บ้านร่องกล้า หมู่บ้านฟีลญี่ปุ่นชนบท

บ้านร่องกล้า  ชุมชนท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ใน อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก โดดเด่นด้วยสภาพอากาศที่มีความหนาวตลอดทั้งปี ในวันที่มีอากาศหนาว จะได้พบเห็นแม่คะนิ้งอีกด้วย  บ้านร่องกล้ากลายเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความสนใจ เมื่อ ภูลมโล จุดชมนางพญาเสือโคร่ง เริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว เพราะที่นี่เป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวเพื่อไปต่อยังภูลมโล มีทั้งที่พัก ร้านอาหาร รถนำเที่ยวขึ้นไปยังภูลมโลให้บริการ รวมถึงมีสินค้าผลผลิตของหมู่บ้านจำหน่าย ในราคาย่อมเยา หากเดินทางไปท่องเที่ยวบ้านร่องกล้าในช่วงเดือนมกราคม จะได้เห็นดอกพญาเสือโคร่งบานปกคลุมไปทั่วหมู่บ้าน เป็นภาพที่งดงามคล้ายหมู่บ้านชนบทในญี่ปุ่น

บ้านร่องกล้า

บ้านร่องกล้า เป็นชุมชนที่มีการผสมผสานความเป็นอยู่ระหว่างชาวเขาเผ่าม้งและคนไทยซึ่งมีขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมประจำเผ่าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น มีการดำรงชีวิตแบบการทำเกษตรบนพื้นที่สูง โดยมีการเพาะปลูกพืชผักผลไม้เมืองหนาว ทั้ง สตรอเบอรี่ อโวคาโด กะหล่ำปลี แครอท  ในช่วงเดือนมกราคมเต็มไปด้วยนางพญาเสือโคร่งที่ปกคลุมทั้งหมู่บ้าน ภายในหมู่บ้านร่องกล้า มีที่พักในรูปแบบโฮมสเตย์หลายแห่ง นักท่องเที่ยวจะนิยมมาพัก ก่อนขึ้นไปยังภูลมโล รวมทั้งเดินเที่ยวชมหมูบ้าน  มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และจุดชมวิว  เมื่อมาถึงบ้านร่องกล้า จะพบกับท่ีทำการศูนย์การท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ด้านหน้าติดต่อรถขึ้น ภูลมโล ให้มาติดต่อตรงนี้

บ้านร่องกล้า
บ้านร่องกล้า
บ้านร่องกล้า
บ้านร่องกล้า
บ้านร่องกล้า

ใกล้กับจุดขึ้นรถ มีร้านกาแฟตานวย ขายทั้งอาหารและเครื่องดื่ม หิวก็แวะมาฝากท้องร้านนี้

ติดกับร้านกาแฟตานวย คือ สมใจโฮมสเตย์

อีกร้านอาหารและกาแฟ ตั้งอยู่ติดกับร้านตานวย  คือ ร้านกาแฟยอดดอย มีกาแฟ เครื่องดื่ม และอาหารตามสั่ง  กาแฟร้านนี้อร่อย เพราะปลูกเองคั่วเอง  ขนมปิ้งเต่าถ่านขายอยู่หน้าร้านก็อร่อยเช่นกัน เช้าๆมานั่งจิบกาแฟร้อนกับทานขนมปังฟินมาก ที่นี่ยังให้บริการบ้านพักชื่อว่า ณัฐรดา โฮมสเตย์ ตั้งอยู่ติดกับร้านกาแฟและอยู่ใจกลางหมู่บ้าน มีบ้านพักในโซนนี้ 2 หลัง

บ้านพักของณัฐรดาโซนกลางหมู่บ้าน ค่อนข้างสะดวก จะมีความจ๊อกแจ๊กจอแจ ด้วยเสียงรถเสียงคน และจอดรถหน้าบ้านไม่ได้ ต้องหาที่จอดใกล้ๆ หรือจอดลานจอดรถของชุมชน  ติดต่อ ณัฐรดา โฮมสเตย์ โทร 081 971 2306

