ลพบุรี ปักหมุดเที่ยว 4 จุดสุดคูล

อัพเดทล่าสุด 18/12/2018

เพียงสองชั่วโมงครึ่งจากกรุงเทพ เรารีบสตาร์ทรถออกจากบ้านมาแต่เช้า มุ่งหน้าไปยังลพบุรี เน้นสถานที่ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติสวยงามที่ทำให้ต้องว้าว บางแห่งอาจคุ้นเคยชื่อมานานแต่อาจยังไม่รู้ว่ามีมุมแบบนี้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกมุมหนึ่งของลพบุรี ที่ไม่ใช่ทุ่งทานตะวัน หรือโบราณสถานและประวัติศาสตร์แบบที่คุ้นเคย สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ควรค่าแก่การปักหมุดเที่ยวถ่ายภาพกันแบบสวยๆ

%e0%b8%9b%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%9e%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%b5

10.00 น. กระเพรา & Coffee

ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัลพบุรี บริเวณปากทางเข้าเขาจีนแล ซึ่งเป็นจุดชมทุ่งดอกทานตะวันชื่อดังของลพบุรี เป็นร้านยอดนิยมที่โดดเด่น เพราะบรรยากาศหลังร้านวิวดีมาก มีสะพานไม้ทอดยาวท่ามกลางทุ่งดอกดาวกระจายสีเหลืองและดอกคอสมอสตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสดใส ซึ่งจะสวยงามที่สุดในฤดูหนาว โดยมีเขาจีนแลภูเขาหินปูนรูปร่างสวยงามเป็นฉากหลัง

ตัวร้านเป็นสีส้มอิฐ ตั้งอยู่บริเวณถนนทางเข้าเขาจีนแล โดยดอกไม้จะสวยงามที่สุดน่าจะเป็นฤดูหนาว ส่วนฤดูอื่นก็อาจมีดอกไม้แต่อาจไม่เยอะมาก ร้านมีที่นั่ง 2 โซน คือห้องแอร์ กับวิวหลังร้าน open air มองเห็นวิวทุ่งดอกไม้และเขาจีนแล หากมาในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุด คนจะค่อนข้างเยอะร้านที่นั่งเต็มตลอดและอาจรอคิวอาหารและเครื่องดื่มค่อนข้างนาน อาหารส่วนใหญ่เน้นเมนูจานเดียวเช่น ข้าวกระเพรา สเต๊ก เครื่องดื่มของหวาน ขนมปังปิ้งต่างๆ หากต้องการมาถ่ายภาพบริเวณสะพานไม้ไผ่และทุ่งดอกไม้ ก็สามารถเดินเข้าไปในร้าน โดยทางร้านคิดค่าเข้าชมถ่ายรูปคนละ 20 บาท

เมื่อเข้ามาข้างในจะเห็นสะพานไม้ทอดยาวท่ามกลางทุ่งดอกดาวกระจายสีเหลือง ระหว่างทางเดิน มีมุมน่ารักให้ถ่ายภาพหลายมุม ทั้งบ้านไม้สุดเก๋หลังน้อยเป็นมุมยอดนิยม ซึ่งต้องรอคิวถ่ายภาพกันสักหน่อยถ้ามาในช่วงคนเยอะ

มุมเก้าอี้นั่งระหว่างทางเดินเก๋ไก๋ไม่น้อย ระหว่างทางสามารถถ่ายภาพได้แทบทุกจุด มีแคร่ไม้ไผ่ยื่นออกไปริมทุ่งดอกดาวกระจาย รวมทั้งสะพานข้ามแบบยกสูง เดินไปจนสุดปลายทางจะเป็นเก้าอีนั่งสไตล์อังกฤษ มุมนี้ทำเป็นแคร่ไม้ไผ่ยื่นไปด้วยสามารนั่งถ่ายภาพโดยมีฉากหลังเป็นทุ่งดอกไม้สวยๆ

สะพานไม้ไผ่ทามกลางทุ่งดอกไม้สีเหลือง ตัดกับท้องฟ้าสีสดใสกับฉากหลังของเขาจีนแลงดงามกว้างไลเหมือนภาพวาด หากมาเที่ยวในช่วงทุ่งทานตะวันบานก็สามารถแวะมาเที่ยวที่ กระเพรา & Coffee ต่อได้เลย เพราะตั้งอยู่ใกล้กันเพียง 3 นาทีเท่านั้น

