เที่ยว 2 วัน 1 คืน พัทยา ปังไม่ไหว ไปเมื่อไหร่ใจก็ฟิน

อัพเดทล่าสุด 25/04/2022

พัทยา ไปเมื่อไหร่ก็ได้เสมอ แวะทานอาหารเช้า อัพเดทที่ใหม่ ทั้ง คาเฟ่ใหม่ ทานอาหารทะเลกลางแพตกหมึก พักผ่อน หามุมถ่ายรูปสุดปัง พัทยา 2 วัน 1 คืน เที่ยวแบบพัทยาสไตล์ แถมยังได้รูปกลับบ้านไปอีกเพียบ โพสต์ในโซเชี่ยลได้ยันปีหน้า

โจ๊กคุณน้อย

ลืมภาพการกินโจ๊กในร้านรถเข็น หรือร้านแบบเดิมไปชั่วคราว มาทานโจ๊กแบบมินิมอลสุดทันสมัย ที่ “โจ๊กคุณน้อย พัทยากลาง” ร้านอาหารเช้าพัทยา พร้อมเสิร์ฟอาหารเช้าแสนอร่อยแบบจัดเต็ม โจ๊กคุณน้อยเป็นที่รู้จักมากนานในเรื่องของตำนานความอร่อยของเมืองพัทยา โดยร้านแรกอยู่ที่พัทยา นาเกลือ ส่วนสาขานี้ อยู่ที่พัทยากลาง เพิ่งเปิดได้ไม่นาน มีทั้ง โจ๊ก ต้มเลือดหมู ไข่กระทะ ติ่มซำ ซาลเปา ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ และเครื่องดื่มร้อนและเย็น อีกหลายเมนูให้เลือกมากมายให้เลือกอิ่มจนเลือกกันไม่ถูก

ปักหมุดมาให้ถูกนะคะ ร้านนี้ตั้งอยู่พัทยากลาง เป็นร้านโจ๊กที่ทำให้ยอมตื่นแต่เช้าออกจากกรุงเทพ เพื่อมาทานให้ทันมื้อเช้าเลยทีเดียว ถูกใจในการตกแต่ง แวะมาทานอาหาร ก่อนไปเที่ยวยังจุดอื่นในพัทยา หน้าร้านช่วงเวลาเช้ามีแสงแดดอุ่นส่องเข้ามายิ่งมามีความละมุนมาก ภายในร้านเป็นแบบโอเพ่นแอร์ทั้งหมด มีโต๊ะนั่งหลายมุม มีความคลุมโทน และแอบมีความเป็นญี่ปุ่นเบาๆ

มุมที่นั่งสุดฮิต กับลวดลายเบลคกราวน์เพ้นท์กำแพงสุดน่ารัก ที่มองแล้วทำให้แอบอมยิ้มตาม

มาว่ากันด้วยเรื่องเมนู เป็นร้านโจ๊กที่มีเมนูเยอะจนเลือกไม่ถูกว่าจะทานอะไร เพราะน่าทานหมดทุกอย่าง เมนูเด่นเช่น โจ๊ก ใช่ว่าจะมีแต่โจ๊กใส่ไข่ ไม่ใส่ไข่ แบบทั่วไปที่เคยทาน แต่เป็นโจ๊กที่มีท๊อปปิ้งให้เลือกหลายแบบ ทั้ง โจ๊กธรรมดา หมูกรอบผสมหมูก้อน หมูกรอบอย่างเดียว โจ๊กปลา แนะนำเมนูโจ๊กใส่หมูกรอบ เครื่องแน่นเต็มชาม เนื้อโจ๊กเนียนละเอียด ไข่กระทะ เครื่องจัดเต็ม ทั้งกุนเชียง ไส้กรอก เบคอน มองแทบไม่เห็นไข่ เหยาะซอสและใส่พริกไทยลงไปนิดอร่อยสุดๆ

