บ้านปายดิน พักฟาร์มสเตย์ใกล้กรุง สูดกลิ่นไอทุ่ง

กลับสู่วิถีชนบทดั้งเดิม สูดกลิ่นไอทุ่ง  ทานอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย จิบกาแฟออแกนิครสดี เก็บไข่สดทานจากฟาร์ม อบอุ่นกับการบริการที่เป็นกันเอง เหมือนพักบ้านญาติสนิทในต่างจังหวัด ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่จะได้รับเมื่อมาพักผ่อน ที่ บ้านปายดิน ออร์แกนิคฟาร์มสเตย์  จังหวัดสุพรรณบุรี ที่พักบรรยากาศริมทุ่งที่สร้างความประทับใจมาก จนอยากกลับไปอีกหลายครั้ง

ถึงแม้ที่พักจะมาแนวบ้านทุ่ง แต่โลเคชั่นไม่ได้อยู่ในป่าเขา ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และคาเฟ่ต่างๆ หากเดินทางจากกรุงเทพใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ที่พักให้บริการในรูปแบบฟาร์มสเตย์ บนพื้นที่หลายไร่ รายล้อมด้วยทุ่งนากว้างไกลสุดตา บ้านพักมีทั้งหมด​ 8​ หลัง​ ​ 8​ สไตล์ มองเห็นวิวทุ่งนาและวิวน้ำ มีทั้งห้องพัดลม และห้องแอร์ ราคาเริ่มต้น 800-2400 บาท แต่ละหลังตั้งอยู่กระจายกันไป แต่รูปแบบบ้านยังคงคอนเซ็ปต์บ้านพักริมทุ่ง บางหลังมีอ่างไม้โอ๊คให้นอนแช่นชมวิวทุ่งนาด้วย แค่เดินเข้ามาเช็คอินก็ได้ยินเสียงคุณลุงเจ้าของบ้าน รีบเดินมาต้อนรับพร้อมกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง

เราเลือกพัก บ้านเคียงน้ำ ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้า เป็นบ้านพักหลังใหญ่  สามารถพักได้ 4 คน ราคา 2400 บาท (รวมอาหารเช้า) หารกันคนละ 600 บาท ไม่แพงนะคะ เพราะบ้านหลังใหญ่และพื้นที่เยอะมาก ด้านหน้า คือ สนามหญ้า และสระน้ำ ประดุจบ้านส่วนตัว น่าจะเป็นหลังที่ใหญ่ที่สุดในบ้านทั้งหมด เพราะเป็นบ้านที่พักได้ 4 ท่าน

ภายในห้องพักสะอาด มีเตียงใหญ่ 2 เตียงคู่กัน ติดแอร์ มีทีวี ตู้เย็น

ส่วนห้องน้ำตั้งอยู่ข้างนอก ตรงข้ามห้องน้ำมีอ่างไม้โอ๊คแช่ตัวแบบเก๋ๆ มองเห็น นาข้าว แต่มาเที่ยวในช่วงที่น้ำเริ่มท่วม ทำให้วิวของนาด้านหลังบ้านโดยน้ำท่วมมิดไป

รอบบ้านมีพื้นที่ให้นั่งเล่นหลายจุด  ทั้งโต๊ะเก้าอี้ ที่นั่งไม้ไผ่ เก้าอี้ไม้สำหรับนอนเอนกายหน้าบ้าน ที่นี่ลมพัดเย็นสบายมากค่ะ แทบไม่ต้องใช้พัดลม อาศัยลมธรรมชาติก็เพียงพอ นั่งๆไปอาจมีหลับได้

บรรยากาศและวิวรอบที่พักมองเห็นทุ่งนากว้างไกล มีเก้าอี้ชิงช้า และซุ้มกระท่อมไม้ไผ่ให้นั่งเล่น รวมทั้งมีจักรยานให้ปั่นชมวิวด้วย เป็นสถานที่เหมาะสำหรับพาเด็กๆมาสัมผัสวิถีธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์มาก เห็นเด็กๆที่มาพักแฮปปี้กับสถานที่ วิ่งเล่นกันทั้งวัน

ด้านหลังที่พักมีซุ้มต้นไผ่ทอดยาว เดินผ่านไปจะพบกับร้านกาแฟโบราณ ให้บริการแขกที่มาพักดื่มฟรีแบบไม่อั้น เจ้าของมาชงให้ดื่มเองค่ะ กาแฟใช้สายพันธุ์โรบัสต้าที่ปลูกแบบออแกนิค เป็นสวนของเจ้าของเองที่อำเภอทองผาภูมิค่ะ ผสมกับกาแฟอาราบิก้าเข้าไปด้วย การคั่วและการบดยังใช้วิธีแบบโบราณ ที่ช่วยคงความหอมและรสชาติของกาแฟได้ดี จะเลือกต้มในหม้อกาแฟ moka pot หรือ จะทานแบบดริป เราสามารถบอกรสชาติกาแฟได้ค่ะ ว่าชอบแบบอ่อนหรือแบบเข้ม

เราลองกาแฟน้ำผึ้งเมนูเด็ด น้ำผึ้งที่ใช้ คือ น้ำผึ้งเดือนห้า เจ้าของบอกว่าจะไม่ใช้น้ำผึ้งแบบอื่นเลย เมื่อใส่ลงในกาแฟ คือ ตัดความเข้มของกาแฟโรบัสต้าได้ดีมาก แถมยังมีความหอมน้ำผึ้งด้วย สำหรับคอกาแฟต้องลองแล้วติดใจ ส่วนใครที่ไม่ดื่มกาแฟ มีชาไทย ให้บริการ รสชาติชาเข้มหอมไม่แพ้กัน ที่นี่เป็นธุรกิจแบบครอบครัวที่ช่วยกันทำ และแบ่งหน้าที่กันดูแลในแต่ละส่วน ทุกคนเป็นกันเองน่ารักมาก ยืนดูเขาดริปกาแฟพร้อมพูดคุย เล่าถึงเมล็ดกาแฟและกรรมวิธีการชงกาแฟ เหมือนสภากาแฟขนาดย่อม

จิบกาแฟพูดคุยพอหอมปาก หอมคอ ก็เดินไปต่อยังบ้านที่ set ไว้ให้ถ่ายรูปค่ะ จะตั้งอยู่ด้านหลัง ระหว่างทางเดิน ผ่านที่พักในแบบต่างๆ ซึ่งโซนนี้อยู่ในสวนที่บรรยากาศครึ้มสักนิด เป็นบ้านกระท่อมปลายนาจริงๆ ห้องพัดลม มีอาบน้ำโอ่งด้วย ใครอยากได้ความรู้สึกแบบบ้านทุ่งแท้ ๆ สามารถเลือกพักแบบนี้ได้ ราคาหลังละ 800 บาท

ติดกับ กระท่อมปลายนา มีแปลไม้ไผ่ที่ผูกกับต้นตาล ตั้งอยู่ริมนา ไว้นอนไกวแปลเล่นมองวิเพลินๆ อากาศดี ลมพัดเย็นสบายมาก

หลังนี้คือ บ้านที่จัดไว้ให้ถ่ายภาพ จำลองบรรยากาศแบบบ้านทุ่งดั้งเดิม ภายในบ้านมีข้าวของ เครื่องใช้ แบบโบราณต่างๆ  เห็นบ้านหลังนี้ทำให้เรายิ้มได้ นึกถึงความทรงจำในวัยเด็ก ตอนไปเที่ยวบ้านยายที่ต่างจังหวัด บรรยากาศแบบนี้เลยค่ะ ได้วิ่งเล่นซน สนุกสนาน กับญาติพี่น้อง เป็นความสุขในวัยเยาว์ที่มีความสุขมาก

