ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้
ขุนแปะ ที่เที่ยวเชียงใหม่ตั้งอยู่ในอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านที่รายล้อมด้วยวิวทิวเขาเขียวขจี มีบรรยากาศแสนสงบธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ และจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง ชมแปลงดอกไฮเดรนเยียที่สวยงาม ในช่วงฤดูทำนาจะได้เห็นนาข้าวสีเขียวปลูกสลับกับผักและพืชไร่ ส่วนในช่วงปลายฝนต้นหนาวไปจนถึงฤดูหนาว สามารถมาเที่ยวชมทะเลหมอกสุดกว้างไกลได้ที่ ดอยเพาะแพะโจ๊ะ และ ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่ พร้อมไปกับแปลงกระหล่ำปลี และทุ่งหญ้าสีทองพริ้วไวหม มาเที่ยวขุนแปะสามารถเที่ยวแบบวันเดย์ทริป หรือจะค้างคืนรับอากาศบริสุทธิ์ก็ย่อมได้ โดยนักท่องเที่ยวที่ต้องการค้างคืน สามารถพักได้ยังที่พักของชาวบ้าวบนขุนแปะที่มีให้บริการหลายแห่ง
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 1](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2018/10/1-ขุนแปะ.jpg)
การเดินทางไปขุนแปะ
การมาเที่ยวขุนแปะสามารถขับรถมาถึงบนดอยขุนแปะได้เลย เส้นทางเป็นถนนราดยางตลอด แต่จะมีคดเคี้ยวและมีความชันนิดหน่อย ต้องขับด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากเส้นทางไปยังที่พักเกือบทุกแห่ง เป็นเส้นทางดินแดงลูกรัง หากไม่ใช่รถโฟรวิวให้จอดไว้ที่จุดจอดรถและใช้บริการรถรับส่งของที่พัก โดยจุดจอดรถขึ้นอยู่กับว่าเราจองกับที่ไหนค่ะ เราพักที่ กระท่อมตะวัน ไรวินท์ โดดจุดจอดรถจะตั้งอยู่ใกล้กับโครงการหลวงขุนแปะ มาถึงแล้วก็จะมารับและพาไปยังที่พักค่ะ ทางรถที่พักจะมีความออฟโรดมาก ที่พักเป็นบ้านกระท่อมริมนาทั้งหมด ภายในห้องพักเรียบง่าย มีที่นอนและห้องน้ำในตัว ส่วนไฟฟ้าใช้โซลาเซลส์ ใช้ชาร์ตได้เฉพาะมือถือและแบตกล้อง โดยค่าบริการห้องพักคิดคนละ 700 บาท รวม 2 มื้อ อาหารเช้า+เย็น ซึ่งที่พักในบ้านขุนแปะใช้ไฟโซลาเซลส์ทั้งหมดค่ะ
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 2](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2018/10/ที่นอน.jpg)
อาหารมื้อเย็น น้ำพริกปลากระป๋อง ผัดกระหล่ำปลีน้ำมันหอย ต้มจืด ไข่เจียว ส่วนอาหารเช้า ข้าวต้ม ไข่ต้ม ผักกาดแก้วน้ำมันหอย อาหารธรรมดาง่ายๆแต่อร่อยค่ โดยเฉพาะผัดผักน้ำมันหอย ผักสดกรอบ อร่อย
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 3](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2018/10/Untitled-1-1.jpg)
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 4](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2018/10/DSC07760.jpg)
กระท่อมคือเธอ ที่ใช่ถ่ายทำละคร คือเธอ ละครดังที่นำแสดงโดยมาริโอ้ กับ ญาญ่า เป็นบ้านดินหลังน้อยที่ทางกองถ่ายละครได้มาสร้างไว้ค่ะ ตกแต่งน่ารักกลางทุ่งนา แต่ช่วงที่เราไปนาเก็บเกี่ยวแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวขุนแปะ จะแวะมาถ่ายภาพกับกระท่อมหลังนี้กันค่ะ เป็นบ้านที่ไม่ได้เปิดให้เข้าพัก แต่ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวได้แวะมาเที่ยวและถ่ายภาพ สำหรับใครที่มาพักกระท่อมตะวันไรวินท์เข้าชมฟรี แต่สำหรับใครที่ไม่ได้พักคิดค่าเข้าชมภ่ายภาพ คนละ 30 บาท