ต้มเลือดหมู ให้เครื่องมาแน่นไม่แพ้กัน รสชาติน้ำซุปหวานกลมกล่อมแทบไม่ต้องปรุงเพิ่ม เวลาไปทานอาหารเช้าร้านไหน ถ้าต้มเลือดหมูน้ำซุปอร่อยโจ๊กก็อร่อยเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่ใช้น้ำซุปจากหม้อเดียวกันในการปรุง สมกับที่ยอมขับรถมาแต่เช้าเพื่อมาทานอาหารเช้าร้านนี้ ก่อนไปเที่ยวยังจุดต่างๆ ไม่ผิดหวัง มาตอนแรกแต่ชอบดีไซน์ แต่พอได้ทานอาหาร มาครั้งต่อไป คือ ตั้งใจมากินล้วนๆ

อีกหนึ่งเมนูคู่โจ๊ก ที่ต้องสั่งมาทาน ปาท่องโก๋กรอบนอกนุ่ม จิ้มกับสังขยาหวานกำลังดี ปลาท่องโก๋อร่อยของจริง ทานกับชาร้อนรสเข้มช่วยเพิ่มความฟินไม่น้อยเลย

ในส่วนของชั้นสองเป็นคาเฟ่ สไตล์เกาหลี Woodenbeige studio ทานโจ๊กเสร็จแล้วต่อด้วยขนมได้เลย ตกแต่งแบบมินิมอลเช่นกันเดียวกัน แต่คาเฟ่จะมีความคลุมโทน และมีมุมถ่ายรูปเยอะ

เป็นร้านที่ถ่ายรูปออกมาสวยทุกมุม จัดแสงดีมาก ทั้ง มุมหน้าต่างกระจกวงกลม มุมโต๊ะเก้าอี้ ที่มีหลายแบบไม่ซ้ำกัน มาพัทยา แวะที่เดียวได้ 2 เด้ง ทั้งนั่งทานโจ๊กแบบไม่เหมือนใคร ต่อด้วยไปนั่งคาเฟ่สวยๆ

โจ๊กคุณน้อย พัทยากลาง

เปิดให้บริการ : ทุกวัน 07.00-17.00 น. คาเฟ่เปิด 9:00-17:00 (ปิดวันพุธ)

พิกัด : ถนนสายสาม ตรงข้ามกับซอยที่จะเข้าบิ๊กซี Extra

โทร: 086 864 4123

S’more Beach Café

ต่อด้วย S’more Beach Café คาเฟ่ริมหาดสุดชิล ที่ซ่อนตัวอยู่ในโรงแรมโกลเด้นทิวลิป พัทยา มีมุมสุดปังที่นั่งริมหน้าต่างกระจกมองเห็นวิวทะเลที่ตัดกับท้องฟ้า ในแต่ละมุมตกแต่งแบบมินิมอล แสงละมุนได้ฟีลเกาหลีนิดๆ แถมยังมีพื้นที่เอาท์ดอร์ ในสวนขนาดเล็ก ริมสระน้ำของโรงแรม ทั้งมุมต้นส้มจำลองเก้าอี้ บันได ให้ถ่ายรูปในมุมเก๋ได้อีก รวมทั้งยังมีพื้นที่นั่งบีชบาร์ริมหาดใกล้ชิดทะเล เหมาะสำหรับมานั่งชิลทานอาหารในยามเย็น

S’more Beach Café ตั้งอยู่ในโรงแรมโกลเด้น ทิวลิป พัทยา เป็นคาเฟ่ของโรงแรม สามารถจอดรถบริเวณในซอยทางเข้าได้ หากไม่ได้เป็นแขกที่มาพัก ต้องสั่งเครื่องดื่มบริเวณเคาน์เตอร์เช็คอินของโรงแรมก่อน รอรับเครื่องดื่ม จึงจะสามารถเข้าไปในคาเฟ่ได้ เมนูมีแค่เครื่องดื่มนะคะซึ่งมีไม่เยอะมาก เดินเข้ามาในคาเฟ่จะเจอกับห้องกระจกใส พร้อมเบาะนั่งสไตล์ญี่ปุ่นและตุ๊กตาแสนน่ารัก ที่มองเห็นวิวทะเลและชายหาด มุมนี้แนะนำให้มาตอนร้านเปิด คนจะไม่เยอะ ยิ่งในวันธรรมดาคนจะน้อยมาก ถ่ายรูปค่อนข้างสบาย

นอกจากมุมที่นั่งที่มองเห็นวิวทะเล มุมอื่นในห้องนี้ยังตกแต่งน่ารัก แบบมินิมอล โทนสีขาวสะอาด เหมือนสตูดิโอถ่ายภาพขนาดย่อม

