บ้านว้าวด้า แช่อ่าง ชมวิวเขา เที่ยวสวนส้ม

อัพเดทล่าสุด 29/11/2021

หมู่บ้านผาปู่จอม หมู่บ้านเล็กๆที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาของอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านที่ชาวบ้านยังคงใช้วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม มีธรรมชาติโดยรอบที่สวยงาม ทั้งวิวของภูเขา สวนกะหล่ำปลีและสวนส้ม มีที่พักหลายแห่งตั้งหลั่นไปตามไหลเขา ซึ่งส่วนใหญ่ดีไซน์คล้ายกัน คือ เป็นบ้านไม้ไผ่ และกระโจมเต้นท์ ในหมู่บ้านถึงแม้จะยังคงเรียบง่าย แต่ที่พักทุกแห่งสร้างแบบสะดวกสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกครบ บางหลังมีอ่างให้แช่น้ำชมวิวแบบฟินๆ อยู่ที่ว่าจะเลือกพักที่ไหน สำหรับการมาเที่ยวบ้านผาปู่จอม เราเลือกพักที่ บ้านว้าวด้า เป็นอีกหนึ่งที่พัก ที่สร้างความประทับใจสำหรับการมาพักผ่อนในครั้งนี้

บ้านผาปู่จอม ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 60 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ผ่านเส้นทางที่แคบคดเคี้ยวพอสมควร ถนนไม่ชันมากขับรถผ่านโค้งไปได้เรื่อยๆ แบบสบายๆ มาถึงบ้านว้าวด้า จอดรถที่ลานจอดรถเข้าไปเช็คอินยังพื้นที่ต้อนรับ บริเวณนี้เป็นร้านอาหาร ขายทั้งอาหารและเครื่องดื่มสามารถสั่งมาทานได้ค่ะ หรือจะสั่งไปทานที่ห้องพักก็ได้ ก่อนเข้าห้องพักสั่งน้ำส้มมาดื่มแก้วละ 50 บาท ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องส้ม ก็ต้องสั่งมาลองหน่อย ถึงแม้จะเป็นน้ำส้มคั้นสดจากสวน แต่ไม่ใช่ทุกสวนจะอร่อยนะคะ เคยลองมาหลายสวน บางสวนเปรี้ยวมาก บางสวนก็รสจืด บางสวนผสมน้ำเชื่อม แต่น้ำส้มคั้นของบ้านว้าวด้า รสชาติดีมาก ยืนดูน้องพนักงานคั้นสดจากผลส้มโดยไม่ได้ผสมอะไร เป็นเครื่องดื่มที่ต้องไม่พลาดเลยทีเดียว

บ้านพักของบ้านว้าวด้ามีหลายหลัง หลายแบบ หลายราคา ทั้งแบบบ้าน กระโจมเต้นท์ ตั้งอยู่ลดหลั่นไปตามเนินเขา

เราพักบ้านชมวิว 4 เป็นแบบบ้านห้องแอร์และมีอ่างอาบน้ำ ราคาคืนละ 2800 บาท (รวมอาหารเช้า) ห้องพักสะอาดมาก พนักงานทำความสะอาดอย่างดี ภายในห้องพักมีเตียงนอน ทีวี ชั้นวางของ ห้องน้ำส่วนตัว และประตูแบบบ้านเลื่อนกระจกที่มองเห็นวิวภูเขา อ่างอาบน้ำ แปลตาข่าย ที่อยู่ข้างนอก สามารถเข้าไปจองในลิงค์จองที่พักของเพจเฟสบุคบ้านว้าวด้าได้โดยตรง

ช่วงบ่าย 4 โมง แสงยามเย็นเริ่มส่องลงมา ออกมานั่งเล่นชมวิวตรงอ่างอาบน้ำและแปลตาข่าย สั่งไวน์จากที่พักมานั่งจิบรอแสงเก๋ๆ ไวน์เป็นไวน์องุ่นและสตรอเบอรี่รสชาติดีเลยค่ะ ราคาขวดละ 250 บาท ถ้าซื้อทั้งขวด ก็จะมีถังแช่มาให้ถึงห้องพัก ส่วนใครอยากได้แก้วไวน์ก็มีให้ค่ะ แต่ต้องเสียมัดจำค่าแก้ว 100 บาท หรือถ้าไม่อยากสั่งมาเป็นขวด จะสั่งแค่มาถ่ายรูปก็สั่งมาเป็นแก้วๆละ 80 บาท

ตอนแรกกว่าจะสั่งเป็นแก้วแต่พอลองชิมไวน์สตอร์เบอรี่ รสชาติดีเหมือนดื่มน้ำผลไม้ เลยสั่งมาทั้งขวดค่ะ จิบไปเรื่อยๆ

หมูกระทะตามวิถีของการท่องเที่ยวในทุกดอย ชุดละ 450 บาท มีเนื้อหมู ผัก ตามภาพ หมูกระทะบ้านว้าวด้าอร่อยค่ะ เป็นหมูกะทะที่ทานแล้วประทับใจในรสชาติ หมูนุ่ม น้ำจิ้มดี นั่งทานไปเรื่อยๆจนหมด

ตกค่ำแช่อ่างอาบน้ำ จิบไวน์กันต่อ ใกล้ค่ำพระอาทิตย์ตกอยู่บริเวณสันเขา ได้แสงสีทไวไลท์ ที่สวยงาม แช่น้ำอ่างจุดไฟ มีความโรแมนติกเบาๆ

ช่วงเช้าอากาศดีมาก ตื่นขึ้นมาเพื่อชมสายหมอกจากหน้าบ้าน มองเห็นไกลๆตรงบริเวณสันเขา

7.30 น. อาหารเช้ามาเสิร์ฟถึงบ้าน มีให้เลือกว่าจะทานข้าวต้มหรือไข่กระทะ ซึ่งจะเสิร์ฟมาพร้อมกับชาร้อน เราเลือกไข่กระทะค่ะ และสั่งเมนูเด็ดมาเพิ่ม ข้าวปุก อาหารพื้นถิ่น เป็นข้าวเหนียวมาตำ แล้วนำมานึ่ง ย่าง ทอด กรอบนอกนุ่มใน จิ้มกับนมข้นคือดี ด้วยความอร่อยนี้ ทานแป๊บเดียวหมด ยังประทับใจกับเมนูข้าวปุก อยากกลับไปทานอีก

และยังไม่ลืมที่จะสั่งน้ำส้มคั้นสดมา 1 แก้ว เพราะติดใจในรสชาติ รวมถึงกาแฟร้อน

อีกหนึ่งกิจกรรมของบ้านว้าวด้า คือ พาไปเที่ยวสวนส้ม มี 2 รอบ โดยนั่งรถของทางที่พักไปค่ะ มีรอบ 8 โมงครึ่ง กับ เก้าโมงครึ่ง ส้มมีให้เก็บช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนมกราคม

ส้มในสวนสามารถเก็บทานได้ไม่อั้น แต่ห้ามนำออกจากสวนนะคะ นั่งทานได้ในสวนเท่านั้น น้องบอกทริคในการเก็บส้มให้เจอแบบรสชาติหวาน คือ ให้เลือกลูกใหญ่ผลสีเหลืองไว้ค่ะ เพราะลูกเล็กจะเปรี้ยวหน่อย ส่วนใครที่ติดใจในรสชาติก็เก็บใส่ตระกร้าแล้วไปชั่งกิโล ซื้อกลับบ้านได้ในราคากิโลละ 50 บาท

มีการจัดพรอพน่ารักไว้สำหรับเป็นมุมถ่ายภาพด้วย จบทริปสุดประทับใจ ถ้าผ่านไปในโซนแม่แตงจะแวะไปพักผ่อน ทานอาหาร หมูกะทะ น้ำส้ม และข้าวปุก อีกเป็นแน่ค่ะ และที่สำคัญความประทับใจมากที่มีต่อบ้านว้าวด้า คือ การบริการของน้องพนักงานทุกคนซึ่งเป็นคนในพื้นที่ มี service mind สูงมาก ทั้งมารยาทและพูดจาสุภาพ สุภาพจนเราเกรงใจ ถึงกับต้องมีค่าสินน้ำใจให้กับการบริการของน้องทุกคน ขอบคุณสำหรับความน่ารักนี้นะคะ