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 5](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2018/10/คือเธอ1.jpg)
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 6](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2018/10/DSC07478.jpg)
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 7](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2018/10/คือเธอ2.jpg)
ภายในบ้านมีเตียงนอน และอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ ที่ทางทีมงานได้มาตกแต่งไว้ ทั้งผ้าม่านสีขา โมบายที่แขวนอยู่ริ่มหน้าต่าง มีความมุ้งมิ้ง น่ารักมาก
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 8](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2018/10/DSC07480.jpg)
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 9](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2018/10/DSC07470.jpg)
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 10](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2018/10/DSC07482.jpg)
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 11](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2018/10/DSC07483.jpg)
ทุ่งไฮเดรนเยียขุนแปะ
ประมาณบ่ายสามโมง เราไปเที่ยวที่ ทุ่งไฮเดรนเยีย อีกหนึ่งจุดเช็คอินท่องเที่ยวแห่งขุนแปะ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกไฮเดรนเยียที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย มีให้ชมตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน ของทุกปี ทุ่งไฮเดรนเยียขุนแปะมี 2 แห่ง เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว คือ บ้านไร่ไฮเดรนเยียภูตะวัน และ ไร่ไฮเดรนเยียร์ขุนแปะ (ที่มีป้ายสวัสดีขุนแปะ) จะพาทุกคนมาเที่ยวถ่ายรูปสวยกันที่ บ้านไร่ไฮเดรนเยียภูตะวัน ที่พักกลางสวนดอกไฮเดรนเยีย ที่จะได้ภาพฉากหลังเป็นบ้านพักทรงเอเฟรมหลังน้อยน่ารักเข้ามาประกอบด้วย จะเลือกไปที่ไหนก็ได้ค่ะ
![ทุ่งไฮเดรนเยีย ขุนแปะ](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/1-DSC07540.jpg)
สำหรับการมาเที่ยว ทุ่งไฮเดรนเยียขุนแปะ สามารถเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้ โดยจะต้องนั่งรถโฟรวิวเข้าไป รถประเภทอื่นไม่สามารถขับเข้าไปได้ เพราะนอกจากเส้นทางจะซับซ้อนแล้ว ทางไม่ค่อยดี เป็นทางดินแดงทั้งหมด บางช่วงมีความออฟโรด ต้องอาศัยรถที่ชำนาญเส้นทางเท่านั้น โดยสามารถนำรถส่วนตัวไปจอดไว้ที่จุดจอดรถที่นัดไว้ใกล้กับโครงหลวงขุนแปะ มีรถของของชาวบ้านในพื้นที่ให้บริการคันละ 500 บาท นั่งได้ไม่เกิน 8 คน สำหรับเราใช้บริการรถของที่พัก กระท่อมตะวันไรวินท์
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 12](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/DSC07509.jpg)
บ้านไร่ไฮเดรนเยียภูตะวัน เป็นที่พักหลังน้อยน่ารัก ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนดอกไฮเดรนเยีย สามารถชมดอกไม้ได้จากหน้าบ้าน บ้านพักมีทั้งหมด 4 หลัง เป็นบ้านทรงเอเฟรม 3 หลัง มีห้องน้ำในตัวบ้าน และบ้านกระท่อม 1 หลัง ห้องน้ำแยกออกมาจากตัวบ้าน หนึ่งหลังพักได้ไม่เกิน 3 คน โดยคิดค่าที่พักคนละ 800 บาท รวมอาหาร เช้า เย็น บวกค่ารถรับส่งคนละ 200 บาท สามารถจอดรถได้ตรงข้ามโรงเรียน ขุนแปะ ที่นี่ใช้ไฟฟ้าจากโซลาเซล์ที่สามารถใช้ได้แค่ชารต์แบตกล้องกับมือถือ สำหรับใครที่ไม่ได้พักที่นี่ก็สามารถเข้ามาถ่ายภาพได้ โดยเปิดให้เข้าชมสวนตั้แต่ 09.00 น.-16.00 น. โดยเสียค่าเข้าชมสวนคนละ 30 บาท ดอกไฮเดรนเยียจะมีให้ชมถึงเมษายน