มุมเอาท์ดอร์ข้างนอก ยังมีที่นั่งริมระเบียงมองเห็นวิวทะเล มุมถ่ายรูปใต้ต้นส้มจำลอง ซุ้มที่นั่งริมสระว่ายน้ำ รวมทั้งบันไดและเก้าอี้สีเหลืองริมผนัง ที่นั่งริมกำแพงทางเข้าร้านยังมีความชิคเบาๆ

เป็นคาเฟ่ที่มีมุมถ่ายภาพน่ารัก สายชอบถ่ายภาพมาที่นี่ แชะภาพสนุกไปเลย

S’more Beach Café

ที่อยู่ : 16 อำเภอบางละมุง ชลบุรี 20150 ไทย ชลบุรี (ในโรงแรมโกลเด้น ทิวลิป พัทยา)

เปิดให้บริการ : ทุกวัน 09:00 น. – 18:00 น.

โทร : 086 369 6269

Arbour hotel and residence

ปังสุดในเรื่องดีไซน์ และวิวเมืองพัทยาที่สวยงาม นาทีนี้ ต้องยกให้กับ Arbour hotel and residence ที่พักเปิดใหม่ใจกลางเมืองพัทยา พร้อม Rooftop และสระว่ายน้ำ ที่นั่งชิลสุดปัง ให้ชมวิวเมืองพัทยาตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ทั้งยังมีร้านอาหาร ฟิตเนส สปา และห้องพักที่แสนสะดวกสบาย มองเห็นวิวสวยได้จากระเบียงห้อง นอนชมวิวดูแสงสีของเมืองพัทยา ในราคาหลักสองพันต้นๆ แถมยังได้ถ่ายรูปสวยปังไปโพสต์ลงโซเชี่ยลรัวๆอีกด้วย

Arbour hotel and residence ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเมืองพัทยา ไม่ไกลจากท่าเรือแหลมบาลีฮาย ท่าเรือไปเกาะล้าน ห้องพักอยู่ในอาคารสูง 24 ชั้น มีประมาณ 100 กว่าห้อง และมีห้องให้เลือกพักหลายแบบ เราจองห้อง COUPLE PREMIER ราคา 2,275 บาท (รวมอาหารเช้า) ราคาในแต่ละเดือนมีการเปลี่ยนแปลงสามารถเช็คราคาห้องพักในแต่ละแบบได้จากหน้าเว็บไซต์ของโรงแรมโดยตรง ห้องพักมองเห็นวิวเมืองพัทยาได้จากปลายที่นอน รวมทั้งวิวทะเลและวิวภูเขาแบบไกลๆ มีความกว้างไกลมาก แถมยังมีระเบียงชมวิวข้างนอก สามารถเปิดออกไปชมวิวได้อีก

มีพื้นที่ของโซฟานั่งเล่น ในห้องยังมีเครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ เตาทำอาหาร จานชาม ตู้เย็นประดุจคอนโดมาก มีครบทุกอย่าง ห้องน้ำกว้าง คือ ปกติเวลาพักในโรงแรมพัทยา จะไปทางวิวทะเลมากกว่า แต่โรงแรมนี้น่าจะเป็นโรงแรมแรกที่มีโอกาสได้เห็นวิวเมืองกว้างๆ ก็สวยไปอีกแบบ

มาถึงไฮไลท์ของโรงแรม ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 24 มีทั้ง Rooftop และสระว่ายน้ำ ที่มองเห็นวิวเมืองรวมทั้งวิวทะเลได้แบบใกล้สายตามากขึ้น วิวสวยปังมาก ร้านบน Rooftop เน้นขายเครื่องดื่ม โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลาบ่าย 3 โมง เป็นต้นไป เราขึ้นมาถ่ายรูปเล่นในช่วงเที่ยง ลูกค้าของโรงแรมยังไม่เยอะ และมาพักในวันธรรมดาคนไม่มากเท่าเสาร์ อาทิตย์ค่ะ อีกอย่างแดดแรงได้ใจมาก คงยังไม่ค่อยมีใครขึ้นมา ส่วนใหญ่จะมาช่วงเย็นหรือเช้ามากกว่า

