บ้านภูหมอก ม่อนแจ่ม ชมวิวหมอกสุดอลังการ

บ้านภูหมอก ม่อนแจ่ม ที่พักสุดว้าว มองเห็นวิวของทะเลหมอกได้แบบพาโนรามา พิกัดตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของม่อนแจ่ม มีทัศนียภาพที่สวยงาม สามารถเห็นภูเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อนดุจภาพวาด ชมได้ทั้งบรรยากาศของพระอาทิตย์ตกในยามเย็น และพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมไปกับทะเลหมอกสุดอลังการ ที่สามารถมองเห็นได้จากหน้าห้องพัก แถมยังมีทั้งร้านอาหารและคาเฟ่ให้บริการแบบครบครัน

บ้านภูหมอก ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงของม่อนแจ่ม ติดกับยิ่งยงสวนดอกไม้ สำหรับเส้นทางขึ้นไปยังบ้านภูหมอก ค่อนข้างแคบและชันรถสวนกันไม่ได้ แต่รถทุกชนิดขึ้นได้ทั้งหมด แต่ต้องขึ้นไปแบบใจเย็นนิดนึงค่ะ เพราะทางชันมากขึ้นแบบยาวๆประมาณ 700 เมตร ยิ่งช่วง 200 เมตร สุดท้ายก่อนถึงบ้านพักทั้งชันและหักศอก แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ขับรถขึ้นเขาแบบชำนาญนักอย่างเรา ก็ใจกล้าขับขึ้นไปได้แต่ถึงกับต้องไหว้พระ ผ่านทางขึ้นไปบ้านภูหมอกแล้ว เขาไหนก็ไม่กลัวแล้วค่ะ แต่ถ้าใครไม่มั่นใจจอดรถข้างล่างตรงลานจอดรถ และโทรแจ้งทางที่พักให้ส่งคนมาขับรถขึ้นไปให้ได้

ที่พักของบ้านภูหมอก แบ่งออกเป็น 4 โซน คือ  โซน A เป็นบ้านพักวิวทะเลหมอกตั้งอยู่บนจุดสูงสุด มีทั้งหมด 4 หลัง  โซน B เป็นบ้านพักวิวฝั่งหมู่บ้าน มีทั้งหมด 4 หลัง โซน C เป็นบ้านพักวิวฝั่งที่พักและภูเขา มีทั้งหมด 6 หลัง  โซนเต็นท์กระโจมวิวฝั่งหมู่บ้าน มีทั้งหมด 10 หลัง ซึ่งราคาจะแตกต่างกัน

เราพักโซน A  ซึ่งโซนนี้ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ตัวบ้านเป็นบ้านไม้ทรงสามเหลี่ยมดีไซน์เก๋ บ้านแต่ละหลังมองเห็นวิวไม่เหมือนกัน ห้อง A1 A3 มองเห็นวิวที่พักในม่อนแจ่มที่ตั้งเรียงรายกันบนเนินเขา ส่วนห้องที่มองเห็นภูเขาและทะเลหมอกแบบเต็มๆ คือ ห้อง A4 และ A2  เราเลือกห้อง A4 ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ริมสุดและสูงสุด มองเห็นวิวของภูเขาและทะเลหมอกได้อย่างชัดเจน ราคาห้องคืนละ 2590 บาท รวมอาหารเช้า

ภายในบ้าน แบ่งเป็นพื้นที่ห้องนอน ห้องค่อนข้างแคบ มีแค่เตียงนอนชั้นวางของและพัดลม  แต่อากาศเย็นสบายพัดลมแทบไม่ต้องเปิด หน้าต่างเป็นกระจกใสสามารถมองเห็นวิวภูเขาได้อย่างสวยงาม ส่วนด้านนอก คือ พื้นที่ของระเบียงที่กว้างขวาง และห้องน้ำในตัวซึ่งอยู่ด้านนอก

ภายในที่พักมีส่วนของร้านอาหารและคาเฟ่ สามารถสั่งอาหารเครื่องดื่มมาทานได้ จะนั่งทานที่ร้านหรือสั่งมาทานที่บ้านพักก็ได้ เมนูอาหารมีไม่เยอะเน้นเป็นอาหารจานเดียว และกับข้าว รวมทั้งหมูกระทะสำหรับมื้อเย็น

สั่งยำปลากระป๋องและข้าวไข่เจียวมาทาน เมนูง่ายๆ แต่ได้นั่งทานในวิวแบบนี้ อาหารธรรมดาเปลี่ยนเป็นอาหารมื้อพิเศษได้เหมือนกัน  สำหรับเราบางครั้งอาหารจะน่าทานหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่สถานที่ด้วยค่ะ ทานไข่เจียวหรือมาม่าที่บ้านอาจจะรู้สึกเฉยๆ แต่ถ้าได้ทานบนดอยสูง คือ สุดยอด

บรรยากาศยามเย็นจากหน้าห้องพัก นั่งมองวิวและแสงสวยยามเย็น วิวอีกฝั่งด้านหน้าคือ ทุ่งดอกเก๊กฮวยกลางสายหมอก ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน สามารถเข้าไปถ่ายภาพได้ค่าเข้าชมคนละ 40 บาท แต่ถ้าพ้นช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาวจนถึงหนาว ไม่แน่ใจว่าสวนตรงนี้จะกลายเป็นสวนอะไร น่าจะเป็นพื้นที่โล่ง

มาถึงช่วงเวลาที่เฝ้ารอคอย ตื่นแต่เช้ามาชมทะเลหมอกจากหน้าห้องพัก เป็นความอลังการของทะเลหมอกที่แทรกตัวตามทิวเขาทอดยาว มองเห็นแบบพาโนรามาคลอเคล้าไปแสงอาทิตย์ในยามเช้า เป็นภาพที่มองแล้วฟินมาก มองไปทางไหนก็สวย

ทางฝั่งขวามองเห็นทุ่งดอกเก็กฮวย และที่พักกระโจมเต้นท์ ชื่อว่า ม่อนทิพย์  วิวดีเลยทีเดียว  มาครั้งหน้าอาจลองมาพักที่นี่บ้าง

จากนั้นเราเดินไปถ่ายภาพกับสวนดอกเก๊กฮวยกลางสายหมอก ทุ่งดอกเก๊กฮวยเหลืองอร่าม ได้วิวทะเลหมอกสุดปังเป็นฉากหลังในยามเช้า ส่วนช่วงเวลาอื่นจะมองเห็นวิวของภูเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อน

หลังจากพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ยังมีทะเลหมอกให้ชม แต่ท้องฟ้าจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าแทน วิวตรงนี้ คือพื้นที่รอบที่พัก มีลานชมวิวข้างบนขนาบข้างด้วยก้อนหินรูปร่างแปลกตา กลายเป็นซิกเนอเจอร์ของบ้านภูหมอกอีกหนึ่งจุด

เวลา 9 โมง กลับมายังบ้านพัก สายหมอกยังคงมีให้ชม เป็นที่พักที่หมอกอลังการสมชื่นบ้านภูหมอก และเป็นที่พักในม่อนแจ่มที่วิวดีที่สุด ตั้งแต่เคยพักมาหลายแห่ง วิวโล่งเห็นภูเขาแบบไม่มีที่พักที่แน่นๆมากวนสายตา  ถ้าใครอยากเห็นทะเลหมอกแบบนี้ ต้องมาพักที่บ้านภูหมอก รับรองไม่ผิดหวัง

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน