หาดเจ้าหลาว ชายหาดยอดนิยมแห่งจันทบุรี ทะเลที่นี่อาจไม่ได้มีน้ำสวยใส หาดทรายขาวเหมือนที่อื่น แต่สิ่งหนึ่งที่หาดเจ้าหลาวมีและทำให้เราเลือกมาพักผ่อนเพราะ ที่นี่มีบรรยากาศที่มาแล้วรู้สึกไม่วุ่นวาย สิ่งแวดล้อมรอบข้างยังคงมีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก ฉันไม่เคยมาแวะมาหาดเจ้าหลาวแบบจริงจัง ซักที อย่างมากแค่ผ่าน การมาเที่ยวครั้งนี้เลยตั้งใจนอนพักกินบรรยากาศซัก 1 คืน เน้นหาที่พักสวยติดทะเล ในบรรยากาศสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม อยากแวะทานอาหารทะเลริมหาด และเน้นเที่ยวสถานที่เที่ยวรอบหาดที่ใกล้เคียงแบบพอประมาณ
มาถึงหาดเจ้าหลาวเกือบเที่ยง อาหารมื้อกลางวันของเราก่อนเข้าที่พักเลยแวะทานกันริมหาดบรรยากาศของหาดเจ้าหลาวคล้ายกับบางแสนดีๆนี่เอง มีกิจกรรมชายหาด อย่างเช่น บานาน่าโบ๊ท มีบริการเช่าห่วงยางเล่นน้ำ ซึ่งแน่นอนบรรยากาศแบบนี้เหมาะสำหรับมาพักผ่อนแบบครอบครัว ผู้ใหญ่หาอะไรทานริมหาดส่วนเด็กเล่นน้ำวิ่งเล่นริมหาดไป
ร้านริมหาดเจ้าหลาวลักษณะกระท่อมเรียงรายไปตามชายหาด เราเลือกทานที่ร้านทะเลเดียว เพราะเห็นมีหลายเสียงบอกว่าร้านนี้โอเค เมนูอาหารที่สั่ง มีข้าวผัดปูขนาดกลาง แต่มาจริงคือ จานใหญ่มากเนื้อปูมาแบบเน้นๆ ถือว่าอร่อยสอบผ่าน หอยนางรมสดพร้อมเครื่องเคียง หอยสดแต่ยังไม่หวานมากรสชาติปานกลาง ปลากระบอกทอดกระเทียมตัวใหญ่ไข่มาเต็มปลาสดเช่นกัน และยำไข่แมงดา อันนี้รสชาติปานกลาง เช็คบิลทั้งหมดพร้อมน้ำดื่มประมาณ 500 กว่าบาท ถือว่าไม่แพงมากถ้าเทียบกับเมนูที่สั่งไป
อิ่มท้องช่วงบ่ายเข้าไปเช็คอินยังที่พักก่อนเดินทางก็เลือกที่พักแถวหาดเจ้าหลาวซึ่งมีเข้าตาอยู่หลายแห่ง สุดท้ายเลยมาลงเอยที่แซนด์ดูนส์ เจ้าหลาวบีช รีสอร์ท ห้องพักของที่นี่มีหลายโซน โดยเราเลือกจองห้องพักแบบ Pool access ในราคา 4,200 บาท (รวมอาหารเช้า) ที่พัก Pool access จะอยู่ตึก B และ C ตั้งขนานกัน มีสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาบข้างทั้ง 2 ตึก
เราพักตึก C ชั้นล่าง ห้องริมสุด ห้องพักชั้นล่างข้อดี คือ ทุกห้องติดสระว่ายน้ำทั้งหมด ประดุจว่าเรามีสระว่ายน้ำส่วนตัวหน้าห้องเราเอง อยากเล่นน้ำเมื่อไหร่ก็เปิดประตูจากระเบียงห้องเดินลงมาเล่นน้ำได้ทันที หรือถ้าไม่อยากเล่นน้ำก็นั่งเล่นชิลริมระบียง มองสระไปก็ย่อมได้
ภายในห้องกว้างขวาง ตกแต่งแบบเรียบเก๋ มีเตียงนอน โซฟานั่งพักผ่อน ห้องอาบน้ำและห้องแต่งตัว แยกเป็นสัดส่วนออกจากกัน