อีกโซนของบ้านณัฐรดา  ห่างจากหมู่บ้านไม่ไกล ประมาณ  300 เมตร  มี 2 หลัง ซึ่งเราพักโซนนี้ หลัง A ถนนทางเข้าเส้นทางเดียวกับบ้านไร่สายหมอก จะมีความเป็นดินแดงแคบนิดนึง แต่ขับรถได้แบบสบายๆ มีความปลีกวิเวกเป็นส่วนตัว สามารรจอดรถหน้าบ้านได้ ขนของสะดวก ภายในห้องไม่กว้างมาก แต่สะอาด สะดวกสบาย ที่นอน ผ้าห่ม นุ่มอุ่น และหอมมาก มีชุดดริปกาแฟให้ มีห้องน้ำส่วนตัวและเครื่องทำน้ำอุ่น  มองเห็นวิวภูเขารายล้อม เงียบสงบ ได้ยินแต่เสียงกบอึ่งอ่าง บางคนเห็นครั้งแรกอาจกลัว แต่เราเฉยๆ รู้สึกชอบมากกว่าพักกลางหมู่บ้าน เพราะเงียบสงบไม่วุ่นวาย  ราคาหลังละ 1500 บาท พร้อมอาหารเช้า พักได้ 2 ท่าน

ใครอยากกางเต้นท์กลางหมู่บ้าน บริเวณโรงเรียนบ้านร่องกล้า มีพื้นที่กางเต้นท์ เสียค่าบำรุงแล้วแต่จะให้ มีห้องน้ำของโรงเรียนให้บริการ  walk in มาได้เลย ใครจองก่อนได้ก่อน แต่จะมีพื้นน้อยประมาณ 3 เต้นท์

ในหมู่บ้าน มีซอยเล็กๆ ห่างออกมานิดหน่อย แต่ไม่ไกล เป็นที่ตั้งของโฮมสเตย์หลายแห่ง บ้านร่องกล้า เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่สามารถเดินถึงกันได้ และยังมีที่พักและลานกางเต้นท์ที่กระจายอีกหลายแห่ง ตามซอยต่างๆ

บ้านไม้หมาก  โทร 090 892 8044

ภูลมโล เอเดน โทร 063 669 1070 , 061 330 7220

ร่องกล้าแลนด์ ตั้งอยู่สุดถนน โทร 081 962 9159

อีกซอยนึงคือ ร่องกล้า กรีนวิว ที่พักชื่อดังอีกแห่งของบ้านร่องกล้า  มีบ้านพักและลานกางเต้นท์วิวสวยท่ามกลางสวนดอกคอสมอส ชมพูหลากสีสัน สายกางเต้นท์ สามาถ walk in มาได้เลยค่ะ ส่วนบ้านพักเต็มยาวทุกวันถึง ก .พ ถึงแม้ไม่ได้พักก็แวะมาชม ถ่ายรูปได้ ไม่เสียค่าเข้าชม

ติดต่อร่องกล้า กรีนวิว โทร 084 444 8752 , 096 475 1799

*** ปีนี้ 2567 ดอกคอสมอสน้อยไม่แน่นเท่าปีที่แล้ว ให้ติดตามภาพอัพเดทจากเพจร่องกล้ากรีนวิวโดยตรง

ลานกางเต้นท์ มีนักท่องเที่ยวมากางเต้นท์หลายจุด เพราะวิวสวยอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ และทางที่พักยังมีเต้นท์ให้บริการด้วย

หน้าที่พักมีร้านกาแฟ ชื่อ กินวิว เป็นร้านเล็กๆตกแต่งน่ารัก  สามารถมานั่งจิบกาแฟ เครื่องดื่มได้ เครื่องดื่มอร่อยค่ะ อาหารเช้าก็อร่อย

ช่วงเย็นประมาณสี่โมง ขึ้นไปยังจุดชมวิววัดป่าบ้านร่องกล้า สามารถขับรถไปถึงตัววัด จากนั้นจอดรถไว้ท่ีลานจอดรถ แล้วเดินขึ้นไป 250 เมตร

จากจุดชมวิว จะได้เห็นภาพของบ้านร่องกล้า ถูกปกคลุมด้วยต้นนางพญาเสือโคร่งทั้งหมด เหมือนหมู่บ้านชนบทในญี่ปุ่นมาก

เราขึ้นมายังจุดชมวิวอีกรอบในช่วงเช้า เพราะตั้งใจไปภูลมโลเวลา 9 โมง   โดยส่วนตัวชอบจุดชมวิวในตอนเช้ามากกว่า จะได้เห็นหมอกบาง ปกคลุมมีแสงส่องลงมาฟีลอบอุ่น แต่วันที่เราไปหมอกไม่เยอะมาก

จากนั้นทานอาหารเช้าที่ยอดดอยกาแฟสด ถือโอกาสเดินเล่นชมบรรยากาศยามเช้า ภายในหมู่บ้านเงียบสงบขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ขึ้นไปยังภูลมโลตั้งแต่เช้ามืด เพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้น อากาศในช่วงเช้าหนาวมากอุณหภูมิเลขตัวเดียว

เดินมาถ่ายรูปลานระเบียงชมวิว บริเวณโรงเรียนบ้านร่องกล้า  ติดกับจุดขึ้นรถขึ้นภูลมโล

ประมาณ 8 โมง ไปถ่ายรูปที่บ้านไร่สายหมอก เป็นบ้านพักและจุดกางเต้นท์ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ห่างจากจากใจกลางหมูบ้านไม่ไกล บรรยากาศสุดฟินท่ามกลางต้นพญาเสือโคร่งสีชมพู และดอกไม้เหมือนหนาว ถึงแม้ไม่ได้พักสามารถขึ้นไปถ่ายภาพกับดอกพญาเสือโคร่งได้โดยมีค่าเข้าพื้นที่คนละ 20 บาท

*** ปีนี้ 2567 นางพญาเสือโคร่งที่นี่น้อยมาก และบานไม่สวยเท่าปีที่แล้ว

พิกัดของบ้านไร่สายหมอก ห่างจากจุดขึ้นรถไปยังภูลมโลประมาณ 700 เมตร เส้นทางขึ้นไป ถนนค่อนข้างแคบและชัน ในภาพคือ ถนนช่วงสุดท้ายก่อนถึงที่พัก แต่ก่อนหน้านี้เป็นถนนดินแดง เป็นหลุมและชัน รถโหลดต่ำไม่แนะนำ หรือไม่ว่ารถใดๆก็ตามที่ไม่ใช่กระบะ หรือมอเตอร์ไซต์ ไม่ควรนำขึ้นมาสงสารรถและเสี่ยงมาก ข้างบนที่จอดรถน้อย ถ้าจะขึ้นมาถ่ายรูปแนะนำให้จอดรถไว้ที่หมู่บ้าน แล้วเหมารถกระบะนำเที่ยวภูลมโลขึ้นมานะคะ เห็นนักท่องเที่ยวหลายคนเช่ารถจากข้างล่างขึ้นมา ราคาให้ไปสอบถามตรงจุดขึ้นรถจะปลอดภัยกว่า

โซนกางเต้นท์มีหลายจุด อยู่ใต้ร่มเงาของต้นพญาเสือโคร่งทั้งหมด จุดที่สวยที่สุดน่าจะเป็นจะนี้ตามภาพ ค่ากางเต้นท์คนละ 150 บาท ไม่แนะนำให้ walk in เพราะคนจองเยอะ ให้โทรไปสอบถามก่อนเข้าไป ว่ามีพื้นที่ว่างมั้ย

ถัดขึ้นไป คือ บ้านพัก และลานกางเต้นท์ ซึ่งไม่กว้างมาก กางได้ประมาณ 2 เต้นท์ บ้านพักอยู่ติดกับต้นนางพญาเสือโคร่งเลยค่ะ นั่งมองได้จากระเบียงห้อง บ้านพักช่วงนี้เต็มไปถึงกุมภาพันธ์ค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าอยากพักที่นี่ ต้องของล่วงหน้ากันยาวๆข้ามปีไปเลย

ติดกับบ้านพัก มีพื้นให้กางเต้นท์ ได้ประมาณ 2 หลัง มีที่นั่งหน้าเต้นท์ให้ถ่ายรูปสวยๆมองเห็นฉากหลัง ของนางพญาเสือดโคร่งสีชมพูมาก

ถัดขึ้นไป ยังมีจุดกางเต้นท์ ตรงนี้จะกางได้หลายเต้นท์ เป็นที่พักและบานกางเต้นท์แห่งบ้านร่องกล้า ที่เราสามารถถ่ายภาพกับนางพญาเสือโคร่งได้แบบใกล้ชิด มีความฟินสุดๆ สำหรับใครที่ต้องการติดต่อที่ โทร 088 419 1691 , 097-9804009


รีวิวภูลมโล ปีนี้ คลิ๊ก Update ภูลมโล มค 67 สัมผัสโลกสีชมพู บานสะพรั่งทั้งภูเขา

  

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน