• หน้าแรก
  • เกาะหลีเป๊ะ เริ่มต้นเที่ยวอย่างไร ตัวอย่างเพลนทริป ใช้เวลากี่วัน

เกาะหลีเป๊ะ เริ่มต้นเที่ยวอย่างไร ตัวอย่างเพลนทริป ใช้เวลากี่วัน

เกาะหลีเป๊ะ สตูล เกาะสวยยอดนิยมในฝั่งทะเลอันดามัน มีน้ำทะเลสีฟ้าเขียวใส เวิ้งอ่าวที่สวยงาม หาดทรายละเอียดขาวเหมือนแป้ง ความเป็นธรรมชาติของปะการังรายล้อมรอบเกาะ รวมทั้งยังมีจุดท่องเที่ยว จุดดำน้ำ ตามเกาะต่างๆ เป็นเกาะที่เดินทางสะดวก อยากมาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะจะเริ่มต้นอย่างไร เพลนทริปแบบไหน ใช้เวลากี่วัน เดินทางอย่างไร พักที่ไหน บนเกาะมีจุดไหนน่าเที่ยวบ้าง รับรองรีวิวนี้มีคำตอบครบ ตอบโจทย์ของการท่องเที่ยวสำหรับผู้ชื่นชอบและรักธรรมชาติของท้องทะเลไทย 

เกาะหลีเป๊ะ

เกาะหลีเป๊ะ ควรเที่ยวช่วงไหน ใช้เวลากี่วัน

ช่วงเดือนท่องเที่ยว

ฤดูการท่องเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ คือ ช่วงเดือนมกราคม – กลางเดือนเมษายน เป็นช่วงที่สภาพอากาศปลอดโปร่ง ส่วนในเดือนอื่นฝนจะเริ่มตก และคลื่นจะเริ่มสูงขึ้นน้ำทะเลอาจไม่สวยเท่าฤดูการท่องเที่ยว ควรมีเวลา 3 วัน 2 คืน ถ้าจะดำน้ำด้วยเพื่อไม่ให้เหนื่อยมาก 4 วัน 3 คืน คือ เวลาที่เหมาะสม เพราะกว่าจะนั่งเครื่องบินมาต่อรถต่อเรือ หรือการเดินทางวิธีอื่น มาถึงท่าเรือปากบาราไปเกาะหลีเป๊ะเรือรอบแรก 11.30 น. รวมแวะเกาะไข่ เกาะตะรุเตา มาถึงเกาะหลีเป๊ะบ่ายสองโมง ยังไม่ทันหายเหนื่อยจากการเดินทางหมดเวลาไป 1 วัน วันต่อไป 9 โมง ไปด้ำน้ำกลับมาบ่ายสองหรือสี่โมงเย็นอาจจะเพลีย เช้าวันต่อมารอบเรือกลับ มีสองรอบ คือ 9.30 น.และ 11.30 น. ยังไม่ได้ดื่มด่ำกับชายหาดในช่วงเวลาที่สวย คือ เที่ยงถึงบ่าย ก็ต้องกลับ 

ระยะเวลาท่องเที่ยว

ควรมีเวลา 3 วัน 2 คืน ถ้าจะดำน้ำด้วยเพื่อไม่ให้เหนื่อยมาก 4 วัน 3 คืน คือ เวลาที่เหมาะสม เพราะกว่าจะนั่งเครื่องบินมาต่อรถต่อเรือ หรือการเดินทางวิธีอื่น มาถึงท่าเรือปากบาราไปเกาะหลีเป๊ะเรือรอบแรก 11.30 น. รวมแวะเกาะไข่ เกาะตะรุเตา มาถึงเกาะหลีเป๊ะบ่ายสองโมง ยังไม่ทันหายเหนื่อยจากการเดินทางหมดเวลาไป 1 วัน วันต่อไป 9 โมง ไปด้ำน้ำกลับมาบ่ายสองหรือสี่โมงเย็นอาจจะเพลีย เช้าวันต่อมารอบเรือกลับ มีสองรอบ คือ 9.30 น.และ 11.30 น. ยังไม่ได้ดื่มด่ำกับชายหาดในช่วงเวลาที่สวย คือ เที่ยงถึงบ่าย ก็ต้องกลับ 

ถ้าใครไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและค่าใช้จ่าย แนะนำ 4 วัน 3 คืน  โปรแกรมวันแรก มาถึงบ่ายสองพักผ่อน วันที่สอง พักผ่อนริมหาด เที่ยวตามจุดต่างๆรอบหาด รวมถนนคนเดิน หรือจะนั่งเรือยอร์ชมพระอาทิตย์ตก มีแพคเกจขาย วันที่สาม ดำน้ำ 1 วัน เต็มๆ วันที่สี่ เดินทางกลับ แบบนี้จะเหนื่อยน้อยและชิลมาก เที่ยวได้ครบ

เกาะหลีเป๊ะ

สถานที่ท่องเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ

เกาะหลีเป๊ะ มีชายหาดหลัก 3 ชายหาด  คือ หาดพัทยา หาดซันไรส์ หาดซันเซ็ท ตั้งอยู่คนละฝั่ง สามารถเดินทางถึงกันได้ ด้วยการเดิน หรือนั่งรถมอเตอร์ไซต์พ่วงข้างท้องถิ่น หรือ ที่เรียกว่าแท๊กซี่บนเกาะไปยังจุดต่างๆ ได้รอบเกาะ โดยคิดค่าบริการคนละ 50 บาท 

หาดพัทยา ศูนย์กลางท่องเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ

หาดพัทยา ศูนย์กลางท่องเที่ยวที่ค่อนข้างคึกคัก เป็นที่ตั้งท่าเรือรับส่งนักท่องเที่ยวไปยังหาดต่างๆ เป็นแหล่งชุมชนที่อาศัยของชาวบ้านบนเกาะ เต็มไปด้วยมีร้านค้า ร้านอาหาร รีสอร์ทที่พัก และจุดขึ้นเรือไปดำน้ำ เพราะฉะนั้นบริเวณหน้าหาดพัทยาจะเต็มไปด้วยเรือหางยาวที่จอดเรียงรายบริเวณชายหาด เพื่อรับส่งนักท่องเที่ยวไปดำน้ำ น้ำทะเลบริเวณหาดพัทยาค่อนข้างใส แต่ลักษณะของหาดทรายมีพื้นที่ไม่มาก และลาดเอียงลงสู่ทะเล 

เกาะหลีเป๊ะ
เกาะหลีเป๊ะ

หาดซันไรท์ 

หาดซันไรท์  ชายหาดที่สวยที่สุดบนเกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศเงียบสงบ มีเวิ้งอ้าวทอดยาว น้ำทะเลใส หาดทรายขาวละเอียด มีที่พักให้เลือกหลายแห่งไม่ต่างจากหาดพัทยา เพียงแต่ทะเลบริเวณหาดซันไรส์จะค่อนข้างสงบ และไม่มีเรือหางยาวมาจอดเทียบท่าบังสายตา จุดเด่นของหาดซันไรส์ มีเนินทรายที่มีลักษณะคล้ายทะเลแหวก บริเวณหน้าหาด เมาท์เท่น รีสอร์ท ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยม รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของบีชบาร์ชื่อดัง Zodiac seesun beach bar ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่พักอยู่ตามหาดดต่างๆนิยมมาที่หาดแห่งนี้ หาดซันไรท์ ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามบนเกาะหลีเป๊ะ

เกาะหลีเป๊ะ

หาดซันเซ็ท 

หาดซันเซ็ท  ชายหาดที่เงียบสงบ ชายหาดและน้ำทะเลบริเวณหาดแห่งนี้ จะไม่สวยเท่ากับ 2 หาดแรก และมีที่พักค่อนข้างน้อย จึงอาจไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคนไทยมากนัก


ถนนคนเดินเกาะหลีเป๊ะ

ถนนคนเดินหลีเป๊ะ ตั้งอยู่ฝั่งหาดพัทยา เป็นจุดท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเล่น หาร้านอาหารทานเพราะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร มากมาย ถนนคนเดินจะเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเวลาเย็นไปจนถึงค่ำ


สถานที่ท่องเที่ยวรอบเกาะหลีเป๊ะ 

อีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมเมื่อมาถึง เกาะหลีเป๊ะ คือ ดำน้ำและท่องเที่ยวเกาะใกล้เคียง สามารถซื้อแพคเกจนำเที่ยวแบบ one day trip ได้จากรีสอร์ทที่พักโดยตรง หรือหากซื้อแพคเกจเที่ยวแบบ 3 วัน 2 คืน กับบริษัททัวร์​นำเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ หรือซื้อกับทางรีสอร์ท จะมีแพคเกจดำน้ำให้ 1 วัน ต้องสอบถามว่าเป็นแพคเกจดำน้ำรอบในหรือรอบนอก ซึ่งส่วนใหญ่ คือ  ดำน้ำรอบใน เพราะเส้นทางใกล้และมีเรือออกทุกวัน แต่โซนนอกต้องเช็คก่อน แนะนำถ้ามาทั้งทีซื้อแพคเกจโซนนอก จะครอบคลุมเกาะที่เด่นๆ ทั้งหมด หรือหากมาหลายคนเหมาเรือเที่ยว อยากแวะจุดไหนบอกคนเรือได้ เรือเหมาติดต่อสอบถามได้ยังที่พักเช่นกันมี Contact กันทั้งหมด

รายละเอียดแพคเกจดำน้ำมี 2 แบบ 

ดำน้ำเกาะโซนนอก

ราคาแพคเกจแบบกรุ๊ปจอย 700 บาท  ราคาเหมาเรือหางยาวราคาประมาณ 2,500 -3,500  บาท (ตามจำนวนคน)  เริ่ม 09.00- 16.00 น. เกาะที่แวะคือ  เกาะหินซ้อน เกาะไผ่ อ่าวกำนัน เกาะรอกลอย เกาะราวี เกาะยาง เกาะหินงาม  ร่องน้ำจาบัง

ดำน้ำเกาโซนใน

ใช้เวลาราคาแพคเกจ กรุ๊ปจอย 600 บาท ราคาเหมาเรือหางยาวราคาประมาณ 1600 – 2,500 บาท (ตามจำนวนคน) เริ่ม 09.00- 14.00 น.   โซนนี้ใช้เวลาเดินทางน้อยกว่าโซนนอก เกาะที่แวะ ร่องน้ำจาบัง  เกาะหินงาม เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะยาง

เกาะอาดัง

เกาะอาดัง ตั้งอยู่ตรงข้ามเกาะหลีเป๊ะมองเห็นได้จากหาดซันไรส์แบบไม่ไกล สามารถนั่งเรือหางยาวไปได้ ใช้เวลาเพียง 5 นาที เท่านั้น เกาะอาดังเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติตะรุเตา บนเกาะมีหาดทรายขาวละเอียด  มีที่พักและร้านอาหารของอุทยานฯ และที่พักของเอกชนเพียงแห่งเดียว คือ  อาดัง ไอแลนด์ รีสอร์ท บนเกาะอาดังยังมีจุดชมวิว “ผาชะโด” ซึ่งในอดีตเคยเป็นจุดสังเกตการณ์ของโจรสลัดเพื่อเข้าโจมตีเรือสินค้า ปัจจุบันเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ใช้เวลาเดินขึ้น 40 นาที บนผาชะโดเป็นลานโล่งมองลงไปจะเห็นทิวสนและแหลมทรายสีขาวของเกาะอาดังและเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

เกาะราวี

เกาะราวี เกาะพี่น้องของเกาะอาดัง อยู่ห่างจากเกาะอาดังเพียง 1 กิโลเมตร มีหาดทรายที่ขาว สวย สะอาด น้ำทะเลใส นักท่องเที่ยวนิยมแวะที่เกาะราวีเพื่อพักผ่อนเล่นน้ำ รับประทานอาหารกลางวัน หลังจากเที่ยวดำน้ำยังจุดต่างๆ  หรืออาจดำน้ำชมปะการังรอบเกาะ

เกาะหินงาม

เกาะหินงาม เกาะขนาดเล็กทางทิศใต้ของเกาะอาดัง เป็นเกาะที่ไม่มีหาดทรายขาวเหมือนเกาะอื่น ทั้งเกาะเต็มไปด้วยหินสีดำกลมเกลี้ยงมันวาว ยามโดนคลื่นซัดทำให้ก้อนหินเป็นมันวาวยิ่งขึ้น เล่ากันว่าหินทุกก้อนมีคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตา ห้ามนำเคลื่อนย้ายออกจากเขตอุทยานแห่งชาติ

เกาะรอกลอย

เกาะรอกลอย  เกาะขนาดเล็กที่อยู่ในแพคเกจดำน้ำโซนนอก ห่างจากเกาะหลีเป๊ะประมาณหนึ่งชั่วโมง จุดเด่นของเกาะรอกลอยคือหาดทรายที่ขาวสะอาดมีลักษณะเป็นแหลมสามเหลี่ยมยื่นออกไปในทะเล ปลายแหลมอยู่ใกล้กับเกาะดง มีหาดทรายสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีเขียวมรกต นับเป็นเกาะที่เงียบสงบ น้ำทะเลใส หาดทรายขาว และมีความใกล้ชิดธรรมชาติ เหมาะกับการเล่นน้ำถ่ายภาพ เดินเล่นริมชายหาด

เกาะหินซ้อน

เกาะหินซ้อน เป็นก้อนหินยักษ์รูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยม วางซ้อนกันอยู่อย่างสมดุลกลางทะเล  ด้วยลักษณะของเกาะหินซ้อนเป็นเอกลักษณ์ บางคนเรียกกองหินเรือดำน้ำ บางคนก็บอกว่ามันคล้ายเจ้าตัวโมอายแห่งเกาะอีสเตอร์ กองหินบริเวณนี้ มีทั้งปะการังอ่อน ปะการังแข็ง และดอกไม้ทะเลสีสันสวยงาม รอบเกาะหินซ้อนจึงเป็นที่นิยมของคนที่สนใจดำน้ำตื้น หรือ snorkeling การดำน้ำบริเวณนี้ต้องระมัดระวัง เพราะกระแสน้ำค่อนข้างเชี่ยวเนื่องจากเป็นทะเลเปิด

ร่องน้ำจาบัง

ร่องน้ำจาบัง จุดดำน้ำยอดนิยมและขึ้นชื่อ เป็นจุดด้ำน้ำที่อุดมสมูบรณ์และสวยงามที่สุด   มีปะการัง 7 สี  สีสันสวยงาม ทั้งสีแดง สีชมพู  มีดอกไม้ทะเล ฝูงปลาทะเล ปลาการ์ตูน แต่กระแสน้ำค่อนข้างแรง  มีการทำทุ่นและแนวเชือกผูกไขว้กันเอาไว้ ให้เราเกาะเชือกไว้จะได้ไม่โดนกระแสน้ำพัดลอยไปไกล หากใครว่ายน้ำไม่แข็งแนะนำควรสวมชูชีพติดตัวไว้


