เสพธรรมชาติ เที่ยวอำเภออุบลรัตน์ ขอนแก่น

อัพเดทล่าสุด 09/10/2021

มาถึงขอนแก่น ต้องแวะเที่ยว อำเภออุบลรัตน์ ด้วยโลเคชั่นตั้งอยู่ติดกับเขื่อนอุบลรัตน์ รายล้อมด้วยภูเขา ทำให้อำเภอนี้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ ยิ่งมาเที่ยวในช่วงฤดูฝนมองเห็นวิวทุ่งหญ้าและทุ่งนาเขียวขจี หากขับรถผ่านในเส้นอำเภอน้ำพองเข้าสู่ตัวอำเภออุบลรัตน์ ซึ่งเป็นเส้นทางเลียบเขื่อนที่สวยงาม มองเห็นทั้งวิวเขื่อนและเทือกเขาเขียวตลอดเส้นทาง แถมระหว่างทางยังมีจุดชมวิว คาเฟ่ ร้านอาหารวิวดี ให้เลือกแวะหลายแห่ง ในตัวอำเภอมีที่พักสวยสะดวกสบายให้ได้พักผ่อนในราคาราคาหลักร้อยถึงพันต้นๆ แต่คุณภาพเกินราคา มีเวลา 2 วัน 1 คืนก็เที่ยวอำเภอนี้ได้ แค่ถ้าให้ดีจัดไปเลย 3 วัน 2 คืน เต็มอิ่มแน่นอน

วันแรก

อู่ข้าว อู่น้ำ ฟาร์มสเตย์

เดินทางมาถึงตัวอำเภออุบลรัตน์ ในช่วงเที่ยง แวะทานข้าวพักผ่อนที่ “อู่ข้าว อู่น้ำ ฟาร์มสเตย์” ที่พักและคาเฟ่ชื่อดังในอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ที่ให้บริการในส่วนของคาเฟ่เป็นหลัก และให้บริการในส่วนของที่พัก 4 หลัง ราคาห้องพักหลักร้อย แต่ความสะดวกสบายที่ได้รับเกินร้อย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการตกแต่ง การจัดวางสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่ทำได้ดีมาก มีร้านอาหารและคาเฟ่ ที่มีเมนูมากมายให้เลือกทั้งคาวหวาน และมุมถ่ายรูปสวยหลายจุด

ร้านอาหารจัดที่นั่งแบบซุ้มกระท่อมที่ตั้งอยู่กลางสระน้ำสีเขียวขนาดใหญ่ ที่นั่งมากมายแต่ช่วงเวลาเที่ยงถึงบ่ายคนเยอะมากค่ะ ต้องรับบัตรคิวเลยทีเดียว และที่สำคัญคนที่ชอบถ่ายรูปมีมุมถ่ายภาพหลายจุด ทั้งเรือที่ประดับด้วยดอกไม้ ประตูสวรรค์สีขาว รถเมล์ขนาดใหญ่ ซุ้มรังนก

ส่วนที่นั่งจะเลือกนั่งแบบเบาะโซฟาสีส้มนั่งเอนหลังแบบสบาย หรือจะเลือกนั่งห้อยขาแบบชิลๆ ก็ได้

เมนูอาหารเน้นไปทางอาหารอีสานที่มีให้เลือกเยอะมาก เมนูเด็ดของทุกโต๊ะต้องสั่ง คือ กุ้งเผาความเห็นส่วนตัวเพราะเราทานกุ้งเผามาเยอะ เลยรู้สึกว่าความหวานและความแน่นของเนื้อกุ้งน้อยไปนิด แต่กุ้งสดค่ะ ความประทับใจเมนูยกให้ เหลาแซลมมอน แซลมอนสด เนื้อนุ่มมากคลุกมากับน้ำยำที่รสชาติอร่อยกำลังดี ส่วนส้มตำถั่วหมูกรอบ และหมูสามชั้นทอด ยังถือว่าพอได้ค่ะ ส่วนเมนูเครื่องดื่มและของหวานของร้านรสชาติดีค่ะ ทั้งชาเขียวปั่นที่ชาหอมมาก รสกำลังดีไม่หวานเกินไป ส่วนของหวานที่นี่มีแค่โทส รสชาติดีเช่นกัน ท๊อปปิ้งมาแบบจัดเต็มมาก

