มัสยิดกลาง ปัตตานี สง่างาม มีมนต์ขลัง
มัสยิดกลาง ปัตตานี ตั้งอยู่ที่ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมืองปัตตานีที่ ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามมีความโดดเด่น และยังเป็นศาสนสถานศูนย์รวมจิตใจของผู้นับถือศาสนาอิสลามในภาคใต้ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง รูปทรงภายนอกของมัสยิดมีต้นแบบมาจากทัชมาฮาล เป็นสถานที่เมื่อมาถึงปัตตานี ต้องมาชมศิลปและความสวยงามของตัวอาคาร ปมัสยิดแห่งนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นมัสยิดที่สวยงามที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย
บรรยากาศภายในเงียบสงบ เป็นมัสยิดที่สวยงามที่สุด มีผู้คนมาเยี่ยมชมตลอดไม่ขาดสาย ทั้งจากภายในประเทศไทย และจากมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีซีย ด้านหน้าก่อนถึงตัวอาคาร เป็นทางเดินทอดยาว ระหว่างทางมีต้นปาล์มลูกเรียงรายเป็นทิวแถว ยิ่งเดินเข้าไปยิ่งรู้สึกตื่นเต้น สัมผัสได้ถึงความสวยงามแลยิ่งใหญ่ของมัสยิดแห่งนี้ ทั้งอาคารสีที่ใช้ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว เป็นมัสยิดที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งเท่าที่เคยเห็นมาเลยก็ว่าได้ เห็นภาพในอินเทอร์เน็ตมาเนิ่นนานหลายปี ดีใจมากที่สุดที่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง
ตัวอาคารสีครีมกับสีส้มอ่อน และสีเหลือง มียอดโดมสีเขียวขนาดใหญ่กลาง และโดมขนาดเล็กลงไปล้อมรอบ 4 ด้าน ด้านข้างมีหออะซาน 2 หอ รอบตัวอาคารใช้ลวดลายตกแต่งสถาปัตยกรรมอย่างวิจิตรงดงาม และมีสระน้ำพุซึ่งมีพื้นน้ำสีเขียวมรกตอยู่บริเวณด้านหน้า สระน้ำเบื้องหน้าส่องสะท้อนแสงเงาของมัสยิดอย่างงดงาม ยิ่งเพิ่มความโดดเด่นให้แก่มัสยิดกลางแห่งนี้มากขึ้น ส่วนภายในสร้างเป็นห้องโถง มีระเบียงอยู่สองข้าง มีมิมบัรทรงสูงและแคบตั้งอยู่มีหินอ่อนประดับประดาอย่างงดงาม
มัสยิดกลางปัตตานีส่วนใหญ่จะใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ (ละหมาด) วันละ 5 เวลา เป็นกิจวัตรประจำวัน ใช้ในการละหมาดวันศุกร์ และการละหมาดในวันตรุษต่าง ๆ โดยมีชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ปัตตานี และพื้นที่อื่นทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในวันศุกร์และวันเสาร์ จะมีการบรรยายธรรมะมีผู้เข้าฟังการบรรยาย ประมาณครั้งละ 3,000 คน เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจในหลักการของศาสนา และเพื่อความถูกต้องในการบำเพ็ญศาสนกิจ
ศาสนสถานแห่งศรัทธา สง่างาม มีมนต์ขลัง มีสถาปัตยกรรมงดงาม เป็นอีกหนึ่งความสวยงามแห่งปัตตานีที่ควรค่าแห่งการมาเยือน
ประวัติมัสยิดกลางปัตตานี
มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีก่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2497 โดยใช้พื้นที่บริเวณริมถนนหลวงสายปัตตานี-ยะลา ย่านตำบลอาเนาะรู กว้าง 3 ไร่ 55 ตารางวา ตามแนวคิดของรัฐบาลในสมัยนั้นที่ต้องการให้เกิดสันติสุขขึ้นในพื้นที่ห่างไกลที่มักมีความรุนแรงเกิดขึ้น ทั้งจากสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่พัฒนาและความแตกต่างทางศาสนา โดยพลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเดินทางมาวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่6 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 และใช้เวลาก่อสร้างนาน 9 ปี เมื่อแล้วเสร็จจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2506 ให้ชื่อว่า “มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี” และมอบเป็นของขวัญแก่ประชาชนชาวมุสลิมในพื้นที่ หลังจากนั้นมีการบูรณะซ่อมแซมและต่อเติมเมื่อคราวใช้ต้อนรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2536 ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งกับนายสัมพันธ์ ทองสมัคร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้บูรณะปรับปรุงอาคารของมัสยิด กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กำหนดให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองศิริราชสมบัติเป็นปีที่ 50 ใน พ.ศ. 2539ส่งผลให้ตัวอาคารขยายและต่อเติมออกทั้ง 2 ข้าง และยังสร้างหออะซานเพิ่มอีก 2 หอ ในเวลาต่อมา