เด็กน้อยสนุกใหญ่ ปกติวิ่งเล่นอยู่แต่ในป่าปูน และในตึก ไม่เคยเจออะไรแบบนี้

อาหารมื้อเย็นทางที่พักส่งเมนูมาให้เลือก มีเมนูเยอะมาก ทั้งชุดหมูกระทะ และอาหารพื้นบ้านที่มีไม่ต่ำกว่า 30 เมนู รู้สึกว่าที่พักจะสั่งจากร้านอาหารข้างนอกมาค่ะ ซึ่งร้านนี้เป็นร้านประจำที่สั่งให้ลูกค้าที่มาพัก มาพักแนบบ้านทุ่งต้องสั่งอาหารมาให้เข้ากับบรรยากาศ เน้นอาหารพื้นบ้านทั้งชุดน้ำพริกกะปิ ปลาทู ไข่ชะอม พร้อมชุดผักแบบจัดเต็ม คอนเฟิร์มว่าอร่อยมาก มากจนต้องสั่งกลับบ้าน แกงคั่วหอยขม ปลาเนื้ออ่อนทอด ต้มยำไก่บ้าน รสชาติจัดจ้านอร่อยหมดเลยค่ะ มีอ่อมกบด้วย เมนูนี้อยากลองทานดูว่ารสชาติเป็นยังไง ก็อร่อยดีค่ะ  ช่วงโควิดยังไม่คลี่คลายทางที่พักจะไม่เสิร์ฟอาหารใส่จาน จะใส่กล่องมาให้

มื้อเช้าเสิร์ฟเป็นข้าวต้มและชุดอเมริกันเบรคฟาส ทีเด็ดของมื้อเช้า คือ ไข่ไก่สดจากฟาร์ม นำมาลวกและทอดให้ลูกค้าทาน ไข่เก็บวันต่อวัน สังเกตเลยว่ามีสีเนื้อนวลสวยมาก เห็นครั้งแรกนึกว่าของปลอม สีจะต่างกับไข่ตามท้องตลาดที่เก็บไว้นาน และแน่นอนความสดและรสชาติย่อมต่างกัน ไข่ที่เก็บสดและเลี้ยงแบบออแกนิค ไม่มีกลิ่นคาว และเนื้อไข่ที่นี่มีความเค็มนิดๆโดยที่ไม่ต้องเติมซอสค่ะ เพราะตอนเลี้ยงมีการผสมเกลือไปในอาหารด้วย ทำให้ไข่มีรสชาติขึ้น คุณลุงเจ้าของบ้านบอกว่าปกติไม่ทานไข่ลวกเพราะมีกลิ่นคาว แต่ทานไข่ลวกของไก่ที่บ้านที่ตัวเองเลี้ยงเองได้ ไข่ลวกทานได้ไม่อั้นเหมือนเดิมค่ะ จะขอซื้อกลับบ้าน เจ้าของบอกว่าไม่มีขาย เก็บไว้เฉพาะให้ลูกค้าที่มาพักทานเท่านั้น เพราะไข่มีน้อย ไก่ออกไข่ต่อวันไม่เยอะค่ะ

ตอนแรกที่ตัดสินใจมาพัก เพราะชอบบ้านบรรยากาศติดทุ่งนา แต่เมื่อได้มาพักสำหรับคนที่ชอบแนวธรรมชาติ ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่บ้าน บรรยากาศ  อาหาร แต่เหนือกว่านั้น คือ การบริการ ความจริงใจ ของเจ้าของบ้าน ที่ทำให้ลูกค้าประทับใจและอยากกลับมาพักอีกครั้ง ทุกคนในบ้านน่ารักมากค่ะ มีใจบริการที่เป็นกันเอง สังเกตว่า ลูกค้าที่มาพักเกือบทุกหลัง คือ ลูกค้าที่เคยมาพักแล้วกลับมาอีก บางกลุ่มพัก 3 วัน 2 คืน  และเราจะเป็นหนึ่งในนั้นที่จะกลับพักที่  บ้านปายดิน ออร์แกนิคฟาร์มสเตย์ อีกแน่นอนค่ะ

บ้านปายดิน ออร์แกนิคฟาร์มสเตย์

ที่อยู่ 122 หมู่ 4 ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

โทร 063-978 8882, 083 157 1823

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน