เพราะ…คิดถึงจึงกลับไป “ แม่กำปอง ”

ย้อนไปกลับไปเมื่อครั้งหนึ่งได้มีโอกาสไปเยือนหมู่บ้านแห่งหนึ่งหลังจากได้ยินชื่อมานานแสนนาน  แม่กำปอง  จังหวัดเชียงใหม่   หมู่บ้านกลางป่าใหญ่อันเขียวขจี  แต่การเดินทางในครั้งนั้นเราพักที่โครงการหลวงตีนตก และมีโอกาสได้ไปสัมผัสบรรยากาศและความร่มรื่นของหมู่บ้านแม่กำปองแค่เพียงช่วงเวลาอันสั้น  มีความรู้สึกที่คาใจว่าการไปครั้งนั้นยังไม่สุด  เรื่องราวของที่นี้ยังมีอีกมากมายที่เราน่าจะเข้าถึงได้มากกว่านี้  หากมีโอกาสก็น่าจะนอนค้างซัก 1 คืน พักผ่อนอิงแอบกับธรรมชาติให้คุ้มค่าและหายเหนื่อย  1 ปี เวียนหมุนไป เมื่อมาถึงช่วงฤดูฝนอันชุ่มชื่น  ด้วยความคิดถึง  จึงกลับมาหาเธออีกครั้ง  “ หมู่บ้านแม่กำปอง ”

 

28 DSC_4118

 

หมู่บ้านแม่กำปอง ตั้งอยู่ในอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียง 2 ชั่วโมง เท่านั้น ขับรถจากตัวเมืองผ่านอำเภอสันกำแพง เข้ามายังอำเภอแม่ออน เข้าสู่เส้นทางคดเคี้ยวของภูเขา  มาถึงโครงการหลวงตีนตก จากนั้นก็ไปยังหมู่บ้านแม่กำปอง  ตั้งแต่หมู่บ้านแม่กำปองนอก บ้านแม่กำปองกลาง มาจนถึงบ้าน แม่กำปองใน  สิ่งหนึ่งที่ค่อนช้างชัดเจน นอกจากป้ายบอกว่าเราได้มาถึงบ้านแม่กำปองแล้วนั่นก็คือ บรรยากาศของความเป็นร่มรื่นที่และบ้านไม้เรียบง่ายเก่าแก่แทรกตัวอยู่บนไหล่เขาถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ น้อยใหญ่  เราแทบจะไม่เห็นบ้านหลังใดสร้างด้วยปูน หรือสร้างแบบทรงสมัยใหม่เลยแม้แต่น้อย นับว่าชาวบ้านยังคงรักษาเอกลักษณ์ของความเป็นแม่กำปองไว้ได้อย่างเยี่ยมยอด  สำหรับเราหมู่บ้านแม่กำปองหลังจากโด่งดังและมีช่วงที่เงียบไปนานมากได้ กลับมาคึกคักและเป็นจุดสนใจอีกครั้ง  เมื่อมีโครงการหลวงตีนตกเกิดขึ้น ซึ่งหมู่บ้านนี้ถือว่าเป็นเส้นทางท่องเที่ยวน่าแวะเมื่อมาโครงการหลวงตีนตกเพราะอยู่ห่างกันเพียงแค่ 7 ก.ม. เท่านั้น บวกกับกระแส slowlife กำลังมา ทำให้บ้านแม่กำปองกลายมาเป็นขวัญใจของชาว slowlife  ที่ถวิลหาความเป็นธรรมชาติได้ไม่ยาก  สังเกตจากที่เดินทางมาเมื่อปีที่แล้ว 2557 ยังเงียบอยู่มาก ผ่านไปหนึ่งปีกลับมาครั้งนี้เริ่มคึกคักด้วยนักท่องเที่ยวมากขึ้น

 

