กำแพงเพชร เมืองแห่งมรดกโลก คือ นิยามความรู้จักเพียงเล็กน้อยที่มีต่อจังหวัดนี้ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมืองมรดกโลกนั่นหมายถึงอะไร จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีโอกาสรู้จักจังหวัดนี้เพิ่มมากขึ้นจากรีวิวท่องเที่ยวหนึ่งซึ่งสร้างแรงบันดาลใจที่มีต่อที่นี่ได้มากมาย หลังจากอ่านรีวิวจบ เสียงแห่งการเดินทางกระซิบบอกมาว่า อยู่นิ่งไม่ได้อีกแล้ว ต้องไปทำความรู้จักด้วยตัวเอง มาเที่ยวกำแพงเพชรด้วยกัน ที่นี่มีอะไรน่าสนใจฉันจะเล่าให้ฟัง
เป็นทริปที่ใช้เวลาเพียงสั้นๆ 2 วัน 1 คืน เดือนทางในช่วงกลางเดือน ก.ย. ตั้งใจไปหน้าฝนเพราะต้องการเห็นหมอกฝนเยอะๆ จังหวัดกำแพงเพชรอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ออกเดินทางจากกรุงเทพตั้งแต่ 6 โมงเช้า มาถึงอ.คลองลาน ประมาณ 12.00 น. ในเพลนตอนแรกตั้งใจแวะไปเที่ยวน้ำตกคลองลานเป็นอันดับแรก แต่ว่าเมื่อมาถึงฝนตกกระหน่ำไม่มีท่าว่าจะหยุดเลยเปลี่ยนแผนไปยังจุดหมายไฮไลต์ของทริปนั้นคือ ช่องเย็น อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เมื่อมาถึงต้องไปลงทะเบียนแจ้งเรื่องที่พักและขอบัตรผ่านเข้าช่องเย็นณ ที่ทำการอุทยานก่อน จากที่ทำการอุทยานแม่วงก์ต้องขับรถต่อเข้าไปที่ช่องเย็นใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ผ่านเส้นทางที่คดเคี้ยวเล็กน้อย รวมถึงผ่านจุดชมวิวทะเลหมอกต่างๆ เริ่มจากจุดแรก คือ จุดชมวิวกิ่วกระทิง ตามป้ายบอกว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นแต่เรามาถึงในช่วงบ่ายก็สวยไม่แพ้กันเพราะมีหมอกให้เราดูด้วย จุดชมวิวนี้อยู่ริมถนนจอดรถแล้วชมวิวซึ่งอยู่ตรงหน้า มองเห็นสายหมอกตรงหน้า มาเที่ยวหน้าฝนในยามบ่ายเช่นนี้จึงไม่ยากนักที่เราจะเห็นหมอกที่เกิดจากฝนที่เพิ่งตกลงมาและหยุดไปได้ไม่นาน โชคดีแท้ที่ฝนหยุด
เดินลงไปเก็บบรรยากาศข้างล่างบ้างผ่านต้นหญ้ารกนิดหน่อย
สายหมอกคลอเคลียตามไหล่เขากลมกลืนกับไปกับต้นไม้และผืนป่า เป็นความลงตัวที่ฉันมองแล้วรู้สึกว่าเค้าทั้งสองเกิดมาเพื่อเป็นมิตรกัน ผืนป่าที่แม่วงก์ยังคงมีความอุดสมสมบรณ์ของธรรมชาติ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านา นานาชนิด โดยเฉพาะนกเงือกสัตว์ป่าหายาก ตอนที่นั่งรถผ่านเส้นทางอันคดเคี้ยวก่อนถึงจุดชมวิวกิ่วกระทิง พวกเรายังเห็นสัตว์ป่าไม่แน่ใจว่าเป็นตัวอะไรวิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถเราไป ที่นี่ยังคงมีความบริสุทธิ์อยู่มากมาย
เป็นภาพที่ยืนมองเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกเบื่อ สายหมอก ต้นไม้ อากาศดีๆในวันนั้น นึกถึงทีไรก็ยังมีความสุข แต่เราจะมีโอกาสได้เห็นภาพแบบนี้ที่แม่วงก์ไปอีกนานเท่าไหร่กันน่ะ
ไม่ใช่แค่จุดชมวิว แต่เรายังสามารถแวะเก็บภาพสายหมอกได้ตลอดทางที่นั่งรถผ่าน
มาถึงจุดชมวิวต่อไป จุดชมวิวขุนน้ำเย็น แค่ตรงจุดจอดรถก็เห็นหมอกหนาลอยอยู่ไกลๆ แต่ถ้าอยากเห็นเต็มตามากขึ้นต้องเดินขึ้นไปอีกซักนิดยังศาลาชมวิวซึ่งอยู่้ข้างบน
