หากพูดถึง ทะเลแสมสาร หลายคนต่างมุ่งหน้าไปยัง 2 เกาะยอดฮิตที่สุด ในเวลานี้ นั่นก็คือ เกาะแสมสาร และเกาะขาม ซึ่งตามที่ทราบกันว่าจะไปเที่ยว 2 เกาะนี้ในช่วงวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ มันไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป เพราะต้องไปต่อแถวรับคิวกันตั้งแต่เช้ามืด เพื่อให้ได้ไปเที่ยว การไปเที่ยวทะเลแสมสารในครั้งนี้ เลยขอแหวกเส้นทางจากการเที่ยวเกาะทั้ง 2 ไปยังจุดอื่นบ้าง ในแบบที่ไม่ต้องไปแย่งกับใคร ทะเลแสมสารนั้น หากไม่เที่ยวเกาะขาม เกาะแสมสาร ก็มีเกาะสวยให้เที่ยวเหมือนกัน ถึงแม้อาจจะไม่ได้ขึ้นหาดไปชมความขาวของหาดทราย แต่ได้สัมผัสชมความงดงามของโลกใต้น้ำในแบบที่ตื่นตาตื่นใจ แถมมีบริการถ่ายภาพใต้น้ำให้ด้วย ได้ภาพมาอย่างสวย แบบที่ไม่ต้องมีกล้องถ่ายใต้น้ำเป็นของตัวเองแต่อย่างใด มาค่ะเราจะพาไปทำความรู้จักกับทะเลแสมสารในภาคโลกใต้น้ำที่สวยงามเกินบรรยาย รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆนโซนสัตหีบ แสมสาร ที่สามารถแวะไปเที่ยวได้สนุกสนาน แค่ 2 วัน 1 คืน ก็สุขได้
วันแรก
10.00 น. แวะวิหารหลวงพ่อดำ
ล้อหมุนจากกรุงเทพแต่เช้า แวะทานอาหารตรงปั้มป ต ท มอเตอร์เวย์จากนั้นก็มุ่งหน้าไปต่อยังจุดหมายแรก วัดช่องแสมสาร ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อดำ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชุมชนช่องแสมสาร ประดิษฐานบนยอดเขาเจดีย์ ซึ่งชาวประมงฝั่งตะวันออก เลื่อมใสศรัทธา ทุกครั้งที่ออกทะเลมักจะไปนมัสการและขอพร ชาวประมงทุกคนจะกลับมาโดยสวัสดิภาพ มีโชคได้สินทรัพย์จากทะเลเป็นกอบเป็นกำ หลวงพ่อดำ ประดิษฐานในพระวิหารวัดช่องแสมสาร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิสูง ๕ เมตร มีรูปใบหน้าอิ่มเอิบ ดวงตาทอดต่ำลงแผ่เมตตาให้กับผู้คนที่เดินทางมากราบไหว้
ด้วยสถานที่ตั้งของวัดตั้งอยู่บนเนินเขา ล้อมรอบไปด้วยทะเล สามารถมองทะเลสัตหีบได้ทั่วบริเวณ ภายนอกวิหารประดับด้วยลวดลายปูนปั้นภาพเทพเทวดา และพระพุทธประวัติวิจิตรตระการตา ด้านข้างพระวิหาร คือ ศาลพระพรหมให้กราบไหว้สักการะบูชา ตรงจุดที่ตั้งศาลพระพรหมจะเป็นจุดชมวิว สามารถมองเห็นวิวทะเลแสมสารและเกาะต่างๆได้
13.00 น. พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย แสมสาร
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเพื่อเตรียมพลังสำหรับพิชิตจุดชมวิวพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาฯ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับอาคารขายตั๋วที่จะไปเที่ยวเกาะแสมสาร ก่อตั้งขึ้นโดยกองทัพเรือเพื่อเป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงด้านธรณีวิทยา พฤกษศาสตร์สัตว์ศาสตร์ทางทะเลแห่งแรกในประเทศไทย อันเป็นส่วนหนึ่งในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของพันธุกรรมพืชต่างๆ ในประเทศไทย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 อาคาร ตั้งเรียงรายอยู่เนินเขา โดยมีจุดชมวิวอยู่ที่อาคาร 5 ซึ่งเป็นไฮไลท์ของการมาชมพิพิธภัณฑ์ฯ คือ สามารถมองเห็นวิวทางทะเลที่สวยงามในมุมสูง ของท้องทะเลสัตหีบ และเกาะชื่อดัง ได้แก่ เกาะแสมสาร เกาะขาม ท่ามกลางน้ำทะเลสีฟ้า
จุดเริ่มต้นของการเดินเท้าไปยังจุดชมวิว อยู่ที่บริเวณศาลเจ้าพ่อตากสิน ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามจุดจำหน่ายตั๋วไปเกาะแสมสาร ระหว่างอาคาร1 ถึงอาคารที่ 5 ได้จัดทำเป็นทางเดินขั้นบันไดขึ้นไปตามเส้นทางเรื่อยๆ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ ระหว่างทาง คือ อาคารต่างๆ สามารถแวะชมนิทรรศการที่จัดแสดงภายในอาคารซึ่งเป็นห้องแอร์ ก่อนถึงจุดชมวิวไต่ระดับบันไดขึ้นมาสูงขึ้น อากาศค่อนข้างอบอ้าวพอสมควร แนะนำควรพกน้ำดื่มติดตัวมาด้วย
จุดชมวิวระหว่างทางก่อนถึงจุดชมวิวสูงสุด มุมนี้จะได้เห็นหมู่บ้านชาวประมงช่องแสมสารตั้งเรียงรายติดท้องทะเล
จากจุดเริ่มเดินเท้า ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงจุดชมวิวสูงสุด ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารที่ 5 เมื่อได้เห็นภาพท้องทะเลอันสวยงามที่อยู่ตรงหน้า หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ข้างบนมีลมทะเลพัดเข้ามาตลอดเย็นสบายมาก ความสวยงามและอัศจรรย์ใจ ของเกาะ 3 เกาะที่เรียงราย สวยงามราวกับภาพวาด ซ้ายมือ คือ เกาะแรด ตรงกลาง คือ เกาะแสมสาร ขวามือที่เห็นเป็นเกาะเล็กอยู่ไกลๆ คือ เกาะขามและ เกาะแสมสาร มีพื้นที่ใหญ่ที่สุด สามารถมองเห็นความใสของน้ำทะเลและหาดทรายสีขาวได้แบบชัดเจน
ภายในอาคารของจุดชมวิวเป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำ จัดเป็นพื้นที่โล่งและอาคารเรือนกระจก สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิว แบบเย็นๆ ข้างนอกเป็นระเบียงชมวิว สามารถเดินไปชมวิวได้แบบชัดเจนขึ้น สะพานที่เชื่อมไปในทะเล คือท่าเรือจุกเสม็ด ข้ามไปยังเกาะแสมสาร
อีกมุมหนึ่งเห็นความโค้งของอ่าว มองเห็นเวิ้งหาดอยู่ไกลๆ คือหาดน้ำใส อีกหนึ่งหาดขึ้นชื่อของสัตหีบ
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย อีกจุดท่องเที่ยวที่สวยงามของบ้านแสมสาร เมื่อมาถึงแล้วน่าจะเดินขึ้นไปชมวิวกันซักหน่อย รับรองว่าจะมีความตื่นตาตื่นใจ ร้องว้าว กับวิวทะเลที่ได้เห็นแน่นอน
รายละเอียดเพิ่มเติม
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย เปิดให้เข้าชมเวลา 09.00-17.00 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ เสียค่าชมผู้ใหญ่คนละ 50 บาท เด็กอายุตั้งแต่ 3 ปีไม่เกิน 15 ปีบริบูรณ์คนละ 20 บาท ชาวต่างชาติคนละ 100 บาท ทหารเรือนอกเครื่องแบบแสดงบัตรประจำตัวคนละ 30 บาท
15.00 น. เข้าที่พัก ประภาคาร รีสอร์ท
ประภาคาร รีสอร์ท ที่พักที่ตั้งอยู่ใจกลางชุมชนแสมสาร ใกล้กับร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวและติดกับตลาดแสมสาร มีห้องพักให้เลือกหลายแบบให้เลือก ในราคาไม่แพง บ้านพักมองเห็นวิวทะเล จึงเป็นที่พักที่เราจะมาพักทุกครั้งเมื่อมาเที่ยวทะเลแสมสาร โดยเลือกพักแบบเป็นหลัง ชื่อบ้าน ชมทะเล มองเห็นวิวทะเลซึ่งค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวซักหน่อย ราคาหลังละ 1500 บาท เป็นห้องแอร์ พักได้ 2 คน และเสริมได้อีก 1 คน รายละเอียดการติดต่อห้องพักที่ http://prapakarnresort.com/
มีที่นั่งชมวิวทะเล สำหรับทานอาหาร ปิ้งย่างอาหารทะเลในยามเย็น โดยทางที่พักมีบริการให้เช่าเตาถ่าน และจานชามด้วย
สำหรับอาหารทะเลสดนั้น สามารถเดินไปซื้อได้ที่ตลาดแสมสาร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก ห่างกันไม่กี่ร้อยเมตร มีอาหารทะเลหลากหลายทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา หรือถ้าไม่อยากปิ้งย่างเอง แต่ละร้านมีบริการทำให้เรียบร้อยโดยเสียเงินเพิ่มนิด หากอยากทานอาหารในร้านอาหาร แนะนำ ร้านอาหารทะเลชื่อ เจี๊ยบปูเป็น อยู่ติดกับประภาคารรีสอร์ท ร้านนี้อาหารทะเลสดและอร่อย ปริมาณให้เยอะในราคาสมเหตุสมผล เป็นร้านประจำที่ทานทุกครั้งเมื่อมาเที่ยวแสมสาร
วันที่สอง
08.30 น. ดำน้ำดูปลา ตื่นตาโลกใต้ทะเล
เช้านี้ฝนตกลงมาปรอยๆ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการดำน้ำ สำหรับทริปดำน้ำทะเลแสมสาร เราใช้บริการของ sea view villa ซึ่งนอกจากให้บริการในส่วนของบ้านพักที่แสมสารแล้ว ยังมีบริการทริปดำน้ำในทะเลแสมสารอีกด้วย โดยปกติหากพักที่นี่จะคิดราคาแพคเกจดำน้ำ พร้อมที่พักและอาหาร คนละ 1400 บาท (สำหรับ 6 ท่าน ) แต่หากที่พักเต็มหรือไม่ได้พักที่นี่ก็สามารถใช้บริการเฉพาะแพคเกจได้ คิดราคาเรือสปีดโบ๊ทเหมาลำๆละ 3500 บาท สำหรับ 5 คน หากเพิ่มจำนวน คนต่อไปคิดราคาคนละ 600 บาท ราคานี้ พร้อมไกด์และบริการถ่ายภาพใต้น้ำ โดยแบ่งรอบดำน้ำเป็น 2 รอบ คือ เช้าเวลา 9.00 น -12.00 น. และช่วงบ่าย 13.00 น. -14.00 น. สามารถเลือกได้ว่าจะดำน้ำรอบไหน จุดน้ำพบ คือ ที่ sea view จากนั้นจะมีพนักงานพาเราไปยังท่าเรือ ซึ่งเป็นจุดจอดรถ โดยเสียค่าจอด 100 บาท พร้อมบริการห้องอาบน้ำ ดำน้ำเสร็จก็อาบน้ำชำระร่างกายที่ท่าเรือได้เลย สำหรับรายละเอียดการติดต่อตามภาพ **สำหรับใครที่มาเที่ยวไม่ถึง 5 คน ลองสอบถามไปทางรีสอร์ทว่าคิดราคาต่อคนอย่างไร
จุดดำน้ำอยู่บริเวณทะเลในอ่าวแสมสาร ซึ่งจะมีอยู่หลายเกาะ ได้แก่ เกาะจัน เกาะจวง เกาะยุ้งเกลือ เกาะโรงโขนโรงหนัง ขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาล สำหรับทริปเราไกด์พาไปดำน้ำประมาณ 3 จุด ซึ่งแต่ละจุดนั้น มีความสวยงามของปะการังที่แตกต่างกัน เพียงแค่ จุดแรก เราก็จะได้เจอกับปะการังสีสวย ดอกไม้ทะเล ปลาการ์ตูน
