หากใครชอบเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ ชอบวัดวาอารามที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามแปลกตา พ่วงด้วยสถานที่ทางธรรมชาติที่อันซีนนิดๆ อยากไปอยู่ในความรู้สึกแบบไทยๆเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต กำแพงเพชร คือ อีกหนึ่งจังหวัดทางเลือก ที่ต้องมีในจุดหมาย ไม่ต้องใช้เวลาเที่ยวมากมาย 2 วัน 1 คืน เที่ยวได้สบายมาก
วันแรก
11.30 น. ร้านก๋วยเตี๋ยวชากังราว
ก่อนไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ต้องมาเติมพลังลิ้มลอง บะหมี่ชากังราว อันลือชื่อ โดยร้านจะมีอยู่สองร้านตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน1 จะเลือกทานร้านไหนก็ได้ทราบว่าเค้าก็คือ ญาติพี่น้องกัน เราเลือกทานกันที่ร้านบะหมี่ชากังราว ตั้งอยู่ตรงหัวมุม ร้านเปิดขายตั้งแต่เวลา 9.00-15.00น.ทุกวัน เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดขายมานานกว่า 60 ปี
เมนูของร้านมีทั้งก๋วยเตี๋ยวและหมูสะเต๊ะ ความพิเศษของบะหมี่ชากังราวคือเส้นบะหมี่ทำเองจะคล้ายกับเส้นบะหมี่เหลืองซึ่งมีความนุ่มกว่าเส้นก๋วยเตี๋ยวทั่วไทย โดยแยกผักลวกมาให้อีกหนึ่งชาม มีถั่วฝักยาว ถั่วงอก แล้วก็มะนาว ถ้าไม่พอก็ขอใหม่ได้ค่ะ สำหรับรสชาติของน้ำซุปอาจจะติดไปทางหวานนำ สำหรับคนที่ไม่ชอบทานหวานก็ปรุงรสเพิ่มเติมกันได้ตามชอบ
13.00 น. บ่อน้ำสีฟ้า
บ่อน้ำสีฟ้า ตั้งอยู่ที่ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ลักษณะเป็นบ่อดินลูกรังขนาดใหญ่ มีน้ำในบ่อเป็นสีฟ้าครามไล่สีสวยงามเหมือนน้ำทะเล กลายเป็นแหล่งน้ำที่บรรยากาศดีวิวสวย สร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้กับผู้พบเห็น ทำให้มีถ่ายภาพและแชร์ภาพลงในโซเชียล จนทำให้มีนักท่องเที่ยว เดินทางมาถ่ายรูปกันอย่างต่อเนื่อง
บ่อน้ำสีฟ้า ตั้งอยุ่ไม่ไกลจากอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรมากนัก การเดินทางแนะนำให้ตั้ง google maps ว่า วัดศรีโยธิน อย่าตั้งว่าสระมรกต หรือบ่อน้ำสีฟ้า เพราะอาจจะเจอพิกัดคนละที่กัน หลังจากนั้นขับผ่านวัดศรีโยธินประมาณ 300 เมตร จะเจอซอย 8 ให้เลี้ยวเข้าไป ตลอดเส้นทางในซอยเป็นทางดินลูกรัง ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ จะเจอสามแยกจากนั้นเลี้ยวซ้าย เส้นทางนี้จะดูเวิ้งว้างสักหน่อยรู้สึกเหมือนตัวเองหลงทาง จะถามใครก็ไม่มีคนให้ถาม แต่ไม่ต้องตกใจ ให้ขับตรงมาจนสุดทาง จะเริ่มเห็นลักษณะของบ่อน้ำ สารภาพว่าตอนแรกรู้สึกตกใจเล็กน้อย บรรยากาศดูเงียบวังเวง และเป็นป่ารก ในใจคิดไม่เห็นมีอะไรเลย
