ถ้ำผานางคอย แพร่

ถ้ำผานางคอย ตั้งอยู่ในอำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่  เป็นส่วนหนึ่งของภูเขาหินปูน ที่ตั้งตระหง่านกลางป่า ปกคลุมด้วยแมกไม้น้อย ใหญ่ อดีตเมื่อผืนป่ายังอุดมสมบูรณ์ ละแวกนี้เต็มไปด้วยสัตว์มากมายหลายชนิด โดยเฉพาะกวางป่า เป็นที่มาของชื่ออำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร แต่เมื่อพื้นที่ถูกแปรเป็นพื้นที่การเกษตร สัตว์ก็ค่อยๆ หายไป เหลือเพียงภูเขาหินปูน ถ้ำและหินงอกหินย้อยสวยวิจิตร อลังการ เป็นประติมากรรมที่ธรรมชาติสรรค์สร้าง  เมื่อร้อยเรียงเข้ากับตำนานพื้นบ้านบอกเล่าถึงที่มาของเสาหิน รูปทรงผู้หญิงกำลัง อุ้มลูกน้อยเพื่อรอคอยการกลับมาของชายอันเป็นที่รักนั้น ซึ่งได้กลายเป็นที่มาของชื่อ “ถ้ำผานางคอย” ยิ่งทำให้ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความน่าสนใจ

 

 

ตัวถ้ำอยู่บนหน้าผาสูง 50 เมตร  เป็นอุโมงค์ลึกยาว 150 เมตร กว้าง 10 เมตร  ลักษณะของถ้ำโค้งงอเป็นข้อศอกไปทางซ้าย  และทางขวาเป็น 3 ตอนด้วยกัน ภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อยลักษณะต่างๆ ทั้งที่เป็นเกล็ดหินประกายระยิบระยับ  แต่ละจุดมีการ ติดไฟ และป้ายบอกถึงความเป็นมาประวัติศาสตร์บอกเล่าตำนาน “ผานางคอย” ไว้รับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ  โดยแบ่งออกเป็น 13 จุดให้นักท่องเที่ยวได้ชม และมีการเรียกชื่อแต่ละจุดได้อย่างไพเราะ ได้แก่ คูหาสวรรค์วิเศษ เทพอารักษ์นครา นาคาสถิต งามพิศ อนงค์สนาน หิมพานต์พิจิตร เนรมิตม่านแก้ว มรกตเพริดแพร้ววิจิตรา บูชาพระมุนี นทีชลเนตร ธารเทพอธิษฐาน คชสารพิทักษ์ ลานรักพระนาง

 

 

หินนางคอยซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของถ้ำ ที่อยู่ถัดจากลานรักพระนาง โดยจะได้พบกับหินปูนที่หยดย้อยลงมาก่อเกิด รูปทรงเหมือนหญิงสาวกำลังก้มหน้าโอบอุ้มลูกน้อยนั่งอยู่บนแท่นหิน และต้องยืนอยู่ห่างออกมาประมาณ 10 เมตร จึงจะมองเห็นได้ชัด ว่าเป็นรูปร่างเหมือนผู้หญิงอุ้มลูก ถัดจากหินนางคอยไปเล็กน้อย จะพบปากถ้ำอีกด้านหนึ่งที่สูงขึ้นไปซึ่งปากถ้ำด้านหลังนั้น มีความ กว้างกว่า15 เมตร เปิดให้แสงสว่างส่องลอดเข้ามาภายในถ้ำได้เป็นอย่างดี 

 

 

ถ้ำด้านหลัง ชาวบ้านได้นำพระพุทธรูป ตั้งไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้กราบไว้บูชาและขอพรก่อนเดินทางกลับอีกด้วย 

 

 

หินงอกหินย้อยที่สวยงาม

 

 

 

ทางเดินเข้าถ้ำ 

 

 

ตำนานรักถ้ำผานางคอย
ตำนานถ้ำผานางคอย เปิดฉากด้วยความรักต่างชนชั้นอันยิ่งใหญ่ระหว่างเจ้าหญิงอรัญญาณี หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ กับคะนองเดช ชายอัน เป็นที่รัก ในสมัยอาณาจักรแสนหวี จนในที่สุดเจ้าหญิงเกิดตั้งครรภ์จึงตัดสินใจหนีไปด้วยกัน แต่ทั้งสองก็ถูกทหารตามล่าอย่าง กระชั้น ชิด จนมาถึงกลางป่าทหารพยายามยิงคะนองเดชแต่พลาดเป้าไปถูกกลางอุระ ของเจ้าหญิง  ทั้งสองพยายามตะเกียกตะกาย หลบหนีจน มาเจอถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าหญิงได้ให้ประสูติพระโอรสพอดี ด้วยความรักที่มีอย่างเปี่ยมล้น พระองค์ตัดสินใจปล่อยให้ชาย ที่รักหนีเอา ชีวิตรอดไป พร้อมพูดว่า “หญิงจะรออยู่ที่นี่ชั่วกัลปาวสาน” ด้วยแรงอธิษฐานดังกล่าวได้ทำให้นางกลาย เป็นหินในขณะ ที่มือยังโอบพระโอรส ไว้บนตัก และนี่เองจึงเป็นเป็นที่มาของชื่อถ้ำผานาง

 

ถ้ำผานางคอย

เปิดตั้งแต่เวลา 8.30 – 17.00 น. ไม่เสียค่าบริการในการเข้าชม  เมื่อไปถึงแล้วสามารถจอดรถไว้ที่ลานจอดรถแล้วเดินเข้า ไปตรงปากทางขึ้นได้เลย