อีกหนึ่งมุมปังๆ ที่ทุกคนต้องมายืนถ่ายรูป คือ บันไดทางขึ้นที่มองเห็นหลังคาสีขาวแบบโปร่ง ตัดกับสีของท้องฟ้าดีไซน์สวยไปอีก ได้แสงเงาจากแดดที่ส่องลงมากกระทบลงมาเบาๆ

ที่นั่งในมุมต่างๆของ Rooftop มีทั้งโซฟาบนหาดทรายได้ฟีลออนเดอะบีช ที่นั่งแบบติดกระจกมองเห็นวิวเมืองและวิวทะเล หรือจะมานั่งเก้าอี้บาร์ทรงสูง ที่มองเห็นวิวทะเลเต็มตรงหน้าก็สวยงาม

จากชั้น 24 เดินลงบันไดมายังชั้น 23 เป็นที่ตั้งของฟิตเนส สปา และห้องอาหาร Fundamental ให้บริการทั้งอาหารเช้าจนถึงมื้อค่ำ รวมทั้งยังให้บริการเครื่องดื่มและขนมด้วย วิวจากห้องอาหารสามารถมองเห็นวิวเมืองผ่านกระจก อลังการสวยงามอีกแล้ว ยิ่งในช่วงบ่ายที่มีแสงส่องลอดผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามา กระทบกับเคาน์เตอร์บาร์ที่แต่งเก๋ๆ ลงตัวมาก

คอกาแฟจะมานั่งดริปกาแฟ พร้อมถ่ายภาพไปกับอุปกรณ์สวยงามก็ได้มุมสวยไปอีก เลือกเมล็ดกาแฟตามที่ชอบ บาริสต้าจะมาดริปให้ดื่มกันตรงนี้เลย ส่วนเราเลือกสั่งเครื่องดื่มเย็นอย่างชาพีช ทานคู่กับของหวาน อย่าง valentine ‘s dome เครื่องดื่มขนมรสชาติดี

Tako trip

หลังจากพักผ่อนในโรงแรมแล้ว แวะไปทานอาหารเย็น คาเฟ่ตกหมึกพัทยา อีกหนึ่งจุดเช็คอินที่คนรักซีฟู้ด รักการทานซาซิมิสด ต้องมาให้ได้ คาเฟ่ตกหมึกพัทยามีหลายแห่ง แต่เราเลือกมาที่ Tako trip แพตกหมึกสุดชิลกลางทะเลพัทยา จ่ายคนละ 400 บาท ตกไปเลยยันเที่ยงคืน หากตกหมึกได้ประกอบอาหารให้ฟรี จะทำซาซิมิกินแบบสด หรือจะนำไปปิ้งย่างก็ได้ หากใครไม่เน้นตกหมึก มานั่งผ่อนคลายชมวิวพระอาทิตย์ตกกลางทะเล พร้อมไปกับทานซีฟู้ดแบบจัดเต็ม รวมทั้งซาซิมิต่างๆ ทั้งปลาทะเล หอย ปลาหมึก ในราคาไม่แพง รสชาติอร่อย น้ำจิ้มซีฟู้ดเลิศ บรรยากาศบนแพชิลมาก ลมพัดเย็นสบาย โดยเฉพาะช่วงค่ำยังได้ชมแสงไฟวิบวับของเมืองพัทยา จากมุมมองกลางทะเล สบายใจ สบายตาไปอีก

การเดินทางมายังคาเฟ่ตกหมึกทุกที่ จะต้องมาขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมบาหลีฮาย ท่าเรือเดียวกับเรือไปเกาะล้าน เพียงแต่เรือที่ไปยังคาเฟ่ตกหมึกจะใช้สปีดโบ้ท โดยขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือเร็ว 2 สำหรับใครที่นำรถส่วนตัวมาสามารถไปจอดได้ยังที่จอดรถอัตโนมัติที่ท่าเรือได้เลยจะสะดวกและปลอดภัยกับรถที่สุด ราคาชั่วโมงละ 30 บาท การเดินทาไปยังแพตกหมึก จากท่าเรือแหลมบาลีฮายใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น ไม่ไกลจากฝั่งมาก

