เที่ยวมวกเหล็ก สูดอากาศบริสุทธิ์ใกล้กรุง เช็คอินจุด Unseen

พักผ่อนไปกับธรรมชาติเขียวขจี สูดอากาศบริสุทธิ์ใกล้กรุง ที่ มวกเหล็ก สระบุรี อำเภอที่ได้ชื่อว่า งดงามด้วยป่าเขา ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของน้ำตก มีสวนดอกไม้ที่ตระการตา ตื่นเต้นไปกับจุดเช็คอิน Unseen วัดถ้ำดาวเขาแก้ว สถานที่ที่น้อยคนจะรู้จัก ส่วนใหญ่หากพูดถึงมวกเหล็ก จะนึกถึงแต่ สวนบิ๊กเต้ น้ำตกเจ็ดสาวน้อย มาเที่ยวมวกเหล็ก แค่ได้ขับถนนหนทางในเส้นนี้ ก็ฟินสุดๆได้ นั่งมองวิวระหว่างทางที่มีความเขียว เต็มไปด้วยต้นไม้แบบอัดแน่น บางช่วงถนนคดเคี้ยวแบบเบาๆ  บรรยากาศคล้ายขับรถเที่ยวในภาคเหนือ

 

 

Check in point 1 สวนบิ๊กเต้

เดินทางจากกรุงเทพเช้าซักหน่อยประมาณ 7 โมง เพื่อมาเริ่มต้นกับจุดถ่ายภาพสวยๆ แห่งแรก กับสีสันของดอกไม้ที่งดงามตระการตาที่  สวนบิ๊กเต้   แหล่งปลูกดอกเบญจมาศที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของมวกเหล็ก ให้นักท่องเที่ยวได้ชมสวนดอกเบญจมาศหลายสายพันธุ์ หลากสีสันอวดโฉมแบ่งบานภายในโรงเรือนสีขาวท่ามกลางวิวทิวทัศน์ของหุบเขา ดอกไม้มีให้ชมตลอดทั้งปี   ป มีหลายแปลงให้เลือกถ่ายภาพ สวนบิ๊กเต้ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เก็บค่าชมคนละ 20 บาท แต่ก่อนจะปักหมุดมาที่นี่ ต้องโทรเช็คทางสวนก่อน ว่าตัดดอกไม้ไปเยอะมั้ย เพราะหากไปในช่วงที่ทางสวนตัดดอกไม้อออกไปขาย ดอกไม้จะน้อยกว่าปกติ

 

 

ดอกเบญจมาศภายในโรงเรือน  มีทั้งสีขาว สีเหลือง สีม่วง สีชมพู  วัตถุประสงค์หลักของเจ้าของสวนที่ปลูก คือ เพื่อจัดจำหน่ายไปยังตามตลาดดอกไม้ทั่วไป เช่น ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมืองและปากคลองตลาด นอกจากนี้ยังให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมสวนสวนดอกเบญจมาศและถ่ายรูปกับดอกไม้และชมทิวทัศน์ธรรมชาติบนหุบเขา วันที่เราเดินทางไปเที่ยวตัดดอกไม้ไปขายเยอะแล้ว จะเหลือให้ชมเพียงไม่กี่แปลง

 

 

Check in point 2  ถ้ำดาวเขาแก้ว

วัดถ้ำดาวเขาแก้ว ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสวนบิ๊กเต้ สวนดอกไม้ชื่อดัง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สงบเงียบ และมีตำนานความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องพญานาค ภายในถ้ำมีความสวยงามได้​ด้วยหินงอกหินย้อย ไฮไลท์คือ ปล่องแสงขนาดใหญ่ที่อยู่เหนือถ้ำ ยามเมื่อแสงส่องลงมากระทบกับรูปปั้นพญานาคที่อยู่ภายในถ้ำ ยิ่งเพิ่มความงดงามและ​น่า​เกรงขาม ​เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การมาท่องเที่ยวและมาทำบุญ

 

 

การเข้าไปชมถ้ำต้องเดินเท้าขึ้นบันได​พญา​นาค​ที่ด้านบนเขา​ความยาวประมาณ 100 เมตร เป็นระยะทางที่เดินขึ้นได้แบบสะดวกสบาย เพราะทางวัดทำขั้นบันไดไว้ค่อนข้างถี่และเดินง่าย เดินขึ้นไม่ถึง 5 นาที ก็มาถึงบริเวณปากถ้ำ ภายในถ้ำอากาศค่อนข้างเย็นสบาย มีรูปปั้นขององค์พญานาคอนันตนาคราชและพระนางอุษาอนันตวดี ราชเทวีมเหสีเอกแห่งพญาอนันตนาคราชประดิษฐานอยู่ในถ้ำและคอยดูแลรักษาถ้ำไว้ โดยมีความเชื่อกันว่าถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของพญานาค  บริเวณเพดานถ้ำมีปล่องแสงขนาดใหญ่และมีต้นไม้ขนาดใหญ่พาดผ่านช่องแสงมองแล้วมีความแปลกตา ยิ่งยามแสงส่องลงมากระทบกับรูปปั้นหญานาคที่อยู่กับปล่องถ้ำพอดียิ่งเพิ่มความน่า​เกรงขามมากขึ้น

 

 

นอกจากนี้ภายในถ้ำยังประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆมากมาย ให้กราบไหว้ทำบุญ เดินเข้าไปภายในก็จะพบกับเสาหินและหินงอกหินย้อย ที่อยู่ตามมุมต่างๆ  แหงนหน้ามองขึ้นไปบนเพดานก็จะพบกับฝูงค้างคางเกาะอยู่ บ้างก็บินโฉบไปมา วัดถ้ำดาวเขาแก้ว เป็นวัดที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติ อากาศร่มรื่น เย็นสบาย  สายบุญ สายเที่ยว ต้องมาสักครั้งในชีวิต

 

 

Check in point 3 น้ำตกเจ็ดสาวน้อย

มาถึงมวกเหล็กทั้งที แวะน้ำตกคงจะจะไม่ได้ เรามุ่งหน้าไปต่อยัง น้ำตกเจ็ดสาวน้อย น้ำตกชื่อดัง  แวะมานั่งพักรับประทานอาหารกันเบาๆ ริมน้ำตกสักหน่อย ไม่ได้มาที่นี่นาน มีการปรับภูมิทัศน์ไปมากพอสมควร จากแต่ก่อนไม่มีแคร่นั่งชิลริมน้ำตก ก็มีเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งมีร้านขายอาหารประเภทส้มตำ ไก่ย่าง อาหารตามสั่งหลายร้าน ถูกใจที่นั่งในมุมในก็สั่งร้านนั้นมาทานได้ หรือหากมาเป็นครอบครัว มีลูกเล็กเด็กน้อย ก็สามารถลงเล่นน้ำได้เป็นที่เพลิดเพลิน และสนุกสนานของเด็กๆ ไป

 

 

Check in point 4  Cafe Laura bar

ก่อนกลับกรุงเทพ แวะไปยังจุดหมายสุดท้าย Cafe Laura bar & restaurant   คาเฟ่สไตล์ยุโรปที่สวยงาม หรูหรา บรรยากาศโรแมนติกท่ามกลางขุนเขาเขียวขจีของมวกเหล็ก สามารถรับประทานอาหาร ดื่มชิลๆ ชมแสงสีทองของพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า แถมยังคัดสรรเมนูเด็ดที่ไม่ได้มีแค่เพียงเครื่องดื่ม หรือขนมหวานให้เลือกชิมอย่างเดียว  แต่ยังมีอาหารไทย ยุโรป ฟิลชั่น และพิซซ่าให้ได้อิ่มท้องหลากหลายเมนู ส่วนมุมนั่งรับประทานอาหาร  มีให้เลือกหลายโซนแถมสวยทุกมุม รับรองว่าถ้ามีรูปร้านนี้อัพลงโซเชียลเพื่อนทัก จนอยากตามมาแน่นอน

 

ร้านตั้งอยู่ห่างจากตัวมวกเหล็กประมาณ 2-3 กิโลเมตร ออกจากตัวมวกเหล็กประมาน 2-3 กม  ตัวร้านเป็นแบบอาคารก่ออิฐสองชั้น ประดับด้วยไม้เลื้อยเขียวขจี สามารถไปยืนโพสต์ท่าเท่ริมกำแพง โซนนี้ที่นั่งจะเป็นแบบโอเพ่นแอร์เปิดรับลม ชมวิวสวนและต้นไม้ทั้งหมดภายในร้านตกแต่งในสไตล์ยุโรป มีพื้นที่กว้างขวาง 

 

เป็นสถานที่เหมาะแก่การถ่ายภาพเช็คอินมาก มีมุมสวยชิคหลายมุม ที่ทางร้านนำพรอพต่างๆมาตกแต่ง ทั้งเก้าอี้ในสวน ตู้โทรศัทพ์สีแดง บ่อน้ำอิฐแบบในนิทาน ท่ามกลางต้นไม้เขียวขจี และดอกหญ้าพริ้วไหว

 

พื้นที่นั่งสวนของอาคาร เปิดโล่งรับแสงจากภายนอก มองเห็นวิวต้นไม้เขียวขจี ยิ่งในช่วงเวลาเย็นที่มีแสงส่องลอดผ่านช่องประตูบรรยากาศสวยงามมาก  สวนพื้นที่ในส่วนของที่นั่งชั้นสอง ตกแต่งได้น่ารักมาก ของประดับออกแนวคอทเทจนิดๆ ทั้งเก้าอี้นั่ง ลวดลายผนัง และภาพวาดที่ประดับ หันมองไปมุมไหนก็น่าเดินไปถ่ายรูปหมด

 

 

มาถึงมุมไฮไลท์ซึ่งเป็นที่นั่งแบบโต๊ะ โซฟา มีเทอเรสตาข่ายยื่นออกไปเพื่อรับลมชมวิวภูเขา และพื้นทีเขียวขจี มุมนี้เหมาะสำหรับมานั่งเล่นในยามเย็นช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน จะมองเห็นพระอาทิตย์ดวงกลมลาลับขอบฟ้า เป็นภาพที่โรแมนติกมาก ที่นั่งโซนนี้หากต้องการมาในช่วงเย็นส่วนใหญ่จะต้องจองล่วงหน้า

 

หรือหากอยากนั่งทานแบบเย็นๆ สามารถมานั่งในโซนห้องแอร์ได้ เป็บที่นั่งแบบห้องกระจกที่สามารถมองเห็นวิวสวนและสนามหญ้ากว้างข้างนอก มาถึงเมนูอาหารกันบ้าง ทางร้านเน้นไปที่อาหารสไตล์ยุโรปหลากหลายเมนู เราสั่ง ยำปลาแซลมอน เนื้อปลาสดรสชาติยำจัดจ้านกลมกล่อม เมนูที่ขาดไม่ได้เมื่อมาร้านนี้ คือ พิซซ่า ที่มีให้เลือกหลายรส เราสั่งพิซซ่าทะเลมาทาน พิซซ่าเป็นแบบแป้งบางกรอบรสชาติดี  ขาหมูเยอรมัน กรอบนอกนุ่มใน มาพร้อมเครื่องเคียงอย่างมันบด กับน้ำจิ้มรสเปรี้ยวช่วยตัดเลี่ยนได้ดีเลยทีเดียว หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีสมาคู่กับขนาชมปังกระเทียมหอยตัวใหญ่มาก ส่วนชีสใส่มาแบบเต็ม

Cafe Laura bar & restaurant

พิกัด : ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี

เวลาเปิดให้บริการ : ทุกวัน 09.30 น. – 21.00 น. 

เฟสบุ๊ค Cafe Laura Bar

 

เที่ยวมวกเหล็ก 1 วัน กับการได้สัมผัสบรรยากาศแบบธรรมชาติ เที่ยวถ้ำสุด unseen ดื่มด่ำไปบรรยากาศท่ามกลางขุนเขา ชมวิวพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า รับรองไม่ผิดหวัง

 

 

 

Tags : , ,

  • บทความที่เกี่ยวข้อง

  • บทความล่าสุด

    บทความแนะนำ

    รีวิวคาเฟ่และร้านอาหาร