เดอะบลูสกาย รีสอร์ท @เกาะพยาม ที่พักชื่อดังบรรยากาศคล้ายกับที่พักกลางทะเลของมัลดีฟ จนได้รับขนานนามว่าเป็น มัลดีฟแห่งใหม่ของเมืองไทย ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของการมาเที่ยวเกาะพยาม เป็นที่พักในใจของใครหลายคนที่อยากมานอนเล่น หามุมสงบ สัมผัสกับบรรยาศสุดชิวริมทะเล และปฎิเสธไม่ได้ว่าเกาะพยาม มีชื่อเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวได้ส่วนหนึ่งมาจากที่นี่ ไปด้วยกันจะพามาทำความรู้จักกับที่นี่ว่าบรรยากาศ สวยงาม ขนาดไหน
ที่พักแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซน R กับ โซน L โซน R จะแพงกว่านิดหน่อย แต่จะได้วิวที่สวยกว่าเพราะติดริมน้ำซึ่งเวลาน้ำขึ้น โซน R จะรับน้ำได้เต็มกว่า แต่ช่วงที่น้ำขึ้นในแต่ละเดือนมีไม่กี่วัน อย่างไรก่อนเดินทางให้สอบถามไปทางรีสอร์ทอีกครั้งค่ะ
เนื่องจากช่วงที่เดินทางเป็นช่วงน้ำลงจะเห็นเห็นเนินทรายและรากของต้นโกงกางดูแปลกตาดี ซึ่งโดยปกติเวลาน้ำขึ้นน้ำก็จะเข้ามาเต็มพื้นที่ จนรู้สึกเหมือนกับว่าที่พักของเราลอยโดดเด่นอยู่กลางน้ำ
ระหว่างทางเดินมีที่นั่ง พร้อมหมอนอิงให้ได้นั่งชิว หรือตอนเย็นจะนั่งพักผ่อนดูดาวตอนกลางคืน ที่นี่ตอนกลางคืนดาวเยอะมาก เป็นสิ่งที่น่าแปลกสำหรับการมาเที่ยวทะเลเพราะปกติจะไม่ค่อยเห็นดาวเท่าไหร่ สถานที่ที่จะเห็นดาวได้นั้นหมายความที่นั่นต้องอากาศปลอดโปร่ง เป็นธรรมชาติ และไร้มลพิษจริงๆ
ป้ายหน้าห้องพัก น่ารักดีค่ะ มีประตูเล็กๆ เปิดปิด หากเราต้องการให้มาทำความสะอาดห้อง ก็เปิดไปที่ clean ได้ค่ะ
ภายในห้องพัก กว้างขวาง สะดวกสบาย เป็นเตียงใหญ่ขนาดสองที่นอน สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งแอร์ ทีวี ตู้เย็น บางมุมใช้วัสดุจากธรรมชาติในการตกแต่ง เป็นความรู้สึกที่เข้ามาแล้วได้ความรู้สึก 2 แบบ คือ หรูหรา และ เรียบง่าย ในอารมณ์เดียวกัน
มุมทีฉันชอบที่สุดก็คงเป็นมุมนั่งเล่นข้างเตียง ค่อนช้างชอบการออกแบบที่จัดมุมนี้มาได้กว้างขวางยาวไปจนสุดปลายห้อง ห้องพักทำเป็นกระจกเห็นวิวรอบด้าน นั่งพักมองวิว ตรงมุมนี้เพลินมาก เป็นอารมณ์ที่ได้ความรู้สึกว่าได้พักผ่อนจริง อยากนอนเล่นอยู่ในห้องไม่อยากออกไปไหนเลยทีเดียว
รอบที่พักทุกหลังทำเป็นพื้นยื่นออกไป มีเก้าอี้สำหรับนั่งเล่น หรือใครจะนั่งพื้นหย่อนขาก็ชิวไปอีกแบบ
อีก 1 บรรยากาศตอนน้ำขึ้นช่วงบ่าย 3 แต่ก็ยังถือว่ายังไม่มากเท่าไหร่ จะมีน้ำเฉพาะโซนของที่ัพักติดริมน้ำค่ะ
น้ำทะเลตรงทางเข้าที่พักเมื่อน้ำเริ่มเข้ามา สวยและใสมาก