ศาลาชมวิว มีที่นั่งพักเพลินๆ มองเห็นวิวทะเลหมอกกันแบบชัดเต็มตากันเลยทีเดียว
สายหมอก ณ จุดชมวิวขุนน้ำเย็น หนามาก จุดชมวิวตรงนี้เป็นจุดกางเต้นท์อีกจุดหนึ่งของ อช แม่วงก์ มีห้องน้ำอำนวยความสะดวกให้ แต่ในส่วนของอาหาร น้ำดื่มต้องเตรียมมาเองค่ะ
สายหมอกหนายังคงมีให้เห็น หันมองนาฬิกาอีกครั้งบ่ายสามโมงกว่าแล้ว ไปกันเถอะได้เวลาไปยังที่พักของเราแล้ว ณ ช่องเย็น
มาถึงช่องเย็นแอบตกใจเล็กน้อยในหน้าฝนไม่คิดว่าเจอรถของนักท่องเที่ยวมากางเต้นท์หลายคันเลยทีเดียว
ฉันจองบ้านพักไว้ 2 หลัง คือ ช่องเย็น 1 และ 2 บ้านพักเป็นแบบเรือนแถว นอนได้หลังละ 6 คน มีเครื่องนอน ที่ทำน้ำอุ่น ด้านหลังมีมุมเล็กๆ ให้ทำครัวด้วย ราคาหลังละ 1500 บาท บ้านพักของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ บริเวณช่องเย็น จะมีเพียง 4 หลังเท่านั้นค่ะ สามารถจองได้ที่เว็บไซต์ของอุทยานแห่งชาติได้เลย ไฟฟ้ามีให้ใช้ตั้งแต่ 5 โมงเย็น – 3 ทุ่ม หากมาเที่ยวหน้าฝนระวังตัวคุ่นด้วยเพราะเยอะมากและก็มีทากเล็กน้อย อย่าลืมเตรียมยากันแมลงมาด้วย เพื่อนร่วมทริปโดนกัดไปหลายแผล
ช่องเย็นไม่มีร้านอาหารขายของใดๆ ทั้งสิ้นต้องเตรียมอาหารและน้ำดื่มมาเองค่ะ คณะฉันเตรียมมาพร้อมเป็นเมนูสุกี้ร้อนๆ พอช่วยคลายความหนาว
ช่องเย็น ชื่อก็บอกแล้วว่า อากาศเย็นแค่ไหน อุณหภูมิเฉลี่ยของที่นี่ทั้งปีไม่เกิน 20 องศา มีลมพัดผ่านตลอด เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาแคมปิ้ง ชมทะเลหมอก สูดอากาศบริสุทธิ์ ช่องเย็นเป็นจุด ดูนกที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ฉันเห็นนักดูนกมาตั้งเลนส์อันบะเร้อเล็งถ่ายนกกันหลายคนทีเดียว แล้วถ้าไม่มีป่าแม่วงก์ในบางส่วนนกเหล่านี้จะอยู่อย่างไรละ
บรรยากาศในยามเช้าของช่องเย็น ที่นี่คือ จุดสูงสุดของถนนคลองลาน – อุ้มผาง ตั้งอยู่บริเวณหน้าผาซึ่งอยู่ระหว่างเขาซึ่งทำให้บริเวณนี้มีสายลมพัดผ่านตลอดเวลา จึงถูกขนานนามว่า ช่องเย็น เข้าวันใหม่กับสายหมอกที่ปกคุลมทั่วพร้อมสายฝนเบาๆบริเวณช่องเย็น ตอนแรกตั้งใจจะไปดูทะเลหมอกที่จุดชมวิว ผาสวรรค์ แต่ก็อดไปเพราะฝนตกตลอด
9 โมงเช้าในวันใหม่ ล้อหมุนไปยังสถานที่ต่อไป น้ำตกคลองลาน ณ อุทยานแห่งชาติคลองลาน ฝนก็ยังคงตกไม่ยอมหยุด อยากเดินเข้าไปใกล้น้ำตกให้มากกว่านี้ แต่ก็ทำได้แค่มองไกลๆเก็บภาพมาได้เพียง 2-3 ภาพ เพราะสายน้ำที่ตกลงมาค่อนข้างแรงกระเด็นกระจายไปโดยรอบ นอกจากสายฝนแล้วยังได้รับละอองน้ำจากน้ำตกไปเต็มๆ
เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองแวะรับประทานอาหารกลางวัน ก็ไปต่อยังสถานที่สุดท้าย ตามชื่อที่เคยได้ยินมา กำแพงเพชรเมืองแห่งมรดกโลก ณ อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก เสียค่าเข้าชมผู้ใหญ่คนละ 20 บาท พื้นที่ของอุทยานประวัติศาสตร์ ฯ มีหลายจุดค่ะ คณะของฉันเลือกมาชมอุทยานที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองใกล้กับศาลหลักเมืองค่ะ ซึ่งมีโบราณสถานที่สำคัญ คือ วัดช้างล้อม วัดพระแก้ว วัดพระธาตุ โบราณสถานแห่งแรกที่แวะ คือ กลุ่มโบราณสถานวัดพระแก้ว ในภาพนี้คือ พระเจดีย์ช้างเผือก เป็นเจดีย์ทรงระฆัง บนฐานสี่เหลี่ยม หน้ากระดานประดับด้วยช้างปูนปั้นครึ่งตัวจำนวน 32 เชือกโดยรอบ และแปลกกว่าเจดีย์ทรงระฆังและช้างล้อมอื่น ๆ คือบนฐานสี่เหลี่ยมยังมีเจดีย์ ประจำมุมทั้ง 4 มุม ด้านหน้าพระเจดีย์ช้างเผือก ปรากฏโกลนศิลาแลงรูปพระบาท ขนาดใหญ่ ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าพระเจดีย์ช้างเผือก ซึ่งคาดว่าคือพระอัฏฐารศ พระพุทธรูปสูง 18 ศอก ที่มักนิยมสร้างในกรุงสุโขทัย
ร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ ที่ยังคงย้ำเตือนให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรื่องราวแห่งอดีต
วัดพระแก้ว กับภาพพระพุทธรูปใน 2 อิริยาบท 2 แบบ พระนอนและนั่งสมาธิ
เดินชมไปเรื่อยๆมาถึงโบราณสถานสุดท้าย วัดพระธาตุ ซึ่งลักษณะของโบราณสถานเป็นเจดีย์ทรงกลมหรือทรงระฆังสูงใหญ่ก่อด้วยอิฐ องค์เจดีย์ตั้งอยู่บนฐานแปดเหลี่ยมที่ซ้อนลดหลั่นกันหลายชั้น
จบทริปทำความรู้จักกับ เมืองมรดกโลก ชมสายหมอก ณ จังหวัดกำแพงเพชร แม้การเดินทางในครั้งนี้จะมีอุปสรรคในเรื่องของฟ้าฝนบ้างซึ่งอาจทำให้ฉันอาจตกหล่นในการการเดินทางบางจุดที่อยากจะไป โลกของป่าที่สมบูรณ์ อากาศเย็นสบาย ที่ช่องเย็น แม่วงก์ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์และความเจริญของเทคโนโลยีเข้ามากร้ำกราย ทำให้ได้ใ้ช้เวลานอนฟังเสียงฝน เสียงสายลมพัดกระทบต้นไม้ได้ชัดขึ้น ความรู้สึกของการได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เกิดขึ้นเต็มๆ และแน่นอนฉันตั้งใจไว้แล้วต้องมีครั้งที่สองอีกเป็นแน่ อุทยานแม่ชาติแม่วงก์ กำแพงเพชร
โปรแกรมท่องเที่ยวกำแพงเพชร 2 วัน 1 คืน ตามทริป
วันแรก
06.00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพ
14.00 น. ถึงอุทยานแห่งชาติแม่วงศ์ ระหว่างทางก่อนเข้าที่พักแวะชมวิวตามจุดต่างๆ
16.00 น. เข้าสู่ที่พัก พักบ้านพักอุทยานแบบบ้านเรือนแถวบริเวณช่องเย็น
18.00 น. รับประทานอาหารเย็น
วันที่สอง
05.00 น. ตื่นเต่เช้าเพื่อไปยังจุดชมวิวทะเลหมอกในยามเช้าจุดชมวิวภูสวรรค์ เดินเท้าขึ้นไป 300 เมตร
09.00 น. รับประทานอาหารเช้า แวะน้ำตกคลองลาน ออกเดินทางต่อไปยัง อุทยานประวัติศาตร์กำแพงเพชร
14.00 น. ถึงอุทยานอช. ประวัติศาตร์กำแพงเพชร อุทยานที่ได้รับการประกาศให้เป็น “มรดกโลก” ร่วมกับกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย รับประทานอาหารกลางวัน
17.00 น. เดินทางกลับกรุงเทพ แวะรับประทานอาหารเย็น
22.00 น. ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
Tags : ช่องเย็น, ที่เที่ยวกำแพงเพชร, น้ำตกคลองลาน, อุทยานประวัติศสาตร์กำแพงพชร, อุทยานแห่งชาติแม่วงก์, เที่ยวกำแพงเพชร, แม่วงก์