำต้นของต้นสักเข้ามาเป็นส่วนประกอบโดยใช้หน้าต่างกระจกบริเวณเพดานเพื่อให้เห็นลำต้นและใบไม้สีเขียว กลายเป็นภาพสวยๆเมื่อได้แหงนมอง ส่วนห้องน้ำกับห้องสุขากั้นเป็นห้องสี่เหลี่ยม  มีอ่างล่างหน้าแยกออกมา

 

 

ที่พักมีร้านกาแฟด้วย ตกแต่งเก๋ไม่แพ้กัน สามารถมานั่งเล่นจิบเครื่องดื่มฟังเพลงได้ วันที่เราไปพักเสียดายว่าร้านปิดพอดีค่ะ เลยไม่ได้ถ่ายเมนูเครื่องดื่มมาฝากกัน  

 

 

ตกค่ำมานั่งทานอาหารเย็นบริเวณบาร์ของที่พัก อาหารของที่นี่ไม่เมนูเยอะนะคะ นอกจากพิซซ่ามีสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมา แต่เป็นสปาเก็ตตี้ที่อร่อยมาก ส่วนเครื่องดื่มเน้นเป็นแบบคอกเทล เลยสั่งโมจิโต้ มาจิบเบาๆ หนึ่งแก้ว

 

 

ช่วงเช้าตื่นมารับอากาศบริสุทธิ์ เดินชมวิวป่าสัก ต้นสักปลูกเรียงรายเป็นทิวแถวสวยงาม ยามเช้ามีแสงอ่อนลงมากกระทบต้นสักเบาๆ  ม่อนสามเคียน บ้านไม้แสนอบอุ่นเหมือนมาพักบ้านเพื่อน เป็นความสุขในพื้นที่เล็กๆท่ามกลางธรรมชาติ ที่ชวนให้หลีกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนมาก สอบถามห้องพักโทร 099 619 5992  Facebook : monsamkien

 

 

ม่อนสามเคียน

 

วันที่สอง

 

บ้านต้นเต๊า

ช่วงเช้า แวะไปทานอาหาร ที่ บ้านต้นเต๊า coffee & food ณ บ้านบัว คาเฟ่เล็กและที่พักที่ซ่อนตัวอยู่ในบ้านบัว จังหวัดพะเยา บ้านไม้สีขาวน่ารักเรียบง่านตามสไตล์บ้านในต่างจังหวัด ที่ผสมผสานดีไซน์ความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ตัวบ้านตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้สีเขียวร่มรื่น คู่ไปกับเสียงลำธารใสไหลเย็น มาพร้อมเมนูในสไตล์พื้นถิ่นแสนอร่อย ทั้งอาหารคาว เครื่องดื่ม และของหวาน ฃสามารถนั่งเล่นทานอาหารได้แบบทั้งวัน

 

 

พิกัดร้านตั้งอยู่ในอำเภอเมืองพะเยา ห่างออกมาจากนอกเมืองเล็กน้อยภายในบ้านบัว หมู่บ้านต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียงและข้าวอินทรีย์แห่งจังหวัดพะเยา หน้าร้านมีที่จอดรถไดประมาณ 3 คัน และสามารถจอดเลียบซอยใกล้กับร้านได้ มาถึงหน้าร้านต้องบอกว่าชอบในดีไซน์และการตกแต่งมาก เริ่มตั้งแต่ทางเดินเข้าสู่ตัวร้านมาจนถึงประตูทางเข้าแบบเปิดโล่ง เป็นมุมน่ารัก ที่ต้องไปยืนแชะภาพเช็คอิน 

 

 

ภายในร้านเป็นแบบโอเพ่นแอร์ทั้งหมด มีมุมให้นั่งทานอาหารหลายมุมมาก แต่ละมุมตกแต่งได้น่ารัก อัดแน่นด้วยความเขียวขจีจากต้นไม้

 

 