ออกมาเดินเล่นชมบรรยากาศรอบที่พักกันบ้าง มานั่งเล่นตรงล๊อบบี้ซึ่ง มีมุมให้เราได้นั่งพักผ่อน เยอะมาก มีลมเย็นพัดมาตลอดไม่ร้อนเลยซักนิด มองออกไปจากล๊อบบี้เห็นวิวทะเลแบบกว้างไกล
ทะเลด้านหน้ารีสอร์ทเวลาน้ำลงเห็นสันทราโค้งวน ดูสวยไปอีกแบบค่ะ
สำหรับฉันบลูสกายไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่พัก แต่เหมือนเป็นที่เที่ยวให้เราได้สัมผัสบรรยากาศริมทะเล มีมุมให้ถ่ายภาพมากมาย สำหรับฉันคหากมาเกาะพยามและได้มาพักกินบรรยากาศทะเลที่นี่ สำหรับฉันถือว่าคุ้มเกินคุ้ม ไม่แปลกใจทำไมหลายคนถึงหลงรักที่นี่กันค่ะ ที่สำคัญพนักงานบริการลูกค้าด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส พูดเป็นภาษาง่ายๆคือ หน้าตารับแขกทุกคนที่เดินเข้ามา แตกต่างกับรีสอร์ทหรูริมทะเลบางทีที่ให้ความสำคัญเฉพาะลูกค้าต่างชาติหรือลูกค้าคนไทยที่ดูมีฐานะเท่านั้น
นั่งพักดื่มเครื่องดื่มเย็นเป็นน้ำส้มปั่นผสมมะม่วง รสชาติอร่อยมาก ตอนแรกพนักงานเสริฟ์เป็น welcome drink แก้วเล็ก ทานแล้วแอบติดใจสั่งแก้วใหญ่มาทานดับร้อน
เครื่องดื่มของที่นี่ รสชาติอร่อยมาก ตลอด 2 วันที่พักสั่งดื่มหลายแก้ว ชอบที่สุดคือ กีวี่ผสมมะนาว ออกเปรี้ยวๆ หวาน ชื่นใจ ดับกระหายได้ดีเลยทีเดียว ราคาจะอยู่ที่แก้วละ 90 -120 บาท
มุมแปลเก๋ ริมทะเลมีหลายจุดในรีสอร์ท
เรือคายัคที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้สำหรับลูกค้า
ไม่อยากลงทะเลก็ลงเล่นน้ำในสระน้ำกันได้ค่ะ มองเห็นวิวทะเลอยู่เบื้องหน้า
เที่ยงแล้วรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันค่ะ มีร้านอาหารของรีสอร์ทให้บริการมีเมนูให้เลือกหลากหลาย หน้าตาของอาหาร ส้มตำกุ้งสด ยำปลาสมุนไพร สลัดทูน่า ปริมาณของอาหารเยอะมาก
สำหรับอาหารมื้อเช้าอีกวันรวมอยู่ในราคาห้องพัก มีเป็นอเมริกัน เบรคฟาส ข้าวต้ม แต่ให้เลือก 1 อย่าง เสริฟพร้อมขนมปัง และเครื่องดื่ม
อิ่มท้องแล้วเดินเล่นสำรวจที่พักกันต่อค่ะ เดินเล่นชมวิวได้ทั้งวันจริงๆ ค่ะ นอกจากที่พักซึ่งฉันเรียกเองว่าบ้านพักแบบกระท่อมมัลดีฟแล้ว ตอนนี้บลูสกายเปิดที่พักใหม่อีกโซน เป็นบ้านไม้ดีไซน์เก๋ 2 ชั้น น่าพักเช่นกันค่ะ
ลักษณะการจัดมุมและตกแต่งห้องพักบรรยากาศข้างในห้องพักจะคล้ายกับห้องพักแบบเดิม
แต่จะต่างกันที่ที่ว่า ที่พักโซนนี้อยู่ติดทะเลมากกว่า ทำให้เห็นวิวทะเลได้แบบจัดเต็ม ๆ
แค่ยืนอยู่ตรงระเบียงหน้าห้องก็เห็นทะเลอยู่ตรงหน้า
ภายในห้องน้ำ
หากเบื่อชมวิวข้างล่าง ก็เดินขึ้นไปยังชั้นสอง นั่งนอนชมวิวทะเลได้เช่นกัน