เริ่มต้นเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ

มาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ จะซื้อแพคเกจกับทางบริษัททัวร์นำเที่ยว หรือซื้อกับทางรีสอร์ทโดยตรงหรือจะจองด้วยตัวเองทั้งหมดก็ได้ แต่ราคาจองกับรีสอร์ทหรือทัวร์ แบบพัก 3 วัน 2 คืน ขึ้นไป าอาจถูกกว่า และสะดวกกว่าเพราะไม่ต้องวางเพลนอะไร ทางที่พักและทัวร์จะจองและจัดทุกอย่างทั้งหมด ตั้งแต่รถรับส่ง เรือ และที่พัก รวมทั้งแพคเกจดำน้ำ แต่จะไม่รวมอาหารบางมื้อ  ซึ่งส่วนใหญ่จะจัดแพคเกจแบบ 3 วัน 2 คืน ขึ้นไป รายละเอียดแพคเกจคล้ายกัน คือ รวมรถไปรับสนามบิน เรือไปกลับ  ที่พัก 2 คืน และอาจมีแพคเกจดำน้ำ 1 วัน  ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 3000-12000 บาท Up ขึ้นอยู่ว่าเลือกที่พักที่ไหน เพราะที่พักแต่ละแห่งราคาไม่เท่ากัน ถ้าติดหาดสวยหรู ราคาแพคเกจจะสูงขึ้น 


รีวิวเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ 3 วัน 2 คืน

วันแรก

ทริปนี้มีเวลาแค่ 3 วัน2 คืน ไม่ได้ซื้อแพคเกจกับทางทัวร์ จองด้วยตัวเองทุกอย่าง ทั้งที่พัก และตั๋วเรือ ขับรถส่วนตัวมาจากกรุงเทพ พักยังรีสอร์ทบริเวณหาดปากบารา 1 คืน เช้าอีกวันนำรถไปจอดไว้ใกล้ท่าเรือปากบารา โดยซื้อตั๋วเรือไปกลับกับทางทัวร์นำเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ ชื่อว่า Lipe Lovers เรือรอบแรก 11.30 น ก่อนเดินทางไปรับตั๋วเรือที่ออฟฟิศ ติดกับร้านบังวร ทางบริษัทจะแจ้งว่าขึ้นเรือลำไหน

จากนั้นไปยังท่าเรือปากบารา ชำระค่าธรรมเนียมผ่านคนละ 20 บาท และค่าธรรมเนียมอุทยานคนละ 40 บาท เพราะเกาะตะรุเตา เกาะหลีเป๊ะ จุดท่องเที่ยวต่างๆ อยู่ในพื้นที่ดูแลของอุทยานแห่งชาติตะรุเตาฯ จากนั้นรับบัตรคิวที่เคาน์เตอร์เรือที่เราจะขึ้น  รอเรียกขึ้นเรือตามลำดับ เราได้ขึ้นเรือประมาณเกือบเที่ยง

นั่งเรือประมาณครึ่งชั่วโมงถึง เกาะตะรุเตา เรือทุกลำจะแวะเกาะนี้เป็นเกาะแรกเหมือนกันทุกบริษัท และให้เวลาอยู่บนเกาะ 20 นาที  เกาะตะรุเตาเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ในอดีตยังเป็นที่จองจำขังนักโทษ ทำให้มีอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ให้เห็นหลายจุด เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อตะรุเตาอันศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องแวะมากราบไหว้บนเกาะมีที่พักของอุทยาน ร้านค้าสวัสดิการ มีน้ำดื่ม ขนมขาย มีห้องน้ำ  

บรรยากาศบนเกาะตะรุเตา ค่อนข้างร่มรื่นเขียวขจีด้วยต้นไม้ น้ำทะเลบริเวณหน้าเกาะตะรุเตา ค่อนข้างใส หาดทรายสะอาด มีจุดนั่งเล่นพักผ่อน ให้ผ่อนคลายอิริยาบถ

จากเกาะตะรุเตา นั่งเรือไปสักพักแวะ เกาะไข่ สัญลักษณ์ของจังหวัดสตูล ให้เวลาถ่ายภาพ 15 นาที ลักษณะเด่นของเกาะไข่ คือ ซุ้มประตูหินที่มีช่องขนาดใหญ่ สามารถเดินลอดผ่านไปได้ น้ำทะเลบริเวณเกาะไข่ สีฟ้าใสมาก รวมทั้งหาดทรายมีความขาวละเอียด มีก้อนหินเรียงรายอยู่มากมายบนหาดทราย

บ่ายสองโมงเรือมาถึง เกาะหลีเป๊ะ เรือทุกลำจะมาจอดที่ท่าเรือบริเวณหาดพัทยา ลงจากเรือเดินผ่านทางเดินที่จัดทำไว้ แค่เห็นความใสของน้ำทะเลก็ว้าวแล้ว เดินขึ้นฝั่งไปจะมีรถของทางรีสอร์มารอรับ หรือถ้าไม่มีรถมารับให้นั่งรถโดยสารมอเตอร์ไซต์พ่วงข้าง ที่เรียกกันว่าแท็กซี่ จะจอดรถบริเวณท่าเรือ ราคาเที่ยวละ 50 บาท จะไปจุดไหนก็ราคานี้  ที่พักคืนแรกที่จองไว้ คือ Zodiac see sun resort ตั้งอยู่บริเวณหาดซันไรส์ จากหาดพัทยาไปยังหาดนี้ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

zodiac seesun resort ที่พักคืนแรก

คืนแรก พักที่ zodiac seesun resort ตั้งอยู่ริมหาดซันไรส์  เดินไม่กี่ก้าวจะได้พบกับหาดทรายสีขาวละเอียด และน้ำทะเลสีฟ้าใส โดยเฉพาะหากพักห้อง Deluxe beach front สามารถมองเห็นวิวทะเลได้จากหน้าห้องพัก พร้อมห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบ sea view ภายในที่พักมีทั้งร้านอาหาร และมุมพักผ่อนริมหาดปลายมุม ให้ได้พักผ่อนมองวิวทะเล และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระยังได้ชมแสงสีทไวไลท์หลากสีในยามเย็นได้อีกด้วย