กระเพรา & Coffee

อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าเขาจีนแล

ทุ่งดอกไม้เสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท

ร้านเปิด 8.30 – 17.00 น.

https://www.facebook.com/kaprao12

พิกัด google maps : https://goo.gl/maps/d4m8q67QpXL2

12.00 น. น้ำตกวังก้านเหลือง

เคยได้ยินชื่อน้ำตกมานาน เพราะเป็นน้ำตกที่ขึ้นชื่อของลพบุรีแต่พอมาถึงลพบุรีทีไร ไปไม่ถึงน้ำตกนี้สักที ด้วยระยะทางที่หากมาจากตัวเมืองก็ไม่ใช่น้อย ประมาณเกือบ 70 กิโล และใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง แต่อยากให้ลองตั้งใจมาจะรู้ว่าน้ำตกนี้สวยมาก มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ไม่ต้องห่วงว่ามาจะมีน้ำให้เล่นมั้ย เพราะมีความพิเศษ คือ น้ำตกมีต้นน้ำมาจากตาน้ำขนาดใหญ่ที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินกลายเป็นธารน้ำตกที่ไหลเอ่อมาจากต้นน้ำทิ้งตัวลงไปปะทะกับหินปูนเป็นน้ำตกกว้างกว่า 20 เมตรลดหลั่นกันไปหลายชั้นสวยงามมาก ซึ่งแตกต่างจากน้ำตกส่วนใหญ่จะมีต้นน้ำอยู่บนภูเขาสูง ซึ่งหากไปเที่ยวในช่วงหน้าแล้ง อาจจะไม่มีน้ำให้เล่นหรือน้ำน้อยมาก

รอบบริเวณร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยที่ขึ้นปกคลุม มีหินงอกหินย้อยเกิดขึ้นหลายแห่ง และหินที่น้ำตกแห่งนี้มีลักษณะพิเศษ คือ หินไม่ลื่นเกาะเท้าดีมาก สามารถเดินเล่นผ่านไปยังน้ำตกและแอ่งน้ำในแต่ละชั้นได้สะดวก บรรยากาศโดยรวมเหมาะมากสำหรับมานั่งเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ปูเสื่อนั่งฟังเสียงน้ำตกให้ผ่อนคลายใจ

ภายในบริเวณน้ำตกแล้วยังมีสะพานแขวนท่ามกลางที่ทอดยาวผ่านน้ำตก ท่ามกลางต้นไม้สีเขียว มองไปเบื้องล่างเห็นน้ำตกวังก้านเหลือง เป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในจังหวัดลพบุรี ด้วยความยาวถึง 66 เมตร สำหรับใช้เป็นทางเดินข้ามน้ำตกระหว่างฝั่งอำเภอชัยบาดาลกับอำเภอท่าหลวง สะพานแขวนเป็นอีกกนึ่งถ่ายภาพที่สวยงามและเป็นที่นิยมแวะเที่ยวของน้ำตกวังก้านเหลือง เรียกได้ว่ามาเที่ยวลพบุรีสามารถแวะมาเล่นน้ำพักผ่อน หรือกหาไม่เล่นน้ำก็เดินเล่น ถ่ายภาพชมบรรยากาศของธรรมชาติได้

น้ำตกวังก้านเหลือง

ตำบลท่าดินดำ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี

เวลาทำการ : 08:00 – 18:00 น.

เข้าชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย บริเวณทางเข้าน้ำตกมีร้านค้า ร้านอาหารประเภทส้มตำ ขายหลายร้าน

พิกัด google maps : https://goo.gl/maps/CNTx5qtD1hR2

14.00 น. บ่อน้ำเดือด

จากน้ำตกวังก้านเหลือง เราย่อนกลับไปยังเส้นทางเดิม ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ไปต่อยัง บ่อน้ำเดือด บ่อน้ำใสสีมรกต ตั้งอยู่ในบริเวณวัดบ่อน้ำเดือด ตำบลน้ำสุด อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี มีลักษณะเป็นบ่อน้ำขนาดเล็ก สีฟ้าใสจนมองเห็นผืนทรายสีขาวที่อยู่เบื้องล่าง บริเวณพื้นที่ของบ่อมีต้นไม้น้อยใหญ่ร่มรื่น โดยมีการปรับภูมิทัศน์จัดทำสะพานข้ามบ่อน้ำและรั้วกั้นรอบบ่อสามารถเดินชมทัศนียภาพโดยรอบได้อย่างสวยงาม

เมื่อมาถึงบริเวณบ่อน้ำเดือด สามารถหาที่จอดรถบริเวณใกล้พื้นที่ได้เลย มีที่จอดรถไม่มากนัก ประมาณ 4-5 คัน และมีซุ้มศาลาของเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลและอำนวยความสะดวกอยู่ข้างๆ หากที่จอดรถเต็มสามารถจอดไว้ในพื้นที่ใกล้เคียงได้ โดยการเข้าชมไม่เสียค่าบริการแต่อย่างใด การเกิดบ่อน้ำเดือดนี้มาจากบริเวณดังกล่าวมีตาน้ำอยู่ด้านล่าง ซึ่งเมื่อผุดขึ้นมาจากใต้ดินผ่านชั้นหินต่าง ๆ ผสมผสานกับแร่ธาตุหลายอย่างจึงทำให้น้ำใส และมีสีฟ้าสวยงาม ใต้ผืนน้ำจะมีน้ำผุดให้เห็นชัด 2 จุด จุดแรกจะใกล้กับต้นไม้ใหญ่ อีกจุดจะอยู่ส่วนที่ลึกที่สุดเมื่อผุดขึ้นมา จึงมีลักษณะคล้ายกับน้ำที่กำลังเดือด เลยเป็นที่มาของชื่อ บ่อน้ำเดือด

สภาพพื้นที่โดยรอบร่มรื่น มีร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ โดยเราสามารถเดินผ่านรั้วเข้าไปชมบ่อน้ำแบบใกล้ชิดได้ แต่มีกฎข้อห้ามคือ ห้ามหย่อนเท้าลงไปในน้ำ และห้ามลงไปเล่นน้ำ เพื่อให้ความบริสุทธิ์ของธรรมชาติยังคงอยู่ มองลงไปบริเวณผิวน้ำซึ่งมีสีฟ้าผสมสีเขียวมรกตและผืนทรายขาว คล้ายกับน้ำทะเลที่มองเห็นแนวปะการัง เมื่อขึ้นไปยืนอยู่บนสะพานก็ยิ่งมองเห็นความสวยใสได้แบบชัดเจนมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นบ่อน้ำขนาดเล็กและลงเล่นน้ำไม่ได้เหมือนบ่อน้ำผุดที่อื่น แต่บรรยากาศและสีของน้ำก็ทำให้เราว้าวได้เหมือนกัน

บ่อน้ำเดือด ลพบุรี

บริเวณข้างวัดบ่อน้ำเดือด ตำบลน้ำสุด อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี

ไม่เสียค่าเข้าชม ภายในพื้นที่ไม่มีห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวก อย่างเช่น ร้านค้า ร้านอาหาร มีที่จอดรถจำกัดประมาณ 4-5 คัน แต่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวยังไม่ค่อยเยอะ และส่วนใหญ่จะอยู่กันไม่นาน เพราะเป็นบ่อน้ำขนาดเล็กและไม่อนุญาติให้ลงเล่นน้ำ

พิกัด google maps : https://goo.gl/maps/7Ysu9RBQr8

15.00 น. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

สารภาพตามตรงว่ามาเที่ยว เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หลายครั้ง แต่ทุกครั้งจะเดินเล่นชมวิวอยู่บริเวณด้านหน้า ตรงป้ายชื่อเขื่อน หรือไม่ก็ทางรถไฟลอยน้ำ แต่ไม่เคยมาชมวิวบริเวณสันเขื่อนสักที แต่ครั้งนี้เราขับรถมุ่งไปบริเวณสันเขื่อนบ้าง ซึ่งตรงจุดนี้มีถนนที่ขนานไปกับสันเขื่อน เป็นถนนโค้งทอดยาวมีหลักเสาเรียงราย เพิ่มความสวยงามยิ่งขึ้น มุมนี้เป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเหมาะสำหรับมาถ่ายภาพมาก

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นเขื่อนดินกักเก็บน้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย นอกจากจะทำการกักเก็บน้ำแล้ว ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายจุดให้ได้ชม ทั้งสถานีรถไฟเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อาคารอเนกประสงค์ริมอ่างเก็บน้ำ หอคอยเฉลิมพระเกียรติ และสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่เรากำลังยืนอยู่ มีบริการรถรางนำเที่ยวชมวิวบริเวณสันเขื่อนฯ ซึ่งให้บริการนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน จุดขึ้นรถรางจะอยู่บริเวณด้านหน้าตรงป้ายเขื่อน