เสน่ห์ของการเที่ยว ดอยผาตั้ง ในฤดูฝน คือ อีกหนึ่งบรรยากาศที่อยากให้ลองมาสัมผัสซักครั้ง ฤดูหนาว คือ ฤดูแห่งสีสันที่แสนคึกคัก อากาศหนาวเย็น ท้องฟ้าสีสวยสดใส มีแสงยามเช้าเคล้าสายหมอกที่งดงาม แต่ในฤดูฝน คือ ฤดูสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสงบ มองไปทางไหนเห็นแต่ภาพภูเขาเขียวขจี และสายหมอกแห่งฝน เหมาะสำหรับ มาพัก แล้วก็พัก ฉันเดินทางมาเที่ยวผาตั้ง ถือเป็นครั้งแรกที่ได้มาเที่ยวในฤดูนี้ เพราะส่วนใหญ่มาเที่ยวในฤดูหนาวมากกว่า โดยเลือกมานอนพักผ่อนที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง เพราะทราบมาว่าสถานที่ตั้ง อยู่ใกล้กับ จุดชมทะเลหมอกดอยผาตั้ง เป้าหมายหลักที่ตั้งใจอยากไปทักหมอก หยอกภูเขาในหน้าฝน ให้ได้ซักครั้ง
ออกเดินทางแต่เช้าผ่านเส้นทางคดเคี้ยว ของถนนที่โค้งวนไปมา ระหว่างที่นั่งรถมุ่งสู่ดอยผาตั้ง ฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เสียงฝนไม่ได้ทำให้รู้สึกเบื่อ รู้สึกกลัวว่าจะเที่ยวไม่สนุก ในทางตรงกันข้ามกลับดีใจมากกว่า เพราะรู้ว่า อีกไม่นานเราจะได้พบกับภาพที่เราอยากเห็น นั่นก็คือ สายหมอกฝนขาวลอยละล่องมาอยู่ตรงหน้า และฉันก็ได้พบจริงๆ ไม่ต้องไปให้ถึงดอย แต่พบได้ระหว่างทางนี่เอง ทันทีที่ได้เห็นภาพนี้ รีบวิ่งลงมาจากรถอย่างรวดเร็ว อากาศบริสุทธิ์ ภาพสีเขียวที่รอคอย ในที่สุดก็ได้มาเห็นซักที ภาพที่เห็นตรงหน้า เป็นเหตุผลว่า ทำไมฉันจึงหลงรักฤดูฝน
นั่งรถมาได้ไม่นานก็มาถึงทางขึ้นดอยผาตั้ง ซึ่งในเวลานี้เงียบมาก แต่ยังโชคดีที่ ร้านอาหารเจ้าประจำ ยังไม่ปิดทำการ ยังคงเปิดขายเหมือนเดิม น่าจะเป็นร้านอาหารร้านเดียวบนดอยที่เปิดในช่วงนี้ ร้านนี้ ชื่อว่า ร้านบ้านดิน เป็นร้านขายอาหารจีนยูนนาน เมนูเด็ดของที่นี่มีหลายอย่าง แต่คงไม่พ้น ขาหมูหมั่นโถวอันลือชื่อ
วิวข้างร้านในเวลานี้ ต้องบอกว่าฟินสุด จิบน้ำชาอุ่นจากทางร้านที่นำมาให้ทานระหว่างรออาหาร ได้บรรยากาศมาก
อาหารมื้อแรกของเราในวันนี้ ขาหมูหมั่นโถว ไก่ดำตุ๋นยาจีน ผัดกาดดองยูนนาน ผัดเห็ดหอมสด รสชาติอร่อยทุกจานเหมือนเดิม ส่วนเมนูที่ฉันติดใจที่สุดของร้าน คือ ไก่ดำตุ๋นยาจีน เพราะรสชาติจะไม่เหมือนที่อื่น จะมีความเปรี้ยวของสมุนไพรตัวหนึ่งที่ทางร้านใส่ลงไปด้วย รสชาติจะคล้ายต้มยำ ครบทุกรส ทั้ง เปรี้ยว เค็ม หวาน ซดน้ำเปรี้ยวนิดๆ ในอากาศเย็นๆ โล่งคอมาก
มาถึงทางเข้า ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง ซึ่งตั้งอยู่ก่อนถึง จุดชมวิวดอยผาตั้งเล็กน้อย เนื่องจากมาในช่วงฝน ถนนทางเข้าซึ่งเป็นดินแดนค่อนข้างเฉอะแฉะ
ศูนย์ ฯ ยังไม่ได้มีบ้านพักที่เปิดให้นักท่องเที่ยวมาพักอย่างเป็นทางการ บ้านมีหลังเดียวเป็นบ้านพักของเจ้าหน้าที่ มีห้อง 1 ห้อง ที่แบ่งมาให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้พักในคืนนี้ ห้องนี้พักได้ประมาณ 5 คน แต่ถ้าใครอยากมาแคมปิ้ง มีลานสำหรับกางเต็นท์กว้างขวางสามารถนำเต็นท์มากางได้ แต่เรื่องของห้องน้ำอาจจะยังไม่สะดวกเท่าใดนัก
วิวทิวทัศน์รอบศูนย์ มองเห็นเทือกเขาของดอยผาตั้ง ในฤดูฝนภูเขาเขียวขจี คล้ายบรรยากาศในต่างประเทศเหมือนกัน
โรงเรือนรับผลผลิตจากชาวบ้าน ซึ่งจะมาส่งที่ศูนย์ คือ ชาวบ้านปลูกตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ จากนั้นส่งผลผลิต มายังโครงการหลวงเพื่อนำไปจัดจำหน่าย
โซนนี้ คือ ห้องสัมมนา ด้านหน้ามีระเบียงชมวิวมองเห็นโรงเรือนปลูกผัก และทิวเขาสลับซับซ้อนอยู่ตรงหน้า ฝนยังคงตกลงมาเบาๆ สายหมอกยังคงลอยผ่านภูเขาให้เห็นตลอดทั้งวัน สำหรับฉัน ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง นั้นอยู่ในทำเลที่ดีมาก บนภูเขาสูง รายล้อมด้วยทิวเขาของดอยผาตั้งแบบ 360 องศา ไม่ว่าจะเดินไปยังจุดใด ภาพภูเขาสีเขียวก็ตามมาเป็นเพื่อนเราอยู่เสมอ
ชมวิวภูเขาแล้ว ได้เวลามาชมแปลงผักบ้าง แปลงผักภายในศูนย์ มีอยู่ 2 จุด คือ ด้านหน้าทางเข้า ซึ่งเป็นโรงเรือนคัดพันธุ์ต้นกล้า ภายในแปลงมีต้นกล้าผักเยอะมาก ทั้ง เรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค คะน้า พี่คนงานกำลังนั่งคัดต้นกล้าอย่างขยันขันแข็ง วิธีการ คือ คัดต้นกล้าที่อยู่ในช่องเดียวกันหลายต้นออก ให้เหลือเพียงต้นเดียวเพื่อจะได้เติบโตเต็มที่ หลังจากคัดเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีชาวบ้านมารับซื้อต้นกล้านี้เพื่อนำไปปลูกยังแปลงเกษตรของตัวเอง
จากนั้นไปยังโรงเรือนปลูกผักอีกหนึ่งจุด ซึ่งโรงเรือนนี้มีผักที่เจริญเติบโตแล้ว ส่วนใหญ่ในฤดูนี้ คือ ผักกรีนคอส และผักกาด น้องเจ้าหน้าที่ที่พาเราเยี่ยมชมแปลงผักตัดผักมาให้เราไว้สำหรับไว้รับประทานกับมื้อเย็น
ช่วงบ่าย 3 โมง กว่า มุ่งหน้าไปยังดอยผาตั้ง ไปยัง จุดชมวิวผาบ่อง ประตูสยาม บริเวณลานจอดรถในวันนี้ช่างเงียบเหงา มีร้านค้าเปิดเพียง 2 ร้าน แต่กระนั้นไม่ได้รู้สึกว่าฤดูนี้จะไม่น่าเที่ยวแต่อย่างใด เพราะภูเขาสีน้ำตาลที่เราเห็นในช่วงฤดูหนาวกลับกลายเป็นสีเขียวให้เราได้มองแบบสดชื่นหัวใจ
เวียงแก่น ดินแดนแห่งนิวซีแลนด์เมืองไทย จากภาพสีเขียวที่ได้เห็นคิดว่า คำกล่าวนี้เห็นจะเป็นจริง เพราะเรารู้สึกว่าได้บรรยากาศแบบนั้น
เดินขึ้นไปเพียงไม่กี่เมตร จะได้พบกับ จุดชมวิวผาบ่อง เป็นหน้าผาขนาดใหญ่ ตรงกลางเป็นเนินช่องเขาเหมือนประตู มีสัญลักษณ์รูปหัวใจ ซึ่งในเวลานี้ถูกปกคลุมด้วยสายหมอก ผาบ่อง ได้ถูกบรรจุไว้ในตำนานเขาเล่าว่า ของ ท ท ท ว่าเป็นประตูรักแห่งขุนเขา เต็มไปด้วยพลังรักอันบริสุทธิ์ หากจับมือคนที่เรารักแล้วเดินก้าวข้ามผ่านไปด้วยกัน จะช่วยเสริมความรักให้แข็งแกร่งดั่งภูผา
จากจุดชมวิวผาบ่อง ฉันตั้งใจแค่จะเดินขึ้นไปชมวิวที่ศาลาเก๋งจีน เพราะฤดูฝนแบบนี้จุดชมวิวข้างบนที่เนิน 102 ไม่น่าคงจะเป็นหมอกฟุ้งเสียมากกว่า อีกอย่างระยะทางขึ้นไป ไม่ใช่ธรรมดา ถึงแม้จะไม่ไกลมากแต่ก็พอให้ได้เหนื่อยเหมือนกัน ระหว่างที่กำลังเดินลัดเลา ะมาถึงเก๋งจีน มองเห็นทะเลหมอกลอยมาเป็นระยะ เอาน่ะ อึดใจเดียวลองเดินขึ้นไปให้ถึงเนิน 102 อาจมีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกก็ได้ ระหว่างเดินขึ้นไปมองหันหลังกลัเห็นถนนที่จอดรถด้านล่าง จากจุดที่เรายืนมองสูงเหมือนกันนะเนี่ย ทะเลหมอกก็ยังคงลอยไปมาผ่านภูเขาอยู่ตลอด แอบมีความหวังว่าที่เนิน 102 คงสวยมาก
ร่างกายที่เริ่มอ่อนล้าจากการเดินมาได้ในระยะนึง ต้องหยุดนั่งพักระหว่างเพราะต้องแบกอุปกรณ์ถ่ายภาพที่แสนนักขึ้นไปด้วย เสียงโหวกแหวกจากเพื่อนร่วมทางที่เดินขึ้นไปถึงเนิน 102 ก่อน เรียกเสียงดัง ” รีบขึ้นมาเร็ว อีกนิดเดียวเอง ทะเลหมอกสวยมาก ” เสียงนี้เหมือนเสียงที่ทำให้ฉันมีพลังเดินขึ้นมาอีกครั้ง รีบลุกขึ้นมุ่งหน้าเดินต่อไปให้ถึงจุดหมาย ภาพทะเลหมอกสีขาวตัดกับภูเขาสีเขียวที่เห็นตรงหน้า บอกได้คำเดียวว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง อะไรจะสวยขนาดนี้ อลังการงานสร้างมาก โดยส่วนตัวคิดว่า ถ้าจะมาชมทะเลหมอกในหน้าฝน ควรขึ้นมาในช่วงบ่ายน่าจะเหมาะที่สุด เพราะในเวลาเช้าจะเป็นทะเลหมอกฟุ้งปกคลุมแทน
ทะเลหมอกในฤดูหนาวที่ผาตั้งว่าสวยแล้ว ฤดูฝนก็สวยเหมือนกัน แต่เป็นความสวยงามคนละแบบ หน้าหนาวทะเลหมอกจะลอยแน่นิ่งคลอเคลียภูเขา ได้แสงสีทองของดวงอาทิตย์มาแต่งแต้ม ส่วนฤดูฝน หมอกลอยมาตลอดอยู่เหนือภูเขา ถึงแม้ไม่มีแสงอาทิตย์ส่องกระทบ แต่เราก็ได้เห็นความเขียวขจีมาแทนที่
หากเรารักในการเดินทาง ไม่ว่าจะเที่ยวในฤดูไหน ก็สามารถสนุกได้เสมอ เพราะความสวยงามของแต่ละฤดูนั้นต่างกัน เหมือนที่ฉันเลือกมาเที่ยวดอยผาตั้งในฤดูฝน ฤดูที่ไม่ค่อยมีใครมาเที่ยว ฤดูที่ใครคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรให้ชม แต่สำหรับฉัน หน้าฝนมีเสน่ห์มาก
รายละเอียดเพิ่มเติม
ที่พัก-ร้านอาหาร ภายในศูนย์ยังไม่ได้เปิดเป็นพักรับรองอย่างเป็นทางการ แต่มีบ้านพักของเจ้าหน้าที่ซึ่งมี 1 ห้อง เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าพักได้ประมาณ 5 คน มีพื้นที่กางเต้นท์ภายในศูนย์ฯซึ่งนักท่องเที่ยวต้องเตรียมเต้นท์มาเอง นอกจากนี้ยังมีที่พักรีสอร์ทเอกชนให้บริการอยู่หลาย แห่งบริเวณใกล้จุดชมวิวดอยผาตั้ง ในส่วนของอาหารสามารถทานได้ตามร้านอาหารที่ตั้งอยู่รอบศูนย์ หรืออาจเตรียมอาหารมาเอง หรืออาจจะแจ้งทางศูนย์ให้จัดเตรียมให้แต่ต้องแจ้งล่วงหน้าโดยจะคิดค่าบริการเป็นมื้อ เมนูส่วนใหญ่จะเป็นเมนูอาหารง่ายๆ เช่น ผัดผักจากโครงกรหลวง ไข่เจียว ต้มจืด เป็นต้น
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย 57310 โทร 080 790 6246 , 097 991 1080
Tags : จุดทะเลหมอกเชียงราย, ดอยผาตั้ง หน้าฝน, เชียงราย, เที่ยวเวียงแก่น, โครงการหลวงผาตั้ง