ห้องพักเป็นแบบบ้านที่ตั้งเรียงรายริมหาด ทั้งแบบบ้านที่ไม่เห็นวิวทะเลโดยตรง Superior Bungalow และ Superior Twin Sea View ราคาเริ่มต้น 3500-4500 บาท และห้องไฮไลท์ Deluxe beach front สามารถมองเห็นวิวทะเลได้จากในห้องพัก ห้อง deluxe ในช่วงไฮซีซั่น  ราคาคืนละ 6000 บาท  ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทั้ง แอร์ ทีวี ตู้เย็น และห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำที่เป็นแบบกระจก สามารถมองเห็นวิวทะเลได้เช่นกัน

zodiac seesun resort 

>>> จองที่พักราคาพิเศษกับโกด้า คลิ๊ก จองที่พัก zodiac seesun

>>> หาที่พักเกาะหลีเป๊ะเพิ่มเติมไปอ่านต่อได้ที่ 15 ที่พักเกาะหลีเป๊ะ พักผ่อนสุดชิลริมชายหาด

บริเวณหน้าที่พักยังจัดพื้นที่สำหรับพักผ่อน ดื่มด่ำกับวิวทะเลได้แบบเต็มอิ่ม ทั้งที่นั่งแบบเก้าอี้ชายหาด ชิงช้าหน้าหาด 

มีร้านอาหาร รวมทั้งมุมที่นั่งด้านหน้าร้านอาหาร สำหรับสั่งอาหารและเครื่องดื่มมานั่งทาน หรือจะสั่งมานั่งทานหน้าห้องพักก็ได้ อาหารที่นี่มีไม่มาก เน้นเป็นอาหารจานเดียว  ส้มตำ ยำ รสชาติอร่อย

พื้นที่บริเวณหน้าหาด มีหาดทรายขาวละเอียด และน้ำทะเลสีสวยมาก ติดกับที่พัก คือ  zodiac seesun beach bar ร้านยอดฮิตบนเกาะหลีเป๊ะ ที่ต้องมาถ่ายภาพ แต่ถ้าพักที่ zodiac seesun resort สามารถเดินไปได้ ชื่อเหมือนกันแต่คนละเจ้าของนะคะ

Zodiac see sun beach bar  บีชบาร์ยอดฮิตของหลีเป๊ะ เหตุผลที่เลือกพัก เพราะตั้งอยู่ติดกับบาร์นี้ สามารถเดินมาถ่ายภาพเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะหากพักหาดพัทยาหรือที่อื่น อาจต้องเดินไกลหรือต้องนั่งรถแท๊กซี่ในเกาะมาเสียค่ารถเพิ่มอีก ถ่ายภาพที่บีชบาร์แล้วอย่าลืมอุดหนุนเครื่องดื่มสักหน่อย จะเป็นน้ำคอกเทลหรืออะไรก็ว่าไป

เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับหาดซันเซ็ท ทำให้สามารถชมแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ส่องลงมากระทบกับชายหาดได้ด้วยในยามเย็น

เช้าวันใหม่ตื่นขึ้นมาชมบรรยากาศของพระอาทิตย์ขึ้น จากหน้าที่พัก ฟีลดีและเงียบสงบมาก 

วันที่สอง

วันที่สองบนเกาะหลีเป๊ะ ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปด้ำนำโซนนอก แต่ยังไม่หายเหนื่อยจากการเดินทางในวันแรก เริ่มดำน้ำ 9 โมง กว่าจะกลับมาคงเย็น และเช้าวันต่อไปก็ต้องกลับแล้ว แทบไม่ได้มีเวลาพักบนชายหาด เลยเปลี่ยนใจไม่ไปดำน้ำ ขอพักอยู่ที่หาด หลังจากทานอาหารเช้าแล้ว เดินเล่นบริเวณหาดหน้าที่พัก และบีชบาร์วนไป

มาถ่ายภาพ   Zodiac See Sun Beach Bar  อีกรอบ ร้านตกแต่งแบบฮิบดิบตามสไตล์ชาวเล เน้นใช้วัสดุจากธรรมชาติ ทั้งหลังคามุงจาก และไม้ที่นำมาดีไซน์วางเรียงกันตามมุมต่างๆ แถมยังมีเบาะนั่งและหมอนอิงสีสดใสที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังติดเกาะ หรืออยู่ในเรือโจรสลัดประมาณนั้น  ร้านนี้เป็นบาร์ไม่มีอาหารแต่เน้นเครื่องดื่มแบบคอกเทล ยิ่งได้นั่งจิบเครื่องดื่มช่วงเย็นถึงค่ำฟีลดีมาก 