หากเหนื่อยนัก มาพักรับลมเย็นริมทะเล กับรีสอร์ทสวยบรรยากาศสงบ เป็นรีสอร์ทที่รู้สึกประทับใจในหลายอย่างทั้งห้องพัก มุมพักผ่อนที่เห็นวิววิวสวยๆ ริมทะเลได้แบบกว้างไกล ในบรยากาศที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ร้อนนี้แนะนำมาพักรับร้อนที่ เดอะบลูสกาย เกาะพยาม
จอง บลูสกายรีสอร์ท ราคาพิเศษ
ข้อมูลเพิ่มเติม
เดอะบลู สกาย รีสอร์ท เกาะพยาม http://theblueskyresort.com/koh_payam/
https://www.facebook.com/theblueskyresorts
Tags : blue sky resort, ที่พักเกาะพยาม, ระนอง, เกาะพยาม
บทความที่เกี่ยวข้อง
20 ที่เที่ยว กิน เมื่อมาถึงระนอง“ ระนองเมืองแสนเงียบสงบ ระนอง เมืองแห่งอาหารอร่อย ระนองเมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเทียวทางธรรมชาติที่หลากหลาย ระนองเมืองที่ในอดีตที่หลายคนมักถามว่าไปทำไม มีอะไร ” แต่ปัจจุบันระนอง คือ เมืองที่ทุกคนต่างมุ่งหน้ากันไป ระนองในวันนี้เป็นเมืองที่เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น กลายเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของใครหลายคน 
พักร้อน ไปนอนเล่น เกาะพยาม ระนอง"เกาะพยาม ไม่เห็นมีอะไร น้ำก็ไม่ใส ทรายก็ไม่ขาวเหมือนทะเลทางใต้ที่อื่น ทำไมนึกถึงทะเลระนองต้องพูดถึงแต่เกาะพยาม ” นี่คือความคิดของฉันที่มีต่อเกาะนี้มาตลอด และในที่สุดเมื่อมีโอกาสไปสัมผัสด้วยตัวเองก็ทำให้ฉันต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ทั้งหมด 
เที่ยวระนองหน้าฝน 2 วัน 1 คืนหากมาเที่ยวระนอง เรามักจะนึกถึงการเที่ยวช่วงหน้าร้อน เพราะระนองเด่นในเรื่องทะเลสวย ทั้งหมู่เกาะกำ และหมู่เกาะในทะเลพม่าที่สามารถเดินทางจากระนองได้ แต่ถ้ามาเที่ยวระนองหน้าฝน ถึงแม้จะเที่ยวทะเลไม่ได้ แต่ก็สามารถเที่ยวในตัวเมืองและจุดอื่นได้สนุกไม่แพ้กัน แถมบรรยากาศดี เงียบสงบไปอีกแบบ ภูเขาจะเขียวชอุ่ม ยิ่งถ้ามีฝนตกด้วยแล้วก็จะได้เห็นสายหมอกบางๆ ลอยคลอเคลียตามไหล่เขาอีกด้วย ใช้เวลาเพียง 2 วัน 1 คืน ... 
ก้องวัลเลย์ ระนองก้องวัลเลย์ ตั้งอยู่ที่ อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง เป็นแหล่งปลูกกาแฟที่มีชื่อเสียงมากว่า 40 ปี โดยแปรรูปผลิตภัณฑ์กาแฟภายใต้ชื่อการค้า ก้องกาแฟ และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โฮมสเตย์ ภายใต้ชื่อ ก้องวัลเลย์ ความโดดเด่นของกาแฟก้องวัลเลย์ คือ กรรมวิธีที่โบราณในการทำกาแฟ ตั้งแต่การปลูก เก็บเมล็ด ตาก บ่ม และคั่วมือในกระทะเล็กๆ และบดด้วยมือ ทำให้ยังคงรักษากลิ่นหอมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโรบัสต้า