1 DSC_4171

2 DEW_3171

3 DSC_4361

มาแม่กำปอง ต้องมานอนโฮมสเตย์ ฟังเสียงนก เสียงลำธาร เสียงป่าไม้ ซัก  1-2 คืน ถึงจะพูดได้เต็มปากว่าเราได้มาถึงแม่กำปองแล้ว ที่นี่มีโฮมสเตย์ให้เลือกพักมากมาย อาจจะติดต่อไปยังกลุ่มโฮมสเตย์โดยตรงซึ่งก็จะจัดสรรรบ้านที่เข้าร่วมกลุ่มสลับหมุนเวียนกันไปให้เราได้พัก  หรือบางบ้านก็จะให้ติดต่อไปยังที่พักโดยตรงก็มี เรามาถูกตาต้องใจกับบรรยากาศของบ้านพักโฮมสเตย์หลังนี้ ชื่อว่า สำราญชน โฮมสเตย์   บ้านพักไม้สไตล์ล้านนาสุดคลาสสิคกลมกลืนไปกับธรรมชาติ  ชวนให้นึกไปถึงความรู้สึกของบ้านไม้กลางป่าแบบมีสไตล์ในละครแนวบ้านไร่ สำราญชน  โฮมสเตย์  ตั้งอยู่ริมถนนของบ้านแม่กำปอง เลยจากวัดแม่กำปองมานิดหน่อย  หากมองในแง่ของการเดินทางนับว่าโลเคชั่นตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ค่อนข้างสะดวกคือ ริมถนนและใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในหมู่บ้านแม่กำปอง อย่างเช่น วัดแม่กำปอง ร้านกาแฟชมนกชมไม้ และน้ำตกแม่กำปอง โดยเฉพาะวัดแม่กำปองค่อนข้างใกล้มาก สามารถเดินจากบ้านพักไปได้เลย  ลักษณะของบ้านเป็นบ้านไม้ ตัวบ้านยกสูง  2   ชั้น ทอดยาวเชื่อมกัน โดยแต่ละโซนจะเรียกเป็นหลัง  เกือบทุกพื้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยสีเขียวของธรรมชาติจากต้นไม้และตะไคร่ที่ปกคลุมตามหลังคาบ้าน  ด้านหลังบ้านมีลำธารเล็กๆไหลผ่านแค่เดินลงระเบียงก็เล่นน้ำได้แล้ว

 

2 DSC_4055

12 DSC_4213

 

บ้านหลังใหญ่แบ่งห้องพักเป็นห้องตามขนาดของจำนวนคน พักได้ตั้งแต่ 4-8 คน บางห้องมีห้องน้ำในตัวและบางห้องก็ไม่มี่ต้องใช้ห้องน้ำรวมซึ่งจะแบ่งตามโซนของห้องพัก อุปกรณ์ภายในห้องไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรมากมาย ไม่มีแอร์ ทีวี พัดลม เพราะอากาศเย็นมากอยู่แล้ว มีเพียงเครื่องนอน ตามสไตล์ของการพักผ่อนแบบโฮมสเตย์  สำหรับห้องพักที่อยู่ในภาพคือบ้านหลังที่ 3  ชั้น 2 ซึ่งจะอยู่ใกล้กับระเบียงส่วนกลางมากที่สุดโดยบ้านหลังนี้จะมีทั้งหมด 3 ห้อง  ราคาที่พักคิดเป็นรายหัว คือ คนละ 550 รวมอาหารเช้าและอาหารเย็น ห้องแรกของบ้านหลังที่ 3 เป็นห้องใหญ่ฝั่งริมถนนพักได้ 8 คน มีห้องน้ำในตัว และมีระเบียงภายในห้อง

 

4 DEW_3140

7 DSC_4297

 

ภายในบ้านเรียกได้ว่าออกแบบพื้นที่ได้ดีมากมีทางเดินและบันไดเชื่อมต่อถึงกันได้ทั้งหมด  มีระเบียงให้นั่งชมวิวแบบส่วนตัวมองน้ำตกที่อยู่ด้านหลังบ้านแทบทุกจุด ตามที่ได้บอกไปตอนแรกว่าเป็นบ้านพักที่ชวนให้เรานึกถึงบรรยากาศของละครบ้านไร่ ซึ่งที่นี่ก็เคยใช้เป็นที่ถ่ายละครมาหลายเรื่องแล้วเช่นกัน  เป็นสถานที่ที่เหมาะจะปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างช้าเพื่อที่เราจะได้สัมผัสและอยู่กับทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบบ้านได้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นมองต้นไม้ หรือยืนมองน้ำตกไหลผ่านไปอย่างช้า ช้า อย่างเพลิดเพลินใจ

 

14 DSC_4036

13DSC_4292

11 DSC_4052

 

มาเที่ยวหน้าฝนก็จะมีพวกมอสและตะไคร่น้ำขึ้นตามหลังคา มองดูแล้วก็เป็นภาพที่เก๋ไม่น้อย จะเรียกว่า กลายเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ไปเลยได้

 

21 DSC_4026

27 SC_4255

23 DSC_4063

 

บ้านโฮมสเตย์อีกหนึ่งเจ้าสามารถมองได้จากระเบียงบ้านพักของสำราญชนโฮมสเตย์  แลดูใหญ่โตไม่น้อย แต่ก็ยังคง concept เหมือนกันทุกหลังคือ แทรกตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ

 

16 DSC_4075

 

หลังจากเก็บของนั่งพัก นอนเล่น เดินชมบ้านพักกันพอหอมปากหอมคอ บ่ายแก่ๆ  เราก็ตะลอนเดินชมหมู่บ้านกันซักหน่อย

 

17 DSC_4058

 

ติดกับสำราญชน มีโฮมสเตย์ที่น่าพักอีกหนึ่งแห่งบรรยากาศจะคล้ายๆกัน ตอนแรกยังเข้าใจว่าเป็นที่เดียวกันแต่ปรากฎว่าไม่ใช่ เพราะด้านหน้ามีป้ายเขียนชื่อบอกรายละเอียดไว้ว่า ชื่อ บ้านสายชล ราคาส่วนใหญ่ที่บ้านแม่กำปองจะเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมดคือ คนละ 550 บ้านรวมอาหารเช้า เย็น

 

18DSC_4200

19 DSC_4203

 

มีแบ่งพื้นที่ให้กางเต้นท์ด้วยคิดราคา 350 บาท รวมอาหารเช้า เย็น  ใครสนใจอยากพักก็สามารถติดต่อไปได้ที่เบอร์ 062 298 9556  ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโฮมสเตย์ที่บรรยากาศดีและการเดินทางสะดวกอีกหนึ่งแห่ง

 

20 DSC_4185

20 DSC_4192

 

แอบเห็นบ้านโล่งๆหลังหนึ่งอยู่ในต้นไม้เป็นพื้นที่สำหรับกางเต้นท์ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นของสายชลโฮมสเตย์หรือเปล่าค่ะ เพราไม่ได้เขียนบอกว่าว่าชื่ออะไร เขียนแต่ว่า ที่กางเต้นท์  เรียกว่าเข้าใจสร้างกันจริงๆ เป็นที่กางเต้นท์ที่น่าสนใจไม่น้อย คงได้นอนฟังเสียงลม เสียงต้นไม้และลำธารได้อย่างชัดเจนตลอดทั้งคืน

 

21 DSC_4180

 

เราเดินมาถึงเฮือนกาแฟ  ในกรณีที่เราไม่ได้ติดต่อกับโฮมสเตย์โดยตรง ก็มาติดต่อมาที่นี่ได้ค่ะ เพราะเป็นจุดศูนย์กลางการท่องเที่ยวแม่กำปองรวมถึงการจัดสรรโฮมสเตย์แต่ละหลังในหมู่บ้านให้นักท่องเที่ยว นอกจากนี้ก็ยังเป็นร้านอาหารและร้านกาแฟด้วย สามารถติดต่อสอบถามเรื่องโฮมสเตย์ได้ที่เบอร์  085-6754598

 

22 DSC_4091

23 DSC_4087

24DSC_4085

 

บ้านพักโฮมสเตย์ที่อยู่ในบริเวณเดียวกับเฮือนกาแฟ

 

25 DEW_3152

 

เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของบ้านแม่กำปองที่เราจะได้พบเห็นตลอดก็คือ ลำธาร  เพราะหมู่บ้านนี้มีลำธารทอดยาวไหลผ่านทั้งหมู่บ้าน

 

25DSC_4076

 

พักถ่ายภาพชิค ชิค เคียงคู่กับความเขียวกันซักหน่อย

 

26 DSC_4101

 

เกือบทุกหลังต้องมีการปลูกต้นไม้แนบชิดกับบ้าน

 

27 DSC_4106

 

เดินมาถึงร้านค้าขายของที่ระลึกของชุมชนซึ่งอยู่ตรงข้ามกับวัดแม่กำปอง  มีสินค้าโอทอปห้าดาวขึ้นชื่อก็คือ หมอนใบชา เพื่อสุขภาพ ซึ่งมีสรรพคุณในการดูดกลิ่นได้อย่างดีเยี่ยม กลิ่นของใบชาก็ถือว่าเป็นกลิ่นบำบัดเมื่อเราได้สูดดมแล้วจะรู้สึกผ่อนคลาย

 

30 DSC_4122

31 DSC_4179

 

ข้างร้านมีที่นั่งเล่นมองลำธารกันเพลินๆ

 

32 DSC_4173

 

ตรงกันข้ามมีร้านขายโปสการ์ดแต่วันนี้ร้านปิด ด้านหน้ามีมุมน่ารักๆให้ถ่ายรูป

 

29 DSC_4111

 

มาถึงแม่กำปอง ต้องแวะมาไหว้พระและชมความสวยงามและเก่าแก่เพียงวัดเดียวของหมู่บ้าน  วัดคันธาพฤกษา หรือวัดแม่กำปอง ด้านหน้าเป็นที่ตั้งของนวิหารหลังเก่าเป็นไม้ทั้งหลัง หน้าจั่วหลังคาวัดแกะสลักจากไม้สัก เป็นลวดลาย แบบล้านนา

 

33 DSC_4129

34 DEW_3153

 

เมื่อลงไปด้านล่างก็จะเป็นอุโบสถที่ตั้งอยู่กลางลำธารท่ามกลางแมกไม้ที่เขียวขจี ซึ่งถือว่าเป็นความสวยงามและเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของวัดนี้

 

35DSC_4132

36 DSC_4168

37DEW_3158

38 DSC_4144

39DSC_4164

 

เกือบ 6 โมงเย็น ได้เวลาทานอาหารเย็น เราก็เดินกลับไปยังที่พัก  นั่งพักซักครู่ อาหารเย็นแบบชาวเหนือแสนง่าย ถูกนำมาวางอยู่ตรงหน้า คุณป้าเจ้าของบอกว่าถ้าไม่อิ่มก็เติมได้ตลอด กับข้าวมีเพียงไม่กี่อย่าง น้ำพริกไข่เจียว ผัดผัก นั่งทานท่ามกลางอากาศที่แสนเย็นสบายกลางป่าเขา  ท่ามกลางวงสนทนาของเพื่อนร่วมทางคอเดียวกัน  ทำให้อาหารมื้อนี้กลายเป็นมื้อพิเศษสุด สุด

 

28 DSC_4228

29 DSC_4240

 

ค่ำคืนของเราหลับไปพร้อมกับอากาศที่แสนเย็นสบายในฤดูฝน ขับกล่อมด้วยเสียงแมกไม้และลำธาร  ตื่นเช้ามาในวันใหม่ กับเพลนท่องเที่ยวอันดับแรก น้ำตกแม่กำปอง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากบ้านพักไปไม่ไกล   ถือว่าเป็นสถานที่ตั้งอยู่ท้ายสุดของหมู่บ้าน เลยจากตรงนี้ไปก็จะสุดเขตจังหวัดเชียงใหม่เข้าสู่เขตจังหวัดลำปาง เส้นทางนี้เป็นอีกเส้นทางที่เราสามารถไปยังอช.แจ้ซ้อนได้ซึ่งจะช่วยล้นระยะทางมากว่าไปจากทางตัวเมืองเชียงใหม่ได้เยอะแต่เส้นทางคดเคี้ยวไต่เขาพอสมควร   เราจอดรถตรงบริเวณปากทางเข้าเดินเข้าไปนิดเดียวจะได้พบกับความสวยงามของน้ำตก ซึ่งมาในช่วงฤดูฝนเต็มที่น้ำก็จะเยอะแบบนี้ ชุ่มฉ่ำดีจัง  เป็นน้ำตกที่มีต้นเฟิร์น และตะไคร่น้ำขึ้นอยู่ทั่วไป ซึ่งมีต้นน้ำเป็นแหล่งกำเนิดของประปาหมู่บ้านแม่กำปองที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างขึ้น

 

43 DSC_4321

42DSC_4320

44 DSC_4315

 

น้ำตกแม่กำปอง เป็นน้ำตกเล็กๆ มีทั้งหมด 7 ชั้น ชั้นที่เห็นในภาพคือ ชั้นแรก ส่วนชั้นอื่นก็จะมีการทำทางเดินให้ขึ้นไปชมได้ลดหลั่นกันไป แต่สำหรับเราคิดว่าชั้นแรกก็สวยแล้วนะ  เพราะถ้าขึ้นไปทราบมาว่าต้องใช้เวลาพอสมควร ขอนั่งสบายๆชมความงามอยู่แค่ชั้นนี้ก็เพียงพอและอิ่มใจแล้ว

 

 

45DSC_4303

46DSC_4314

 

ย้อนกลับไปยังร้านกาแฟชื่อดัง ร้านชมนกชมไม้ ในเวลานี้ถึงแม้จะเป็นเวลาเช้า ก็ยังคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว นั่งกันเต็มร้าน  เมื่อก่อนที่นี่จะเปิดให้บริการโฮมสเตย์ด้วย แต่ตอนนี้ทราบมาว่าให้บริการแค่ร้านกาแฟเพียงอย่างเดียว เพราะเกรงว่าถ้ารับคนเข้าพักจะไปกระทบกับความเป็นส่วนตัว  ดูจากบรรยากาศแล้วแค่นักท่องเที่ยวที่มาถ่ายภาพหรือ จิบเครื่องดื่มร้านก็แทบจะรับไม่ไหวแน่นมาก แทบไม่มีที่นั่งเพราะพื้นที่ค่อนข้างน้อย  แต่ถ้ามองในอีกมุมที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเยอะแบบนี้ก็ถือว่าเป็นร้านกาแฟที่ถือว่าวิวดีมาก ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงสามารถชมวิวและทอดสายตาจิบกาแฟมองหมู่บ้านแม่กำปองที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางต้นไม้ได้อย่างงดงาม

 

47DSC_4350

48DSC_4342

49DSC_4337

50DSC_4360

 

อีกหนึ่งร้านสวยน่านั่ง อยู่เลยจากวัดแม่กำปองไปนั่นก็คือ ร้านกาแฟบ้านริมห้วย ลุงปุ๊ด & ป้าเป็งเป็นร้านขายเครื่องดื่ม และร้านอาหาร บรรยากาศดี ตั้งอยู่ริมธารริมลำธารกลางหมู่บ้าน นอกจากนี้ที่นี้ยังเปิดให้บริการบ้านพักแบบ โฮมสเตย์ด้วย มาอีกครั้งก็ยังคงแวะไปชมไปถ่ายรูปไว้เหมือนเดิม คนเยอะไม่แพ้ร้านชมน้องชมไม้เลยทีเดียว

 

53DSC_4373

54DSC_4367

55DSC_4363

 

ข้างร้านฮิมห้วยเป็นร้านขายส้มตำ ไส้อั่ว น่าทานมาก

 

56 DSC_4374

 

ขากลับเราฝากท้องกับอาหารมื้อกลางวันที่ธารทองลอดจ์ ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปทานที่โครงการหลวงตีนตก แต่ทราบมาว่าวันนั้นรับกรุ๊ปสัมมนาใหญ่ไป เลยยังไม่สามารถให้บริการอาหารกลางวันกับนักท่องเที่ยวในช่วงเวลาเที่ยงได้ เลยลองมาฝากท้องกับที่นี่ซักหน่อย ธารทองลอดจ์เปิดเป็นที่พักและร้านอาหารคะ สำหรับใครที่อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศหลังจากเคยพักที่โครงการหลวงตีนตกหรือบ้านแม่กำปอง  ที่นี่ก็ถือว่าเป็นที่พักบรรยากาศเยี่ยม ตกแต่งสวนและมุมนั่งเล่นไว้หลายมุม

 

56DSC_4381

57DSC_4393

59 DSC_4388

58DSC_4385

 

อาหารมื้อกลางวันเน้นสั่งเฉพาะเมนูแนะนำ ของทางร้าน หากถามถึงรสชาติโดยรวมยังถือว่าปานกลาง บางอย่างรสชาติออกไปทางจืด แต่ก็พอทานได้คะ  ส่วนราคาก็อยู่ในระดับกลางไม่ได้แพงมาก แต่ถ้าคิดว่ามานั่งทานอาหารและกินบรรยากาศอันนี้ก็ถือว่าพอได้อยู่

 

60 DSC_4407

 

หายคิดถึงไปได้เยอะกับการมาเที่ยวหมู่บ้านแม่กำปองในครั้งนี้  รู้สึกเต็มอิ่มกว่าการมาเยือนครั้งแรก  กลับมาอีกครั้งคึกคัก ขึ้นกว่าเดิมมากสิ่งก่อสร้างโฮมสเตย์ ก็เพิ่มมากขึ้น  ก็ได้แต่ภาวนาและหวังว่า ชาวบ้านที่นี่จะยังคงรักษาความเรียบง่ายแสนธรรมดาของแม่กำปอง ได้นานที่สุด  ให้ยังคงเป็น หมู่บ้านไม้สวยกลางหุบเขาในป่าใหญ่    ที่หลายคนต่างพากันหลงรักในบรรยากาศอันน่ารื่นรมย์ ของที่นี่  หมู่บ้านแม่กำปอง

 

ช่วงเวลาเดินทาง วันที่ 15 สิงหาคม 2558

 

Tags :

  • บทความที่เกี่ยวข้อง

  • บทความล่าสุด

    บทความแนะนำ

    รีวิวคาเฟ่และร้านอาหาร