![ทุ่งไฮเดรนเยีย ขุนแปะ](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/2-DSC07572.jpg)
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 13](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/3-DSC07518.jpg)
ภายในทุ่งดอกไฮเดรนเยียยังมีร้านกาแฟเล็กๆสำหรับนั่งพัก ชมวิวสวนดอกไม้
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 14](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/3-DSC07567.jpg)
มีทางเดินสำรับชมสวน ที่เราสามารถแทรกตัวเข้าไปถ่ายภาพได้ เกือบทุกจุด มีพรอพเป็นตระกร้าสำหรับเก็บดอกไม้ให้เราได้นำมาใช้ถ่ายรูปได้อีกด้วย
![ทุ่งไฮเดรนเยีย ขุนแปะ](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/5-DSC07523.jpg)
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 15](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/7-DSC07557.jpg)
![ทุ่งไฮเดรนเยีย ขุนแปะ](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/ค-DSC07562.jpg)
มีการจัดทำระเบียงนั่งชมวิว พร้อมป้ายชื่อรูปหัวใจ สำหรับนั่งชมวิวถ่ายภาพ ดอกไฮเดรนเยียดอกใหญ่ สวยงามตระการตามาก เดินถ่ายรูปกันจนเพลินไปเลยค่ะ แนะนำหากอยากได้แสงสวยๆให้มาช่วงเย็นประมาณ 4 โมงไปแล้ว แสงจะเริ่มส่องกระทบมายังต้นไม้ ได้ฟีลแบบอบอุ่นไปอีก
![ทุ่งไฮเดรนเยีย ขุนแปะ](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/9-DSC07530.jpg)
![ทุ่งไฮเดรนเยีย ขุนแปะ](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/ค-DSC07546.jpg)
บ้านไร่ไฮเดรนเยียภูตะวัน ขุนแปะ
ที่อยู่ : บ้านขุนแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
โทร 091 076 9824
Facebook : บ้านไร่ไฮเดรนเยียภูตะวัน
ดอยสวยบนขุนแปะ
จุดชมทะเลหมอกแห่งขุนแปะมีสองจุดหลัก คือ ดอยเพาะแพะโจ๊ะ หากมาในช่วงฤดูปลูกกะหล่ำปลีมองเห็นแปลงกะหล่ำที่ปลูกบนเนินเขากว้างไล่ระดับสวยงาม มีฉากหลังเป็นทะเลหมอกสุดกว้างไกล ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่ จุดนี้จะได้เห็นฉากหน้าเป็นทุ่งหญ้าพริ้วไหว รวมทั้งแปลงกะหล่ำปลีด้วย มองผ่านไป คือ ทะเลหมอก ฤดูที่เหมาะสมที่จะขึ้นไปชมทะเลหมอก คือ ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งเชียงใหม่ที่ไม่ควรพลาด
![ทะเลหมอกขุนแปะ](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/2-ทะเลหมอกขุนแปะ.jpg)
การเดินทางมาชมทะเลหมอกที่ขุนแปะทั้งสองดอย ต้องค้างคืนบนขุนแปะ เพราะต้องออกจากที่พักประมาณตีห้าเพื่อไปชมทะเลหมอก การเดินทางต้องใช้รถโฟรวิวของชาวบ้านในพื้นที่นำเที่ยวเท่านั้น ไม่อนุญาติให้นำรถส่วนตัวขึ้นไป เพราะเส้นทางแคบรถสวนไม่ได้ และออฟโรดมาก หากไม่ชำนาญเส้นทางไม่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง นั่งรถโยกไปโยกมาตลอด ตับไตไส้พุงสะเทือน ในภาพคือ เส้นทางที่ถ่ายไว้ตอนกลับซึ่งยังมีบางจุดที่ออฟโรดกว่านี้มาก โดยค่าบริการเที่ยวชม ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่ & ดอยเพาะแพะโจ๊ะ คันละ 1500 บาท นั่งได้ไม่เกิน 8 คน เราพักที่กระท่อมตะวันไรวินท์ และใช้บริการรถนำเที่ยวของที่นี่เช่นเคย