ภายในร้านแบ่งออกเป็น บ้านสองหลัง 2 ชั้น ที่เชื่อมต่อกัน พื้นที่ของคาเฟ่อยู่ชั้นล่าง ส่วนชั้นสอง คือ ที่พักอาศัยของเจ้าของบ้าน และบ้านอีกหนึ่งหลัง คือ พื้นที่ของห้องพัก ที่เปิดให้บริการห้องพักเพียง 2 ห้อง ในราคาหลักพันต้นๆเท่านั้น หากใครมองหาที่พักบรรยากาศรมรื่นแสนสบาย มีร้านอาหารพร้อม ให้ความรู้สึกเหมือนมาพักผ่อนในบ้านต่างจังหวัดในบรรยากาศในสวน แนะนำเป็นอย่างมาก

 

 

พื้นที่นั่งภายนอกร้าน จัดแต่งได้แบบธรรมชาติมาก ทั้งมุมชิงช้า มุมนั่งเล่นแบบส่วนตัวชั้นล่าง และมุมที่นั่งริมลำธาร

 

 

เติมความสดชื่นของบรรยากาศแล้ว มาเติมความอิ่มให้กับท้องบ้าง ที่นี่มีทั้งเมนูอาหารคาว เน้นเมนูในสไตล์เฮลตี้ที่นำมาประยุกต์ให้เข้ากับเหนือท้องถิ่น รวมทั้งอาหารทานเล่น โดยเฉพาะเมนูไส้อั่ว ที่ขึ้นชื่อของร้าน มีการนำมาประยุกต์ให้เป็นอาหานแบบต่าง ๆ กลายเป็นอาหารแบบฟิวชั่นที่น่าทานมาก เริ่มจากเมนูแนะนำ ข้าวน้ำพริกต้นเต้าเป็นข้าวผัดสมุนไพรทานคู่กับน้ำพริกสูตรเฉพาะและผักตามฤดูกาล  ไส้อั่วโฮมเมดทางร้านทำเองไม่มันจนเกินไป ยำผลไม้รสชาติเปรี้ยวหวานพอดี  อาหารจานใหญ่ วัตถุดิบคุณภาพ การันตีอร่อยทุกจาน

 

 

ตบท้ายด้วยของหวานเค้กบานอฟฟี่รสดี  เบอเกอรี่ของร้านเป็นแบบโฮมเมด ที่คัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยม และมุ่งเน้นพัฒนาสูตรเพื่อสุขภาพที่ดี  ทานกับลิ้นจี่โซดา แสนสดชื่น เป็นร้านที่ดีทั้งบรรยากาศและรสชาติของอาหาร ที่จะทำให้อิ่มทั้งใจและอิ่มท้อง เป็นอีกมุมหนึ่งของการมาเที่ยวพะเยา ที่นอกจากจะไหว้พระ แวะเที่ยวกว๊านพะเยาแล้ว แวะมานั่งเอนกายพักผ่อน ทานอาหารอร่อย สัมผัสความเป็นธรรมชาติของชนบท ชมบรรยากาศของหมู่บ้านได้ที่ บ้านต้นเต๊า

 

 

 บ้านต้นเต๊า coffee & food ณ บ้านบัว

ที่อยู่ ทางหลวงชนบท พะเยา (อยู่ในหมู่บ้านบัว เลี้ยวขวาก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำ)

เปิดให้บริการ : วันอังคาร- วันอาทิตย์  10.00น. – 18.00น. **หยุดทุกวันจันทร์

โทร : 094-719-2653

 