แต่พอขับรถไปอีกนิดหนึ่งจนสุดทาง เจอภาพนี้ถึงกับร้องว้าว สวยจริงๆ สำหรับพื้นที่ของบ่อน้ำดังกล่าว เป็นบ่อที่เมื่อก่อนมีการขุดนำดินไปขายจนเกิดเป็นบ่อขนาดใหญ่ และมีบ่อลูกรังติดกันหลายบ่อ ซึ่ง แต่มีเพียงบ่อเดียวที่สวยงามซึ่งเป็นบ่อแรก บริเวณบ่อมีเพิงพักพิงที่ถูกทิ้งร้างไว้ ส่วนน้ำที่เป็นสีฟ้าครามเชื่อว่าน่าจะเกิดจากฝนที่ตกลงมาชะล้างแร่ธาตุหลายชนิดในดิน ทำให้น้ำเกิดเปลี่ยนสีไปตามชนิดแร่จนเกิดสีสันสวยงามขึ้น ชาวบ้านบอกว่าเป็นบ่อลูกรังเก่าที่ถูกทิ้งไว้นานนับสิบปี และไม่ทราบเจ้าของที่แน่นอน ทราบข่าวมามีนักวิชาการมาตรวจสอบแล้วน้ำมีความเป็นกรดสูงจึงไม่ควรลงเล่นน้ำ อีกอย่างคือน้ำค่อนข้างลึกและเย็นอาจเป็นตะคริวจมน้ำ เพราะฉะนั้นหากมาเที่ยวอยากให้มาถ่ายรูปสัมผัสกับบรรยากาศรอบบ่อจะดีกว่า เนื่องจากยังไม่ได้มีการพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างจริงจัง เพราะเป็นพื่นที่ของเอกชน
ความงดงามของบ่อน้ำที่มีสีน้ำไล่ระดับ เริ่มจากส่วนที่ตื้นที่สุด คือ สีฟ้าใสผสมกับเขียวมรกตมองเห็นพื้นทรายสีขาวด้านล่าง ในส่วนที่น้ำลึกก็จะเป็นสีฟ้าเข้มมองไม่เห็นพื้นทราย ลักษณะคล้ายกับทะเลมาก บริเวณทรายสีขาวมีต้นไม้สีเขียวขึ้นแซมบ้าง ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้ได้บ้าง
บ่อน้ำยังมีลักษณะเป็นดินที่เว้าแหว่งจากการถูดขุดเจาะหน้าดินไป ทำให้มีลักษณะคล้ายแกรนด์เคนยอน ยืนโพสต์ท่าริมผาแบบเท่ๆ หากมาเที่ยวตอนกลางวันก็ยังคงร้อนระอุ แต่เราว่ามาในเวลานี้สีน้ำจะสวยสุดเพราะได้แดดสะท้อนขึ้นมา ก็เหมือนกับสีของน้ำทะเลที่จะสวยต่อเมื่อมแดดส่องกระทบ เตรียมหมวก ร่ม มาช่วยบังแดดมาด้วยก็จะดีไม่น้อย
เดินลงไปบริเวณพื้นทรายสีขาวซึ่งมีทางเดินเป็นทางดินเล็กๆ ลงไปใกล้กับผืนน้ำที่ตื้นที่สุด จุดนี้เป็นจุดถายภาพที่เก๋อีกจุดนึง ได้องค์ประกอบของสีขาวอารมมณ์ยืนบนหาดทรายในทะเล เป็น อีกหนึ่งจุดแวะเช็คอินสุด Unseen ของกำแพงเพชร เป็นสถานที่ที่เรียกได้ว่า สวยแปลกตา และถ่ายรูปสนุกมาก
14.00 น. วัดหนองปลิง
ชมอุโบสถที่สร้างด้วยศิลาแลงจากหินธรรมชาติแห่งเดียวในโลก ที่ วัดหนองปลิง ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ที่รอบอุโบสถแกะสลักลวดลายเกี่ยวกับพุทธศาสนาอย่างวิจิตรงดงาม อุโบสถแห่งนี้สร้างจากศิลาแลง ที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของเมืองกำแพงเพชร โดยทางวัดได้จัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวผู้สนใจทั่วไปได้เข้าเยี่ยมชม
เมื่อเข้ามาภายในบริเวณวัด จะมองเห็น อุโบสถศิลาแลง ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นสวยงาม ล้อมรอด้วยกำแพงที่สร้างด้วยศิลาแลงเช่นกัน โดยบริเวณกำแพงแกะสลักเป็นคติสอนธรรมและพุทธประวัติ
เดินเข้าไปก็จะสะดุดตากับภาพแกะสลักบริเวณด้านหลังของพระอุโบสถเป็นอันดับแรก เป็นภาพพระพุทธรูปปางเปิดโลก อิริยาบถยืนอยู่เหนือดอกบัว ข้างใต้เป็นภาพ 12 ราศี เปรียบเหมือนพระพุทธเจ้ากำลังเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ลงมายังโลกมนุษย์ ซึ่งมีความละเอียดและงดงามมาก