มาถึงห้องพัก ซึ่งเราพักที่นี่ในคืนนี้ ห้องพักมีทั้งหมด 4 หลังราคา 990 บาท (รวมอาหารเช้าแบบจานเดียว) วันธรรมดา 850 บาท บ้านพักตั้งอยู่ริมน้ำและทุ่งนาตกแต่งแบบทันสมัยสไตล์ลอฟท์ ด้วยผนังแบบปูนเปือยและอิฐสีส้ม มีกิมมิคเป็นหน้าต่างกระจกวงกลมทุกหลัง ภายนอกบ้านมีที่นั่งพักผ่อนทั้งแปลตาข่าย และระเบียงนั่งขนาดเล็ก ช่วงเย็นนั่งเล่นตรงนี้ฟินมาก ส่วนช่วงกลางคืนที่นี่เงียบมาก เพราะฉะนั้นใครที่ชอบความสงบ ไม่ชอบเสียงดัง อยากมาพักผ่อน แนะนำเป็นอย่างยิ่ง แม้จะมีคาเฟ่อยู่ภายในที่พักแต่เสียงไม่ดังมาถึงห้อง ห้องเก็บเสียงดีมาก อีกอย่างคาเฟ่เปิด 11 โมง- 5 โมงเย็นคาเฟ่ปิดส่วนหน้าที่พักมีทางเดินไม้ไผ่กลางทุ่ง มีการจัดมุมและมุมถ่ายภาพหลายจุด ได้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้างทุ่งแต่ยังแฝงไปด้วยความชิคนิดๆ

ภายในห้องกว้างขวางและสะอาด เตียงนอนใหญ่นอนสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งแอร์ ทีวี ตู้เย็น มุมแต่งตัวมีโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ ตู้ขนาดเล็กสำหรับแขวนผ้า ไดร์เป่าผม จุดเสียบปลั๊กไฟมีทั่วทั้งสี่มุมห้อง แถมมีปลั๊กพ่วงให้ด้วย ถูกใจคนที่ต้องใช้ปลั๊กไฟชาร์ตอุปกรณ์เยอะๆมาก ส่วนห้องน้ำกว้างขวาง มีที่วางของได้ทั่วห้องน้ำ สำหรับใครที่พกผลิตภัณฑ์ประทินผิวเยอะน่าจะชอบมาก จะวางแชมพู ครีมทาผิว ครีมมาร์คหน้า ครีมอาบน้ำ โฟมล้างหน้าตรงไหนก็ได้ ไม่ต้องวางแค่หน้าอ่างล้างหน้า

วัดพระพุทธบาทภูพานคำ

ช่วงบ่ายแก่ๆตั้งใจไปเขื่อนอุบลรัตน์ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก แต่ช่วงที่เดินทางยังปิดไม่ให้เข้าชมด้วยสถานการณ์โควิด ไปต่อยังจุดหมายต่อไป วัดพระพุทธบาทภูพานคำ ตั้งอยู่ใกล้ทางเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองในมณฑป และ พระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ หรือหลวงพ่อใหญ่ สูง 14 เมตร อยู่บนยอดเขา มีบันไดทางขึ้นจากลานวัดไปยังยอดเขาจำนวน 1,049 ขั้น หรือจะขับรถยนต์ขึ้นไปถึงยอดเขาก็ได้ เส้นทางเป็นถนนราดยาง ชันไม่มากนัก รถทุกชนิดสามารถขึ้นไปถึงยอดเขาได้ บนยอดเขามองเห็นทัศนียภาพทะเลสาบเขื่อนอุบลรัตน์ได้สวยงาม