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 16](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/2-2.jpg)
ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่
มาถึงจุดแรก ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทุ่งหญ้าได้แบบก้างไกลมาก เรามาเที่ยวในช่วงปลายพฤศจิกายน ทุ่งหญ้ายังไม่เปลี่ยนเป็นสีทองนะคะ ถ้ามาเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ตรงจุดนี้จะกลายเป็นทุ่งหญ้าสีทองทั้งหมด และมีนักท่องเที่ยวมาชมเยอะมาก มาถึงหมอกกำลังฟุ้งมองไม่เห็นวิวมากนัก ต้องรอให้เข้ากว่านี้อีกนิด จะมองเห็นวิวภูเขาและหมอกที่อยู่ถัดไปจากทุ่งหญ้า
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/3-DSC07597.jpg)
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/4-DSC07590.jpg)
ไปต่อจนยอดดอยข้างบน มีให้ขมทั้งทุ่งกะหล่ำปลีที่กว้างมากหลายสิบไร่ มีฉากหลังคือวิวภูเขา และอีกฝั่ง คือ ทุ่งหญ้า
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/5-DSC07652.jpg)
ช่วงพระอาทิตย์ขึ้น แสงส่องลงมากระทบกับไร่กะหล่ำปลี เดินเล่นกลางแปลงกะหล่ำปลี หามุมถ่ายภาพได้ฟีลสุดๆ ใครอยากให้ทันถ่ายภาพกับแปลงกะหล่ำปลี มาได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงปลายพฤศจิกายน
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/6-DSC07616.jpg)
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/7-DSC07608.jpg)
ส่วนอีกฝั่งที่เป็นทุ่งหญ้า มองเห็นทะเลหมอกที่มีฉากหน้าเป็นทุ่งหญ้า สวยงามชวนฝันมาก ภาพที่ถ่ายมายังไม่สวยเท่าสถานที่จริงนะคะ แต่ทุ่งหญ้าค่อนข้างสูง การที่เราจะถ่ายภาพตัวเองกลางทุ่งหญ้าที่มีวิวของหมอกด้วยจะยากหน่อย ต้องขึ้นไปยืนบนรถแล้วถ่ายลงมา
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/8-DSC07633.jpg)
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/9-DSC07645.jpg)
เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มส่องลงมากระทบบนทุ่งหญ้า และถ่ายแบบย้อนแสงกลับไปก็ได้ภาพที่ได้บรรยากาศของแสงสวยไปอีกแบบ
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/11-DSC07642.jpg)
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/12-DSC07661.jpg)
เดินผ่านทุ่งหญ้าไปมีแปลงกระหล่ำปลีที่มองเห็นวิวของทะเลหมอก เป็นดอยที่มีมุมให้ถ่ายภาพเยอะมาก สวยทุกจุด
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/13-DSC07656.jpg)
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/14-DSC07659.jpg)
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/15-DSC07664.jpg)
ย้อนกลับไปยังทุ่งหญ้าจุดแรกที่เราถ่ายภาพในช่วงเช้า พอหมอกไม่ฟุ้งก็จะได้เห็นวิวแบบนี้ เห็นวิวภูเขาและสายหมอกที่ชัดขึ้น
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/16-DSC07668.jpg)
ตรงข้ามกันคือ ไร่กะหล่ำปลีที่มองเห็ยทะเลหมอกหลังจากที่หมอกหายฟุ้ง มองเห็นวิวที่ สวยงามอลังการมาก มีพรอพเป็นตระกร้าเก็บกะหล่ำของชาวบ้านวางอยู่ หยิบขึ้นมาสะพานถ่ายรูปสักหน่อย
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/17-DSC07678.jpg)