ตรงบันไดทางขึ้น ประดับด้วยรูปปั้นของนาคี นาคา เป็นผู้คอยปกปักรักษาโบสถ์ และรูปปั้นช้างทรงเครื่อง หน้าประตูทางเข้าโบสถ์ ประดับด้วยเท้าเวสสุวรรณ ส่วนบริเวณกำแพงด้านข้างแกะสลักลวยลานรูปกลีบบัวและพระพุทธเจ้าซึ่งมีความอ่อนช้อยไม่แพ้กัน
ภายในอุโบสถยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ดีจึงยังไม่เปิดให้เข้าชม แต่ทราบมาว่าเป็นที่ประดิษฐานพระประธานเนื้อเงินแท้ แบบพระพุทธหิงค์ ชื่อว่าพระพุทธเจ้าเงินไหลมา พร้อมฉลองและถวายพระประทาน เคลือบทองคำขาว ใส่ดวงเนตรทับทิมและทองคำ เพื่อให้พระภิกษุและพุทธศาสนิกชน ได้กราบไหว้สักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
15.00 น. บ่อน้ำพุร้อนพระร่วง
บ่อน้ำพุร้อนพระร่วง ห่างจากตัวเมืองห่างจากตัวเมืองกำแพงเพชรประมาณ 22 กิโลเมตร ปัจจุบันบ่อน้ำพุร้อนพระร่วงมีการปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์โดยรอบอย่างสวยงามเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพและสำหรับพักผ่อน เปิดให้บริการอาบน้ำแร่ แช่ฝ่าเท้า โดยลักษณะทั่วไปเป็นน้ำพุร้อนผุดขึ้นมาจากใต้ดินจำนวน 5 จุดมีความร้อนประมาณ 40 – 65 องศาเซลเซียสปราศจากสารปนเปื้อนหรือเชื้อโรคอันตรายเกินมาตรฐาน จากการตรวจสอบของกระทรวงสาธารณสุข
ภายในบ่อน้ำพุร้อน บริเวณทางด้านหน้ามีศาลพระร่วงเจ้า เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สักการะบูชาเพื่อความเป็นศิริมงคล บริเวณโดยรอบยังมีภูมิทัศน์สวยงาม เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แก่นักท่องเที่ยว อาทิ บริการห้องแช่น้ำแร่ส่วนตัว จักรยานน้ำ กิจกรรมเพื่อการพักผ่อน บ้านพัก ลานกางเต็นท์ และนวดแผนไทย ซึ่งในส่วนนี้มีค่าใช้จ่าย
เดินเข้ามาด้านในสุด คือ บ้านพักรับรอง บรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้ ติดกับบ้านพักรับรอง คือ บ่อแช่เท้าในแคร่ไม้ไผ่ มีหลังคาบังแดด ซึ่งในส่วนนี้ให้บริการแช่เท้าฟรี แนะนำให้มาช่วงเช้า หรือเวลาเย็นไปเลยจะไม่ร้อนมาก นั่งแคร่แช่เท้าในบรรยากาศที่เงียบสงบผ่อนคลายจากความเมื่อยล้าได้เป้นอย่างดี ตอนเริ่มเอาเท้าลงไปแช่ก็จะรู้สึกได้ถึงความร้อนหน่อยแต่พอแช่ไปซักพักจะเริ่มชินกับอุณหภูมิของน้ำ
บ่อต้นกำเนิดน้ำพุร้อนพระร่วง มีลักษณะทางกายภาพ คือ เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเอง ตามธรรมชาติจากใต้ดิน มีความร้อน 40 – 65 องศาเซลเซียส ซึ่งหากอาบหรือแช่น้ำแร่สามารถแก้อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ อาการบ่าแข็ง ข้อติด ข้อเคล็ดหรือข้อแพลง และโรคผิวหนัง
เวลาเปิดให้บริการ
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.