บันไดนาคจำนวน จากลานวัดไปยังยอดเขาจำนวน 1,049 ขั้น เดินพอได้เหงื่อ

มีศาลาชมวิวตั้งอยู่ตรงข้ามลานจอดรถ

หัวนาคาเฟ่

ช่วงเย็นไปทานอาหารที่ หัวนาคาเฟ่ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับที่พัก เป็นคาเฟ่ตกแต่งอลังการทั้งอาคารขนาดใหญ่สไตล์บาหลี ผสมผสานกับความเป็นบ้านทุ่งด้วยซุ้มกระท่อมนั่งริมน้ำ ภายในร้านพื้นที่กว้างมาก มีหลากหลายมุมให้นั่ง ที่มีทั้งโซนนั่งด้านใน และเป็นซุ้มด้านนอก ส่วนเมนูมีทั้งอาหาร เครื่องดื่มและเค้ก เหมาะสำหรับมารับประทานแบบครอบครัว

ร้านมองเห็นมาแต่ไกลตั้งแต่ตอนขับรถบนถนน ตัวร้านแบ่งเป็น 2 โซน โซนแรก ตกแต่งเป็นอาคารเปิดโล่ง ร้านเก๋ไก๋ด้วยหลังคาในสไตล์บ้านแบบบาหลี ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ในโทนสีครีมเข้ากับบรรยากาสร้าน เพิ่มความร่มรื่นด้วยการประดับต้นใม้ ทั้งต้นบอนยักษ์โดดเด่นรอบร้าน มีสะพานไม้ด้านหน้าทอดยาวไปกลางน้ำให้เดินเล่นถ่ายรูป สวยภายในร้านหามาในช่วงเย็น คือ ได้แสงอุ่นที่ส่องเข้ามากลายเป็นแสงเงาที่สวยงาม มีการพ่นไอน้ำออกมาจากหลังคาจากแบบเบาๆได้ฟีลชวนฝัน

พื้นที่อีกโซนซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังกว้างมาก จัดเป็นกระท่อมขนาดเล็กที่เรียงรายริมคลองหลายหลัง

เมนูอาหารมีทั้งเครื่องดื่ม ของหวาน อาหารคาวสไตล์อีสาน สั่งส้มตำกุ้งสด ปีกไก่ทอด ต้มแว่บกระดูกอ่อนหมู อาหารจานใหญ่เป็นร้านที่ใช้วัตถุดิบค่อนข้างดี ส่วนรสชาติอาหารเมนูที่สั่งมาทาน คือ รสชาติปานกลาง ให้คะแนนเต็มกับบรรยากาศการตกแต่งร้านมากกว่า สายชอบถ่ายรูปหามุมเก๋ๆน่าจะชอบร้านนี้ค่ะ

หัวนา คาเฟ่

พิกัด: อ.อุบลรัตน์ ทางไปโนนสังข์ เลี้ยวซ้ายข้างปั๊มน้ำมันบางจาก 300เมตร

เปิดให้บริการ ; ทุกวัน บริการกาแฟและเครื่องดื่ม 9.00-18.00 น.

บริการอาหาร 11.00-20.00 น.

โทร 063 298 2954

วันที่ 2

จุดชมวิวหินช้างสี

ช่วงเช้าเช็คเอาท์ออกจากที่พัก ไปที่ จุดชมวิวหินช้างสี ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอบ้านฝาง แต่ถ้ามาเที่ยวอำเภออุบลรัตน์ สามารถแวะเที่ยวจุดชมวิวหินช้างสีได้ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเขื่อนอุบลรัตน์ที่อยู่เบื้องล่าง ปัจจุบันทางอุทยาน ฯ ได้ทำการปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่ทั้งหมด โดยจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ รวมทั้งระเบียงชมวิวระหว่างทางไว้หลายจุด ระหว่างทางจะได้ชมวิวธรรมชาติ ทิวทัศน์ของเขื่อนที่สวยงาม รวมทั้งก้อนหินรูปร่างเแปลกตาและก้อนหินไฮไลท์หินช้างสีซึ่งเป็นที่มาของชื่อ