จุดต่อไป เกาะจัน หรือ เกาะจาน จุดนี้น้ำทะเลค่อนข้างใสและเป็นสีฟ้า ทรายขาว และน้ำไม่ลึกมากเพราะจุดที่ดำน้ำอยู่ใกล้ฝั่ง ซึ่งสามารถว่ายน้ำไปใกล้ๆ ฝั่งได้ แต่ไม่สามารถขึ้นหาดได้
โลกใต้ทะเลของเกาะจัน มีทั้งปะการัง ดอกไม้ทะเล หอยมือเสือ ปลาหลากหลายสายพันธุ์ ที่มาอาศัยอาหารจากสิ่งเหล่านี้ เจ้าปลาน้อยว่ายวนเวียนอยู่รอบตัวเรา รวมถึงนางเอกของทะเลแสมสาร คือ ปลาการ์ตูน ซึ่งถ้ามาไม่ถึงถือว่ามาไม่ถึง หลังจากดำผุดดำไหว้อยู่ซักพัก ทำเอาคนที่ไม่เคยดำน้ำมาก่อนอย่างเราหลงรักโลกใต้ทะเลขึ้นมาทันที สนุกมากที่ได้เห็นโลกใต้ทะลที่ตื่นตาตื่นใจ ที่สำคัญ คือ ได้ภาพสวยฝีมือน้องไกด์มาเพียบ ภาพถ่ายใต้น้ำทั้งหมดเป็นฝีมือของน้องไกด์ของ seaview ที่ดูแลกลุ่มของพวกเราดีมาก พยายามหามุมถ่ายภาพใต้น้ำให้แบบครีเอทสุดๆ ปลาการ์ตูน เพิ่งเคยเห็นแบบที่อยู่ใต้ทะเลครั้งแรกในชีวิต ปกติจะเห็นอยู่แต่ในตู้ปลา ปลาการ์ตูนจะชอบแหวกว่าย หยอกล้อกับดอกไม้ทะเล หอยมือเสือสีสวยและตัวใหญ่มาก
มาถึงจุดสุดท้าย ตรงนี้น้ำจะลึกกว่าทุกจุด โลกใต้น้ำของเกาะนี้ จะไม่ค่อยมีมีสีสันเท่ากับเกาะจาน ส่วนใหญ่จะมีแต่ปะการังโขดหิน หรือปะการังก้อนปะการังก้อนรูปสมอง ปะการังเขากวาง ปลาจะค่อนข้างน้อย
ถึงแม้ปลาจะน้อย แต่มีความพีค คือ ได้เห็นกัลปังหาทะเลช่อโตสะบัดพลิ้วไหว สีสันสวยงาม กัลปังหา คือ สัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลัง ชอบอาศัยอยู่ตามที่มีกระแสน้ำไหล เนื่องจากกระแสน้ำจะช่วยพัดพาอาหารมาให้และจะช่วยพัดพาของเสียที่ถูกปล่อยออกจากกะละปังหาออกไป ซึ่งบริเวณเกาะนี้น้ำค่อนข้างไหลพอสมควร จึงสามารถพบเจอได้ง่าย
13.00 น. ทานอาหารเที่ยง ร้านส้มตำ เฌอ เฌอ
ร้านนี้เป็นร้านอาหารที่ไกด์ของ seaview แนะนำมา หลังจากที่เราถามว่ามีส้มตำร้านไฟนที่อร่อยบ้างในสัตหีบ เพราะส่วนใหญ่เจอแต่อาหารทะเล น้องเลยแนะนำร้านนี้มา ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีขนส่งสัตหีบ ซึ่งเป็นเส้นทางกลับที่สามารถแวะเข้าไปได้ ร้านอยู่ในซอยติดถนน เลยจากสถานีขนส่งฯมาเล็กน้อย หากหลงทางสอบถามคนแถวนั้นได้ค่ะ ร้านบรรยากาศน่านั่ง กว้างขวาง ใหญ่โต เมนูมีให้เลือกเยอะ
ส่วนรสชาติอาหารโดยส่วนตัวถือว่ารสชาติกลางๆ สั่งอาหารมาเยอะมากด้วยความหิวเพราะใช้พลังดำน้ำไปเยอะ แอบติดใจแซลมอนสดจิ้มวาซาบิ พล่าไข่มดแดงดีงาม ปีกไก่ทอดน้ำปลาอร่อย ต้มยำรวมมิตรรสแซ่บกุ้งตัวใหญ่มาก ส่วนส้มตำถั่วปูปลาร้ากับหมูกรอบทอดน้ำปลา จะติดไปทางหวานหน่อยหนึ่ง
14.00 น. เดินทางกลับกรุงเทพ 2 วัน 1 คืน เที่ยวสัตหีบ ทะเลแสมสาร เด็ดไม่น้อย เที่ยวชิลๆสบายๆ ไม่ต้องไปเบียดกับใคร มาทะเลแสมสารครั้งหน้าลองเปลี่ยนแผนมาดำน้ำดูปลา แวะเที่ยวตามจุดต่างๆ ที่รับรองว่าได้ความประทับใจกลับบ้านไปเต็มๆ