โทรศัพท์ 086 – 403 – 3537, 055 – 741 – 787
Facebook: บ่อน้ำพุร้อนพระร่วง องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร
E-Mail: [email protected]
วันที่สอง
09.00 น. วัดพระบรมธาตุนครชุม
วัดพระบรมธาตุนครชุม ตั้งอยู่ใน อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร สร้างขึ้นมาพร้อมกับเมืองนครชุมเป็นวัดประจำเมือง สิ่งสำคัญที่สุดภายในวัดก็คือ พระบรมธาตุนครชุมมหาเจดีย์ทรงสูงใหญ่ สวยงามไปด้วยสถาปัตยกรรมและสีทองอร่ามทั้งองค์ เสมือนดั่งเจดีย์ ชเวดากองในเมืองพม่า เป็นพระบรมธาตุเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 9 องค์ เมื่อได้เข้าไปนมัสการและบูชาแล้ว ดังได้พบกับพระพุทธเจ้าด้วยตนเอง เป็นพระบรมธาตุเจดีย์ที่อยู่คู่เมืองกำแพงเพชรมาตั้งแต่สมัยเป็นเมืองนครชุมกินเวลายาวนานมากกว่า 600 ปี
ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 9 พระองค์ ซึ่งเป็นศาสนสถานที่มีความศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองกำแพงเพชรอีกแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ภายในมีศาสนสถานที่สำคัญหลายอย่าง เช่น พระอุโบสถหลังเก่า พระวิหาร วิหารพระนอน ศาลาเรือนไทย นอกจากนี้ยังมีศาลาการเปรียญที่ใช้เป็นศูนย์วัฒนธรรมไทยสายใยชุมชน เพื่อให้เป็นแหล่งความรู้แก่ชุมชน
10.00 น. วัดบ้านใหม่ สุวรรณภูมิ
เช้านี้ยังคงเน้นสายบุญ เข้าวัดอย่างต่อเนื่อ จุดหมายต่อไป วัดบ้านใหม่สุวรรณภูมิ อีกหนึ่งวัดสวยของกำแพงเพชร ที่ต้องมาชมความงดงามของตัวพระวิหาร รวมทั้งเสาและประตูวิหารที่แกะสลักอย่างอ่อนช้อยสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ของวิถีภาคเหนือ พร้อมกราบสักการะหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ พระพุทธรูปศิลปะล้านนาในวิหารวัด เดินเข้าไปภายในวิหารรู้สึกได้ถึงความร่มเย็นและเงียบสงบ วัดบ้านใหม่สุวรรณภูมิ เป็นวัดในท่าขุนราม ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นตามแบบฉบับล้านนาทางเหนือ ที่ไม่ควรพลาดมาเยี่ยมชม
และในช่วง สัปดาห์สุดท้ายของทุกเดือน ทุกวันศุกร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 16.00 – 21.00 น. ที่บริเวณวัดบ้านใหม่จะมี ตลาดชุมชนสามวิถี สามารถแวะ เดินเล่น ฝากท้องมื้อเย็นกันได้
11.00 น. อุทยานประวัติศาตร์กำแพงเพชร
เริ่มกันที่จุดแรก กันก่อน ศาลหลักเมืองกำแพงเพชร อีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ ปรากฏมีศาลหลักเมืองอยู่ศาลหนึ่ง เป็นที่ศรัทธาเคารพสักการะบูชาของประชาชนชาวจังหวัดกำแพงเพชร โดยศาลหลักเมืององค์จริงจะอยู่ภายในหอซึ่งได้ทำการบูรณะซ่อมแซมลงรักปิดทองขึ้นมาใหม่เพื่อป้องกันการเสียหายจึงไม่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวเข้าไปปิดทอง
การเที่ยวชมนักท่องเที่ยวสามารถขับรถเข้าไปชมยังจุดต่างได้ด้วยตนเอง ผู้สนใจเข้าชมได้ทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท สำหรับผู้ที่จะนำรถเข้าชมบริเวณอุทยานฯ จะต้อง เสียค่าผ่านประตูคันละ 50 บาท การใช้บริการรถไฟฟ้านำชมสามารถติดต่อโดยตรงที่โทรศัพท์ 0 5571 1044 ซึ่งภายในอุทยานมีโบราณสถานมากมายแล้วแต่ว่าเราสนใจจะหยุดรถและเดินไปชมชมตรงจุดใด เริ่มจากโบราณสถานแรก นั่นก็คือ วัดอาวาสใหญ่ เป็นวัดที่ค่อนข้างกว้างมีสิ่งก่อสร้างใหญ่โต มีเจดีย์และวิหารมาก