จุดชมวิวหินช้างสี อยู่ในพื้นที่การดูแลของอุทยานแห่งชาติน้ำพอง ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 25 กิโลเมตร สำหรับเส้นทางไปจนถึงจุดชมวิวเป็นถนนลาดยางตลอดเส้นทางค่อนข้างสะดวกสบาย เมื่อมาถึงจุดชมวิว ชำระค่าบริการเข้าอุทยานฯ จากนั้นขับรถเข้าไปจอดยังที่ทำการอุทยาน และเดินไปยังเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางทั้งหมดประมาณ 400 เมตร จากที่ทำการอุทยานฯ เดินมาเพียง 100 เมตร จะเจอกับจุดชมวิวจุดแรก คือ ผาหมื่น สามารถมองเห็นวิวของเขื่อนอุบลรัตน์ ได้แบบกว้างไกลมีชะง่อนหินที่สามารถไปยืนชมวิวได้แบบชัดเจนสวยงาม ยิ่งในยามแดดจ้า ท้องฟ้าใส ยิ่งสวยมากขึ้น

ติดกับผาหมื่น คือ หอคอชมวิว 2 ชั้น ที่จัดทำเป็นระเบียงชมวิวให้ขึ้นไปชมวิวในมุมสูงได้ ถัดไปคือทางเดินชมวิวเลียบไปวิวของเขื่อน

จากทางระเบียงทางเดิน พ้นออกมาจะได้พบกับวิวนี้ เรียกได้ว่าตลอดเส้นทางเดินเราสามารถชมวิวได้ตลอด จะแวะตรงจุดไหนก็ได้ ชมวิวเขื่อนได้แบบเต็มอิ่มและเพลินมาก

มาถึงลานชมวิว “ผาตะวันลับฟ้า” ที่มีเป็นลานกว้าง มีทั้งระเบียงชมวิว และที่นั่งให้ได้นั่งพักผ่อน

จากลานชมวิว เดินผ่านซุ้มประตูหิน ที่มีลักษณะเป็นโพรงหินขนาดใหญ่หลายโพรง กลายเป็นลวดลายที่สวยงามแปลกตา

ผ่านซุ้มโพรงหิน เพื่อมายังระเบียงทางเดินอีกจุดทอดยาว เพื่อไปยัง หินหัวกะโหลก ซึ่งเป็นจุดสูงสุดสามารถเดินขึ้นไปเพื่อมองลงมาแล้วจะเห็นหลังเขื่อนอุบลรัตน์ได้มุมแบบ 360 องศา ด้านทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออกที่ถูกปูพรมด้วยผืนป่าอันเขียวขจี หรือตัวเมืองขอนแก่นที่อยู่ไกลออกไป แต่ต้นไม้ค่อนข้างเยอะ เลยมองไม่ค่อยเห็นวิวเท่าใดนัก

ลงมาจากหินหัวกะโหลก มายังพื้นราบ ไปชมหินก้อนไฮไลท์ หินช้างสี มีลักษณะเป็นหินผาขนาดใหญ่ที่มีร่องรอยของโคลนดินเปื้อนอยู่ โดยชาวบ้านเชื่อว่ามีช้างป่ามาถูผิวหนังที่ผาหินแห่งนี้ รวมถึงโป่งธรรมชาติ ที่ในอดีตเป็นพื้นดินที่มีแร่ธาตุอาหารสะสมอยู่สังเกตได้จากร่องรอยของสัตว์ป่าที่มาหาอาหารบริเวณนี้

จุดชมวิวหินช้างสี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งขอนแก่น สำหรับคนที่ชื่นชอบธรรมชาติ อยากชมวิวสวยๆ แนะนำต้องแวะมาชมกับหินรูปทรงแปลกตา รวมทั้งบรรยากาศของพระอาทิตย์และวิวของเขื่อนอุบลรัตน์สวยงามกว้างไกล

บ้านนอกคอกควาย

จากนั้นแวะไปทานอาหารกลางวัน ที่ บ้านนอกคอกควาย ร้านอาหารและร้านกาแฟบรรยากาศกลางทุ่งนา มองเห็นวิวเขื่อนอุบลรัตน์ ใครที่ชอบบรรยากาศแบบลูกทุ่ง นั่งทานอาหารสไตล์อีสานในกระท่อม ต้องมาร้านนี้ เพราะจัดเต็มเมนูรสเด็ด ทั้งส้มตำ ยำ ปลาเผา กุ้งเผา ที่รับรองว่าต้องถูกใจในรสชาติแน่นอน ทานอาหารอีสานในย่านอำเภิอุบลรัตน์มาหลายร้าน ชอบรสชาติอาหารของร้านนี้สุด การันตีได้จากจำนวนลูกค้าที่ทั้งคนต่างถิ่นและในพื้นที่ที่แวะมาทานอาหารกันแบบไม่ขาดสาย

ร้านแบ่งเป็น 2 โซน คือโซนคาเฟ่ด้านหน้ามี 2 ชั้น โซนซุ้มอาหาร แบบเป็นแบบกระท่อมกลางทุ่งแบบเปิดโล่ง มีสะพานไม้ไผ่เชื่อมต่อกันทุกหลัง ที่นั่งกระจายไปตามจุดต่างๆ ทุกหลังคือ วิวดีมองเห็นสีเขียวของทุ่งนาและน้องควายแทะเล็มหญ้า รวมทั้งวิวของเขื่อนอุบลรัตน์อยู่ตรงหน้า โล่งสายตามาก

มีมุมดาดฟ้า และแปลตาข่ายยื่นไปกลางทุ่ง จุดนี้น่าจะเหมาะสำหรับมาถ่ายภาพและนั่งในย่ามแดดร่ม

อาหารมีหลากหลายเมนูให้เลือก ทั้งเครื่องดื่ม กาแฟ ของหวาน อาหารอีสาน รวมถึงต้มยำ และยำต่าง ๆ อาหารตามสั่ง พิซซ่า เราสั่งส้มตำโคราช หอยแครงลวก ต้มยำปลานิล รสชาติอาหารอร่อยค่ะ เป็นการทานส้มตำร้านแรกในอำเภออุบลรัตน์ที่ไม่ติดรสหวาน ส้มตำโคราชอร่อย หอยแครงลวกสด ต้มยำรสกลมกล่อม กำลังดี มาทานอาหารร้านนี้ไม่ผิดหวังทั้งบรรยากาศและรสชาติ

บ้านนอกคอกควาย

พิกัด : 89 บ้านแก่งศิลา อำเภออุบลรัตน์ จอนแก่น

ร้านเปิดบริการ 09:00-20:00 น. (ครัวปิด 1 ทุ่ม)

โทร 082 091 5081

litlle box

ช่วงบ่าย เราเข้าสู่ที่พักคืนที่ 2 Little box ตั้งอยู่ระหว่างทางไปเขื่อนอุบลรัตน์ เป็นคาเฟ่ริมทุ่งนาในสวนป่าสไตล์ทรอปิคอลสีเขียว ภายในร้านคาเฟ่ตกแต่งสวยร่มรื่น แถมมีมุมให้ถ่ายรูปเพียบ อาหารมีทั้งของคาวเครื่องดื่ม เบอเกอรี่ เค้ก ครัวซองท์รสต่างๆ ที่มีให้เลือกเยอะมาก สายหวานต้องถูกใจ ภายในคาเฟ่ยังให้บริการที่พักในสไตล์บูติกสุดชิค โดยใช้ตู้คอนเทรนเนอร์มาทำเป็นห้องพัก ไฮไลท์คือ ห้องที่มีอ่างอาบน้ำแบบจากุซซี่ มองผ่านกระจกใส เห็นวิวทุ่งนาเขียว

ด้านหน้าเป็นที่ตั้งของคาเฟ่ มาในรูปแบบของตู้คอนเทนเนอร์ ภายในร้านแบ่งที่นั่งหลายโซนทั้งแบบห้องแอร์กว้างขวาง แบบหน้าต่างกระจกที่มองเห็นวิวข้างนอก