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/18DSC07681.jpg)
ภาพมุมสุงจากโดรนมองเห็นวิวได้แบบกว้างไกล มองเห็นทะเลหมอกแบบเต็มๆ
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/ขุนแปะ3.jpg)
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/ขุนแปะ1.jpg)
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/ขุนแปะ2.jpg)
ดอยเพาะแพะโจ๊ะ
จากนั้นไปต่อยัง ดอยเพาะแพะโจ๊ะ เป็นดอยที่ปลูกกะหล่ำปลี ตั้งอยู่ไม่ไกลกันใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 10 นาที ระหว่างทางก็จะได้เห็นวิวแบบนี้ ไร่กะหล่ำที่ปลูกไล่ระดับบนภูเขา สีเขียวเต็มไปหมด
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/19-DSC07694.jpg)
ใกล้ถึงแล้ว ดอยเพาะแพะโจ๊ะ มองเห็นอยู่ไม่ไกล มองภาพไปก็เหมือนกับภูทับเบิก ในยุคแรกๆมากค่ะ ที่มีภาพกะหล่ำแบบนี้เกือบทั้งดอย
![ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/21-DSC07704.jpg)
ดอยเพาะแพะโจ๊ะ มีจุดเด่นอยู่ที่ต้นไม้เดียวดาย เป็นสถานที่ถ่ายทำละคร คือเธอ ที่มาริโอ้ กับญาญ่า แสดงนำด้วยค่ะ ฉากในละครหลายแห่งถ่ายที่ขุนแปะ ทั้งบ้านคือเธอ แปลงไฮเดรนเยีย และฉากไร่กะหล่ำปลีก็ถ่ายทำกันที่นี่ ต้องมาตามรอยละครซักหน่อย
![ดอยเพาะแพะโจ๊ะ](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/23-DSC07710.jpg)
![ดอยเพาะแพะโจ๊ะ](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/24-DSC07714.jpg)
มาถึงแล้วก็เดินหามุมถ่ายภาพกันได้ตามสะดวก วิวค่อนข้างกว้างมากแบบ 360 องศา มองไปทางไหนก็เห็นแต่ทะเลหมอก ถ่ายมุมไหนสวยทุกจุด
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 17](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/26-DSC07720.jpg)
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 18](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/28-DSC07739.jpg)
![ขุนแปะ ขุนเขาแห่งธรรมชาติ ทะเลหมอก ดอกไม้ 19](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/29-DSC07741.jpg)
ได้ยินนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวบอกว่า สวยมากไม่เคยเห็นทะเลหมอกที่ไหนสวยเท่านี้ ยังไม่อยากกลับเลย เป็นเรื่องจริงค่ะ ถ้าเราได้มายืนตรงจุดนี้เราจะอยากอยู่ให้นานที่สุด มันเป็นความรู้สึกที่ว่า ยังไม่พอ มันยังไม่อิ่มไปกับวิว อยากอยู่นานๆ เพราะสวยจริง ทั้งแปลงกะหล่ำ ทะลหมอก ท้องฟ้า วิวภูเขา ลงตัวไปหมด กดภาพในมุมเดิมมาแบบเยอะมาก ดอยบาอ่าโจ๊ะโข่ & ดอยเพาะแพะโจ๊ะ เป็นจุดชมทะเลหมอกสวยที่อาจใช้เวลาเดินทางเข้าไปแบบสมบุกสมบันสักนิด แต่เชื่อเถอะ ว่าไปถึงแล้วคุ้มค่ากับการเดินทางไปแน่นอน
![ดอยเพาะแพะโจ๊ะ](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/27-DSC07731.jpg)
![ดอยเพาะแพะโจ๊ะ](https://www.paiduaykan.com/wp-content/uploads/2022/11/30-DSC07744.jpg)
รายละเอียดเพิ่มเติมขุนแปะ
กระท่อมตะวันไรวินท์
พิกัด : 172 ม.12 ต.บ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
ให้บริการบ้านพัก ท่องเที่ยวขุนแปะ คิดค่าบริการ คนละ 700 บาท รวมที่พัก 1 คืน พร้อมอาหาร 2 มื้อ เช้า เย็น ค่ารถนำเที่ยวทุ่งไฮเดรนเยียคันละ 500 บาท ค่ารถนำเที่ยวดอยชมทะเลหมอก คันละ 1500 บาท นั่งได้ไม่เกิน 8 คน
เบอร์โทร 093 149 1269
เฟสบุค : KhunPaeHut