สำหรับทริปตกหมึกของคาเฟ่ตกหมึกในแต่ละแห่ง ส่วนใหญ่ราคาเท่ากัน เราเลือกแพของ Tako trip จ่ายคนละ 400 บาท ราคารวมสปีดโบท์รับส่ง คันเบ็ดตกหมึก 1 คัน ประกันอุบัติเหตุ และทำอาหารสำหรับปลาหมึกที่ตกได้ฟรีพร้อมน้ำจิ้ม โดยเรือรับไปยังแพ จะแบ่งเป็นรอบเริ่ม 17.00 น. 18.00 น. , 19.00 น. ทุกรอบอยู่ได้จนแพปิด 23.00 น. หรือจะกลับก่อนมีเรือเข้าฝั่งทุกชั่วโมงโดยเริ่มตั้ง 19.00 น. สามารถจองทางไลน์ Tako trip ได้โดยตรง

แพตั้งอยู่กลางทะเลพัทยาที่มองจากแพยังคงเห็นวิวเมืองพัทยาที่อยู่บนฝั่งได้ พื้นที่บนแพกว้างมากตกแต่งเก๋ทันสมัย สีสันสดใสในตีมออนเดอะบีช มีที่นั่งเยอะหลายโซน ทั้งโซนในร่มมีหลังคา ที่นั่งบาร์ห้อยขามองเห็นวิวทะเล และโซนที่นั่งเก้าอี้ชายหาดข้างนอกเอนกายได้เต็มที่เหมือนนั่งชิลอยู่ริมทะเล เหมาะสำหรับนั่งในช่วงแดดร่มหรือช่วงค่ำ

ส่วนอุปกรณ์ตกหมึก สามารถไปรับได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ หากตกไม่เป็น มีสตาฟเสือเขียวคอยสอนให้ พนักงานบริการดีและใส่ใจลูกค้ามาก อาหารแต่ละอย่างมาเร็วทันใจ

ระหว่างรอเวลาค่ำซึ่งเป็นช่วงตกหมึก สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มมาทานได้ เมนูแนะนำอย่างซาซิมิสด ทั้ง ปลาทะเลที่มีแบบเป็นตัวและชิ้นปลา ปลาหมึกสดแบบใสมาก และหอยทะเลก็มีให้ทานมีอีกด้วย ส่วนใครไม่ทานของดิบ สามารถสั่งอาหารทะเลแบบปรุงสุกมาทานได้มีเมนูให้เลือกเยอะ

ราคาอาหารบนแพ มาในราคาที่น่ารักจับต้องได้ เราเน้นอาหารแบบซาซิมิ ทั้ง ปลาทองหลางซาซิมิแบบชิ้น (จานละ 250 บาท) ปลาลีซีซาซิมิแบบตัว ( 300บาท) หมึกซาซิมิ (200บาท) ปลาหมึกถ้าตกได้เองก็ไม่ต้องซื้อ หอยมะระซาซิมิ ( 300บาท) ต้มยำทะเลน้ำใส (250 บาท) เครื่องดื่มบลูฮาวายเหล้าปั่น (200 บาท) ทุกเมนูมาพร้อมน้ำจิ้มซีฟู๊ดและวาซาบิ อาหารทุกเมนูจัดมาในภาชนะและตกแต่งอย่างสวยงาม รสชาติซาซิมิสดทุกเมนู น้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บอร่อย ต้มยำรวมทะเลทางเปรี้ยวถึงใจใส่ปลาหมึก กุ้ง ปลา เห็ดมาแบบจัดเต็ม ไม่ผิดหวังสำหรับอาหารเลยค่ะ คุ้มมาก นั่งทานไปมองวิวทะเลไป ลมพัดเย็นสบาย คือ ฟินสุด

ช่วงค่ำบรรยากาศเริ่มคึกคัก ทุกคนต่างนำคันเบ็ดส่วนตัว มาตกหมึกตามระเบียงเรือ มีแสงไฟสีเขียวล่อปลาหมึกให้ว่ายมาใกล้เรือ การตกหมึกจะมีเหยื่อปลอมตรงปลาย วิธีการคือ ต้องคอกระตุกสายเบ็ดขึ้นลงดึง เพื่อให้เหมือนเหยื่อเคลื่อนไหว และต้องใช้ความอดทนรอดกันนิดหนึ่ง ใครตกเก่งๆ ก็ไม่นานค่ะ บางคนอาจสงสัยว่ามีหมึกให้ตกได้จริงเหรอ ก็มีคนตกได้หลายคน