>>> อ่านรีวิวเต็มที่ Zodiac See Sun Beach Bar บีชบาร์สุดฮอตแห่งหลีเป๊ะ

ร้านตกแต่งแบบบ้านชาวเล เน้นใช้วัสดุเป็นไม้แบบธรรมชาติทั้งหมด มีความเก๋และน่าถ่ายรูปไปหมด มีหอคอยชมวิวที่สามารถขึ้นไปชมวิวมุมสุงได้อีกด้วย นอกจากวัสดุไม้ยังเพิ่มความเป็นออนเดอะบีชยิ่งขึ้นด้วย เบาะนั่งและหมอนอิงสีสดใส  

เป็นร้านที่ถ่ายภาพสนุกมาก เปลี่ยนชุดถ่ายภาพหลายชุดกันไปเลย ช่วงเที่ยงแดดจะแรงหน่อย  แต่ได้ท้องฟ้าสีฟ้าและนำทะเลสีสวย ให้ความรู้สึกแบบสาวชาวเกาะขนานแท้

จากนั้นมาเดินเล่น ถ่ายภาพบนชายหาดต่อ หาดซันไรส์ ชายหาดที่สวยมาก ด้วยน้ำทะเลที่ใส หาดทรายขาวละเอียด ที่สำคัญไม่มีเรือหางยาวจอดอยู่มากมายเหมือนหาดพัทยา จึงเป็นเหตุผลว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ว่าจะพักตรงจุดไหน จะเดินมาบริเวณหาดนี้ เพื่อมาที่ Zodiac see sun beach bar แล้วหนึ่ง จากนั้นก็ถ่ายภาพบริเวณหน้าหาดวนไป

เดินมานิดเดียวจะเจอกับ เนินทรายขาว จนเห็นทะเลแหวกนี้ คือ อีกหนึ่งจุดไฮไลท์บนหาดซันไรส์ ที่ต้องมาถ่ายภาพ ตรงข้ามกับหาดซันไรส์ คือ เกาะอาดัง ที่ใกล้มาก นักท่องเที่ยวบางคนก็พายเรือไปที่เกาะเองค่ะ เพราะทางรีสอร์ทส่วนใหญ่ จะมีเรือกระจก และคายัคให้พายเล่น แต่อาจต้องออกแรงกันหน่อย สำหรับคนที่ชอบกิจกรรม ชอบออกกำลังกายก็คงไหว แต่สำหรับใครที่อยากไปเกาะอาดังแบบสบายๆ ก็เช่าเรือไป ค่าเรือไปกลับ 100 บาท เท่านั้น เพราะใกล้มาก 5 นาที ถึง ติดต่อสอบถามเรือจากที่พักได้เลย มาเกาะหลีเป๊ะ สามารถติดต่อทุกอย่างได้จากที่พักทีเราพักได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเรือ แท็กซี่รับส่งยังจุดต่างๆ  แพคเกจดำน้ำ ล่องเรือ ทุกรีสอร์ทมี contact ถึงกันหมด สบายตรงนี้

ถ่ายภาพบริเวณหาดแล้ว มื้อกลางวันเราเดินขึ้นไปยัง เมาท์เท่นรีสอร์ท เพื่อไปทานอาหารกลางวัน และชมวิวในมุมสูง ซึ่งเป็นมุมไฮไลท์ของเกาะหลีเป๊ะ ที่ไม่ควรพลาด ถึงแม้ไม่ได้พักที่นี่ก็สามารถมาชมวิวได้ เพราะมีร้านอาหารให้บริการ ขายทั้งเครื่องดื่ม และเมนูอาหารจานเดียว ส้มตำ ยำ ต่างๆ

จากร้านอาหาร สามารถมองเห็นความใสของน้ำทะเลแบบไล่สีได้อย่างสวยงาม มองเห็นแนวปะการังและโขดหิน รวมถึงสันทรายสีขาว ฟีลดีมาก

คืนที่สอง ที่พักไม่เน้นติดหาด ตั้งใจพักใกล้ถนนคนเดิน จะได้เดินเล่นชมบรรยากาศของถนนคนเดินก่อนกลับ เราพักที่ The chic  โฮสเทลสุดเท่สไตล์ลอฟท์ มีพื้นที่กว้างตกแต่งสวยและสะดวกสบายประดุจโรงแรม พิกัดตั้งอยู่ในย่านชุมชนติดถนนคนเดินเกาะหลีเป๊ะ มีห้องพักรวมราคาหลักร้อยต่อคน ตอบโจทย์ backpacker ที่มาเดี่ยวหรือมาเป็นกลุ่ม และห้องพักแบบส่วนตัวกว้างขวางและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ในราคาไม่แพงราคาหลักพันต้นๆ ถึงแม้ไม่ได้ติดหาดแต่ตั้งอยู่ในชุมชนและติดถนนคนเดิน ง่ายสำหรับการไปหาของกิน ร้านค้าชุมชน รวมทั้งสามารถเดินไปหาดพัทยาที่ไม่ไกลกัน หรือเรียกรถไปยังหาดอื่นได้แ แนะนำมากสำหรับคนที่กำลังมองหาที่พักบนเกาะหลีเป๊ะในราคาที่จ่ายสบาย แต่ได้ห้องพักที่ดีเว่อวังมาก ที่พักตั้งอยู่ใกล้ถนนคนเดินและหาดพัทยา สามารถเดินไม่ถึง 3 นาที

>>> อ่านรีวิวมที่พักฉบับเต็มได้ที่ The chic เกาะหลีเป๊ะ โฮสเทลสุดชิค ราคาน่ารัก

The chic เกาะหลีเป๊ะ

เกาะหลีเป๊ะ ติดถนนคนเดินพัทยา

โทร 090 767 6761, 090 767 6762

Line :@thechiclipe

facebook :  thechiclipe 

จากที่พักเดินไปยังถนนคนเดินหลีเป๊ะใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ผ่านชุมชน บ้านเรือน ของชาวบ้านบนเกาะ ผ่านไปนานแค่ไหน ที่นี่ยังมีความเป็นชุมชนชาวเล ที่ยังมีร้านค้าชุมชน บ้านเรือนของชาวบ้านบนเกาะในแบบเดิมไม่เคยเปลี่ยน

มาถนนคนเดิน ต้องไม่พลาดมาทานเมนูยอดฮิต โรตี มีหลายร้าน  แวะมาที่ร้าน นุชโรตี ร้านชื่อดัง มีเมนูโรตีให้เลือกแบบตาลายมาก เลือกไม่ถูก เราสั่งโรตีโรยโอวัลติน คือ ดีมากจริงๆ แป้งข้างนอกกรอบแต่ข้างในนุ่ม อร่อยจริง โรตีบนกาะหลีเป๊ะ มีความเป็นเอกลักษณ์ก็ตรงนี้ กินโรตีมาหลายที่กรอบยังไงก็ไม่เหมือน  ไม่แปลกใจทำไมใครมาต้องมาทานโรตี

อร่อยกับโรตีไปแล้ว ต่อด้วยอาหารทะเล ถึงแม้จะอยู่บนเกาะ แต่ถ้าจะทานอาหารทะเลสดแบบเผาหรือย่าง ร้านอาหารตามรีสอร์ทไม่ค่อยมีให้ทานนะคะ ส่วนใหญ่ที่รีสอร์ทเน้นเป็นอาหารจานเดียว ยำ ส้มตำ ที่มีปลา หมึก กุ้ง เป็นส่วนประกอบ ถ้าอยากทานทะเลเผาต้องมาที่ถนนคนเดิน แนะนำร้าน papaya mom เป็นร้านที่คนท้องถิ่นแนะนำ ยอมรับว่าอาหารทะเลสดมาก ทั้ง กุ้ง กุ้งมังกร ปลาหมีก หอยนางรม หอยแครง ไข่แมงดา ราคาอาจจะสูงตามสไตล์การทานอาหารบนเกาะท่องเที่ยว แต่จานใหญ่ ปริมาณเยอะ ที่สำคัญรสชาติอร่อยสมราคา

เมนูที่สั่ง กุ้งมงกรเอามาทำเป็นซาซึมิตัวละ 1200 บาท เนื้อหวานสด ฟินกับเมนูนี้มาก หอยนางรมตัวละ 100 บาท สดและตัวใหญ่มาก น้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บสุด  ปลาหมึกไข่ทอดกระเทียม350 บาท ปลาหมึกไข่ทุกตัวจริงๆค่ะ ไข่แน่นมากเนื้อปลาหมึกไม่เหนียว แกงส้มไข่ปลาริวกิว 550 บาท  ไข่ปลาเยอะมากตักไปเห็นแต่ไข่ปลา ไม่เคยกินแกงส้มไข่ปลาที่ให้ไข่ปลาแบบจัดเต็มขนาดนี้มาก่อนสมราคาค่ะ กุ้งแช่บ๊วยอบเกลือกิโลละ 700  บาทกุ้งสดเนื้อเด้งมาก ใบเหลียงผัดไข่ คือดีมีใส่เนยด้วยมีความหอมนิดๆ หอยไม้ไผ่หรือหอยหลอดตัวใหญ่มากจานละ 350 เนื้อหอยจะเหนียวไปนิดนึง แต่รสชาติดี สรุปดีงามทุกอย่างไปสามคนหารกันตกคนละพันกว่า  ไม่เสียดายเงินที่จ่ายไปแม้แต่น้อย

ช่วงเช้าก่อนเดินทางกลับแวะไปที่ หาดพัทยา ตรงจุดที่สามารถเห็นโค้งอ่าว ของหาดพัทยาได้แบบสวยๆ ซึ่งอยู่บริเวณพระตำหนักกรมหลวงชุมพร มุมนี้คนในพื้นที่แนะนำอีกเช่นเคย มาเกาะหลีเป๊ะสองรอบ ยังไม่เคยรู้เลยว่ามีพระตำหนักกรมหลวงชุมพร ตั้งอยู่บนเกาะด้วย น้อยคนที่จะเดินมาตรงนี้ ส่วนใหญ่จะเดินเล่นพักผ่อนหน้าหาดมากกว่า 