วัดอนาลโย

ปิดท้ายที่อีกหนึ่งวัดที่มีสิ่งก่อสร้างสุดอลังการที่ วัดอนาลโยทิพยาราม ตั้งอยู่ออกมานอกเมืองนิดหน่อย แต่ไม่ไกลจากบ้านต้นเต๊ามากนัก เป็นวัดที่ร่มรื่นและเงียบสงบ มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม แปลกตา ทั้ง ซุ้มประตูวัดอนาลโยทิพยาราม วิหาร พระพุทธรูปปางต่าง ๆ รวมถึงเจดีย์พุทธคยาจำลอง เก๋งจีนประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม หอพระแก้วมรกตจำลองทำด้วยทองคำ ฯลฯ บรรยากาศภายในวัดร่มรื่นพื้นที่กว้างขวางปกคลุมด้วยอุดมสมบูรณ์และความเขียวของป่าไม้ จากยอดดอยสามารถชมทัศนียภาพของกว๊านพะเยาและตัวเมืองของพะเยาได้อีกด้วย

 

 

เส้นทางขึ้นมายังวัดอนาลโยทิพยาราม เป็นเส้นทางถนนลาดยางตลอดและไม่ชันมาก เมื่อเดินทางมาถึงวัดอนาลโยทิพยาราม สามารถจอดรถบริเวณหน้าวัด จะเห็น ซุ้มประตูวัดอนาลโยทิพยาราม คล้ายประตูปราสาทหินโบราณมีรูปปั้นพญานาคสีทองขนาบบันไดทั้งสองข้าง

 

 

 

ระหว่างทางเดินภายในวัด ตลอดทั้งสองข้างทั้งจะเห็นสิ่งก่อสร้างที่สวยงามแปลกตาอุโบสถและศาลา 

 

 

เดินมาเรื่อยๆสะดุดตากับสิ่งนี้ มองดูลึกลับน่าเกรงขาม เป็น รูปจำลองนาคมานพในเครื่องทรงกษัตริย์ อยู่ระหว่างบันไดทางเดินอยู่ตรงกลาง

 

 

วิหารพระหมื่นปี เป็นวิหารทรงสูงหลังคาหลายชั้น  เมื่อเข้าไปภายในมองเห็นพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ตรงกลาง ภายในวิหารมีหน้าต่างกระจกใสเป็นช่องแสงให้แสงส่องผ่านเข้ามาได้

 

 

จากวิหารหมื่นปีจะเจอลานขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรกขนาดใหญ่ มีเจดีย์ที่จำลองคล้ายเจดีย์พุทธคยาอยู่ตรงกลาง  มุมทั้งสี่ด้านของลานพระเจดีย์ มีเจดีย์องค์เล็กๆ สร้างแบบเดียวกันทั้งสี่มุม และพระพุทธรูปสีดำที่อยู่ด้านหน้าเจดีย์ ด้วยสิ่งก่อสร้างบวกกับบรรยากาศที่ปกคลุมด้วยต้นไม้หน้าแน่น  เป็นสถานที่ที่ทำให้รู้สึกแบบขนลุก รับรู้ได้ถึงพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ถัดจากลานไปจะพบกับพระพุทธรูปองค์ใหญสีทอง คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต

 

 

วิหารที่มีลวดลายปูนปั้นสวยงาม เมื่อเดินผ่านจุดนี่ไปจะพบกับซุ้มประตูที่มีลวดลายแกะสลักบานประตูที่สวยงาม เหมือนประตูข้ามผ่านกาลเวลา เป็นวัดที่ต้องใช้เวลาในการเดินชมและชื่นชมในสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้างต่างๆ เพราะในแต่ละจุดมีความสวยงามแตกต่างจากที่เคยพบเห็น

 

 

เที่ยว ตัวเมืองพะเยา เป็นอีกหนึ่งความสุข ของการเที่ยวแบบเนิบ เนิบ ไม่เร่งรีบ แวะจุดนั้นนี้ไปเรื่อย แถมแต่ละที่ได้บรรยากาศที่สวยงามแตกต่างกันไป  ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม คาเฟ่ ที่พัก พะเยา ทำได้ดีไม่แพ้จังหวัดใด ครั้งหน้าผ่านมาในตัวเมือง ลองแวะพัก แวะมาชิลกันนะคะ 

 

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน