วังน้ำเขียว 2 วัน 1 คืน Update 8 จุดเที่ยวใหม่ สุดว้าว

วังน้ำเขียว อีกอำเภอหนึ่งในนครราชสีมา ที่มีดีทั้งบรรยากาศของความเงียบสงบ อากาศสดชื่นบริสุทธิ์ วิวขุนเขาที่สวยงาม นอกจากสวนผักปลอดสารพิษ สวนดอกไม้  แต่ก่อนอำเภอนี้อาจไม่ได้มีจุดท่องเที่ยวมากนัก ทำให้เงียบหายจากเพลนท่องเที่ยวของเราไปชั่วขณะ แต่วังน้ำเขียวในวันนี้ สามารถสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวอย่างเราอยากกลับไปอีกครั้งในรอบหลายปี  เพราะมีที่เที่ยวใหม่เกิดขึ้นมากมาย ทั้งสวนดอกไม้สวยๆ สถานที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คาเฟ่วิวดี ยิ่งในช่วงฤดูหนาวอากาศเย็นสบาย แถมเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพอีกด้วย มาพักแบบ 2 วัน 1 คืน เที่ยวได้แบบเต็มอิ่ม ชาร์ตแบตกลับบ้านได้แบบเต็มแน่นอน

 

พุทธยานอุทยานวังน้ำเขียว

เริ่มกันที่สถานที่แรก พุทธยานอุทยานวังน้ำเขียว หรือ คำชะโนดวังน้ำเขียว ตั้งอยู่ในอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา สถานที่เที่ยวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธาในความเชื่อเรื่องพญานาค บรรยากาศโดยรอบสงบร่มรื่น มีพื้นที่จุดสักการะบูชาหลายจุด ทั้งองค์ปู่อนันตนาคราช องค์ปู่ศรีสุทโธ แม่ย่าศรีปทุม พญาอนันตนาคราชองค์ใหญ่สีรุ้ง เด่นเป็นสง่ากลางวัดสวยงามน่าเกรงขาม สามารถลอดท้องพญานาคเพื่อความเป็นสิริมงคล รวมทั้ง ถ้ำนครบาดาล ที่ประดับไฟหลากสีสลับไปมางดงาม ภายในถ้ำมีแม่ยาศรีนคราบาดาล  5 เศียร ที่สามารถขอพรในเรื่องต่างๆ ทั้งความรัก เงินทอง หน้าที่การงาน  

 

 

เมื่อมาถึงลานจอดรถ จากนั้นเดินเข้ามาประมาณ  200 เมตร ระหว่างทางผ่านร้านค้า ขายสินค้าชุมชนต่างๆ มาถึงภายในพุทธอุทยาน ฯ ที่บรรยากาศบริเวณด้านหน้า ร่มรื่นสงบ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้ขอพรหลายจุด  ทั้งองค์ปู่อนันตนาคราช องค์ปู่ศรีสุทโธ แม่ย่าศรีปทุม และพระประธานองค์ใหญที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารไม้

 

 

จากนั้นเดินเข้าไปยังถ้ำนครบาดาล เข้าไปในถ้ำรู้สึกได้ถึงความมีพลังและความศักดิ์สิทธิ์แอบขนลุกนิดหน่อย ภายในถ้ำมีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก ประดับไฟหลากสีทั้งสีเขียว สีแดง สีน้ำเงิน สลับกันไปมา ตรงกลางประดิษฐานแม่ยาศรีนคราบาดาล  5 เศียร ที่สามารถขอพรในเรื่องต่างๆ ทั้งความรัก เงินทอง หน้าที่การงาน ถัดไปจากแม่ยาศรีนคราบาดาล  5 เศียร คือ พญานาคีสีขาวขอพรเรื่องเงินทอง

 

 

เดินออกจากถ้ำจะพบกับลานกว้างร่มรื่น ตรงกลางคือ สระน้ำ มีต้นซากุระจำลอง รูปปั้นวารีกุญชรสีชมพู พญาภุชงค์นาคราช เรียกได้ว่ามาที่นี่ จะได้เห็นเชื้อสายของพญานาคหลายแบบที่ไม่รู้จัก

 

 

ถัดจากสระน้ำ คือ พญาอนันตนาคราชองค์ใหญ่สีรุ้ง ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางวัด สวยงามน่าเกรงขาม สามารถลอดท้องพญานาคเพื่อคามเป็นสิริมงคล ในการสักการะและลอดท้ององค์พญานาคให้ตั้งจิตอธิษฐาน และเดินท้องพญานาคให้ครบทุกขด เชื่อกันว่าใครที่ได้ลอดท้องพญานาคจะเป็นโชคดี ประสบความสำเร็จ

 

 

สัมผัสเรื่อง​ราว​เกี่ยวกับ​พญานาค​ ​กราบไหว้​ขอพร​สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ​ให้​จิตใจ​สงบสุข​  คำชะโนด วังน้ำเขียว อีกหนึ่งสถานที่แห่งความเชื่อและความศรัทธา ใครที่มาเที่ยววังน้ำเขียวต้องแวะมาเป็นอย่างยิ่ง

พุทธยานอุทยานวังน้ำเขียว

พิกัด: 377 หมู่ที่1 ตำบล ไทยสามัคคี อำเภอ วังน้ำเขียว นครราชสีมา 30370

เวลาเปิดบริการ : 07:30 น. – 17:30 น.

 

คาโนนะคาเฟ่ แฟ ฟิน ฟาร์ม

มาเที่ยวกันต่อยังเกียวโตแบบมินิ ที่ผสมผสานกับความเป็นธรรมชาติในอำเภอวังน้ำเขียวได้อย่างลงตัว  คาโนนะคาเฟ่ แฟ ฟิน ฟาร์ม  คาเฟ่ที่จำลองบรรยากาศสไตล์หมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณ บ้านชิราคาวาโกะ สะพานแดงนากาบาชิ เสาโทริอิสีแดง แผ่นป้ายขอพรเอมะ สวนไผ่ญี่ปุ่น แถมยังมีชุดยูคากะให้เช่าแบบครบเซ็ท เพื่อเก็บภาพไว้แชร์อวดเพื่อนๆ  ที่ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่นก็ฟินได้ หากมาเที่ยวในช่วงฤดูหนาวยังมีสวนดอกไม้สวยขนาดย่อมให้ถ่ายภาพเคล้าไปกับอากาศเย็นสบาย ได้ฟินไปกับวิวทิวทัศน์ที่แวดล้อมไปด้วยขุนเขา มาพร้อมเมนูทั้งอาหารคาวและเครื่องดื่มให้บริการอีกด้วย

 

 

ภายในคาเฟ่เหมือนเข้ามาอยู่ในเมืองญี่ปุ่น ทั้งร้านขายโซจู หรือเหล้าญี่ปุ่น เป็นซุ้มบ้านไม้ขนาดเล็กน่ารักมาก ถัดไปคือ โคมยักษ์สีแดง ปกติโคมไฟห้อยอยู่บนเพดานหรือเสาสีแดง แต่ของที่นี่ปรับในสไตล์บ้านทุ่งนิดๆ คือ ห้อยบนเสาไม้ไผ่แทน จากนั้นเดินเข้าไปภายในร้านบ้านแบบญี่ปุ่นโบราณ พร้อมมุมนั่งจิบชาแบบเปิดโล่ง

 

 

เดินผ่านสะพานสีแดงขนาดเล็ก จะพบกับการตกแต่งสวนแบบญี่ปุ่นผสมกับแบบไทยธรรมชาติ มีกิมมิค คือ ซุ้มกระท่อมหลังน้อยให้ได้นั่งถ่ายภาพ ติดกันคือ สวนดอกเวอร์บีน่าขนาดเล็ก ที่มีฉากหลังเป็นวิวภูเขาและเสาไม้สีแดง

 

 

มุมต่างๆ ภายในสวน มีทั้งบ้านโบราณแบบญี่ปุ่น  สะพานแดงนากาบาชิ แผ่นป้ายขอพรเอมะ และบ้านที่จำลองจากตัวบ้านในหมู่บ้านชาวาโกะ

 

 

 