ห้องน้ำสุดว้าว มีทีวีจอเล็กสำหรับนั่งดูไปด้วยระหว่างปลดปล่อยธุระส่วนตัว
เราเดินไปด้านหน้าตึกเพื่อไปรับ welcome drink ด้านหน้ามีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ติดหาดเจ้าหลาว มองเห็นวิวทะเลอยู่เบื้องหน้า ตามที่บอกว่าทะเลของหาดเจ้าหลาวอาจไม่ใช่ทะเลที่สวยงามเทียบเท่าที่อื่น แต่ในเรื่องของบรรยากาศเรื่องความสงบที่นี่ไม่แพ้ใคร ยิ่งเลือกพักที่พักสบายๆ ด้วยแล้วยิ่งเลิศ
ข้างสระน้ำมีร้านอาหารให้บริการ มีที่นั่งรับประทานอาหารแบบแนบชิดทะเลหลากหลายโต๊ะ เรารับ welcome drink เป็นน้ำส้ม จิบแก้กระหาย ดับร้อนได้ดีเลยทีเดียว
เก้าอี้ชายหาดที่ออกแบบมาให้ตั้งอยู่ท่ามกลางสระน้ำอย่างเก๋ไก๋ นั่งเล่นตรงนี้ก็สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ แต่คงต้องรอให้แดดร่มลมตกซักหน่อย รวมถึงมุมพักผ่อนริมสระมีให้หลายมุมตามชอบ
เพลิดเพลินไปกับที่พัก นอนหลับพักผ่อนจากการเดินทางแต่เช้า ประมาณ 4 โมง รอให้แดดร่มซักนิดนึง เราก็ไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง จากที่พักเราไม่ถึง 10 นาที ขับเรียบหาดไปยังเส้นทางเดียวกับแหลมเสด็จ เพื่อไปยัง ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อไปเดินยังเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่ทางศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ จัดทำขึ้นนั้น โดยเส้นทางเดินมีระยะทาง 1.6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินชมประมาณ 45 นาที – 1ชั่วโมง เป็นสะพานไม้ระแนง ทอดยาวเข้าไปในดงป่าชายเลน ซึ่งเปิดให้ชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น.ไม่มีค่าเข้าชม
ในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติมีพรรณไม้หลากหลายชนิด เช่น โกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ โปรงแดง ป่าสักดอกแดง ป่าสักดอกขาว ลำพูทะเล แสมทะเล เป็นต้น ต้นไม้แต่ละชนิดจะมีป้ายบอกชื่อ ลักษณะ และสรรพคุณของไม้นั้นๆ ไว้ด้วย รวมถึงเราจะได้เห็นสัตว์น้อยแห่งป่าชายเลน อย่างเช่น ปลาตีน ปูแสม วิ่งไปมา รวมถึง บรรยากาศในการเดินชมค่อนข้างร่มรื่นและเย็นสบายด้วยต้นไม้ที่ปกคลุมตลอด 2 ข้างทาง
ความรู้สึกที่เรามีต่อภาพที่เห็นของที่นี่ในตอนแรกก็คือ คงเป็นเหมือนเส้นทางเดินท่ามกลางป่าชายเลนทั่วไป อากาศคงร้อนอบอ้าว แต่เมื่อมาถึงไม่เป็นเช่นนั้น ถึงแม้มาในช่วงเวลา 4 โมงเย็น ซึ่งตามจริงแล้วในฤดูร้อนเวลานี้แดดยังไม่ร่มมากยังต้องมีความรู้สึกร้อนจากแสงบ้าง ตรงกันข้ามอากาศเย็นสบายด้วยร่มเงาของต้นไม้ที่ปกคลุมตลอดทาง มีลมพัดมาเป็นระยะ เป็นการเดินชมป่าชายเลนที่เรียกว่า ร่มรื่นที่สุดตั้งแต่เคยเดินมา มีพันธุ์ไม้ป่าชายเลยเยอะมากให้ชมแบบไม่เบื่อ เรียกว่าค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งระหว่างทางเดินจะมีศาลาให้ความรู้ทั้งสิ้นจำนวน 10 ศาลา ระหว่างทางเราจะเจอเรื่องราวของอ่าวคุ้งกระเบนที่เขียนอธิบายไว้ตามศาลาต่างๆ
มาถึงทางแยกซึ่งมีป้ายกำกับไว้ให้เราเลือกว่าจะเดินไปยังเส้นไหน ซึ่งแต่ละเส้นทางจะเชื่อมต่อกันทั้งหมด
เราเลือกเดินมาทางซ้าย ซึ่งเส้นทางนี้เดินตรงไปสุดท้ายจะเจอกับเวิ้งอ่าวกว้างใหญ่ของอ่าวคุ้งกระเบน นั่งพักชมวิวกันซักครู่
เดินต่อไปเราก็จะได้พบเห็นกับภาพสุดอัศจรรย์นั่นก็คือ รากไม้ขนาดใหญ่ที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ ริมทางเดิน ซึ่งเราสามารถเดินบนรากไม้ที่ค่อนข้างใหญ่และแข็งแรงเพื่อเข้าไปสัมผัสมันได้อย่างใกล้ชิด ในช่วงสุดท้ายที่เราเดินจะได้เห็นภาพรากไม้แบบนี้ตลอดทาง
ศาลานี้เรียกว่า ศาลาพะยูน ศาลานี้เป็นจุดที่มีอนุสรณ์ จ้าวแห่งคุ้งกระเบน คือ พะยูน ซึ่งในอดีตที่อ่าวคุ้งกระเบน เคยมีพะยูนอาศัยอยู่เพราะเป็นบริเวณที่มีหญ้าทะเล ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ของพะยูน ต่อมาหญ้าทะเลหมดไป ทำให้พะยูนก็หายไปด้วย พะยูนตัวสุดท้ายที่พบบริเวณอ่าวคุ้งกระเบนคือเมื่อปี พ.ศ. 2533 จากนั้นก็ไม่มีพะยูนให้เห็นอีก จนกระทั่งทางศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนได้มีการปลูกหญ้าทะเล เช่น หญ้าผมนาง และหญ้าชะเงาใบขาว เพื่อให้พะยูนหวนกลับมาที่อ่าวคุ้งกระเบนอีกครั้ง ซึ่งพะยูน จะมีอีกชื่อ คือ หมูดุด เป็นภาษาพื้นบ้านที่เรียก เพราะมีลักษณะคล้ายสัตว์บก เวลากินอาหารคล้ายวัวเล็มหญ้า เรียกว่าดุด บางคนอาจเรียก หมูน้ำ หรือ วัวทะเล พะยูนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เราจึงไม่ควรเรียกว่า ปลาพะยูน แต่ควรเรียกว่า พะยูน
จากศาลาพะยูนก็มาถึง สะพานแขวน ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายภาพที่สวยงาม จะเรียกได้ว่าไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นทางศึกษาธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่มีจุดถ่ายภาพเยอะแยะมากมาย ระหว่างทางที่เราเดินชมยังเห็นมีนักศึกษามาถ่ายรูปรับปริญญาด้วย เพราะสถานที่มีแสงเงาที่สวยงาม และธรรมชาติรอบด้านก็ค่อนข้างแปลกตาไปด้วยพันธุ์ไม้และรากไม้ที่โผล่มาพ้นน้ำ ถ่ายภาพออกมาแล้วคงจะสวยงามน่ามอง
หอดูเรือนยอดไม้ เป็นหอที่ทำด้วยไม้ มีความสูงประมาณ 15 เมตร มีบันไดขึ้นลงเป็นแบบบันไดเวียน มีจุดพักในแต่ละชั้น และมีระเบียงทำเป็นที่นั่งพัก ชั้นบนสุดมีลักษณะเป็นระเบียงห้าเหลี่ยม มีที่นั่งสำหรับชมวิวอ่าวคุ้งกระเบน วิวป่าชายเลนจากมุมสูง และถ้าโชคดีอาจได้เห็นนกที่ อาศัยอยู่ในแถบอ่าวคุ้งกระเบนที่มีมากกว่า 120 ชนิด เช่น นกยางเปียง นกยางเหนียว นกจาบคาเล็กนกกินเบี้ยว
สะพานไม้ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณทางออก ประมาณห้าโมงกว่าเริ่มมีแสงอุ่นในยามเย็นสาดส่องลงมา
เราขับรถย้อนกลับไปยังเส้นทางเดิมผ่านหาดเจ้าหลาว ผ่านหน้าที่พักแซนด์ดูนส์ เพื่อไปชมบรรยากาศยามเย็นที่สะพานเฉลิมพระเกียรติหรือ สะพานปากน้ำแขมหนู ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำที่มีความสวยงามอีกสะพานหนึ่ง เป็นจุดชมวิวทะเลและวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้าน ยามเย็นเราจะเห็นคนมาปั่นจักรยานและตกปลากันที่ริมสะพานแห่งนี้
ริมสะพานมีสวนสาธารณะขนาดย่อมและศาลาพักผ่อน มีจุดถ่ายภาพเก๋ๆ ไม่ว่าจะเป็น หลักกิโลยักษ์ ซึ่งบอกระยะทางจากจุดนี้ไปยังสถานที่ต่างๆ ใกล้เคียงว่าประมาณกี่กิโลเมตร ซึ่งจากตรงนี้ไปหาดเจ้าหลาวที่เราพักประมาณ 4 กิโลเมตร เท่านั้น หากมาในช่วงเย็น ลมพัดเข้ามาตลอดเย็นสบายมาก
กลับที่พักเพื่อพักผ่อน ตื่นมาตอนเช้าเพื่อรับประทานอาหารเช้า ห้องอาหารตั้งอยู่ด้านหลังตึกที่พัก กว้างขวาง อาหารมีไลน์อาหารให้เลือกเยอะ รสชาติอาหารก็ค่อนข้างอร่อยเลยทีเดียวค่ะ
หลังจากทานอาหารเช้าก็เดินเล่นพักผ่อนในที่พักก่อนเช็คเอาท์ตอนเที่ยง สั่งแตงโมปั่นรับประทานให้เย็นใจ ถือว่าเป็น 2 วัน ที่เน้นนอนเล่น ผ่อนคลาย แต่ก็ไม่ขาดเรื่องเที่ยวซึ่งเติมเต็มให้การเดินทางมีสีสรรมากขึ้นตามที่ตั้งใจไว้ หาดเจ้าหลาวอาจไม่ใช่ทะเลที่สวยโดนใจใคร แต่ถ้าได้มาพักซักหนึ่งคืน รับรองว่าโดนใจ ทั้งในเรื่องบรรยากาศของชายหาดที่ค่อนข้างสงบ อาหารทะเลที่สด ราคาย่อมเยาว์ รสชาติถูกปาก เหมาะแล้วสำหรับการแพคกระเป๋ามาพักในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ให้ร่างกายและหัวใจสดชื่นขึ้น
ที่พักหาดเจ้าหลาว เพิ่มเติม คลิ๊ก ที่พักหาดเจ้าหลาว