บนเรือยังมีชั้นดาดฟ้าสามารถขึ้นไปชมวิวได้อีกด้วย ตกแต่งมุมถ่ายรูปไว้อย่างสวยงาม มองเห็นวิวทะเลและเมืองพัทยา ได้แบบรอบทิศ เที่ยวคาเฟ่ตกหมึกเป็นกิจกรรมหนึ่งของการมาเที่ยวพัทยาที่เลิฟมาก ปกติจะทานในร้านอาหารบนฝั่งริมทะเล ก็ลองอาจเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งทานกลางแพแบบนี้ได้ฟีลที่ดีไปอีกแบบ เพราะนอกจากได้ทานอาหารอร่อย ราคาไม่แรงแล้ว ยังได้ชมวิวสวยยามค่ำของพัทยา จากมุมกลางทะเล เป็นอีกวิวที่สวยงามอีกมุมหนึ่งที่เราอาจไม่เคยเห็นจากบนฝั่ง

วันที่สอง

อาหารเช้าของโรงแรมเริ่มเวลา 07.00-10.00 น. โดยให้เลือกว่าจะมาทานรอบไหน เพื่อไม่ให้ลูกค้ามาอยู่ในห้องอาหารเยอะเกินไป อาหารเช้าเสิร์ฟแบบ Buffet ส่วนแรกสามารถสั่งได้จากหน้าเมนูอาหาร ที่มีหลายอย่างมากตามภาพ ยังถ่ายรูปมาไม่หมดนะคะ ยังมีอีกหลายรายการ โดยเมนูบางอย่างอาจจะเปลี่ยนไปตามเทศกาลในแต่ละเดือน 1 คน สามารถสั่งได้ทุกอย่างในภาพนี้ จะสั่งกี่จานกี่เมนูก็ได้ ถ้าทานไหว

นอกจากอาหารในเมนู ยังมีอาหารแบบทานเล่นที่วางอยู่ที่เคาน์เตอร์ส่วนกลางทั้ง สลัดผัก ทูน่าสลัดธัญพืช ขนมต่างๆ รวมทั้งเครื่องดื่ม ผลไม้ ที่มีมากมาย สามารถหยิบมาทานเองได้เลย

สำหรับรสชาติอาหารที่อยู่ในเมนู ถือว่ารสชาติโอเคค่ะ สั่งข้าวต้มปลาแซลมอน และ egg benedict มาทานสองอย่างและหยิบอาหารจากเคาน์เตอร์กลางมาด้วย ก็เยอะมากแล้ว ใจอยากสั่งมาลองทุกเมนูแต่ทานไม่ไหว เป็นโรงแรมที่มีอาหารเช้าที่เมนูเว่อวังแถมได้นั่งทานในวิวเมืองที่อลังการมาก ถึงแม้ไม่ได้เป็นโรงแรมที่ใกล้ทะเลหรือติดหาด แต่ Arbour hotel and residence คือ โรงแรมที่มาพักแล้วประทับใจในอันดับต้นของพัทยา ตอนแรกมาเพราะแค่มาอยากถ่ายภาพที่ Rooftop พอมาพักจริงๆ เป็นโรงแรมที่ไม่ใช่แค่ถ่ายรูปสวย แต่มีดีมากกว่านั้นมากมาย ทั้งห้องพักที่ราคาไม่แพงจนเกินไป ได้พักห้องใหม่เพราะเป็นโรงแรมใหม่ เฟอร์นิเจอร์อุปกรณ์ภายในห้องทันสมัยมีความไฮเทค เตียงนอนนุ่มนอนสบาย มีทุกอย่างเหมือนคอนโดส่วนตัว พนักงานโรงแรมสุภาพและบริการดีทุกคน อาหารเช้าอลังการ ยังคิดว่าในราคาสองพันต้นๆ คุ้มเกินคุ้ม มาพักอีกหลายครั้งแน่นอนค่ะ