นอกจากนี้ภายใน คาโนนะคาเฟ่  ยังมีซุ้มขายอาหาร ร้านกาแฟเครื่องดื่มขาย และร้านขายของที่ระลึกจำหน่ายด้วย  โดยจัดที่นั่งทานภายในซุ้มป่าไผ่ได้กลิ่นอายญี่ปุ่นแต่อยู่เมืองไทย เป็นสถานที่ชิลมากสำหรับคนชอบธรรมชาติลมเย็นล้อมด้วทิวเขา

 

 

คาโนนะคาเฟ่ แฟฟินฟาร์ม 

ที่อยู่ : อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ทางเข้าอยู่ซอยเดียวกับอนามัยไทยสามัคคี ตำบลไทยสามัคคี

เปิดให้บริการ : ทุกวันตั้งแต่เวลา 8:00 – 18:00 น. เข้าชมฟรี

 

ริมลากูน คอฟฟี่ แอนด์เบอเกอรี่

มาเที่ยววังน้ำเขียว หากกำลังมองหาคาเฟ่ วิวสวย เครื่องดื่มดี พื้นที่กว้างขวางผู้คนไม่วุ่นวาย เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อน ทอดอารมณ์มองวิวทะเลสาบที่โอบล้อมด้วยทิวเขาทอดยาวและต้นไม้สีเขียว พร้อมไปกับการจิบเครื่องดื่มแก้วโปรด ริมลากูน คอฟฟี่ แอนด์เบอเกอรี่ เป็นอีกหนึ่งร้านที่ไม่ควรพลาด เมื่อได้แวะมารับรองว่าต้องหลงรักความเป็นวังน้ำเขียวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังให้บริการที่พักในสไตล์แคมปิ้งบรรยากาศดีติดริมทะเลสาบอีกด้วย

 

 

ตัวร้านตั้งอยู่ภายในที่พัก Rim Lagoon Camping เส้นทางเดียวกับโรงคั่วกาแฟ แต่ร้านริมลากูนจะถึงก่อน หากใครได้ผ่านไปมาและไม่เคยรู้จักร้านนี้มาก่อน ต้องสะดุดตากับภาพวิวทะเลสาบที่อยู่ตรงหน้า และอาจมีเลี้ยวเข้ามาชมกันสักหน่อย มาถึงปุ๊บจะเจอกับเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่มด้านหน้า หลังจากสั่งแล้วพนักงานจะให้สัญญานแจ้ง เพื่อมารับเมื่อเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว นอกจากของหวาน ยังมีอาหารคาว ยังเช่นสเต๊ก บาบีคิว ให้บริการอีกด้วย

 

 

ระหว่างรอเครื่องดื่มสามารถหาที่นั่ง เดินเล่น ชมวิว ภายในร้านก่อนได้ บรรยากาศเย็นสบาย มองเห็นทะเลสาบแบบกว้างไกล เหมือนเมืองนอกมาก ที่นั่งมีหลายโซนทั้งแบบโต๊ะเก้าอี้กลางสนามหญ้าสีเขียว หรือจะเป็นที่นั่งแบบโต๊ะญี่ปุ่น พร้อมเบาะนั่งหลากสี ริมทะเลสาบ ตรงนี้ก็ดีไม่น้อย

 

 

ภายในร้านมีความร่มรื่นเย็นสบาย เป็นร้านที่นั่งแล้วไม่อยากลุกออกไปที่ไหนต่ออีกเลย ได้นั่งมองวิวทะเลสาบ ภูเขา ต้นไม้สีเขียว  รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจสุดๆ  เครื่องดื่ม โดยเฉพาะกาแฟ มีกลิ่นหอม รสชาติดี

 

 

ริมลากูน วังน้ำเขียว

ที่อยู่ 333 ซอยไทยสามัคคี 5 อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

โทร  081 611 5515

เฟสบุค  : RimLagoonCamping

 

sunset Lagoon

ช่วงบ่ายแวะมานั่งพักแบบยาวๆ ที่ sunset Lagoon คาเฟ่วังน้ำเขียวริมทะเลสาบ ในบรรยากาศสวนสไตล์อังกฤษ พื้นที่กว้างขวาง มีการจัดสวนให้ถ่ายรูปหลากหลายมุม ให้สายถ่ายภาพได้แชะภาพแบบเต็มอิ่ม รวมทั้งโซนที่นั่งให้นั่งพักผ่อนชมวิวทะเลสาบรับลมเย็น สามารถชมพระอาทิตย์ตกริมทะเลสาบและวิวของขุนเขาได้อย่างส่วนงาม ในส่วนของเมนูมีทั้ง ขนมทานเล่น เครื่องดื่ม กาแฟสดและเบเกอรี่

 

 

ตัวร้านเป็นเรือนกระจกสีขาว พื้นที่ด้านนอกจัดแต่งเป็นมุมที่นั่งด้วยต้นไม้และดอกไม้หลากสี เป็นอีกหนึ่งมุมดีที่เหมาะสำหรับมานั่งถ่ายภาพ  รวมทั้งโต๊ะเก้าอี้ริมทะเลสาบด้านหน้าตัวร้าน ส่วนภายในร้านเป็นแบบห้องแอร์ และเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่ม เบเกอรี่ เราสั่งชาพีชมาทาน รสชาติปานกลาง

 

 

พื้นที่ของร้านส่วนใหญ่เน้นในโซนเอาท์ดอร์ริมทะเลสาบ  มีที่นั่งหลายโซนให้เลือกนั่งทั้งที่นั่งภายในสวนสไตล์อังกฤษ  มีความเขียวขจีและร่มรื่น ร้านนี้มีความดีงามที่พื้นที่ร้านจัดได้กระจายเป็นสัดส่วน ผู้คนไม่แออัดมาก เดินเล่น นั่งเล่น พักผ่อนได้แบบสบายเป็นส่วนตัว

 

 

มุมไฮไลท์ที่ถัดไปจากตัวร้าน  คือ พื้นที่นั่งริมทะเลสาบทั้งโต๊ะเก้าอี้ในร่ม  เก้าอี้และโซฟาริมน้ำ ​ ถ้ามานั่งเล่นช่วงเย็นก็จะเห็นวิวพระอาทิตย์ตก​ เหมือนชื่อร้าน มีเรือเป็ดให้ถีบเล่นด้วยไม่คิดค่าบริการ อยากได้มุมสงบ ชอบถ่ายภาพ ร้านนี้ตอบโจทย์ โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกบรรยากาศดีมาก นั่งชิลปล่อยใจไปกับสายน้ำ รับรองไม่ผิดหวัง

 

 

Sunset Lagoon วังน้ำเขียว
ที่ตั้ง: ห้วยกระบอก อบต.ไทยสามัคคี ไทยสามัคคี ซอย 5 วังน้ำเขียว

เปิดให้บริการ: ทุกวัน 08.30 น. -18.00 น.
โทรศัพท์: 089938 3539

Facebook : CoffeeSunsetLagoon

 

ทุ่งลาเวนเดอร์ 

ช่วง 4 โมงกว่า เราแวะมาที่ ทุ่งลาเวนเดอร์  แห่งเดียวในเมืองไทย  ตั้งอยู่ภายในสวน Chateau Chili ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวไปแชะภาพเพลิดเพลินไปกับทุ่งดอกไม้สีม่วงตระการตาสายพันธุ์ Spanish Eyes จากสเปน แซมด้วยทุ่งคอสมอสสีชมพูสดใส เคล้าแสงสวยสวยในยามเย็น กับบรรยากาศสุดชิลเย็นสบายของวังน้ำเขียว

 

 

การเดินทาง ปักหมุดจาก Google Maps มาได้เลยไม่หลงทางแน่นอน เมื่อมาถึงพื้นที่สามารถจอดรถไว้บริเวณลานจอดรถมีที่จอดกว้างขวางเพียงพอ จากนั้นเดินเข้ามาข้างในสวน เสียค่าบริการเข้าชมคนละ 50 บาท โดยเก็บคูปองไว้แลกน้ำเปล่าได้ 1 ขวด ภายในทุ่งดอกไม้พื้นที่กว้างในระดับหนึ่ง มีการทำซุ้มกระท่อมไม้ไผ่ไว้นั่งพัก และที่นั่งเล่นทั้งเก้าอี้ และที่นั่งฟางหญ้า ติดทุ่งดอกไม้ไว้หลายจุด

 

 

ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพ แนะนำเป็นช่วงเวลาเย็นประมาณ 4 โมง – 5 โมงครึ่ง จะได้แสงอ่อนของพระอาทิตย์ที่ไม่แรงมากจนเกินไป ดอกลาเวนเดอร์ต้นไม่สูงมาก ปลูกเรียงเป็นทิวแถวทอดยาว ภายในทุ่งมีการวางเก้าอี้สำหรับเป็นพรอพถ่ายภาพด้วย

 

 

นอกจากทุ่งดอกลาเวนเดอร์แล้ว ยังมีทุ่งดอกคอสมอสสีชมพูสดใสเบ่งบานสวยงาม ขนาบทั้งสองข้าง ถ่ายกับดอกลาเวนเดอร์แล้วเดินมาถ่ายภาพกับทุ่งดอกคอสมอสต่อได้ 

 

 

สำหรับใครที่อยากมาถ่ายภาพกับทุ่งดอกกลาเวนเดอร์ สอบถามกับทางไร่ว่าดอกไม้น่าจะมีให้ชมกันถึงประมาณมีนาคม หรือไม่ก่อนเดินทางให้สอบทางไปทางสวนก่อน เพราะเพิ่งปลูกปีนี้เป็นปีแรก เป็นทุ่งดอกไม้ที่เดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพมาก ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว เที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์แล้วยังสามารถไปเที่ยวยังจุดอื่นในอำเภอวังน้ำเขียวได้อีกด้วย

ทุ่งลาเวนเดอร์ วังน้ำเขียว  Chateau Chili  

ที่ตั้ง : บ้านสุขสมบูรณ์ ซอย2 ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 18.00 น.

ค่าเข้าชม : 50 บาท สามารถนำคูปองไปแลกน้ำเปล่าฟรี 1 ขวด

โทร  : 063-434-7766

 

The Peace Wild tiny farm

สำหรับที่พักของเราในคืนนี้ ชวนไปเปิดโลกแห่งจินตนาการในเมืองแห่งเทพนิยาย  The Peace Wild tiny farm  ที่พักสไตล์กระท่อมฮอบบิทแสนน่ารัก  สูดอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางขุนเขา อากาศเย็นสดชื่น บรรยากาศส่วนตัวและเงียบสงบ  ถึงแม้ไม่ได้เข้าพักก็แวะมาเที่ยวถ่ายภาพ จิบเครื่องดื่ม ทานอาหาร โดยไม่เสียค่าเข้าชม มีโซนที่จัดไว้สำหรับถ่ายภาพน่ารักเพียบ ส่วนใครอยากแปลงโฉมแต่งตัวให้เข้ากับสถานที่ ยังมีคอสตูมสุดอลังการหลายแบบสำหรับใส่ถ่ายภาพอีกด้วย

 

 

ที่พักตั้งอยู่ในอำเภอวังน้ำเขียว ซึ่งจะอยู่ออกมาในพื้นที่รอบตัวอำเภอพอสมควร การเดินทางเข้ามาในช่วงสุดท้ายจะเป็นถนนดินอาจดูเปลี่ยวนิดหน่อยนะคะ แต่พอมาถึงด้านหน้าที่พัก บรรยากาศเปลี่ยนไปเป็นอีกแบบ มีความตื่นตาเริ่มตั้งแต่ทางเข้าที่ทำเป็นกำแพงหอคอย ปกคลุมด้วยไม้เลื้อยสีเขียว  เหมือนภาพในนิทานเจ้าหญิงเจ้าชายที่เราเคยเห็น ประตูทางเข้าเป็นแบบเหล็กดัดกลมขนาดเล็ก แบบประตูของบ้านฮอบบิท

 

 

บริเวณด้านหน้าเป็นส่วนของห้องสำหรับเก็บชุด  สามารถเข้ามาเลือกดูชุดที่ชอบได้เลยค่ะ สำหรับผู้เข้าพักราคาชุดรวมอยู่ในราคาห้องแล้ว มาเลือกที่ตัวเองชอบได้ แถมจะเปลี่ยนกี่ชุดก็ได้ค่ะ นอกจากชุดยังมีพรอพต่างๆ มากมาย ทั้ง หมวก รองเท้า แบบจัดเต็ม ส่วนใครที่ไม่ได้เข้าพักจะแวะมาเที่ยว หรือมาจิบเครื่องดื่ม ทานอาหาร อยากใส่ชุดแบบเทพนิยายถ่ายภาพ ทางรีสอร์ทคิดราคา ผู้ใหญ่ชุดละ 200 บาท เด็กชุดละ 150 บาท ถ่ายได้ไม่จำกัดเวลา ส่วนตัวเราว่าชุดของที่นี่เป็นชุดที่สภาพค่อนข้างดี เย็บเรียบร้อย แบบชุดน่ารักไม่ค่อยซ้ำใคร ใส่แล้วดูเป็นผู้ดีอังกฤษมาก

 

 

บรรยากาศโดยรอบของที่พัก ตั้งอยู่ในพื้นที่เป็นเนินเขา ที่ลดหลั่นกันไป วิวดีมาก มองจากด้านหน้าจะเห็นโซนต่างๆแบบครบถ้วน ทั้งกระท่อมฮอบบิทกับเพื่อนมนุษย์ต่างดาว ที่ทางรีสอร์ทนำมาประดับไว้แทบทุกจุด ทั้งตัวการ์ตูน ภาพวาด บางจุด เจ้าตัวเอเลี่ยนอาจมีความน่ากลัวเล็กน้อย ดูเป็นดินแดนที่มีความลึกลับนิดๆ

 

 

โซนนี้ คือ บ้านฮอบบิท ที่อยู่ด้านหน้า จัดไว้เป็นมุมถ่ายภาพโดยเฉพาะ ให้ได้เข้าไปชม

 

 

เดินผ่านซุ้มไม้ไผ่เข้าไป จะเป็นโซนของที่พัก และคาเฟ่ ร้านอาหาร ที่ตั้งอยู่ใกล้กัน หลังสีน้ำเงินริมสุด กับหลังที่เป็นบ้านลายอิฐ เป็นร้านอาหารและเคาน์เตอร์ติดต่อ ถัดไป ตั้งแต่หลังสีเขียว คือ บ้านพักแบบฮอบบิททั้งหมด ราคาที่พักในโซนนี้เริ่มต้น ที่ 2,800 – 4,000 รวมอาหารเช้าและชุดใส่ถ่ายภาพ ที่พักมีทั้งแบบบที่พักได้ 2 ท่าน และ 4 ท่าน

 

 

บ้านหลังที่เราพักเป็นบ้านฮอบบิทน้อย หลังละ 2800 บาท พักได้ 2 คน  ภายในห้องพักถึงแม้ไม่กว้างมากแต่ไม่รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ ค่อนข้างสบายมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งแอร์ ทีวี ตู้เย็น เตียงนอนนุ่มนอนสบายมาก ส่วนห้องน้ำก็กว้างสุดๆ นอกจากประตูด้านข้างแล้ว ยังมีประตูวงกลมขนาดเล็ก ที่สามารถเปิดออกไปได้ กลายเป็นมุมให้นั่งถ่ายภาพสวยๆไปอีก

 

 

ส่วนอาหารเช้าของที่พัก จัดมาเต็มมาก โดยปกติแล้วจะจัดเป็นแบบบุฟเฟ่ให้ทานภายในห้องอาหาร แต่ถ้าแขกที่มาพักมีจำนวนน้อย จะจัดเป็นชุดให้แบบที่เห็นในภาพ อาหารมาเต็มมาก ทั้งอเมริกันเบรคฟาสต์ ซุปเห็ด ขนมปัง เนยแยม สลัดผัก ทุกจานใช้วัตถุดิบปรุงสดใหม่ รสชาติอาหารอร่อยมาก ที่อเมซิ่ง คือ ตบท้ายด้วยของหวานแบบไทย แตงโมปลาแห้ง เมนูที่โปรดที่หาทานได้ยาก แต่สามารถทานได้ในที่พักสไตล์แบบนี้

 

 

ส่วนบ้านหลังนี้มีไม้เลื้อยปกคลุม เป็นห้องสำหรับทานอาหาร ทั้งบริการอาหารเช้าสำหรับแขกที่มาพัก และอาหารสำหรับแขกที่แวะเข้ามาเที่ยว สั่งอาหารและเครื่องดื่ม มีโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งทานด้านนอก ส่วนภายในบ้านตกแต่งแบบบ้านฮอบบิท สามารถเข้าไปนั่งทานอาหารและเป็นมุมถ่ายภาพได้ด้วย  มีประตูวงกลมขนาดเล็กสามารถเปิดออกไปข้างนอกอีกฝั่งหนึ่งได้เหมือนภาพยนตร์เรื่องเดอะลอดออฟเดอะริงมากภาพนี้ 

 

 

ด้านหน้าโซนร้านอาหาร มีที่นั่งเล่นแบบตาข่าย ในช่วงเช้า จะมีเจ้าม้าแคระ ที่เลี้ยงในฟาร์มมาเดินเล่นแทะเล็มหญ้า

 

 

มาถึงบ้านฮอบบิทที่จัดให้เป็นโซนถ่ายภาพ ตั้งอยู่ด้านหน้ามีประมาณ 3 หลังค่ะ หลังไฮไลท์ คงเป็นบ้านที่มีต้นไม้และดอกไม้ปกคลุม สามารถเดินขึ้นไปนั่งถ่ายภาพบนเก้าอี้ ซึ่งตั้งอยู่บนหลังคาได้

 

 

โซนด้านหน้าบริเวณกำแพงหอคอย  ยังมีมุมให้ถ่ายภาพได้หลายจุด ยิ่งช่วงเช้าเวลาแสงส่องผ่านประตูเข้ามา คือ สวยมาก จุดนี้มีซุ้มรังนก ถัดไป คือ อีกจุดถ่ายภาพเป็นหอคอยกำแพงอิฐ ด้านหลังมีภาพวาดมนุษย์ต่างดาวด้วย

 

 

พื้นที่ด้านในสุดของที่พัก คือ สวนดอกดาวเรือง  มีทางเดินเล็กๆผ่านทุ่งดอกไม้ และโซฟาแบบแขวนให้ได้นั่งถ่ายภาพ เรียกได้ว่า เป็นสถานที่ ที่เป็นทั้งที่พัก ร้านอาหารขนาดเล็ก และพื้นที่สำหรับคนรักการถ่ายภาพ ที่จัดเต็มพรอพ และมุมต่างๆ ให้ได้ถ่าพภาพเกือบทุกจุด มาที่นี่ที่เดียวจบเลยค่ะ ได้พักผ่อนสูดอากาศดีๆ ที่ค่อนข้างเงียบสงบมาก และที่ประทับใจสำหรับอีกหนึ่งเรื่อง คือ เจ้าของที่พักเอาใจใส่ลูกค้า รวมถึงพนักงานให้บริการดีมากค่ะ ไว้มีโอกาสได้ไปวังน้ำเขียวจะกลับไปพักอีกแน่นอน

 

 

The Peace Wild tiny farm

ที่อยู่ : 156 หมู่ 12 บ้านวังไผ่ อำเภอวังน้ำเขียว นครราชสีมา 30370

โทร 064 479 3995

ติดต่อสอบถามห้องพัก  Line ID : tpw56

Facebook : thepeacewildtinyfarm

สำหรับการให้บริการในส่วนของการถ่ายภาพ ร้านอาหาร เครื่องดื่ม สำหรับลูกค้าทั่วไปที่ไม่ได้เข้าพัก ให้บริการในวันเสาร์ – อาทิตย์

 

BLISS TIME CAFE 

 

เช็คเอาท์จากที่พัก ไปต่อยัง BLISS TIME CAFE คาเฟ่โทนสีดำเรือนกระจกในสไตล์โมเดิร์นลอฟท์  พร้อมวิวภูเขาที่สวยงามด้านหลังร้าน  พิกัดของร้านตั้งอยู่ริมถนนสายหลักเส้น 304  ฝั่งเดียวกับโรงพยาบาลวังน้ำเขียว ตัวร้านมี 2 ชั้น ตกแต่งในแต่ละมุมน่านั่งมาก ใช้เฟอร์นิเจอร์และของประดับผสมผสานหว่างสไตล์ลอฟท์และวินเทจได้อย่างลงตัว เป็นร้านกาแฟที่มองจากภายนอกอาจไม่สะดุดตามาก แต่เมื่อเข้าไปภายในร้าน คือ ตกแต่งสวยงามดีสุดๆ  

 

 