โซนที่นั่งด้านนอกแบบเอาท์ดอร์ มีทั้งที่นั่งในซุ้มกระท่อมประดับด้วยไม้เลื้อย และที่นั่งติดริมทุ่งนามีแปลตาข่าย รับอากาศบริสุทธิ์แบบธรรมชาติ

เมนูมีให้เลือกหลากหลายอาหารคาวเน้นไปทางอาหารอีสาน ของหวานเค้ก ครัวซองท์ มีเยอะมาก สั่งส้มตำถั่วหมูกรอบ ต้มยำปลาคัง ปีกไก่ทอด รสชาติอาหารโดยส่วนตัวรู้สึกว่าติดหวานไปนิดนึง ทานอาหารอีสานร้านดังในโซนอำเภออุบลรัตน์มาหลายร้าน ส่วนใหญ่ใช้วัตถุดิบที่ค่อนข้างดีนะคะ แต่รสชาติจะไปทางหวานนำแม้จะเป็นอาหารอีสานก็ตาม เลยคิดว่าหรือเป็นรสชาติที่คนแถวนี้ชอบทานกันหรือเปล่า ส่วนปีกไก่ทอดมากรอบอร่อยดีค่ะ เครื่องดื่มเค้ก ครัวซองท์แบบที่เราสั่งมารสชาติพอใช้ได้ค่ะ

สำหรับร้านนี้ยกนิ้วให้กับบรรยากาศและการตกแต่ง เพราะตกแต่งสวย โดยเฉพาะสวนในสไตล์ทรอปิคอลสีเขียว ที่มีต้นไม้นานาชนิด มีน้ำตกจำลอง และในบางช่วงมีการเปิดไอหมอกให้ฟุ้งชวนฝันอีกด้วย ถูกใจสายถ่ายรูปเป็นอย่างมาก

ในส่วนของห้องพักออกแบบในรูปแบบของตู้คอนเทนเนอร์ ราคาเริ่มต้นที่ 890-2500 บาท

เราเลือกพักห้อง Jacuzzi box ราคาคืนละ 2500 บาท (พร้อมอาหารเช้า) ภายในห้องตกแต่งสวย ที่นอนนุ่มนอนสบาย มีมุมให้นั่งพักผ่อนทั้งข้างนอกและภายในห้อง ความพิเศษของห้องนี้ คือ อ่างอาบน้ำมองเห็นวิวทุ่งนา ส่วนอาหารเช้า มีข้าวต้ม ชา กาแฟ ขนมปัง และไข่ไก่ซึ่งให้ลูกค้าทอดเอง

ริมเขื่อน coffee

ช่วงเย็นไปนั่งชมวิว ทานส้มตำกันเพลินๆ ที่ร้าน ริมเขื่อน coffee ร้านนี้ตั้งอยู่ติดกับบ้านนอกคอกควายที่เราแะไปตอนเที่ยง แต่ไม่ได้แวะร้านนี้ต่อ เพราะอิ่มจากร้านแรกมาก เลยตั้งใจว่าจะแวะมาในช่วงเย็น เป็นร้านอาหารฟีลบ้านทุ่ง นั่งทานในซุ้มกระท่อมที่โอบล้อมด้วยด้วยวิวเขาภูเก้า ภูพานคำ พร้อมกับวิวสวยของทุ่งนาและเขื่อนอุบลรัตน์ มีทางเดินไม้ไผ่ยกสูงทอดยาว เอาใจสายชอบถ่ายภาพกับมุมน่ารักทั้งชิงช้า ซุ้มรังนกบาหลีพร้อมจัดเต็มอาหารอีสานหลากเมนู ทั้งส้มตำ ยำ ลาบ น้ำตก ปลาเผา อาหารจานเดียว และเมนูเครื่องของหวานยังฮันนี่โทส บิงชู ให้อิ่มอร่อยแบบครบครัน พร้อมไปกับมองวิวสวยๆที่อยู่ตรงหน้า