Arbour hotel and residence

ที่อยู่ : 99/10 พัทยา อำเภอบางละมุง ชลบุรี

สอบถามราคาและจองห้องพัก ซึ่งสามารถจองได้ 2 ช่องทาง คือ

เว็บไซต์โรงแรม : https://bit.ly/3sRvEo2

จองผ่านอโกด้า คลิ๊ก จองที่พักผ่านอโกด้า

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร : 038-195-600 , 038-195-601

Banlay home café

ก่อนกลับ แวะไปพักชมวิวทะเลพัทยาในคาเฟ่ บรรยากาศบ้านไม้สีขาวแบบชาวเล Banlay home café ตกแต่งผสมกับความเป็นมินิมอลได้มีกลิ่นอายความญี่ปุ่น เพิ่มความอบอุ่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ พร้อมมุมและมุมที่นั่งสุดเก๋ ที่นั่งในห้องที่มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่มองเห็นวิวทะเล รวมทั้ง นั่ง มุมที่นั่ง Outdoor ทั้งแปลตาข่ายและที่นั่งวิวทะเล ชมบรรยากาศดี ๆ และจิบเครื่องดื่มทานคู่กับขนมเค้กโฮมเมดฟินถูกใจแน่นอน

ร้านตั้งอยู่ในซอยเดียวกับ walking street พัทยา เห็นป้ายปุ๊บตรงผ่านซุ้มประตูทางเข้า walking street เมื่อใกล้ถึงที่ตั้งร้านหาที่จอดรถริมถนนได้ตามสะดวก ทางเข้าร้านจะเป็นช่องเล็กระหว่างตึก 2 คูหานี้ มีป้ายบอกแต่เล็กมาก ต้องสังเกตุดีๆ เดินผ่านทางเข้าไป จะได้พบกับร้านที่ตั้งอยู่ติดทะเลมองเห็นท่าเรือท่าเรือแหลมบาลีฮายแบบใกล้มาก

พื้นที่ร้านถือว่าไม่ใหญ่มาก แต่จัดโซนต่างๆได้เป็นสัดส่วน เริ่มจากพื้นที่ในส่วนแรกเป็นห้องแอร์ ซึ่งเป็นเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่ม ตกแต่งในฟีลโฮมมี่ ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มให้ความรู้สึกเหมือนนั่งเล่นอยูในบ้านส่วนตัว ใช้ประตูกระจกที่สามารถเปิดออกไปเจอกับพื้นที่เอาท์ดอร์ริมทะเลข้างนอก

นั่งพักจิบเครื่องดื่มในห้องแอร์เย็นๆ สักครู่ เมนูร้านเน้นเครื่องดื่มและเบเกอรี่สไตล์โฮมเมด สั่ง Sunrise Smoothie เสารสปั่นกับมะม่วงรสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี เบเกอรี่ Fluffy chocolate cake มีความหอมละมุนมีกลิ่นหอมของช๊อคโกเลต รสชาติดี

มาถึงที่นั่งในส่วนเอาท์ดอร์ ซึ่งมีทั้งมุมโต๊ะเก้าอี้ติดทะเล แปลตาข่าย และที่นั่งแบบบาร์ริมทะเลยกสูง รวมถึงระเบียงชมวิวริมทะเล

ห้องไฮไลท์แบบหน้าต่างกระจก ซึ่งมีมุมไฮไลท์ คือ โต๊ะเก้าอี้ริมกระจก มุมถ่ายรูปไฮไลท์ ที่นั่งตรงนี้ทางร้านจะไม่ให้นั่งเกิน 10 นาที เพื่อจะได้ถ่ายรูปกันแบบทั่วถึง แต่ที่นั่งในห้องนี้ในโซนอื่นสามารถนั่งได้ตามปกติ

ยังมีมุมที่นั่งอื่นทั้งมุมที่นั่งข้องนอก และในสวนที่ตกแต่งน่ารัก แถมยังมีอีกมุมเป็นเก้าอี้ทรงสูงติดกับกำแพงกระเบื้อง มองไปคือ วิวของบ้านเรือนและตึกสูง ถือว่าเป็นร้านที่ตกแต่งได้แบบมินิมอลมุมถ่ายรูปเยอะถูกใจสายชอบถ่ายภาพแน่นอน แถมใกล้ท่าเรือแหลมบาลีฮาย กลับมาจากเที่ยวเกาะล้านสามารถแวะมาได้