ภายในร้านใช้โทนสีขาวดำ เน้นโครงเหล็กและอิฐเปลือยแบบดิบ เพิ่มความซอฟท์และอบอุ่นด้วยโต๊ะเฟอร์นิเจอร์ไม้และโซฟา เพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้สีเขียวมาประดับ ส่วนเมนูเน้นเครื่องดื่มและเบเกอรี่  เราลองสั่งกาแฟส้ม คือ รสชาติดีมาก กาแฟคั่วมาไม่เข้มมากจนเกินไปผสมกับน้ำส้มสดเน้นว่าสดจนได้กลิ่นส้มโชยเข้ามาในจมูก ดื่มแล้วสดชื่นมาก  ส่วนข้างร้านเป็นร้านอาหารครัววังตาล ซึ่งคือเจ้าของเดียวกัน ใครอยากทานของคาวสามารถสั่งอาหารมารับประทานได้

 

 

ส่วนชั้นสอง ตกแต่งให้ฟีลเหมือนนั่งเล่นอยู่ในห้องใต้หลังคาในบ้านส่วนตัว มีกล้องส่องทางไกลสำหรับชมวิวด้วย 

 

 

ส่วนบรรยากาศที่น่าประทับใจ คงเป็นมุมหลังร้าน ที่มองเห็นภูเขาของอุทยานแห่งชาติทับลานได้แบบพาโนรามา มองแล้วผ่อนคลายสบายตาสุดๆ ด้านข้างมีผนังกำแพงอิฐ ประดับด้วยต้นเคคตัส ให้ได้ยืนถ่ายภาพแบบเท่ๆ เป็นอีกหนึ่งร้านกาแฟในวังน้ำเขียว ที่เหมาะสำหรับมาแวะพักสูดอากาศบริสุทธิ์ ชมวิวให้ผ่อนคลายหลังจากขับรถมาอย่างยาวนาน เพราะก่อนเริ่มเที่ยวยังจุดต่างๆ ในอำเภอไทยสามัคคี ต้องผ่านร้านนี้ก่อน

 

 

Blisstime cafe วังน้ำเขียว

พิกัด 602 หมู่3 ถนน304 ตำบล ไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว นครราชสีมา

เปิดให้บริการ  ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น.  – 19.00 น.

Face book : blisstimecafe

 

วัดบุไผ่

ก่อนกลับกรุงเทพ แวะไปที่ วัดบุไผ่  ทางเข้าวัด ตั้งอยู่ตรงต้นซอยบ้านสามัคคี ตรงข้ามกับตลาดชุมชนวังน้ำเขียว ภายในวัดมีรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ องค์ใหญ่สีทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก  สำหรับองค์หล่อหลวงพ่อคูณเป็นรูปหล่อเหมือน หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 18 เมตร  จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์เพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงนักท่องเที่ยวมากราบไหว้สักการะเพื่อเป็นศิริมงคลในการเดินทาง ขอพรให้แคล้วคลาดปลอดภัย

 

 

วัดบุไผ่ เปรียบเสมือนเป็นวัดบ้านไร่แห่งที่ 2 โดยหลวงพ่อคูณได้บริจาคเงินเพื่อใช้ในการก่อสร้างวัดบุไผ่ จำนวนกว่า 30 ล้านบาท ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงพัฒนาบูรณะก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง ทั้งสร้างกำแพงวัด  ซุ้มประตู  ทางเข้าออก  หอระฆัง  ห้องน้ำ และอยู่ระหว่างก่อสร้างศาลาการเปรียญและอุโบสถ ซึ่งหากแล้วเสร็จจะเป็นศาสนสถานที่สำคัญเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในการประกอบพิธีสำคัญทางศาสนาร่วมกัน

 

 

เที่ยววังน้ำเขียว 2 วัน 1 คืน แบบครบจบ ได้ฟินไปกับวิวสวยๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ ยังสถานที่แสนประทับใจ ครั้งเดียวคงไม่พอสำหรับที่นี่ค่ะ ต้องกลับมาพักผ่อนใหม่อีกแน่นอน 

 

Tags : , ,

  • บทความที่เกี่ยวข้อง

  • บทความล่าสุด

    บทความแนะนำ

    รีวิวคาเฟ่และร้านอาหาร