จากนั้นก็มาถึงโบราณสถานวัดช้างรอบ มีความพิเศษ คือ เจดีย์ทรงลังกาที่บันไดทางขึ้นทั้งสี่ด้านประดับด้วยช้างปูนปั้นครึ่งตัว เป็นช้างทรงเครื่องแบบของพระมหากษัตริย์ ที่ปั้นขึ้นอย่างอย่างละเอียดสวยงาม ด้านบนเป็นซุ้มประตูทรงเจดีย์ยอดระฆัง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของวัดช้างรอบ
ถึงแม้กาลเวลาจะทำให้ลวดลายปูนปั้นเริ่มลางเลือนไป แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความสวยงามลดน้อยลง ตรงกันข้ามสิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงคุณค่าและความตั้งใจของสกุลช่างที่ได้สร้างสรรค์บันจงปั้นขึ้นจนทำให้วัดช้างรอบเป็นโบราณสถานที่ขึ้นชื่อของเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่รอให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้มาเรียนรู้และภาคภูมิใจไปกับร่องรอบแห่งประวัติศาสตร์เหล่านี้
ถึงอีกหนึ่งอีกหนึ่งโบราณสถานไฮไลต์สำคัญ นั่นก็คือ วัดพระสี่อิริยาบถ สิ่งสำคัญของวัดได้แก่ มณฑปจตุรมุข แต่ละทิศประดิษฐาน พระพุทธรูป 4 ปาง คือ เดิน นั่ง ยืน นอน อยู่โดยรอบทั้ง 4 ทิศตามลำดับ ปัจจุบันเหลือเพียงพระยืนขนาดใหญ่ที่ สวยงาม พระพักตร์เป็นลักษณะ พระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยแบบกำแพงเพชรคือ พระนลาฏกว้าง พระหนุเสี้ยมป็นพระพุทธศิลปะแบบสุโขทัย สกุลช่างกำแพงเพชร ซึ่งหาดูได้ยาก
ตรงข้ามกับวัดพระสี่อิริยาบถ คือ วัดสิงห์ สันนิษฐานว่าใช้เวลาสร้างถึง 2 สมัย คือ สมัยสุโขทัยและสมัยอยุธยา โดยมีพระเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมมีซุ้มทั้ง 4 ด้านเป็นประธาน ด้านหน้าเป็น พระอุโบสถขนาดใหญ่ มีองค์พระประธานเก่าแก่อยู่ตรงกลางซึ่งยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดของอุทยาน ฯ วัดนี้มองไปแล้วคล้ายกับวัดมหาธาตุ ของอุทยานประวัติศาตร์สุโขทัย
มาถึงวัดสุดท้ายนั้นก็คือ วัดพระนอน ซึ่งมีโบสถ์ขนาดใหญ่ทรงสี่เหลี่ยม ตั้งอยู่ด้านหน้า
13.00 น. เต้าฮวยนมสด
จากนั้นไปหาเครื่องดื่มและของหวานดับร้อนกันซักหน่อยที่ร้าน coffee today อยู่ตรงวงเวียนต้นโพธิ์ ติดกับธนาคารกรุงไทย ใกล้ธนาคารกรุงไทย บรรยากาศร้านก้อเหมาะนัดเพื่อนๆ มานั่งชิลล์ ร้านนี้นอกจากเป็นร้านขายกาแฟเครื่องดื่มและเบเกอรี่ต่างๆแล้ว อีกหนึ่งของอร่อยที่แนะนำว่ามาถึงต้องสั่งนั่นก็คือ เต้าฮวยชากังราว รสชาตินุ่มอร่อยหอมกระทิมีเนื้อมะพร้าวอ่อนใส่เข้ามาด้วยเย็นชื่นใจรับรองว่าอาจมีต่อถ้วยที่สอง ถือว่าเป็นของหวานขึ้นชื่อของร้านที่เรียกว่าขายดิบขายดีมาก เพราะมีทั้งลูกค้าที่สั่งทานที่ร้านและซื้อหากลับไปเป็นของฝาก
จบทริป 2 วัน 1 คิน กำแพงเพชร อิ่มบุญ เพลินตาไปกับสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
Tags : กำแพงเพชร, ที่เที่ยวใหม่กำแพงเพชร, เที่ยวกำแพงเพชร, เที่ยวกำแพงเพชร 2 วัน 1 คืน