เดินผ่านโขดหินมาถึง บันดายา รีสอร์ท จะเห็นท่าเรือไม่ไกล อากาศในวันนี้ครึ้มนิดหน่อย เก็บภาพความสวยใสของหาดพัทยามาได้แบบไม่สุดมากนัก   11.30 น.  เรือรอบสุดท้ายออกจากเกาะหลีเป๊ะ ไปยังท่าเรือปากบารา เกาะหลีเป๊ะ คือ ทะเลอันดามันที่แรกเคยมาเที่ยวเมื่อหลายปีก่อน จากที่เคยไม่ชอบทะเลและเคยติดภาพทะเลที่ขุ่นหาดทรายสีน้ำตาล แต่พอมาหลีเป๊ะ เหมือนเปิดโลกใหม่ ทำให้เปลี่ยนความคิดว่า ทะเลไทยก็สวยไม่แพ้ที่ไหน มาเที่ยวอีกครั้งเป็นครั้งที่สาม ถึงแม้จะมีที่พัก มีสิ่งก่อสร้าง ร้านต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ความสวยงามของเกาะหลีเป๊ะเราว่าเปลี่ยนไปมากพอสมควร แต่ถึงอย่างไรยังตรึงใจเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน


การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ

การเดินทางไปท่าเรือปากบารา

สามารถอ่านวิธีการเดินทางไปมายังท่าเรือปากบารา ด้วยวิธีการต่างๆ แบบละเอียดได้ที่เว็บ https://lipelovers.com/การเดินทางเกาะหลีเป๊ะ/

การเดินทางจากท่าเรือ ไปเกาะหลีแป๊ะ

เริ่มต้นที่ท่าเรือปากบารา ท่าเรือโดยสารไปยังเกาะหลีเป๊ะ มี 2 รอบ คือ 11.30 น. (รอบนี้จะแวะเกาะไข่ และเกาะตะรุเตา )  และ 13.30 น. 

ขากลับจาก เกาะหลีเป๊ะ ท่าเรือปากนารา มี 2 รอบ คือ 09.30 น. และ 11.30 น. 

ค่าเรือสปีดโบ๊ท ไปกลับ 1000 บาท บางแห่ง 1200 บาท ตั๋วเรือ ตั๋วรถรับส่งจากสนามบิน สามารถซื้อได้จากรีสอร์ทที่พัก หรือจะซื้อกับทัวร์นำเที่ยวเกาะหลีเป๊ะก็ได้

สามารถจองซื้อตั๋วเรือไปกลับกับทางทัวร์นำเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ เราจองกับ Lipe Lovers เรือรอบแรก 11.30 น ก่อนเดินทางไปรับตั๋วเรือที่ออฟฟิศติดกับร้านบังวรใกล้ท่าเรือ ทางบริษัทจะแจ้งว่าขึ้นเรือลำไหน ช่องทางติดต่อ 094 561 4545 FB : lipelovers

จุดรับฝากรถท่าเรือปากบารา

จุดฝากรถส่วนตัวใกล้ท่าเรือปากบารามีประมาณ 4 จุด แต่แนะนำที่ใกล้ที่สุด คือ จุดฝากรถที่อยู่ติดกับร้านบังวร และถัดจากตรงนี้ไป คือ ที่รับฝากของบารา บารา ที่จอดรถค่อนกว้าง ราคาเท่ากัน วันละ 100 บาท และอีกจุดบริเวณท่าเรือปากบารามีจุดรับฝากรถ ตรงนี้จะสะดวกไม่ต้องเดินเยอะเพราะอยู่ติดท่าเรือ แต่จะไม่มีคนเฝ้ารถ และอยู่กลางแจ้งไม่มีอะไรบังแดด คิดราคาเป็นชั่วโมงๆ ละ 12 บาท

ที่รับฝากรับใกล้ร้านโรตีบังวร ใกล้ท่าเรือที่สุด เดินไม่ถึง 10 ก้าว 

ที่รับฝากของ บารา บารา ไกลกว่าบังวร แต่ที่จอดรถกว้าง ที่จอดค่อนข้างร่ม 


การเดินทางรอบเกาะหลีเป๊ะ

เมื่อมาถึงเกาะเดินทางอย่างไร ?? บนเกาะไม่มีมอเตอร์ไซค์หรือรถให้เช่า มีเพียงรถโดยสารมอเตอร์ไซต์พ่วงข้าง ที่เรียกกันว่าแท็กซี่ จะจอดรถบริเวณท่าเรือ ราคาเที่ยวละ 50 บาท ไปจุดไหนก็ราคาเดียว เพราะระยะทางในแต่ละจุดไม่ไกลกันมาก ใช้เวลาเพียง 5-10 นาที หรือหากพักอยู่ที่ใด จะไปไหนให้ทางรีสอร์ทโทรเรียกแท๊กซี่ให้ได้เลย


ก่อนเที่ยวหรือหลังเที่ยวเกาะหลีเป๊ะแล้ว หากมีเวลามากพอ แนะนำไปพักแถวท่าเรือปากบารา แลัวเที่ยวต่อบนฝั่งอีกซัก 1 คืน จากนั้นไปเที่ยวต่อมีที่เที่ยวบนฝั่งที่สวยและ unseen หลายจุด อ่านรีวิวหาดปากบาราเพิ่มเติม ที่ หาดปากบารา ของดีเมืองสตูลที่ไม่อยากให้แค่ผ่าน  


คลิปท่องเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