ช่วงฤดูฝนเวลาเย็นประมาณ 4 โมง บรรยากาศดีมาก ทุ่งนากำลังเขียวขจีและลมพัดเย็นสบาย ภายในร้านจัดที่นั่งเป็นแบบซุ้มกระท่อมที่ตั้งเรียงรายกัน วิวด้านหน้าคือ ภูเขาและเขื่อนอุบลรัตน์ เป็นวิวสีเขียวที่กว้างไกล มองแล้วสบายตามาก

อาหารมีทั้งเมนูอาหารอีสาน อาหารจานเดียว เครื่องดื่มของหวาน สั่งส้มตำถาดรสชาติไปทางเปรี้ยวนำนิดๆ หอยโข่งหรือหอยนาลวกเนื้อไม่เหนียวมากจิ้มกับน้ำจิ้มค่อนข้างโอเคค่ะ และต้มยำพวงไข่อ่อนอันนี่จะติดไปทางหวานแต่รสชาติเข้มข้นดี ไข่อ่อนให้มาเยอะมาก

ภายในร้านจัดมุมถ่ายรูปไว้หลายจุด ทั้งชิงช้า ซุ้มที่นั่ง และมุมไฮไลท์ อย่างระเบียงทางเดินทอดยาวไปกลางทุ่งนาได้ฉากหลังเป็นวิวของทิวเขาและผืนน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์เป็นมุมที่สวยงามค่ะ ใครอยากสัมผัสบรรยากาศของความเป็นธรรมชาติ ชมวิวสวยสบายตา แนะนำ ริมเขื่อน คอฟฟี่ จะฟินไปกับบรรยากาศมาก

ริมเขื่อน คอฟฟี่

ที่อยู่ บ้านแก่งศิลา อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ทางหลวงชนบท ขอนแก่น 4063 ขอนแก่น (อยู่บนเส้นทางระหว่างเขื่อนอุบลรัตน์กับอุทยานแห่งชาติน้ำพอง)

เปิดให้บริการทุกวัน 09:00 – 18:00

ระหว่างทางขับรถกลับที่พักเพื่อไปพักผ่อน หันมองไปที่ภูเขาเห็นสายหมอกลอยคลอเคลียภูเขาตลอดทาง จริงๆแล้ววิวแบบนี้เป็นภาพที่เห็นบ่อยเวลาไปเที่ยว แต่การที่ได้มาเห็นในสถานที่ ที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น คือ ความเซอร์ไพรส์ ถึงกับมองหาที่จอดรถเพื่อเก็บภาพนี้ เคยมาเที่ยวอำเภอนี้ในช่วงฤดูหนาวประมาณเดือนกุมภา แต่รู้สึกว่าบรรยากาศสวยงามสู้ฤดูฝนไม่ได้ ช่วงหนาวจะค่อนข้างแห้งแล้ง เลยลองมาเที่ยวฤดูฝนบ้าง ได้ความชุ่มฉ่ำ เขียวขจีกลับไปแบบเต็มๆ

วันที่ 3

ตื่นแต่เช้าทานอาหารจากนั้นเดินเก็บบรรยากาศภายในที่พัก ช่วงเช้า คนยังไม่เยอะถ่ายภาพค่อนข้างสะดวก

เดินไปสุดร้าน คือ วิวของทุ่งนามีกังหันลม รถไถนาประดับอยู่ และมีทางเดินไปยังซุ้มรังนกบาหลี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมุมไฮไลท์ หลังจากเต็มอิ่มกับการเที่ยวในอำเภอนี้ แบบ 3 วัน 2 คืน บอกเลยว่ายังเที่ยวไม่ครบค่ะ เพราะสถานที่มีให้แวะเยอะ ยิ่งคาเฟ่อำเภอนี้มีแต่ร้านแนวธรรมชาติที่ตกแต่งสวยหลายร้าน ถ้ามีโอกาสคงได้เดินทางมาที่อำเภออุบลรัตน์อีกแน่นอน เป็นความลงตัว ตอบโจทย์ของสายเที่ยวธรรมชาติ ที่ยังชอบความสะดวกสบายได้ดีมาก